ตอนที่ 1550 เปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของนาง (4) / ตอนที่ 1551 เขตต้องห้ามด้านหลังหุบเขา (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1550 เปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของนาง (4)  

 

 

เขาต้องตัดผู้หญิงคนนี้ออกเป็นพันๆ ชิ้นเพื่อนแก้แค้นให้นาง! 

 

 

หลินโยวอวี่หัวเราะเยาะ “องค์ราชินี ท่านคิดว่าตัวเองจะปกป้องตำแหน่งของตัวเองได้เมื่อทำแบบนี้หรือ เจ้าก็เห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้า เมื่อเจ้าเริ่มอิจฉา เจ้าก็จะถูกโชคชะตากำหนดให้โชคร้ายตลอดไป!” 

 

 

นางดูถูกอวิ๋นลั่วเฟิงเกินไปดังนั้นนางก็เลยแพ้ ในเมื่อองค์ราชินีเป็นสตรีขี้อิจฉา ดังนั้นนางไม่มีทางยอมให้มีสตรีคนอื่นรอบตัวองค์ราชาแน่ ถ้านางพยายามจะจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็จะต้องทรมานกับความพ่ายแพ้ย่อยยับ 

 

 

ดวงตาขององค์ราชินีชั่วร้ายมาก แต่ขณะที่นางเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของนางก็ดูเศร้าโศกและบอบบางอีกครั้ง “ท่านราชครู ข้าไม่เข้าใจว่าท่านหมายถึงอะไร” 

 

 

“ฮึ่ม!” หลินโยวอวี่ส่งเสียงขึ้นจมูก “เจ้ารู้ดี!” หลังจากพูดจบ นางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา 

 

 

“ท่านราชครู ท่านอธิบายให้ข้าฟังได้หรือไม่” ผู้อาวุโสสูงสุดสงสัย แล้วหลังจากผ่านไปสักพักเขาก็ถามอย่างโกรธเคือง 

 

 

ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็หันมามองราชครู เมื่อตกอยู่ภายใต้สายตาของพวกเขา หลินโยวอวี่ก็หน้าซีดเผือด 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมององค์ราชินี ถ้านางเข้าใจไม่ผิด ตอนที่องค์ราชินีเจอนางในสภาผู้อาวุโสครั้งแรก องค์ราชินีดูตั้งตัวเป็นศัตรูกับนางแท้ๆ สายตาที่มองมาก็เต็มไปความเดือดดาล 

 

 

แล้วเพราะเหตุใดองค์ราชินีถึงยืนขึ้นเพื่อช่วยนางเล่า 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงชำเลืองมองหลินโยวอวี่แล้วพูดพร้อมยิ้มบาง “ความจริงแล้วก็ง่ายมาก เม็ดยานี้มีพิษร้ายแรงถึงตายเคลือบไว้อยู่ ใครก็ตามที่สัมผัสมันจะตายภายในไม่กี่วัน!” 

 

 

“ดังนั้นราชครูไม่ได้ทำนายอายุขัยของคนได้ แต่…นางวางยาพิษคน ดังนั้นพวกเขา…ก็ต้องตายแน่นอนอยู่แล้ว” 

 

 

ตูม!  

 

 

ฝูงชนส่งเสียงเอะอะมะเทิ่ง ทุกคนโกรธจัดแต่พวกเขาก็อดทนเก็บความเดือดดาลไว้ภายในใจแล้วรอฟังคำอธิบายของหลินโยวอวี่อยู่เงียบๆ 

 

 

หลินโยวอวี่หัวเราะเยาะแล้วเงียบไป…ไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่อวิ๋นลั่วเฟิงกล่าวหานาง 

 

 

“ท่านราชครู!” ในที่สุดผู้อาวุโสสูงสุดก็ควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วคำรามออกมา “เป็นเรื่องจริงหรือที่ท่านไม่มีพลังทำนาย ท่านแค่สังหารคนเพื่อทำให้คำทำนายเป็นจริงเช่นนั้นหรือ” 

 

 

หลินโยวอวี่ยิ้มเหยียดหยาม แล้วใบหน้านางก็แสดงความเยาะหยัน นางค่อยๆ หันไปมองผู้อาวุโสสูงสุดแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ข้าทำแบบนี้ได้ก็เพราะพวกเจ้าโง่เขลา! เจ้าควรจะโทษตัวเอง” 

 

 

นางหมายความว่าพวกเขาถูกนางหลอกก็เพราะพวกเขาโง่เกินไป พวกเขาไม่ควรโทษคนอื่นแต่ควรโทษตัวเอง! ในตอนนั้นเอง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป พุ่งเข้าหาหลินโยวอวี่ด้วยหวังว่าจะฉีกผู้หญิงคนนี้ออกเป็นชิ้นๆ 

 

 

แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดก็ไม่ห้ามฝูงชนที่โกรธแค้นแต่กลับกำหมัดแน่น ผู้หญิงคนนี้สามารถทำนายอายุขัยของคนได้เพราะแอบสังหารคนในวันที่ทำการทำนาย เป็นเรื่องตลกที่เขากลับศรัทธาในตัวนางมาก ทั้งยังดูแลนางเฉกเช่นพระเจ้า! 

 

 

“นางสารเลว เจ้าหลอกพวกเรา! เจ้าต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน!” 

 

 

“ข้าจะแก้แค้นให้กับคนในเมืองข้าด้วยการฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!” 

 

 

“นางชั่ว! ไปตายซะ! เจ้ามันเป็นปีศาจ! เจ้าเกือบจะสังหารข้า! ข้าจะทรมานเจ้าจนตาย!” 

 

 

ท่ามกลางฝูงชน คนที่โกรธสุดก็คือชายหนุ่มที่เพิ่งถูกอวิ๋นลั่วเฟิงช่วยไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะอวิ๋นลั่วเฟิง เขาก็คงตายในวันสุดท้ายไปแล้ว 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 1551 เขตต้องห้ามด้านหลังหุบเขา (1)  

 

 

แต่ว่าคนที่ทำเรื่องนี้ทั้งหมดคือหลินโยวอวี่ อีกอย่างคนที่สูญเสียครอบครัวไปเพราะถูกหลินโยวอวี่สังหารก็โกรธจัดเหมือนกัน พวกเขาหยิบอาวุธออกมาแล้วตัดแขนขาของหลินโยวอวี่อย่างโหดร้าย 

 

 

“อ๊า!” 

 

 

ความเจ็บปวดเสียดแทงทำให้หลินโยวอวี่กรีดร้องเสียงแหลม ร่างกายของนางเต็มด้วยโลหิต นางตัวสั่นระริก 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิง!  

 

 

เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของอวิ๋นลั่วเฟิง ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ นางก็คงไม่พบจุดจบเช่นนี้! เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็จ้องอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างจงเกลียดจงชัง หลินโยวอวี่กัดลิ้นแล้วถ่มเลือดออกมา 

 

 

“อวิ๋นลั่วเฟิง ข้าขอสาปแช่งเจ้า เจ้าจะต้องตายอย่างทุกข์ทรมานยิ่งกว่าข้า ฮ่าๆ!” นางหัวเราะลั่น เสียงหัวเราะของนางเต็มได้วยความบ้าคลั่งและหยิ่งยโส 

 

 

เสวียนหยวนรู้สึกสับสนวุ่นวาย “แม่นางอวิ๋น พวกเราจะทำอย่างไร คำสาปที่เกิดจากเลือดที่ปลายลิ้นจะกลายเป็นจริง!” 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงใจเย็น “แล้วอย่างไร คำสาปแช่งก็เป็นแค่คำสาปแช่ง ข้าไม่กลัวแม้กระทั่งพระเจ้า แล้วข้าจะกลัวคำสาปแช่งของนางไปทำไม” 

 

 

“แม่นาง…” เสวียนหยวนยังคงวิตกกังวล 

 

 

ในอาณาจักรของพวกเขา พวกเขาเชื่อว่าคำสาปแช่งจากเลือดที่ปลายลิ้นทรงพลังที่สุดและจะกลายเป็นจริงตามที่กล่าว… องค์ราชินีลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ได้ยินว่าคนที่หลินโยวอวี่สาปคืออวิ๋นลั่วเฟิง คนคนหนึ่งสามารถสาปแช่งได้แค่เพียงครั้งเดียว เพราะฉะนั้นนางก็ปลอดภัยแล้ว 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองเสวียนหยวน “สิ่งไหนแข็งแกร่งกว่ากันระหว่างพลังจากคำสาปแช่งหรือกฎของโลกและสวรรค์” 

 

 

เสวียนหยวนหยุดแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างงุนงง “ก็ต้องเป็นกฎของโลกและสวรรค์” 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา อวิ๋นลั่วเฟิงก็หัวเราะ 

 

 

“แม้แต่กฎของโลกและสวรรค์ยังผูกมัดข้าไว้ไม่ได้ แล้วคำสาปแช่งจะทำอะไรข้าได้” นางยิ้มเยาะ ใบหน้าของหน้าเปี่ยมไปด้วยอำนาจ “ถ้าสวรรค์ต้องการให้ข้าตาย ข้าก็จะทำลายสวรรค์ก่อน! ถ้ามีคนต้องการให้ข้าตาย ข้าก็จะสังหารครอบครัวเขาก่อน! ถ้าพระเจ้าต้องการกำจัดข้า ข้าก็จะกำจัดพระเจ้าและศาสดาทั้งหมดก่อน แล้วมาดูกันว่าใครจะสังหารข้าได้!” 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่กลัวแม้แต่พระเจ้า เช่นนั้นแล้วนางจะกลัวคำสาปเล็กๆ แบบนี้ไปทำไม 

 

 

ใครก็ตามที่ต้องการสังหารนาง เช่นนั้นแล้วนางก็จะทำให้เขาหายไปก่อน.. 

 

 

เสวียนหยวนประหลาดใจกับคำพูดน่าตกใจของอวิ๋นลั่วเฟิง เขาอ้าปากค้าง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่ว่า… 

 

 

ผู้อาวุโสสูงสุดที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับไม่พอใจในคำพูดนาง พวกเขาขมวดคิ้วแน่น 

 

 

“แม่นางอวิ๋น ข้าซาบซึ้งที่เจ้าช่วยเปิดโปงราชครู แต่เจ้าไม่สามารถพูดจาหยาบคายกับทวยเทพทั้งหลายได้! คนธรรมดาไม่สามารถทำลายกฎของโลกและสวรรค์ได้ พวกเราควรเคารพเทพทั้งหลาย…” 

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงส่งสายตาเย็นชาไปให้ผู้อาวุโสสูงสุดจนเขาต้องหยุดพูด 

 

 

“เจ้าจะกลัวเทพเจ้าก็เรื่องของเจ้า แต่ข้าไม่มีอะไรต้องกลัว! ในเมื่อเจ้าสักการบูชาเทพเจ้าด้วยศรัทธามากมาย แล้วทำไมเทพพวกนั้นไม่ลงมาช่วยพวกเจ้าล่ะ” 

 

 

ในอาณาจักรของพวกเขา พวกเขาเชื่อเรื่องเทพเจ้า พวกเขาเคารพเทพเจ้า ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีตัวตนในจินตนาการเท่านั้น แต่ว่า…หลังจากได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง ฝูงชนก็ตกอยู่ในความเงียบ 

 

 

“ข้าคิดว่าเด็กสาวคนนี้พูดถูก พวกเราบูชาเทพเจ้ามาหลายปีแต่พวกเราก็ยังติดอยู่ที่นี่ อีกอย่างถ้าพวกเราไม่เชื่อในพระเจ้า พวกเราก็คงไม่มีราชครู ผู้ช่วยเหลือที่พระเจ้าส่งมา แล้วก็คงไม่โดนนางหลอก” 

 

 

“ข้าคิดว่าพวกเราควรหาทางออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเองแล้วเลิกพึ่งพาพระเจ้าที่อ่อนแอ…” 

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของประชาชน ใบหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดก็เปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเพื่อคัดค้าน