ตอนที่ 741 ร่วมใจ! ตรวจดีเอ็นเอ (1) / ตอนที่ 742 ร่วมใจ! ตรวจดีเอ็นเอ (2)

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 741 ร่วมใจ! ตรวจดีเอ็นเอ (1)

คุณหญิงลู่ยืนรอด้านนอกโดยมีเหวินซินเหมยอู่ด้วย

เธอเอาแต่สาบานต่อหน้าคุณหญิงลู่เพื่อยืนกรานว่าเธอไม่ได้พูดโกหกแล้วขอให้คุณหญิงลู่ต้องเชื่อเธอให้ได้เด็ดขาด

คุณหญิงลู่มองเธออย่างกระอักกระอ่วน

จะจริงหรือเปล่าเดี๋ยวผลตรวจดีเอ็นเอออกมาก็รู้เอง ตอนนี้เธอไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น

เธอชั่งน้ำหนักในใจสองด้าน ด้านหนึ่งคือหลินจยาอวี่โกหกหลอกลวงทุกคนแล้วแต่งงานเข้าตระกูลลู่ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือเหวินซินเหมยพูดโกหกเพียงเพื่อทำให้ลูกชายและลูกสะใภ้เลิกกันแล้วเป็นฝ่ายแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลลู่แทน

เธอเอนเอียงไปทางเหวินซินเหมยครู่หนึ่ง เหวินซินเหมยกล้าพูดเรื่องตรวจดีเอ็นเอออกมาแสดงให้เห็นว่าเธอแน่ใจระดับ

ประเดี๋ยวก็เอนเอียงไปทางหลินจยาอวี่ หลินจยาอวี่กล้าให้ลูกตรวจดีเอ็นเอแสดงว่าเธอก็ไม่มีความกังวลเช่นกัน

พูดไปพูดมา ก็ต้องโทษที่ลูกชายของเธอดีเกินไป

จนผู้หญิงพวกนี้อยากแต่งงานด้วย

ลู่เสวี่ยเฉินถือตัวอย่างออกมา เขามองเหวินซินเหมยที่อยู่ข้างคุณหญิงลู่ด้วยหางตาซึ่งไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป

เขาเพียงมองคุณหญิงลู่แล้วเอ่ยขึ้น “การตรวจดีเอ็นเอเป็นการทดสอบความเป็นพ่อลูกที่แม่นยำที่สุดในปัจจุบัน อัตราความแม่นยำสามารถบ่งบอกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่คือตัวอย่างที่ผมได้มาจากช่องปากของลูก แม่ครับ เผื่อมีอะไรผิดพลาด แม่ดูสิว่าผมต้องไปเอามาอีกไหม”

น้ำเสียงขมขื่นของลูกชายทำให้คุณหญิงลู่ถอนหายใจ “เสวี่ยเฉิน ที่จริงแม่ก็ชอบหลินจยาอวี่มากเลยนะ แม่ก็หวังจากใจว่าเด็กเป็นลูกของลูก แต่แม่ก็หวังว่ามันจะไร้ประโยชน์ เด็กจะใช่ลูกของลูกหรือเปล่านี่ถึงจะสำคัญจริงยิ่งกว่า แทนที่จะให้แม่กังวลและสงสัย ไม่สู้ตรวจดีเอ็นเอให้มันจบๆ ไปไม่ดีกว่าเหรอ ทำให้เรื่องกระจ่างชัดเจนเพื่อให้หลินจยาอวี่ได้รับความเป็นธรรม”

“แน่นอน ไม่งั้นผมจะยอมตกลงตรวจดีเอ็นเอได้ยังไง ก็เพราะผมอยากให้แม่เข้าใจ ต่อไปจะได้ไม่ถูกคนคิดร้ายหลอกใช้อีก” เขามองเหวินซินเหมยด้วยหางตา

สายตาของลู่เสวี่ยเฉินเย็นชาดุจน้ำแข็ง มันเย็นยะเยือกทันทีเมื่อมันตกกระทบบนร่างกาย

สีหน้าของเหวินซินเหมยแข็งค้าง ในขณะนี้เธอกำลังคิดอยู่ในใจว่าถ้าหลินจยาอวี่โป๊ะแตกขึ้นมาจะถูกคนในตระกูลลู่เฉดหัวออกจากบ้านเช่นนี้หรือไม่

เมื่อรู้สึกถึงสายตาของลู่เสวี่ยเฉิน เธอจึงขมวดคิ้วด้วยสีหน้าขมขื่นเพราะเกรงว่าสายตาที่คมกริบของเขาจะมองข้ามเธอไป

โชคดีที่ในขณะนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นเสียก่อนเธอจึงรีบเอ่ยขึ้น “มีคนโทรมา ฉันขอตัวออกไปรับก่อนนะคะ”

เมื่อมาถึงทางเดินที่ปลอดภัย เธอตบหน้าอกตัวเองอย่างแรงแล้วก็หัวเราะลั่นฮ่าๆ

เวลาสองชั่วโมงกว่าเดี๋ยวผลตรวจดีเอ็นเอก็ออกมาแล้ว

เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของลู่เสวี่ยเฉินแน่นอน เธอได้ยินหลินจยาอวี่พูดมากับหู

เดี๋ยวลู่เสวี่ยเฉินกับคุณหญิงลู่ก็รู้โฉมหน้าที่แท้จริงของหลินจยาอวี่

คิดเสียว่าเธอถูกใส่ร้ายและถูกลู่เสวียเฉินโกรธเกลียดโดยไม่เปล่าประโยชน์

เสียใจแต่ไม่ไร้ผล

จากนี้ไปขอแค่เธอทำตัวดีๆ คุณหญิงลู่ต้องจับคู่เธอกับลู่เสวี่ยเฉินอีกแน่นอน

เธอจะปรนนิบัติลู่เสวี่ยเฉินเป็นอย่างดีแล้วจะต้องมีหลานชายอ้วนจ้ำม่ำให้ตระกูลลู่แน่นอน

ลู่เสวี่ยเฉินต้องเป็นของเธอ! ต้องเป็นให้ได้! เหวินซินเหมยคิดเช่นนี้ด้วยสายตาบ้าคลั่งแล้วควบคุมรอยยิ้มของตนเองเอาไว้ไม่อยู่

หลังจากที่ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้แล้ว เหวินซินเหมยก็กลับไปหาคุณหญิงลู่กับลู่เสวี่ยเฉินอีกครั้ง

ตอนนี้เริ่มทำการตรวจดีเอ็นเอแล้ว รอแค่ผลออกมาเท่านั้น ทุกคนต่างนั่งรอด้านนอกไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น เหวินซินเหมยซื้อน้ำมาสามขวดแล้วยื่นขวดหนึ่งในคุณหญิงลู่

คุณหญิงลู่รับไว้แล้วพูดขอบคุณ

เหวินซินเหมยยื่นน้ำอีกขวดหนึ่งไปตรงหน้าลู่เสวี่ยเฉิน ลู่เสวี่ยเฉินมองเธอด้วยสายตามืดมนเย็นชาไร้ซึ่งความอบอุ่น แล้วจู่ๆ ยังยื่นมือมาปัดทิ้งอีกด้วย…

ตอนที่ 742 ร่วมใจ! ตรวจดีเอ็นเอ (2)

ขวดน้ำแร่กระเด็นตกพื้นแล้วกลิ้งไปที่ข้างถังขยะ เหวินซินเหมยตกใจมองลู่เสวี่ยนเฉินอย่างเจ็บปวด เธอไม่เข้าใจจริงๆ เลยทำไมลู่เสวี่ยเฉินต้องทำกับเธอแบบนี้

เธอแย่กว่าหลินจยาอวี่

เห็นได้ชัดว่าเธอรักเขามากกว่าหลินจยาอวี่ หรือว่าเธอไม่สวยเท่าหลินจยาอวี่ แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าสวยแค่ไหนต้องมีสักวันที่ต้องแก่ลงในที่สุด

คุณหญิงลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เสวี่ยเฉิน อย่าทำแบบนี้ ถึงยังไงเหวินซินเหมยก็เป็นลูกสาวของลุงเหวินนะ”

ไม่รอให้ลู่เสวี่ยเฉินได้พูด เหวินซินเหมยก็โบกมือก่อนแล้วพูดขึ้นอย่างเอาใจ “คุณป้าคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เสวี่ยเฉินไม่ดื่มน้ำก็แล้วไปค่ะ”

เธอก้าวเข้าไปนั่งข้างๆ คุณหญิงลู่ คุณหญิงลู่ลอบถอนหายใจ เมื่อคิดดูเธอยังต้องเป็นผู้สร้างสันติจึงใส่ใจเรื่องของเหวินซินเหมยเพื่อแสดงความขอโทษ

เหวินซินเหมยยิ้มให้เล็กน้อยเพื่อแสดงว่าเธอไม่เป็นอะไรไม่ต้องสนใจ

สักวันหนึ่งลู่เสวี่ยเฉินจะต้องเข้าใจเธอ แล้วก็จะได้รู้ว่าใครคือคนที่ดีต่อเขาจากใจจริง

บรรยากาศกดดันเล็กน้อย สีท้องฟ้าข้างนอกก็ไม่สดใส ทันใดนั้นเมฆดำก็ปกคลุมกดโลกให้ต่ำลงและมืดลง

ปัจจัยความตึงเครียดควบแน่นในอากาศซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกหดหู่และหนักอึ้ง

เวลาคืบคลานเข้ามาทุกนาทีทุกวินาที

เหวินซินเหมยให้ความสนใจลู่เสวี่ยเฉินอยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นลู่เสวี่ยเฉินก็มองเหวินซินเหมยแล้วยกยิ้มมุมปาก

รอยยิ้มนี้ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีใจแต่กลับรู้สึกเสียวสันหลังวาบ รู้สึกเหมือนถูกพิจารณาอย่างบอกไม่ถูก

เหวินซินเหมยกำโทรศัพท์แน่น จู่ๆ ก็มีลางสังหรณ์ในใจ

หรือว่าลู่เสวี่ยเฉินรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเด็กไม่ใช่ลูกของเขา

เป็นไปได้ยังไง ไม่มีผู้ชายคนไหนยอมถูกสวมเขาหรอกนะ แล้วยิ่งเป็นเทพบุตรอย่างลู่เสวี่ยเฉิน

แต่ทว่า…

“คุณป้าคะ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร หนูอยากบอกคุณป้าว่า หนูยินดีที่ลู่เสวี่ยเฉินแต่งงาน หนูเห็นว่าเขาชอบผู้หญิงคนนี้มากและเชื่อฟังทุกอย่าง” เหวินซินเหมยกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของคุณหญิงลู่

เสียงเบามากมีเพียงเธอกับคุณหญิงลู่สองคนเท่านั้นที่ได้ยิน

ที่เธอพูดเช่นนี้ก็เพื่อต้องการเป่าหูคุณหญิงลู่

แม้ลู่เสวี่ยเฉินไม่รู้มาก่อนหรืออยากให้คุณหญิงลู่คิดว่าลู่เสวี่ยเฉินรู้มาก่อน เช่นนั้นตอนผลตรวจออกมาถึงจะทำให้คุณหญิงลู่ยิ่งเกลียดแค้นนังหลินจยาอวี่

เกลียดหลินจยาอวี่ไม่เพียงเพราะโกหกเท่านั้น แต่ยังเป่าหูให้ลูกชายเธอมาโกหกเธออีกด้วย

คุณหญิงลู่หันไปมองเหวินซินเหมยครู่หนึ่งแล้วไม่พูดอะไร เพียงแต่มีสีหน้าที่หนักอึ้งกว่าเดิม

อันที่จริงเธอเองก็กังวลว่าจะมีคนเป่าหูให้ลูกชายมาโกหกเธออีกที

ในขณะนั้นเองประตูห้องตรวจดีเอ็นเอก็เปิดออก โดยที่หมอเดินถือรายงานผลตรวจออกมา

คุณหญิงลู่ตื่นเต้นมากจึงรีบกุลีกุจอเข้าไปถามคุณหมอ “เป็นยังไงบ้าง ผลว่าไงคะ”

คุณหมอยื่นผลตรวจไปให้ “นี่ผลตรวจ คุณดูเองเถอะครับ”

คุณหญิงลู่รับมาไว้แล้วลู่เสวี่ยเฉินเดินขึ้นมาข้างหน้า

เหวินซินเหมยก็ตื่นเต้นเช่นกันและจ้องพวกเขาเขม็ง

แม้ว่าเธอจะแน่ใจแค่ไหนว่าผลตรวจดีเอ็นเออาจไม่ตรงกัน แต่เธอก็ยังตื่นเต้น เธอเห็นว่าคุณหญิงลู่ได้รับผลตรวจไปและหลังจากอ่านผลตรวจที่อยู่ในนั้นแล้วตัวสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ทั้งยังยื่นแขนออกไปพยุงลู่เสวี่ยเฉินราวกับได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง

หัวใจที่ตุ๊มๆ ต่อมๆ ของเหวินซินเหมยพลันสงบลง

คราวนี้น่าจะถูกต้องแล้ว ผลตรวจต้องออกมาไม่ตรงกันแน่นอน

เกรงว่าคุณหญิงลู่จะโกรธจนเป็นลมล้มพับไป ในขณะเดียวกันเธอก็สงสารแทนคุณหญิงลู่แต่ก็อดกระหยิ่มยิ้มย่องในใจไม่ได้