ตอนที่ 1554 เขตต้องห้ามด้านหลังหุบเขา (4) / ตอนที่ 1555 เขตต้องห้ามด้านหลังหุบเขา (5)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1554 เขตต้องห้ามด้านหลังหุบเขา (4)

ผู้คุ้มกันสองคนมองหน้ากันอย่างงุนงงแล้วก็พูดว่า “องค์ราชินีโปรดรออยู่ที่สักครู่ พวกเราจะไปถามผู้อาวุโสสูงสุดก่อน ถ้าเขาตกลง พวกเราก็จะปล่อยท่านเข้าไป”

เมื่อได้ยินดังนั้น องค์ราชินีก็ขมวดคิ้ว นางหมดความอดทนแล้วสะบัดแขนเสื้ออย่างแรงก่อนตะโกน “ได้ ข้าจะอยู่ที่นี่ แต่ตอนที่พวกเจ้ากลับมา แม่นางอวิ๋นคงตายไปแล้ว ตอนนั้นถ้าผู้อาวุโสสูงสุดรู้ว่าใครที่ควรรับผิด พวกเจ้าก็รับผิดชอบกันเอาเอง!”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้คุ้มกันก็ตัวสั่น พวกเขากัดฟันตอบในที่สุด “องค์ราชินี ได้โปรดรีบกลับมา”

พูดจบ พวกเขาก็เปิดทาง

องค์ราชินีส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วยิ้มเยาะ ทันทีที่นางนางเข้าไปในด้านหลังหุบเขา รอยยิ้มของผู้ชนะก็ปรากฏบนใบหน้าของนาง …

ด้านหลังหุบเขา หน้าถ้ำแห่งหนึ่ง หญิงสาวหยุดเดิน นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายทรงพลังจากในถ้ำ และนางก็ได้ยินเสียงคำรามของมังกรด้วย…

“ถ้าข้าเดาไม่ผิด เขตต้องห้ามน่าจะอยู่ในถ้ำนี่”

อวิ๋นลั่วเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินเข้าไปในถ้ำช้าๆ ทันทีที่นางเข้ามาในถ้ำ นางก็พบว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับคลื่นความร้อนที่เกือบจะผลักนางออกมา…

“นายหญิง ข้าสัมผัสได้ถึงพลังแข็งแกร่งภายในถ้ำ หุ่นเชิดยังฟื้นฟูไม่พอที่จะขวางการโจมตีให้ท่าน ระวังตัวด้วย”

อวิ๋นลั่วเฟิงลูบพู่หยกที่ผูกอยู่ที่คอพร้อมรอยยิ้ม

“เข้าใจแล้ว”

ความจริงแล้วเป็นเพราะพู่หยกสามารถป้องกันการโจมตีถึงชีวิตให้นางได้หนึ่งครั้ง ไม่อย่างนั้นนางก็คงไม่เสี่ยงมาที่นี่ ยิ่งนางเข้าไปลึกเท่าไร ความร้อนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ร้อนเสียจนถึงขึ้นทำให้คนกลายเป็นเถ้าถ่านได้

ไม่นานนัก…

อวิ๋นลั่วเฟิงก็หยุดแล้วมองตรงไปข้างหน้า ดวงตานางเต็มไปด้วยความแปลกใจและงุนงง

“นี่คือ…”

ในหลุมลึกมีมังกรวารีสีฟ้าเหมันต์ถูกล่ามไว้ด้วยโซ่เหล็กขนาดใหญ่ ร่างของมันโปร่งแสงขณะส่งเสียงคำรามอย่างเศร้าสร้อย รอบๆ ตัวของมันมีเปลวไฟสีแดงเพลิง มังกรวารีที่ถูกทรมานด้วยเปลวเพลิงนั้นเรียกได้ว่าเจ็บปวดแสนสาหัส

ตามทฤษฎีแล้ว มังกรวารีสามารถต้านไฟได้ แต่ว่าเปลวไฟข้างล่างตัวมังกรวารีไม่ได้ออกมาแต่กลับเผาจิตวิญญาณของมัน อวิ๋นลั่วเฟิงยืนอยู่หน้าหลุมลึกก็สัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณของมันกำลังสั่น

“นายหญิง! ระวัง!”

เมื่อเห็นเปลวไฟลูกใหญ่พุ่งขึ้นมาหานาง เสี่ยวโม่ก็ตะโกนอย่างเป็นเกังวล ทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงหลุดออกจากภวังค์ นางเคลื่อนที่ไปด้านข้างเพื่อหลบเปลวไฟ

ตอนนั้นเอง เหงื่อเย็นๆ ก็ผุดไหลเต็มแผ่นหลังของนาง

ถ้าเปลวไฟนั่นโดนนาง นางจะตายทันที! ไม่ใครสามารถช่วยนางได้

“นายหญิง ไฟรุนแรงพวกนี้คือไฟแห่งการชำระล้างที่ไม่มีวันดับ! ท่านจะตายทันทีหากโดนสะเก็ดไฟกระเด็นใส่! แปลกมากที่วิญญาณมังกรวารียังไม่ตายหลังจากอยู่กลางเปลวไฟมานาน”

“คิกๆ” ทันที่ที่เสี่ยวโม่พูดจบ ปี้เซียวก็ส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้ “เจ้าไม่รู้หรือว่าทำไม ที่วิญญาณมังกรวารีนั่นยังอยู่หลังจากที่อยู่ในเปลวเพลิงวิญญาณนี้มานานก็เพราะมันดูดกลืนวิญญาณไปมากเพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง มันใช้วิญญาณเหล่านี้ฟื้นฟูวิญญาณตัวเอง”

ปี้เซียวเป็นต้นไม้แห่งชีวิต ปกตินางจะใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ ในิติคัมภีร์เซียน แต่ตอนนี้นางอดไม่ได้ที่จะพูดแทรกขึ้นมา

…………………………………..

ตอนที่ 1555 เขตต้องห้ามด้านหลังหุบเขา (5)

“นายหญิง คนพวกนั้นที่ไม่ได้กลับไปจากที่นี่เพราะพวกเขากลายเป็นสารอาหารให้มังกรวารี เพื่อหลีกเลี่ยงชะตากรรมแบบนั้น พวกเราออกไปจากที่นี่กันเถอะ”

อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบ นางรู้สึกว่ามังกรวารีเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกเขาออกไปจากที่นี่ได้…

แต่ว่าไม่ต้องพูดถึงเปลวเพลิงแห่งการชำระล้างเลย แค่มังกรวารีอย่างเดียวนางก็สู้ไม่ได้แล้ว

“นายหญิงระวัง!”

ทันใดนั้นเสียงกังวลของเสี่ยวโม่ก็ดังขึ้นมาในจิตของนาง อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้าก็เห็นมังกรวารีจ้องมองนางด้วยดวงตาดุร้าย แล้วพลังดึงดูดมหาศาลก็ถูกปล่อยออกจากปากที่อ้าเล็กน้อยของมัน

พลังดึงดูดก็เหมือนมือที่พยายามจะลากวิญญาณของนางลงไปในปากมังกรวารี ส่วนปากที่อ้าออกของมันก็เหมือนหลุมดำที่ไร้ก้นบึ้ง…

อวิ๋นลั่วเฟิงกำหมัดแน่น นางรู้สึกเหมือนถูกกดด้วยภูเขาขนาดมหึมาจนไม่สามารถขยับไปทางไหนได้ นางทำได้แค่จ้องมองปากที่อ้าออกของมังกรวารีเท่านั้น…

แต่ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง “อวิ๋นลั่วเฟิง ในที่สุดข้าก็เจอเจ้า ไปตายซะ!”

อวิ๋นลั่วเฟิงหันหลังไปก็เห็นองค์ราชินีที่จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวข้างหลังนาง นางยื่นมือออกมาแล้วผลักอวิ๋นลั่วเฟิงลงไปในทะเลเพลิง…

ณ ตอนนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงไม่มีเวลามาคิดแล้วว่าองค์ราชินีมาที่นี่โดยที่นางไม่รู้สึกได้อย่างไร นางไม่มีเวลาคิดกระทั่งว่าทำไมองค์ราชินีถึงมาที่ด้านหลังหุบเขาได้…

ที่นางรู้มีแค่ข้างล่างนั้น ภัยอันตรายอย่างหาที่สุดไม่ได้กำลังรอนางอยู่

แกรก!

พู่หยกที่คอนางแตกออกเป็นสองส่วนและเชือกที่ห้อยเอาไว้ก็ขาดออกในเวลาเดียวกัน จากนั้นพู่หยกก็ตกลงไปไหนเปลวเพลิง…

“กรร!”

เมื่อเห็นว่าอาหารลงมาแล้ว มังกรวารีก็เมินองค์ราชินีที่ยืนอยู่เหนือหลุม ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ มันใช้หางโอบรอบตัวอวิ๋นลั่วเฟิง แล้วดวงตาสีฟ้าเหมันต์ก็เป็นประกายความโลภ …

แคว้นเจ็ดเมือง

ในนครชนบทแห่งหนึ่ง คู่รักคู่หนึ่งกำลังนั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมเพื่อพักผ่อน

หนึ่งในนั้นเป็นชายในชุดปักดิ้นทอง เขาดูอ่อนโยนแต่ก็เข้มแข็งในขณะเดียวกัน ส่วนฝ่ายหญิงนั้นรวบผมไว้ด้านหลังด้วยแถบผ้ายาวสีแดง นางดูกล้าหาญโดดเด่นและมีเสน่ห์ ชุดสีแดงเพลิงของนางปลิวไปตามลมเบาๆ

ทันใดนั้น สตรีชุดแดงก็หน้าซีดเผือดก่อนยืนขึ้นด้วยความตกใจ

ชายคนนั้นชะงักแล้วมองสตรีชุดอย่างอ่อนโยน ถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”

สตรีชุดแดงกำหมัดแน่น “ท่านจำพู่หยกที่ข้าให้เฟิงเอ๋อร์ไปตอนที่เจอกันครั้งแรกได้หรือไม่”

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ “ข้าใส่พู่หยกนี้มาตั้งแต่เกิด ข้าสามารถสัมผัสถึงการเชื่อมต่อกับมันได้! ข้าให้เฟิงเอ๋อร์ไปเพราะพู่หยกไม่ใช่แค่สามารถช่วยชีวิตนางได้ แต่ยังทำให้ข้ารู้ว่านางมีชีวิตอยู่ด้วย!”

หัวใจของเขาบีบรัดแน่น เขายืนขึ้นแล้วถามอย่างกังวล “เจ้าหมายถึง…”

“ข้าสัมผัสได้ว่าพู่หยกแตกแล้ว”

พู่หยกแตกหมายความว่าอย่างไร พวกเขาเข้าใจดี

นั่นหมายความว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังตกอยู่ในวิกฤตความเป็นความตาย…

“ข้าจะไปตามหาเฟิงเอ๋อร์กับเซียวเอ๋อร์!” สตรีชุดแดงดูทรงอำนาจเอ่ยด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น “ถ้าข้ารู้ว่าใครกล้าแตะต้องลูกสะใภ้ข้า ข้าจะทรมานมันจนตาย!” …

เวลาเดียวกันนั้นเอง ผู้อาวุโสจวินที่กำลังสอนศิษย์ของเขาอยู่ในตระกูลจวินก็ดูจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขากระอักเลือดออกมา