เวลาสิบเอ็ดโมง ขณะที่เธอกำลังวางเครื่องปฏิกรณ์ที่ติดตั้งใหม่ไว้ในฝาครอบกระจก หนานฮุ่ยเหยาก็โทรมา
ฉินหร่านถือโทรศัพท์แนบหูขณะดูตัวเลขที่คำนวณบนเครื่อง
“หร่านหร่าน วันนี้เธอไปเข้าร่วมการประเมินห้องปฏิบัติการแล้วเหรอ?” ทันทีที่ต่อสายติด หนานฮุ่ยเหยาก็เสียงดังเหมือนเสียงระเบิด
ฉินหร่านถือโทรศัพท์ห่างจากหูสิบเซนติเมตร รอจนหนานฮุ่ยเหยาคำรามเสร็จก็มองไปที่เครื่องปฏิกรณ์อย่างสงบและพูดอย่างเฉยชา “ใช่แล้ว”
ในแต่ละปีรายชื่อการประเมินล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว ภาควิชาฟิสิกส์ปีนี้ก็ประกาศรายชื่อออกไปแล้วเช่นกัน นักศึกษาปีสองปีสามรวมกันได้ยี่สิบคน สมาพันธ์นักศึกษาเองก็มีรายชื่อ
เวลาสิบโมงครึ่ง ทันทีที่บรรดารุ่นพี่ออกจากการประเมินห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์ก็ปล่อยข่าวมากว่าเห็นฉินหร่านที่สนามสอบ
แต่เดิมในภาควิชาฟิสิกส์มีผู้หญิงไม่กี่คน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการประเมินห้องปฏิบัติการที่มีผู้เข้าร่วมหนึ่งร้อยคน มีผู้หญิงเพียงสี่คน ฉินหร่านเป็นคนที่ดูสะดุดตาอยู่แล้ว รุ่นพี่ภาควิชาฟิสิกส์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงจึงจำเธอได้ภายในแวบเดียว
หลังจากสอบเสร็จ ข่าวที่ฉินหร่านเข้าร่วมการประเมินในปีนี้ก็ดังระเบิดภายในภาควิชาฟิสิกส์ สุดท้ายก็กวาดบอร์ดประจำมหาวิทยาลัยเมืองหลวงจนเรียบ
นับตั้งแต่ห้องปฏิบัติการมีการประเมินมาจนถึงปัจจุบัน ไม่มีนักศึกษาใหม่ปีหนึ่งคนไหนที่เข้าร่วมการประเมินห้องปฏิบัติการตั้งแต่เทอมแรก
“ในบอร์ดมีข่าวลือว่าชื่อเธอที่ลงสมัครไปเป็นการปล่อยไก่…เธอ…” หนานฮุ่ยเหยาอ้ำๆ อึ้งๆ เพราะไม่รู้จะใช้คำไหนมาบรรยาย “เธอมั่นใจไหม?”
ปฏิกิริยาสุดท้ายบนฝาครอบกระจกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉินหร่านดูข้อมูลพลังงานบนเครื่องด้านข้าง ข้อมูลตัวเลขมากกว่าครั้งแรกสองเท่า เธอเอนหลังพิงโต๊ะ กดหัวเราะเสียงแหบ “ก็พอได้มั้ง”
**
ในเวลาเดียวกัน
ส่วนภายในของห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์
ผลการสอบจะแสดงผลออกมาตามระบบทีละคนในเวลาประมาณสองทุ่ม
ที่หน้าจอใหญ่กลางห้องปฏิบัติการชั้นหนึ่ง
อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงและมหาวิทยาลัยAกำลังรอผลการสอบข้อเขียนกันอยู่ ผลการสอบนี้สำคัญกับพวกเขามาก จะต้องทำการแจ้งกับทางมหาวิทยาลัยโดยตรง
มีเก้าอี้อยู่ข้างๆ ตัวของคณบดีเจียงกับโจวอิ่ง แต่พวกเขากลับไม่มีกะจิตกะใจจะนั่งลง ได้แต่มองไปที่หน้าจอใหญ่
“ด็อกเตอร์โจว” คณบดีเจียงหยิบบุหรี่ออกมา เขาแค่กัดไว้ในปากเนื่องจากห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์ห้ามสูบบุหรี่ เขาจึงไม่ได้จุด “นายคิดว่าฉินหร่านจะสอบข้อเขียนผ่านไหม?”
โจวอิ่งเม้มริมฝีปาก “คะแนนทฤษฎีเธอดีมาโดยตลอด น่าจะติดอยู่ระหว่างอันดับที่40ถึง50ได้ครับ”
ด้วยระยะเวลาที่เร่งรีบเกินไป พวกเขายังไม่ทันได้เตรียมอะไร ฉินหร่านก็ต้องไปสอบแล้ว
คณบดีเจียงก็คิดว่าฉินหร่านน่าจะติดอยู่ที่อันดับ40ถึง50เหมือนกัน
คนที่มาสอบล้วนเป็นหัวกะทิระดับประเทศ และยังเป็นนักศึกษาปีสามปีสี่หัวกะทิที่เคยผ่านการฝึกอบรมมาแล้วหลายปี ดังนั้นการที่นักศึกษาใหม่ที่ไม่เคยผ่านการฝึกอบรมมาก่อนอย่างฉินหร่านติดอันดับอยู่ระหว่าง40ถึง50ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อแล้ว
เวลาสองทุ่ม
กลางหน้าจอใหญ่มีคำว่า “ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์” ฉายขึ้นมา
อาจารย์ทุกคนที่กำลังรออยู่ในห้องห้องโถงลุกขึ้นทันที มองดูชื่อบนหน้าจอใหญ่โดยไม่กะพริบตา
บนหน้าจอใหญ่มีตัวหนังสือขนาดมหึมาเลื่อนลงจากบนลงล่าง
NO.41 ก้งอี๋ มหาวิทยาลัยเมืองหลวง 197
NO.42 หลินสุย มหาวิทยาลัยA 197
……
NO.50 จัวว่าน มหาวิทยาลัยหนิงปัว 190
จากซ้ายไปขวาคือ อันดับ ชื่อแซ่ มหาวิทยาลัย และคะแนน
รายชื่อที่ประกาศแต่ละครั้งจะมีแค่สิบคน คณบดีเจียงกับโจวอิ่งอ่านตั้งแต่บนลงล่างอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เจอชื่อฉินหร่าน
โจวอิ่งเริ่มใจเสีย
“เธออาจจะทำออกมาได้เกินความคาดหมายเราก็ได้ อาจจะติดใน40อันดับ?” คณบดีเจียงหัวเราะ
โจวอิ่งเพียงจ้องไปที่หน้าจอที่รีเฟรชใหม่โดยไม่พูดอะไร
สองนาทีต่อมา หน้าจอก็รีเฟรชอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นอันดับที่30ถึง40
ทั้งสองยังคงหาชื่อฉินหร่านไม่พบ คณบดีเจียงเริ่มยิ้มไม่ออกแล้ว
“คณบดีเก๋อ มหาวิทยาลัยAของพวกคุณจะได้ที่หนึ่งอีกแล้วเหรอเนี่ย” คนของตระกูลสวีที่อยู่อีกด้านหนึ่งมองไปทางชายหัวล้านวัยกลางคน “จากอันดับที่30ถึง50มีคนจากมหาวิทยาลัยพวกคุณปาเข้าไปแล้วสี่คน มหาวิทยาลัยพวกคุณยังมีสวีหว่านเฉินคนนั้นที่เทียบเท่าซ่งลี่ว์ถิงอีกคนนึงนี่นา ได้ยินว่ามีอาจารย์จากสถาบันวิจัยรับเป็นศิษย์ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วนี่ ถ้าครั้งนี้ไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มหาวิทยาลัยพวกคุณก็น่าจะได้ที่หนึ่ง”
มหาวิทยาลัยAได้ที่หนึ่งติดต่อกันมายาวนาน ทว่าเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ถูกซ่งลี่ว์ถิงชวดที่หนึ่งไปอย่างน่าเหลือเชื่อ
มหาวิทยาลัยAหัวเสียกันมาก ในรอบเดือนธันวาคมจึงหานักศึกษาปีสามอย่างสวีหว่านเฉินมาโดยเฉพาะ สวีหว่านเฉินถูกด็อกเตอร์ประจำสถาบันวิจัยรับตัวไปเป็นศิษย์นานแล้วจึงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมการประเมิน ที่มหาวิทยาลัยAให้เขาออกหน้าครั้งนี้ก็เพื่อกู้หน้าในรอบเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ชายหัวล้านวัยกลางคนหัวเราะอย่างถ่อมตัว
สายตาเขามองมาทางคณบดีเจียงที่อยู่ทางด้านนี้ ทำหน้ายิ้ม “คณบดีเจียง ได้ยินมาว่าปีนี้นักศึกษาใหม่ของพวกคุณก็มาเข้าร่วมการประเมินด้วยนี่ เธอเข้าร่วมการประเมินเร็วกว่าซ่งลี่ว์ถิงเสียอีก ดูเหมือนว่าปีนี้จะสร้างปาฏิหาริย์อีกแล้วเหรอ? ผมดูมาสองครั้งแล้วก็ยังไม่เห็นชื่อของเธอ ราชาหน้าใหม่คงจะเข้า30อันดับแรกแล้วแน่ๆ เลย”
เรื่องที่ชื่อฉินหร่านเป็นการปล่อยไก่ได้แพร่กระจายภายในห้องปฏิบัติการมานานแล้ว
มหาวิทยาลัยAมีผู้รับผิดชอบอยู่ที่ห้องปฏิบัติการ
คณบดีเก๋อจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร
ฉินหร่านไม่เคยเข้าร่วมฝึกอบรม คณบดีเก๋อก็เคยประเมินคะแนนฉินหร่านมาแล้วเช่นกัน เขาคาดว่าอย่างมากที่สุดก็น่าจะอยู่ราวๆ อันดับที่40 แต่รายชื่อรีเฟรชมาแล้วสองครั้งก็ยังไม่มีชื่อฉินหร่าน
คณบดีเก๋อรู้แล้วว่าฉินหร่านคนนั้นถูกปัดตกแล้ว
ที่เขาคุยกับคณบดีเจียงในขณะนี้ก็แค่ถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจเพื่อพูดเหน็บแนมคณบดีเจียง
ทั้งสองมหาวิทยาลัยมีความแค้นสั่งสมกันมานาน
รอบเดือนมีนาคมปีนี้ซ่งลี่ว์ถิงได้ขัดขามหาวิทยาลัยAจนวุ่น รอบเดือนธันวาคมโจวซานก็หาฉินหร่านมาได้อีกคนหนึ่ง
ฉินหร่านชื่อนี้ อาจารย์ของทั้งสองสถาบันส่วนหนึ่งค่อนข้างคุ้นเคยดี เธอได้อันดับหนึ่งในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้อย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นคนที่มหาวิทยาลัยเมืองหลวงกับมหาวิทยาลัยAแย่งตัวกัน แต่สุดท้ายก็ถูกมหาวิทยาลัยเมืองหลวงแย่งตัวไปได้
คณบดีเจียงและโจวอิ่งต่างก็ใจเสียไปแล้ว พอมาได้ยินคณบดีเก๋อพูดแบบนี้ก็ยิ่งเสียใจกว่าเดิม ไม่ใช่เพียงเพราะคำพูดของคณบดีเก๋อ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือสงสารฉินหร่านที่เสียโอกาสไปแบบนี้
ระหว่างที่พูดคุยกันอยู่ รายชื่อก็รีเฟรชอีกครั้ง
ครั้งนี้เป็นรายชื่ออันดับที่20ถึง30
คณบดีเจียงเห็นว่ามีชื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยเมืองหลวงอยู่ในรายชื่อนี้สามคน การที่ไต่มาถึงอันดับที่20ถึง30ในบรรดาหนึ่งร้อยคนได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในใจลึกๆ แล้ว คณบดีเจียงกลับดีใจไม่ออก เขาเพียงรู้สึกถึงความหนักอึ้ง
โจวอิ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ไม่คิดอยากจะดูต่อแล้ว
ทั้งสองต่างรู้ดีว่าอันดับที่30เป็นขีดสุดของฉินหร่านแล้ว แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอยู่อันดับต้นๆ
รายชื่อได้รีเฟรชมาถึงอันดับที่10ถึง20
ครั้งนี้มีชื่อของมหาวิทยาลัยเมืองหลวงอยู่ในรายชื่อที่โผล่ออกมาสี่คน ยังไม่พบชื่อของฉินหร่าน คณบดีเจียงเหมือนล้มลงไปในอุโมงค์น้ำแข็ง
เมื่อคณบดีเก๋อที่ยืนอยู่อีกด้านเห็นชื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยAอยู่ในรายชื่ออันดับที่10ถึง20ก็ยิ้มร่ามองมาทางคณบดีเจียง “คณบดีเจียง ยังไม่เห็นชื่อราชาหน้าใหม่ของมหาวิทยาลัยพวกคุณเลย ราชาหน้าใหม่ของพวกคุณอาจจะติดหนึ่งในสิบอันดับก็ได้ ไม่แน่ว่าอาจจะครองอันดับหนึ่งเหมือนปีนี้”
รอบๆ ยังมีเจ้าหน้าที่ของห้องปฏิบัติการ ทุกคนต่างหันมามองหน้ากันเมื่อได้ยินที่คณบดีเก๋อพูด อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ตอนที่ชื่อของซ่งลี่ว์ถิงปรากฏเป็นอันดับหนึ่งในรอบเดือนมีนาคมของปีนี้ ทั้งสองมหาวิทยาลัยและทุกคนในห้องปฏิบัติการต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริด
แต่อย่างไรก็ตาม ซ่งลี่ว์ถิงเคยผ่านการฝึกอบรมมาก่อน
ส่วนฉินหร่านนั้น…
คณบดีเก๋อมองคณบดีเจียง แววตาแฝงไปด้วยความดูถูกดูแคลน ในสายตาเขา โจวซานกับคนอื่นๆ รีบร้อนจนเสียเรื่องถึงได้ส่งรายชื่อผิดโดยให้นักศึกษาใหม่ที่ไม่เคยผ่านการฝึกอบรมเข้าร่วมการประเมิน
อย่าว่าแต่รอบเดือนธันวาคมมีสวีหว่านเฉินเลย ถึงแม้ไม่มีสวีหว่านเฉิน มหาวิทยาลัยเมืองหลวงก็พลิกกระดานเกมนี้ไม่ได้
คณบดีเก๋อคิดอย่างสบายอกสบายใจ
คณบดีเจียงกับโจวอิ่งและคนอื่นๆ ไม่มีอารมณ์จะสนใจสิ่งที่คณบดีเก๋อพูดแล้ว ทั้งสองคอพับเตรียมจะกลับมหาวิทยาลัย ไม่อยากดูรายชื่อที่จะโผล่ขึ้นมาอีกแล้ว
กลางห้องโถง รายการถูกรีเฟรชอีกครั้ง
รายชื่อที่รีเฟรชในครั้งนี้คืออันดับที่1ถึง10 นอกจากพวกคณบดีเจียงแล้ว ทุกคนต่างจับจ้องโดยไม่กะพริบตา
ไม่มีใครคิดว่ารายชื่อที่รีเฟรชออกมาครั้งนี้จะเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่จนทำให้ห้องปฏิบัติการทางฟิสิกส์และมหาวิทยาลัยทั้งสองระเบิด