ทันทีที่คำพูดของนางสิ้นสุดลง ก็มีเสียงดังก้องอยู่ไม่ไกล และแม้แต่พื้นดินก็สั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง

ทุกคนต่างแหงนหน้าขึ้นมอง แต่เห็นเพียงเงาดำของสิงโตเปลวเพลิงพุ่งเข้ามา

ทันทีที่อสุรกายเหล่านั้นออกมา พวกมันก็ทำการล้อมพวกเขาเอาไว้และรอฟังคำสั่งของกู้ชูหน่วน พวกมันยกให้นางเป็นเจ้านายโดยปริยายและรอการส่งสัญญาณจากนางทุกขณะ

สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปและต่างพากันถอยหลังด้วยความหวาดกลัวกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

กู้ชูหน่วนลูบศีรษะของสิงโตเปลวเพลิงตัวหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก และมองไปที่จางเชาอย่างยิ้มเยาะ “จะฆ่าข้าหรือ? เจ้าว่า เจ้าก็มีเพียงตัวคนเดียว แต่ข้ากลับมีพี่น้องมากมายเช่นนี้ ข้าควรมอบเจ้าให้กับตัวไหนดีนะ?”

จางเชากลืนน้ำตาโดยไม่คิดว่าเรื่องทั้งหมดจะกลับตาลปัตรไปเป็นเช่นนี้

เขาเพียงแค่ต้องการได้ครอบครองหัวใจคนงามเท่านั้น

เพียงแค่ต้องการครอบครองสมบัติบนตัวของกู้ชูหน่วนก็เท่านั้นเอง

ต่อหน้านักเรียนจำนวนมาก เขาไม่อยากเสียหน้าและยิ่งไม่ต้องการจะตายไป เขาจึงทำได้เพียงประนีประนอม “กู้ชูหน่วน เจ้าอย่ากลั่นแกล้งรังแกคนอื่นเช่นนี้เลย”

“ข้าจะรังแก เจ้าจะทำไม? หากเจ้ามีความสามารถ เช่นนั้นเจ้าก็พาอสุรกายที่โปรดปรานออกมาสิ”

“เจ้า……” จางเชาพูดจาติดขัด

เสียงที่อ่อนหวาน ไพเราะชัดเจนของกู้ชูหน่วนที่พูดออกมา กลับทำให้ผู้ฟังรู้สึกสะพรึงกลัวเป็นพิเศษ “ข้าให้ตัวเลือกเจ้าสามทาง หนึ่งหักแขนของเจ้า สองตัดแขนของคนที่คอยยุยงบงการเจ้า และสามกลายเป็นอาหารอันโอชะของสิงโตเปลวเพลิง สิงโตเปลวเพลิงเหล่านี้ไม่ได้กินเนื้อมนุษย์มาเป็นเวลานานแล้วด้วยสิ พวกมันคงคิดถึงรสชาตินั้นไม่น้อย”

สีหน้าของจางเชาดูแย่มาก

ไม่ว่าจะตัวเลือกไหน เขาก็ไม่ต้องการ

และเมื่อมองไปที่สิงโตเปลวเพลิงที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ เพียงรอฟังคำสั่งของกู้ชูหน่วนอย่างตั้งใจ เช่นนั้นมันก็จะกลืนกินเขาไป ทำให้เขารู้สึกตระหนกหวาดกลัวอย่างมาก

กู้ชูอวิ๋นพูดเกลี้ยกล่อมขึ้นด้วยความประณีต “น้องสาม ทุกคนล้วนต่างก็เป็นเพื่อนร่วมสำนักศึกษาเดียวกัน เหตุใดต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ด้วยล่ะ”

“เช่นนั้นแล้ว เจ้าก็หักแขนตัวเองแทนเขาเสียสิ”

“น้องสาม เจ้า……เจ้ากำลังโทษข้าหรือ?”

“เก็บน้ำตาที่ไร้ค่าของเจ้าไปเสีย ระวังหากข้าอารมณ์ไม่ดีและทำให้สิงโตเปลวเพลิงกลืนกินเจ้าเข้าไปเถอะ”

น้ำตาเม็ดใหญ่ของกู้ชูอวิ๋นตกลงบนพื้น นางแสดงให้เห็นว่านางลำบากใจอย่างมาก ลำบากใจถึงขั้นที่ไม่สามารถพูดความคับข้องใจออกมาได้

ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะพากันสงสารกู้ชูอวิ๋น

มีน้องสาวเช่นนี้ ช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายเสียเหลือเกิน

กู้ชูหน่วนพูดขึ้นด้วยความเย็นชา “ข้าจะนับถึงสาม หากเจ้ายังไม่ตัดสินใจ เช่นนั้นข้าก็จะคิดเสียว่าเจ้าเลือกตัวเลือกที่สาม หนึ่ง……”

“เจ้าบีบบังคับข้าเช่นนี้ เจ้าไม่กลัวว่าจะถูกเผยแพร่ออกไปและได้รับโทษ ฐานที่บีบบังคับฆ่าเพื่อนร่วมสำนักศึกษาอย่างนั้นหรือ?”

“เมื่อสักครู่เจ้ายังพยายามยุยงให้ทุกคนร่วมมือกันฆ่าข้าอยู่เลยไม่ใช่หรือ? ข้าเพียงแค่ลงโทษผู้นั้นด้วยกลอุบายของเขาเองก็เท่านั้น เจ้ายังไม่กลัว เช่นนั้นแล้วข้าจะกลัวไปทำไม? สอง……เจ้ามีโอกาสครั้งสุดท้ายเท่านั้น”

จางเชาตื่นตระหนกอย่างมาก และเมื่อเขากำลังจะพูดสารภาพกับกู้ชูอวิ๋น เฉินเจิ้นที่อยู่ข้างๆ ก็ยกดาบขึ้นมาและตัดแขนของเขาไปข้างหนึ่ง

เลือดสีสดพุ่งสาดกระเซ็นขึ้นมา ทุกคนพากันกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก

เฉินเจิ้นตัดแขนของเขาแล้วจริงๆ ด้วย

หลังจากนั้นก็ได้ยินเฉินเจิ้นพูดขึ้นอย่างมั่นใจ “เป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ก็แค่ถูกตัดแขนไปเท่านั้น มีอะไรให้ต้องหวาดกลัวอย่างนั้นหรือ ครั้งนี้ก็เพื่อให้เจ้ารู้จักคิดและฉลาดขึ้น ครั้งหน้าก็อย่าได้คิดทำร้ายคนอื่นอีก”

กู้ชูหน่วนเหลือบมองเฉินเจิ้นและกู้ชูอวิ๋นอย่างมีเลศนัย

นางรู้สึกยกย่องชื่นชมกู้ชูอวิ๋น

ไม่รู้ว่านางทำเอาอีท่าไหน ถึงทำให้ผู้ชายจำนวนมากยอมทำแทนนาง

วิธีการนี้ นับว่ามีเพียงคนไม่ปกติเท่านั้นที่สามารถทำได้

ท่ามกลางฝูงชน ไม่รู้ว่าใครยกกระสอบป่านขึ้นมาสามกระสอบ

เมื่อคนที่เหลือเห็นเข้าก็รีบพากันช่วยยกหญ้าวิญญาณเสือ

“…….”

ประตูม่านพลังเวทมนตร์ถูกเปิดออก และแสงหนึ่งก็ดูดพวกเขาออกไปทั้งหมด

ม่านพลังเวทมนตร์ของถ้ำสวินหลงซานได้ถูกปิดลงอย่างเป็นทางการ

ใครก็ตามที่ค้นพบหรือไม่ค้นพบขุมทรัพย์สมบัติ ต่างก็ได้สิ้นสุดการเดินทางเพื่อค้นหาขุมทรัพย์ในถ้ำสวินหลงซานนี้