บทที่ 385 ฝีมือของกงซุนซา
บทที่ 385 ฝีมือของกงซุนซา
อวี้ฮ่าวหรานโมโหอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าศัตรูจะหันมาเล่นงานคนรอบตัวเขา
นี่นับเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่!
“ฮ่า ๆ! ไอ้หนู แกบ้าเลือดดีนี่!”
ปลายสายหัวเราะเยาะพลางพูดเสียดสี ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“น่าเสียดายที่แกโง่เกินไป! แกรู้ไหมว่าฉันซุ่มมองแกมานานแค่ไหน แล้วรู้ไหมว่าฉันมีข้อมูลของแกเกือบทั้งหมด?”
น้ำเสียงแหบแห้งแฝงไปด้วยความเหยียดหยาม แต่อวี้ฮ่าวหรานยังคงสงบนิ่ง
“แกเป็นใคร?”
ระหว่างกลับชาติมาเกิด เขาสร้างความแค้นไว้กับกลุ่มคนมากมาย แล้วจะจำได้ยังไง?
“ฮ่า ๆ แกลืมไปแล้วสินะไอ้หนู! ถ้าอยากรู้มากก็มาที่บ้านตระกูลเฉิงสิ”
อีกฝ่ายกดวางสายทันที!
อวี้ฮ่าวหรานมีสีหน้าเคร่งเครียด ชายหนุ่มไม่คิดว่าตัวเองจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉิงอีก
ผู้หญิงคนนี้เพิ่งถูกจับเป็นตัวประกันเมื่อเดือนที่แล้ว
ในครั้งนั้น! มีคนสร้างค่ายกลเพื่อลอบทำร้ายเขาและคนพวกนั้นก็ถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว!
ครั้งนี้จะเป็นใครกันแน่?
ใบหน้าของอวี้ฮ่าวหรานมืดมนกว่าเดิม เขารีบออกจากบริษัทและขับรถตรงไปยังคฤหาสน์ตระกูลเฉิงทันที
เดี๋ยวก็รู้!
เมื่อขับมาถึง เขาเห็นคฤหาสน์ตระกูลเฉิงถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์ชุดดำ!
คนพวกนั้นติดตราบางอย่างบนหน้าอก ดูเหมือนว่าทุกคนมาจากสำนักเดียวกัน
เขาเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน อวี้ฮ่าวหรานจอดรถไว้ด้านนอกคฤหาสน์!
ขณะที่กำลังก้าวลงจากรถสปอร์ต ชายชุดดำรูปร่างกำยำทั้งหมดก็หันมองเขา!
อวี้ฮ่าวหรานปรายตามองคนเหล่านั้นด้วยสายตาเหยียดหยาม
เขารู้จักตราบนหน้าอกอีกฝ่ายดี มันเป็นตราสัญลักษณ์ของแก๊งวาฬยักษ์!
ความจริงแล้วคนที่อยู่เบื้องหลังการจับตัวประกันคือผู้อาวุโสกงซุนซา!
หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นระส่ำอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับศัตรู!
ก่อนที่อวี้ฮ่าวหรานจะเข้าไปหาอีกฝ่าย ชายชุดดำทั้งหลายก็รนหาที่ตาย วิ่งกรูเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว!
“หลบไป!”
เขาพูดเสียงทุ้ม จิตสังหารแผ่ออกมาจากร่างกายทันที!
พวกชายฉกรรจ์ต่างก็เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพลังภายใน พอเห็นจิตสังหารอันรุนแรงที่แผ่ออกมา พวกเขาก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวในทันใด
“ฮึ่ม!”
อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้เอาจริงเอาจังสักเท่าไหร่ หลังจากถอนหายใจ เขาจึงเดินเข้าไปในตัวบ้าน
เมื่อประตูคฤหาสน์ถูกเปิดออก ภาพตรงหน้าก็ทำให้ใบหน้าของอวี้ฮ่าวหรานชาวาบทันที!
กลางห้องโถง มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย ด้านข้างมีปรมาจารย์ผู้บรรลุขอบเขตกำลังภายในกว่าสิบคนยืนอยู่!
แม้แต่หลิ่วอวี้จิงที่เขาเคยเจอก็ยืนอยู่ตรงนั้น
ทั้งสองด้านของห้องโถงมียอดฝีมือหลายคนยืนเรียงรายกัน ดูเหมือนว่าคนสุดท้ายจะเป็นปรมาจารย์จากต่างประเทศ
คนพวกนี้น่ากลัวจริง ๆ!
ถัดไป ชายฉกรรจ์สองคนกำลังจับตัวเฉิงชิวอวี้ที่ดิ้นรนตลอดเวลาเอาไว้ พวกเขาปิดปากเธอ จึงทำให้ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้
ทันใดนั้นชายชราที่นั่งอยู่กลางห้องโถงก็พูดขึ้น
“ฮ่า ๆ ยินดีต้อนรับ! ไม่คิดว่าแกจะมาถึงเร็วขนาดนี้ กระบวนท่าของแกทำอะไรฉันไม่ได้สักนิด!”
ชายแก่คนนั้นคือกงซุนซาแน่นอน! ตอนนี้เขาดูมั่นใจในพลังของตัวเองอย่างมาก
อวี้ฮ่าวหรานชะงักไปชั่วครู่
“ฉันอยากรู้ว่าใครเป่าหูแกให้มาเผชิญหน้ากับฉันแบบนี้”
น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ
ในแง่ของความแข็งแกร่ง คนพวกนี้เหมือนกับไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา*[1] ไม่มีอะไรต้องกลัว!
“ฮ่า ๆ ไม่เลวนี่! ฉันไม่คิดว่าก่อนตาย อวี้ฮ่าวหรานจะกร่างขนาดนี้!”
กงซุนซาหัวเราะเสียงดังราวกับได้ยินบางสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ หลิ่วอวี้จิงที่อยู่ข้างเขาก็หัวเราะเช่นกัน
“ฮ่า ๆ ไอ้โง่! แกคิดว่าบรรลุขอบเขตพลังภายในขั้นสูงสุดแล้วจะสามารถอาละวาดไปทั่วเมืองฮ่วยอันก็ได้เหรอ?”
เมื่อนึกถึงคำดูถูก ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที
“ฉันจะบอกให้นะว่าวันนี้คือวันตายของแก! ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนกัน แต่นังนี่จะไม่ทรมานเท่าแกก็แค่นั้น”
คำพูดเหล่านั้นเต็มไปด้วยการเสียดสีและการเยาะเย้ย แต่อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจ เขาส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ
“ฮ่า ๆ ดี ดี! ฉันต้องคุกเข่าขอร้องแกไหม?”
เขาเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูกพร้อมพูดเยาะเย้ย ในสายตาเขาแล้ว ผู้ชายคนนี้ไม่น่าเกรงขามสักนิด!
เขาไม่จำเป็นต้องสนใจคนรนหาที่ตาย
เมื่อได้ยินแบบนั้น กงซุนซาจึงมองดูชายหนุ่มข้างหน้าเขาด้วยสายตาเย้ยหยัน
“จุ๊ ๆ ถ้าแกขอร้องเร็วกว่านี้ ฉันอาจจะใจอ่อนให้โอกาสแกมารับใช้ก็ได้ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว หมาจนตรอกต้องแก้แค้น ไม่อย่างนั้นมันคงตายตาไม่หลับ”
พอพูดจบ เขาก็ลุกยืนขึ้นก่อนโบกมือเบา ๆ
“แกรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันแข็งแกร่งขนาดไหน?”
เมื่อกงซุนซาโบกมือ ลำแสงจาง ๆ ปรากฏบนฝ่ามือเขาทันที! อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกเสียวสันหลังเล็กน้อย
ไม่แปลกใจที่หลิ่วอวี้จิงจะยอมจำนนต่ออีกฝ่าย และไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะมั่นใจว่าจะจัดการเขาได้
ปรากฏว่าชายคนนี้เพิ่งบรรลุขอบเขตก่อรากฐาน!
นี่มัน…ตลกสิ้นดี!
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเขาบรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นสูงสุดแล้ว! อีกฝ่ายรนหาที่ตายชัด ๆ!
มากไปกว่านั้นชายหนุ่มยังเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองตัวเองด้วยสายตาเยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ยังไม่บรรลุขอบเขตก่อรากฐานขั้นต้นด้วยซ้ำ น่าสมเพชชะมัด!
ถึงอย่างนั้นอวี้ฮ่าวหรานก็ไม่โอ้อวดความแข็งแกร่งของตัวเอง ซึ่งยิ่งทำให้อีกฝ่ายได้ใจมากกว่าเดิม
“ไอ้หนู แกรู้ไหมว่าขอบเขตก่อรากฐานแข็งแกร่งกว่าขอบเขตพลังภายใน?”
กงซุนซาถามอย่างช้า ๆ หลังจากข่มขู่คู่ต่อสู้ เขาก็ไม่รีบร้อนที่จะจบชีวิตของอีกฝ่าย
อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ตอบคำถาม เพราะมันไร้สาระเกินไปน่ะสิ!
อีกฝ่ายทำตัวราวกับเด็กอมมือถามผู้ใหญ่ด้วยความภูมิใจว่าเขาเคยเห็นเงินหยวนไหม? ซึ่งคำถามนั้นทำให้พวกผู้ใหญ่ขำกลิ้ง
แต่การกระทำดังกล่าวทำให้กงซุนซาคิดไปเองว่าอีกฝ่ายเกรงกลัว
“ฮ่า ๆ แกอ่อนหัดจนไม่สามารถบรรลุขอบเขตพลังก่อรากฐานสินะ เลยไม่รู้ว่าความแข็งแกร่งของมันวิเศษแค่ไหน อ่อนแอเกินไปแล้ว!”
เขาพูดอย่างเนิบนาบด้วยความเย่อหยิ่ง ขณะเดียวกัน คนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ในห้องโถงก็หัวเราะไปกับเขา
พวกเขารู้ดีว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังจะตาย ซึ่งการตายของเขาคงน่าอนาถไม่น้อย!
“วิเศษงั้นเหรอ? ฮ่า ๆ ไม่เลว!”
อวี้ฮ่าวหรานแค่นเสียงพร้อมแสดงสีหน้าขี้เล่น
“แล้วแกรู้ไหมว่าความสิ้นหวังเป็นยังไง?”
วินาทีต่อมา หลังจากที่เขาหยุดพล่ามเรื่องไร้สาระ พลังวิญญาณอันแข็งแกร่งก็ปะทุออกมาทันที!
กลุ่มพลังวิญญาณพุ่งเข้าโจมตีโต๊ะและเก้าอี้ที่อยู่รอบ ๆ จนพังยับเยิน!
หลังจากปลดปล่อยพลังวิญญาณ ความแข็งแกร่งของเขาจึงพุ่งขึ้นสู่ระดับที่น่ากลัว!
นี่คือขั้นสูงสุดของขอบเขตก่อรากฐาน!
ในตอนนั้นเองที่กงซุนซารู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้ากลายเป็นสัตว์เดรัจฉานไปแล้ว!
จิตสังหารอันรุนแรงทำให้เขาสิ้นหวังและหวาดหวั่นอย่างมาก!
[1] ไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา หมายถึงอ่อนแอ