บทที่ 289
สายตาของนักเรียนหญิงที่มองฉู่สิงและคนอื่น เต็มไปด้วยความโมโห แทบจะเข้ามาควักลูกตาของฉู่สิง

ฉู่สิงยังมีใบหน้าเหม่อลอย เหมือนยังคงนึกย้อนไป

แต่ตอนนี้คณะหนึ่งเดียวแพ้ไปสองรอบแล้ว จะแพ้อีกไม่ได้

ลู่ฝานมองศิษย์พี่ใหญ่แล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ รอบต่อไปให้ผมละกัน เราสองคนต้องขึ้นไปสู้”

ศิษย์พี่ใหญ่พยักหน้าเบาๆ “ระวังด้วย เทียบกับอันดับ การทำความเข้าใจวิถีสำคัญกว่า”

ลู่ฝานพูดว่า “ผมมีความยับยั้งชั่งใจอยู่แล้วครับ”

ลู่ฝานลุกขึ้นเดินไปที่ต่อสู้

เมื่อเห็นลู่ฝานออกมา หลิงเหยาลุกขึ้นมาทันที

ครูมองแล้วประกาศว่า “ลู่ฝานคณะหนึ่งเดียวสู้กับหลิงเหยาคณะสงบใจ”

หลิงเหยาเดินก้าวเข้ามา มองลู่ฝานอยู่อย่างนั้น

ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “เจอกันอีกแล้วนะหลิงเหยา”

หลิงเหยายิ้มเหมือนดอกไม้ “ใช่ ช่วงนี้นายเป็นไงบ้าง”

“ก็ไม่เลวนะ เธอล่ะ”

……

ทั้งสองคนคุยกันต่อหน้าอาจารย์ทั้งสองคณะ รวมไปถึงนักเรียนทุกคน

ไม่มีใครคาดคิด ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ขนาดศิษย์พี่หานเฟิงยังตกใจจนอ้าปากค้าง

“ศิษย์น้องลู่ฝานทำอะไรอยู่ จีบสาวต่อหน้าทุกคนเหรอ”

ศิษย์พี่ฉู่สิงตั้งสติได้แล้ว กำลังใช้เสื้อเช็ดเลือดบนหน้า

ศิษย์พี่ฉู่สิงไม่สนใจ อาการบาดเจ็บภายในสักนิด แค่คราบเลือดบนหน้า ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์เล็กน้อย จำเป็นต้องเช็ดให้สะอาด

“นี่คือทักษะการต่อสู้พิเศษ นายจะไปรู้อะไร”

ศิษย์พี่ฉู่สิงหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น

หานเฟิงพูดว่า “ผมไม่รู้จริงๆ ศิษย์พี่ฉู่สิง ถ้าพี่ไม่บอกวิชากระบี่พิเศษและทักษะกับผม……”

ฉู่สิงขี้เกียจสนใจเขา แล้วหันไปมองลู่ฝาน

ตอนนี้ลู่ฝานกับหลิงเหยาคุยกันสนุกขึ้นเรื่อยๆ

คนอื่นทนดูทั้งสองคนคุยกันไม่ได้แล้ว

อาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์อู๋โฉวตะโกนขึ้นพร้อมกัน

“หลิงเหยา”

“ลู่ฝาน!”

ลู่ฝานกับหลิงเหยาหันมา

อาจารย์อี้ชิงยักคิ้วหลิ่วตาให้ลู่ฝาน “ลู่ฝาน นายมาแข่งขัน ไม่ได้มาพูดเรื่องความรัก”

อาจารย์อู๋โฉวก็มองหลิงเหยา “หลิงเหยา ตอนนี้กำลังต่อสู้อยู่ ถ้าพวกเธออยากคุยกัน รอให้แข่งเสร็จ ค่อยคุยกันได้ไหม”

หลิงเหยาหน้าแดงเล็กน้อย แล้วพยักหน้า

ลู่ฝานสีหน้าเหนื่อยใจ มองหลิงเหยาแล้วพูดว่า “งั้นก็ได้ หลิงเหยา เธอใช้กระบวนท่าออกมา ฉันจะรับเอง”

หลิงเหยาส่ายหน้า “เคล็ดวิชาที่ฉันใช้เป็นมีไม่มาก เราตัดสินแพ้ชนะด้วยกระบวนท่าเดียวดีไหม”

ลู่ฝานอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “ตัดสินแพ้ชนะด้วยกระบวนท่าเดียวยังไง”

หลิงเหยาพูดว่า “แค่นายรับกระบวนท่าฉันได้ ถือว่านายชนะแล้ว”

หลิงเหยาเพิ่งพูดจบ เยียนหรานที่อยู่ข้างๆ ตะโกนว่า “ไม่ได้ ศิษย์น้องหลิงเหยา เธอทำแบบนี้จงใจอ่อนข้อให้หรือเปล่า อย่าบอกนะว่าเพราะเธอชอบลู่ฝาน แล้วจะยอมอ่อนข้อให้ในการต่อสู้จัดอันดับคณะ”

เสียงตะโกนของเยียนหราน ทำให้คนจำนวนไม่น้อยถกเถียงกัน

หลิงเหยาพูดเสียงก้องว่า “ฉันจะใช้จิตบู๊เข้าฌาน กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นท่าไม้ตายใหญ่ของฉัน ถ้าศิษย์พี่เยียนหรานไม่เชื่อฉัน งั้นรอบนี้ พี่มาสู้ละกัน”

เยียนหรานโดนหลิงเหยาพูดประโยคนี้ใส่จนอึ้งไป

ลู่ฝานขี้เกียจสนใจเยียนหราน แต่เมื่อได้ยินจิตบู๊เข้าฌาน ก็สนใจขึ้นมาทันที

ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “จิตบู๊เข้าฌาน ต้องช่วยชี้แนะให้ด้วยนะ”

หลิงเหยายิ้มออกมา “ต้องทำให้นายพอใจแน่นอน”