บทที่ 138 คนสองประเภทมีจุดจบต่างกัน

เมื่อผมโดนระบบครองร่าง

บทที่ 138 คนสองประเภทมีจุดจบต่างกัน
หวงรุ่ยได้ฟังแล้วก็พูดต่อ “ไม่ช่วยก็ดี ไม่ต้องเปลืองพลังของนายท่าน หนานคุนเคยบอกเองวิญญาณของเขาหลบหนีระหว่างระเบิดตนเองได้ แต่เขาเข้าไปสู่นรกเอง จะโทษเราก็ไม่ได้”

ทอมแมวดำ “ตอนนี้หมอนั่นตายแล้วแน่นอน นั่นก็ช่วยลดปัญหาได้มาก แต่ว่าแกรีบฉวยโอกาสตอนที่พวกเขาซ่อมแซมเวที รีบไปตรวจสอบให้แน่ใจว่าอัศวิน A ตายหรือยัง”

หวงรุ่ย “รับคำสั่ง นายท่านทอม”

ทอมแมวดำ “อ้อ ระวังอย่าเปิดเผยตัวตนของแกล่ะ ตอนนี้ฉันยังสนใจเรื่อง ‘เรือนจำมังกรศักดิ์สิทธิ์’ นั่น มากทีเดียว บางทีสาเหตุการตายอาจเกี่ยวข้องกับมังกรแท้ก็ได้ ต่อไปวิญญาณอาจจะถูกขังอยู่ที่นั่น หากมีโอกาสล่ะก็ หลังจากภารกิจนี้ แกช่วยสืบข่าวนี้ที่เสินโจวหน่อย”

เมื่อหวงรุ่ยได้ฟัง เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมร่างกายถึงได้รู้สึกเสียววาบ ถามขึ้น “นายท่าน หรือว่าท่านจะเข้าไปดูในนรกนั่นเอง ท่านวางแผนที่จะชิงตัวแอนเดอร์สันและหนานคุนออกไป แต่ถึงอย่างไรทั้งคู่เป็นวิญญาณของผู้แข็งแกร่งระดับ A ยังคงใช้พิธีการจุติวิญญาณฟื้นความแข็งแกร่งได้ และอาจแข็งแกร่งยิ่งขึ้นหากเปลี่ยนเป็นคุณสมบัติที่ดีกว่า”

ทอมแมวดำ “จะไปได้ยังไง ฉันยังไม่อยากตายก่อนเวลาอันควร ทันทีที่ฉันได้ยินชื่อนรกก็รู้แล้วว่าน่าจะมีผู้พิทักษ์มังกรแท้ที่ทรงพลังอยู่ข้างใน นอกเสียจากความแข็งแกร่งของฉันจะฟื้นตัวเต็มที่ ไม่อย่างนั้นฉันไม่คิดจะสู้ที่นั่นหรอก”

…………

เวลานี้ ฟางหนิงกำลังเดินไปที่คุกของระบบ ตอนนี้เขาอยู่ในร่างมนุษย์แล้ว เขาคิดว่าจะไปพบกับหนานคุน ไขข้อสงสัยในใจของตนเอง และถือโอกาสถามเรื่องบางอย่างกับแอนเดอร์สัน

ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับพวกนักโทษ แม้ว่าพวกเขาจะสื่อสารกันผ่านห้องขัง แต่กับฟางหนิงที่เป็นโอตาคุผู้ไม่ค่อยชอบสื่อสารกับคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ในเมื่อวิญญาณบาปพวกนี้ล้วนแล้วแต่เคยเป็นผู้แข็งแกร่ง ไม่ว่าประสบการณ์หรือความแข็งแกร่งในอดีต ฟางหนิงยากจะเทียบได้ เขาอาจจะเผลอเปิดเผยความจริงในประโยคเดียว

เขาทำได้เพียงระมัดระวังขั้นสุด แม้ว่านักโทษเหล่านั้นจะถูกคุมขังในคุกของระบบ และเขาควบคุมความเป็นความตายทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง “ฟางหนิง” กับพวกเขา

แอนเดอร์สันแกร่งขนาดนั้นและยังมองเขาเป็นเพียงพลังจิตมังกรแท้ของอัศวิน A เท่านั้น ไม่ได้นึกเชื่อมโยงไปไม่ถึง “ฟางหนิง” เลยสักนิดเดียว

เดิมทีตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นเพียงโอตาคุและเจ้าของร้านอาหาร เมื่อเทียบกับอัศวิน A ไม่ว่านิสัยและความสามารถทั้งหมดก็แตกต่างกันมาก ไม่มีใครคิดว่าจริงๆ แล้วทั้งสองเป็นคนเดียวกัน

ส่วนการมีอยู่ของระบบ เขาไม่มีทางจะพูดถึงมันให้ใครฟังอยู่แล้ว ตอนนี้เขาคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมั่นคง ไม่กล้าที่จะคิดถึงชีวิตที่อยู่โดยไม่มีระบบเลย

ในเมื่อการเปลี่ยนแปลงของยุคใหม่นี้ไม่อาจคาดเดาได้ อาจมีชีวิตที่ดีชั่วขณะหนึ่ง แต่ต่อไปก็อาจจะถูกพรากชีวิตจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น มีระบบพลังอำนาจไร้เทียมทานครองร่างของเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ เข้างานฝึกฝนวิชา เลิกงานก็ยังใช้ชีวิตอยู่บ้านได้อย่างสบายใจ

แต่ฟางหนิงไม่มีทางเปิดเผยความคิดนี้กับระบบแน่นอน ไม่เช่นนั้นเขาจะถูกมันกดขี่

ฟางหนิงคิดพลางก็เดินไปที่ “เรือนจำมังกรศักดิ์สิทธิ์” เมื่อเดินผ่านมาถึงประตูไม้เรียบง่าย เขาก็เกิดความคิดขึ้นอีกครั้ง

เขาพูดกับระบบ “ดูสิ ประตูไม้นี้ทั้งเตี้ยและแคบ ไม่ค่อยโอ่อ่าสมกับชื่อ “เรือนจำมังกรศักดิ์สิทธิ์” เลย สู้เปลี่ยนเป็นประตูใหญ่ที่แกขโมยมาไม่ได้ดีกว่าเหรอ อลังการแล้วยังเพิ่มผู้พิทักษ์ประตูคุกด้วย”

ระบบ “เท่ไปก็กินไม่ได้ ประตูไม้เล็กๆ นี้เพียงพอให้โฮสต์ใช้แล้ว ถึงยังไงก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเยือน แค่นี้ไม่ขายหน้าพัศดีอย่างโฮสต์หรอก ทำไมต้องเปลี่ยนด้วยล่ะ”

ฟางหนิงพูดไม่ออกหลังจากได้ยิน “ไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน แต่ฉันรู้สึกว่าแกอาจจะกำลังหมายความว่าฉันตัวเตี้ย…”

ระบบ “ตั้งใจฝึกฝนไปเถอะ ต่อไปอยากจะสูงเท่าไหร่ก็ได้ ประตูสีดำบานนั้นมีความลับยิ่งใหญ่ ยังมีประโยชน์อย่างอื่น ระบบกำลังเตรียมที่จะหลอมรวมเข้ากับมิติในตำนานที่กำลังสร้าง ถึงตอนนั้นประโยชน์จะมหาศาล”

ฟางหนิงยังคงพูดไม่ออก “อย่างที่คิดจริงๆ ด้วย ฉันรู้อยู่แล้วก่อนหน้านี้แกโกหกฉัน บอกว่าความลับของมันคือ ‘มันเป็นนักชิมอาหาร สอนทักษะการทำอาหารได้อะไรทำนองนี้’ ฟังแล้วก็แปลกๆ…”

ขณะที่คุยกันฟางหนิงก็มาถึงนอกห้องขังของหนานคุน ห้องขังหมายเลข 19

ฟางหนิง “หนานคุน! หัวหน้าพัศดีอยากจะถามอะไรหน่อย ตอบมาตามจริง”

ตอนนี้หนานคุนที่อยู่ในห้องขังค่อนข้างอ่อนแอ แต่เขายังคงมีความยโสโอหังอยู่มาก พอได้ยินเช่นก็แค่นเสียงออกมา”หึ หัวหน้าพัศดีบ้าอะไร ฉันจะกลัวแกไปทำไม แกจะทำอะไรฉันได้ อย่าคิดว่าจะกักขังฉันได้นาน เดี๋ยวทอมจะมาช่วยฉันออกไปในไม่ช้า!”

เมื่อฟางหนิงได้ฟังน้ำเสียงของอีกฝ่ายก็งุนงง แอนเดอร์สันหัวหน้าเรือนจำที่มีอำนาจมากกำราบอาชญากรทั้งหมดให้เชื่อฟังได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าในที่สุดเขาก็ได้พบกับคู่ต่อสู้แล้ว

หนานคุนเป็นผู้มาใหม่ในห้องขังต้องได้รับการสั่งสอนจากแอนเดอร์สันแน่นอน แต่ทำไมเขาถึงยังหยิ่งทะนงเหมือนอยู่ข้างนอกได้ล่ะ

เวลานี้พลังจิตของแอนเดอร์สันก็ส่งเสียงขึ้น

“ขออภัยเป็นอย่างสูง ท่านพัศดี เจ้าหมอนี่ค่อนข้างจะเจ้าเล่ห์ เมื่อกี้ผมเพิ่งสอนบทเรียนให้เขาไป ก็พบว่าวิญญาณของเขาค่อนข้างพิเศษ พรสวรรค์การป้องกันช่างทรงพลังจริงๆ ไม่ใช่แค่กายเนื้อเท่านั้น แต่ยังอยู่ในวิญญาณด้วย วิญญาณไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่ทนทายาดและบาดเจ็บยากมาก เครื่องมือทรมานวิญญาณของผมได้ผลไม่มากนัก เขาไม่ยอมคายอะไรออกมาเลย”

ฟางหนิงตระหนักได้ทันที “มิน่าเขาถึงได้กล้าระเบิดตนเอง แถมอยากจะระเบิดท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณด้วย”

แอนเดอร์สัน “วิญญาณของเขาแกร่งมาก ไม่กลัวเลยว่าจะถูกระเบิดตาย แต่ผมคิดว่าเขากล้าระเบิดตัวเองและยังเอ่ยถึง ‘นายท่านทอมที่จะช่วยเขาออกไป’ น่าจะหมายถึงแมวดำทอมที่สัญญาว่าจะช่วยเขาจุติวิญญาณได้”

ฟางหนิงถามอย่างงุนงง “จุติวิญญาณนั่นมันเจ๋งมากเหรอ”

แอนเดอร์สัน “การจุติของวิญญาณทั่วไปจะสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณแน่นอนและมีอันตรายที่ซ่อนอยู่มากมาย ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ผู้แข็งแกร่งจะไม่มีทางทำอย่างนั้น แต่แมวดำทอมไม่เหมือนกัน มันแทบจะช่วยคนอื่นจุติได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแต่มันกินพลังมหาศาล

“ผมคาดว่าทอมคงเลือกคู่ที่สมบูรณ์แบบให้กับหนานคุนถึงปล่อยให้เขาระเบิดตัวเอง ในข้อมูลสมาคมดุลอำนาจของเรามีบันทึกชายหนุ่มร่ำรวยชาวอเมริกันผิวขาวคนหนึ่ง หมอนั่นเป็นบุตรแห่งพระเจ้า ภูมิหลังของครอบครัว นอกจากคุณสมบัติการฝึกฝนยอดเยี่ยม ปีที่แล้วยังปลุกพลังพิเศษการโจมตีที่แข็งแกร่งสูงด้วย

“ถ้าหนานคุนจุติมาเกิดในร่างคนนี้ได้ ขอแค่ฝึกฝนอีกไม่กี่ปีก็ฟื้นพลังปัจจุบันของเขาได้แล้ว ถึงตอนนั้นเขาไม่เพียงแต่สืบทอดตระกูลของอีกฝ่ายเท่านั้น แต่ยังมีพลังพิเศษการโจมตีเพิ่มเติมอีกด้วย ประกอบกับพรสวรรค์การป้องกันของเขา ถ้าสำเร็จล่ะก็ ต่อให้ผมฟื้นพลังได้ก็ไม่อาจเอาชนะเขาได้ง่ายๆ อีก”

ฟางหนิงกำลังจะถามหนานคุนต่อ ระบบก็แทรกเข้ามา “รีบถามชื่อที่อยู่ของเศรษฐีผิวขาวคนนั้น พวกเราถือได้ว่าช่วยชีวิตเขา ต้องขอให้เขาจ่ายค่าเงินตอบแทนมหาศาล”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “ระบบ แกไร้เดียงสามากเกินไปแล้ว… บุตรแห่งพระเจ้าไม่มีทางรู้อะไรเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรอก อีกอย่างเป้าหมายการจุติของหนานคุนอาจไม่ใช่เขาก็ได้”

ระบบ “อ้อ อย่างนี้เอง น่าเสียดายจัง… ถ้าอย่างนั้นโฮสต์ก็ถามต่อเถอะ”

ฟางหนิง “หนานคุน แกวางแผนจะให้ทอมช่วยจุติมาเกิดในร่างคนอื่นหลังจากระเบิดตัวเองงั้นเหรอ”

น้ำเสียงหนานคุนในห้องขังยังคงดูถูกเหยียดหยาม “ใช่แล้วไงล่ะ ไอ้สารเลวแอนเดอร์สันบอกแกใช่ไหม มันทรมานฉันอย่างหนัก ฉันจะแก้แค้นไม่ช้าก็เร็ว อย่าคิดว่าคุกของพวกแกแน่นหนาพอ ฉันบอกชื่อเรือนจำนี้กับนายท่านทอมแล้ว เขาจะต้องมาแน่นอน!”

ฟางหนิงหยุดพูดคุยกับชายผู้ดื้อรั้นคนนี้ หันไปสอบถามพลังจิตของแอนเดอร์สันที่ส่งสัญญาณเสียงมา “ทอมแมวดำคือใครกันแน่”

แอนเดอร์สัน “ทอมแมวดำเป็นแมวตัวหนึ่ง ไม่ใช่คน”

ฟางหนิงตกตะลึง เขาคิดว่าแมวดำเป็นสมญานามจริงๆ เหมือนกับช้างเสี่ยวซินทำนองนั้น

ฟางหนิง “มันมีความสามารถแข็งแกร่งขนาดไหนกัน มีตำแหน่งอะไรในสมาคมดุลอำนาจ”

แอนเดอร์สัน “มันเป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของหัวหน้าสโมสร แต่ที่จริงแล้ว พวกคนระดับสูงต่างรู้ดีว่ามันคือหัวหน้าตัวจริงของสมาคมดุลอำนาจ มันไม่ได้ทรงพลังมาก แต่ประหลาดมาก”

ฟางหนิงถาม “มันแปลกตรงไหนเหรอ”

แอนเดอร์สัน “ทอมแมวดำอวดอ้างว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความตายกลับชาติมาเกิด เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณอย่างมาก สำหรับคนสำคัญเหล่านั้น มันจะสร้างการเชื่อมต่อจิตวิญญาณให้ ไม่เพียงแต่สื่อสารข้อมูลได้ ขอแค่มันเต็มใจที่จะเสียพลัง มันก็อาศัยความช่วยเหลือจากการเชื่อมต่อวิญญาณนี้ข้ามมิติไปยังที่อยู่ของอีกฝ่าย หนานคุนนำการเชื่อมโยงวิญญาณกับมันมาด้วย น่าจะส่งข้อมูลบางอย่างให้อีกฝ่าย ตอนที่ฉันสั่งสอนเขาค้นพบเรื่องนี้ได้ตัดการเชื่อมต่อวิญญาณของพวกเขาแล้ว”

เมื่อฟางหนิงได้ฟังก็รู้สึกว่าความสามารถนี้ช่างประหลาดจริงๆ เหมือนกับภูตผีที่น่าสะพรึงกลัวโผล่ไปมาตรงไหนได้ตามใจในนิยายแนวเหนือธรรมชาติ

เมื่อคิดถึงคำอธิบายในนิยายสยองขวัญ เขาก็อดตัวสั่นไม่ได้ ราวกับว่าอีกเดี๋ยวแมวดำจะปรากฏตัวข้างเขา

ฟางหนิงพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว “น่ากลัวมาก”

ระบบ “น่าเสียดาย…”

ฟางหนิงพูดไม่ออกชั่วขณะ “แกอยากให้มันมาสินะ”

ระบบ “โฮศต์ฉลาดมาก ระบบใหญ่สุดในพื้นที่ระบบ ถ้ามันเข้ามาเองนั่นคือรนหาที่ตาย”

ฟางหนิง “แกดีดลูกคิดเก่งทีเดียว ในเมื่อมันรนหาที่เอง ไม่กลายเป็นกุลีทำงานให้เราเต็มที่ก็จะถูกแกฆ่าตาย วิญญาณของมันจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือ แถมยังได้รับค่าประสบการณ์เยอะด้วย พูดถึงตรงนี้ ตอนนี้แกน่าจะมีค่าประสบการณ์ไม่พออีกแล้วใช่ไหม แม้ว่าจะกำจัดบอสใหญ่ได้สองตัว แต่ก็ไม่ได้ฆ่ามันตาย”

ระบบ “ไม่มีทางอื่น ไม่ใช่เพราะโฮสต์บอกว่าต้องโยนมันเข้าไปในคุกก่อนเหรอ อย่างนั้นถ้าฆ่าหนานคุนให้สิ้นเรื่องสิ้นราว อย่างนี้ค่าประสบการณ์ก็จะเพิ่มขึ้นมาก ในแง่ของพลังต่อหน่วยมันเหนือกว่าปีศาจแมลงครั้งก่อน ฆ่าตายแล้วคงจะได้รับค่าประสบการณ์นับสิบล้าน นอกจากนี้ ยังใช้วิญญาณของมันทำอุปกรณ์ประเภทชุดเกราะได้ด้วย ดูจากการป้องกันพรสวรรค์ทรงพลังขนาดนั้น แอนเดอร์สันเองก็ไม่มั่นใจว่าจะฆ่ามันได้”

ฟางหนิงคิดๆ ดูแล้ว หมอนั่นหยิ่งยโสโอหังมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถึงตอนนี้ก็ยังคงหยิ่งผยอง ดูท่าคงคิดว่าตัวเองมีทางหนีทีไล่

เขาต้องส่งข่าวที่นี่ไปให้แมวดำทอม และรอให้อีกฝ่ายมาช่วยแน่

ฟางหนิง “ก็ดี ตอนนี้มีนักโทษในคุกหลายคนทีเดียว และไม่ขาดแคลนผีบาปอย่างเขา งั้นก็กำจัดทิ้งซะ ใช้วิญญาณทำเป็นชุดเกราะ เกิดครั้งหน้ามีคนทำลายตัวเองอีก พวกเรายังมีทางรอด…”

ฟางหนิงใจอ่อนก็จริง แต่แค่กับคนกันเอง กับพันธมิตร และกับคนดี…

ส่วนกับพวกคนบาปหัวรั้น ฟางหนิงไม่เคยใจอ่อน ฆ่าให้หมดจะดีที่สุด อย่างน้อยเขาจะได้รู้สึกปลอดภัยเวลาเดินตอนกลางคืน

เป็นเพราะความคิดแบบนี้ เขาเฝ้าดูระบบฆ่าคนชั่วระดับตัวพ่อครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นผู้วิเศษหรือคนธรรมดาก็ไม่เคยพูดมากสักคำ

หนานคุนคนนี้เคยไม่เห็นค่าชีวิตมนุษย์ ตอนนี้เขากลายเป็นนักโทษไปแล้วก็ยังคงไม่หวั่นกลัว แถมยังรอให้คนมาปล้นคุกช่วยเหลือ แต่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำที่นี่คือที่ไหน หากอยู่ข้างนอกไม่แน่ว่าระบบจะชนะเขาได้ แต่ในพื้นที่ของระบบแห่งนี้ ระบบไม่มีทางพลาด

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง หนานคุนก็กรีดร้องออกมาจากห้องขังหมายเลข 19 “เป็นไปไม่ได้! ไม่มีใครฆ่าวิญญาณของฉันได้! ฉันเป็นราชวงศ์มารเต่า พรสวรรค์การป้องกันประทับในวิญญาณของฉัน!”

ฟางหนิงคิด ทุกคนที่พูดคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ต่อหน้าระบบ ล้วนตายหมดแล้ว… อีกอย่างระบบนี้ไม่นับว่าเป็นมนุษย์เลย เพราะฉะนั้นแกก็น่าจะตายตาหลับ

ระบบแจ้งเตือน ‘ระบบสังหารมารเต่า ระบบครอบครองทักษะการหล่อระดับปรมาจารย์ของหนานคุน เตรียมที่จะใช้วิญญาณมารเต่าสร้างอุปกรณ์ชุดเกราะในตำนาน

ระบบได้รับคะแนนประสบการณ์ 11 ล้านคะแนน’

ฟางหนิง “มันคืออุปกรณ์ในตำนานจริงๆ พูดถึงอุปกรณ์มิติในตำนาน จะทำเสร็จออกมาเมื่อไหร่เหรอ…”

ระบบ “ถ้าใส่ค่าประสบการณ์สิบกว่าล้านคะแนนเร่งการหล่อหลอม พรุ่งนี้ก็น่าจะเสร็จแล้ว…”

ฟางหนิงพูดไม่ออก “ทำไมฟังแล้วถึงได้กลิ่นเหมือนเติมเงินในเกมเลยล่ะ… แกถูกสร้างขึ้นมาจากศูนย์ควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ของเกมที่เล่นคนเดียวจริงๆ เหรอ”

ระบบ “ฟังไม่เข้าใจจะพูดทำไม… แต่ระบบจะไม่ใช้ “การหล่อหลอมแบบเร่ง” แน่นอน ค่าประสบการณ์จำนวนนี้จะถูกใช้ยกระดับ “การแปลงร่างมังกร” ระบบไม่ได้อัปเกรดมันมานาน”

ฟางหนิง “เรื่องนี้แกจัดการเถอะ ฉันห่วยเรื่องเรียนรู้การต่อสู้”

หลังจากที่ฟางหนิงจัดการเรื่องหนานคุนเสร็จแล้วเขาก็ทำท่าหันหลังจะเดินออกจากพื้นที่คุกของระบบ

ตอนนั้นเองพลังจิตของแอนเดอร์สันก็ส่งเสียงมาอีกครั้ง

“ท่านพัศดี ช่วงนี้ผมว่างมากก็เลยเรียบเรียงวรยุทธ์ส่วนที่มีประโยชน์ของพวกนักโทษที่เคยฝึกฝนตอนมีชีวิต เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้ “วรยุทธ์ฉบับสมบูรณ์” ช่วยฝากให้ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณด้วย ส่วนที่เหลือยังเรียบเรียงอยู่”

ฟางหนิงฟังแล้วถึงกับพูดไม่ออก หัวหน้าระบบเพิ่งได้รับค่าประสบการณ์กว่าสิบล้านคะแนน และ “การแปลงร่างมังกร” ได้รับการอัปเกรดเป็นระดับสูง คาดว่าคงจะได้เงินก้อนใหญ่มาก แล้วยังได้ “วรยุทธ์ฉบับสมบูรณ์” อีก นี่มันจะดีเกินไปแล้ว

แต่เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฟางหนิงก็รู้สึกปวดหัว มีหนังสือ “วรยุทธ์” เพิ่มมาอีก เขาอาจจะต้องเรียนวิชาเลือกเพิ่มมากขึ้นอีกสองสามวิชา…

แค่ตอนนี้สามวิชา เขาก็จะเป็นลมตายอยู่แล้ว

แต่ถึงจะปวดหัวยังไง เขาก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี แถมยังต้องให้รางวัลอีกฝ่าย

เขาไม่มีเวลาพูดถึงเรื่องนี้ เพราะแอนเดอร์สันคิดนำหน้าและลงมือทำไปแล้ว

นี่เป็นแบบอย่างของนักโทษในเรือนจำมังกรศักดิ์สิทธิ์สินะ

ฟางหนิงถอนหายใจพลางเอ่ยขึ้น

“อืม แอนเดอร์สันครั้งนี้ทำได้ดีมาก ที่นี่มียาสองเม็ด ฉันให้รางวัลแก”

ทันทีที่เขาพูดจบ ฟางหนิงก็สั่งให้ระบบใส่ “ยาเพิ่มพลังกลายพันธุ์” สองเม็ดในห้องทำงานของแอนเดอร์สัน แล้วรับ “วรยุทธ์ฉบับสมบูรณ์” ที่อีกฝ่ายเพิ่งเรียบเรียงกลับไป

“ขอบใจท่านพัศดี”

ฟางหนิงโบกมือ เมื่อเห็นว่าแอนเดอร์สันไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็ออกจากพื้นที่คุกของระบบทันที

ทันทีที่ฟางหนิงกลับไป แอนเดอร์สันใช้ดินแดนลับแห่งจิตใจเพื่อดึงพลังจิตของทุกคนเข้าด้วยกัน เขาใช้โอกาสนี้สอนบทเรียนเล็กน้อย

“เห็นแล้วหรือยัง วิญญาณของผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำ ท่านเทพมังกรแห่งจิตวิญญาณพูดจะฆ่าก็ฆ่า เมื่อกี้ผู้แข็งแกร่งระดับบ่อน้ำใช้พรสวรรค์การป้องกัน ถึงกับประทับในวิญญาณ พวกแกน่าจะเข้าใจว่าหมอนี่เจ๋งแค่ไหน

“จะอยู่ที่นี่ได้ต้องซื่อสัตย์เชื่อฟังจะได้มีชีวิตนานๆ ข้อแรกต้องเชื่อฟังท่านเทพ ข้อสองต้องฟังท่านพัศดี ส่วนข้อสามต้องฟังใครคงไม่ต้องให้ฉันพูดมากหรอกนะ…”

ผู้เฒ่าเฟิง “ฉันรู้เรื่องนี้ดีที่สุด”

หม่าเต๋อชุน “ข้อสามต้องฟังท่านแอนเดอร์สันเท่านั้น…”

วิญญาณอื่นต่างส่งความคิดพร้อมกัน “เข้าใจแล้ว”

………………………………………………………………..