บทที่ 314
เฉินจิงเย่เป็นคนไม่ชอบพูด อีกอย่างเรื่องนี้ก็เป็นแผลใจของเขามาโดยตลอด ทั้งที่รู้ว่าสารวัตรกำนันหวางจงใจเล่นงานเขา แต่ก็ยังอดกลั้นไม่ไหวที่จะทำสีหน้าไม่พอใจ

“คุณหวาง คอยเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำๆทุกปี คุณคิดว่ามีสนุกงั้นหรอ?” เฉินจิงเย่พูดอย่งโมโห

สารวัตรกำนันหวางแสร้งทำเป็นเพิ่งนึกขึ้นได้ จึงรีบพูดขอโทษ “อ้อๆ ขอโทษด้วย ฉันเกือบจะลืมไปแล้ว น้องจิงเย่เป็นคนโดดเดี่ยว เป็นโลน เรนเจอร์ในตำนาน และไม่เยี่ยมเยียนญาติมาก่อน ขอโทษด้วยขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ!”

กำนันหลี่และสารวัตรกำนันฉียิ้มเยาะ ครอบครัวที่ทั้งสองคนพามาก็แอบหัวเราะ ในสายตาที่มองไปยังครอบครัวตระกูลเฉิน มีความล้อเลียนแฝงอยู่

นายอำเภอเหมยสังเกตเห็นทางด้านนี้ ทันใดนั้นก็ถามว่า “กำนันหลี่ โต๊ะนั้นของพวกคุณซุบซิบคุยอะไรกัน? มีความสุขกันขนาดนี้! พูดออกมาให้ทุกคนมีความสุขด้วยกันสิ!”

สารวัตรกำนันหวางหรี่ตา แอบคิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ทีนี้สามารถทำให้ครอบครัวเฉินจิงเย่อับอายขายหน้าต่อหน้าทุกคนได้แล้ว

“นายอำเภอเหมยครับ พวกเรากำลังพนันกันว่าปีนี้สารวัตรกำนันเฉินจะมีคนมาสวัสดีปีใหม่หรือเปล่าครับ! ผมเดิมพันเงินเดือนหนึ่งเดือน พนันว่าไม่มีสักคนเดียว แล้วใครจะพนันกับผมบ้างครับ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเสียงดัง เรื่องของเฉินจิงเย่ลือกันไปทั่วในกลุ่มคนพวกนี้ตั้งนานแล้ว พวกเขารู้ว่าสารวัตรกำนันหวางจะต้องใช้เฉินจิงเย่มาหาความสนุกอีกแล้วแน่นอน

วันนี้นายอำเภอเหมยมีความสุข จึงเล่นสนุกด้วยกัน “สารวัตรกำนันหวางนี่นะ พวกเราต่างก็รู้กันดีว่าสารวัตรกำนันเฉินเป็นโลนเรนเจอร์ที่มีชื่อเสียง ฉันเดิมพันเงินเดือนหนึ่งปีพนันว่าปีนี้เขาก็ยังเหมือนกับปีก่อนๆ นายกล้าพนันกับฉันไหมละ?”

“ฮ่าๆ….” ทุกคนหัวเราะเสียงดัง

เฉินจิงเย่สีหน้าอึมครึม แทบอยากจะหาหลุมมุดแผ่นดินหนี แต่นายอำเภอเหมยกลับมาเล่นสนุกด้วย ทำให้เขาไม่สามารถเถียงได้

เป็นครั้งแรกที่เฉินจิงเย่เกิดความรู้สึกสงสัยต่อทัศนคติของตัวเองที่มีมาตลอดหลายสิบปี

หลี่ซู่เฟินโมโหจนหน้าอกกระเพื่อมอย่างรุนแรง ถลึงตามองสารวัตรกำนันหวางผู้เริ่มเรื่อง รู้สึกอยากจะตบหน้าเขา แต่สิ่งที่อีกฝ่ายพูดกลับความจริง ในจุดนี้แม้แต่หลี่ซู่เฟินเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

นายอำเภอเหมยหัวเราะพูดว่า “พอแล้ว ล้อกันเล่นก็พอแล้ว ต้องรู้จักพอดี นายดูสิสารวัตรกำนันเฉินหน้าแดงแล้ว”

“ฮ่าๆๆ…….” แล้วทุกคนก็หัวเราะเสียงดังอีกครั้ง

สารวัตรกำนันหวางมองเฉินจิงเย่ สีหน้าได้ใจหลังจากได้แก้แค้น “เฉินจิงเย่ แล้วก็เด็กเวรเฉินโม่คนนั้นด้วย สิ่งนี้พวกแกเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเอง!”

ฉีหยู่เหมียนมองเฉินโม่ รู้สึกดูถูกเหยียดหยามมากขึ้น รู้สึกว่าได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเฉินโม่ ช่างเป็นความอัปยศของเธอจริงๆ

ในเวลานี้ ผู้รักษาความปลอดภัยหน้าประตูตะโกนแจ้งเสียงดังว่า “ประธานหลี่จากบริษัทเมี่ยวเจี๋ยจำกัดมาแสดงความยินดีครับ!”

ประธานหลี่ของบริษัทเมี่ยวเจี๋ยจำกัด แม้ว่าจะไม่ใช่อันดับต้นในอำเภอเฟิ่งซาน แต่ก็ถือเป็นประธานผู้มีมูลค่าทรัพย์สินเกือบสิบล้าน ภายในอำเภอเฟิ่งซานสามารถจัดอันดับอยู่ในสิบอันดับต้นได้แล้ว ถือเป็นผู้อำนาจที่มีหน้ามีตาในอำเภอเฟิ่งซาน

รอยยิ้มบนใบหน้าของนายอำเภอเหมยยิ่งเบิกบานมากกว่าเดิม “อ้อ ประธานหลี่จากเมี่ยวเจี๋ยเองก็มาแล้ว ข่าวสารนี้แพร่ไปเร็วจริงๆ!”

ชายวัยกลางคนผอมสูงคนหนึ่ง ถือกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่งดงามเดินเข้ามา

นายอำเภอเหมยพนมมือต้อนรับด้วยรอยยิ้ม “ประธานหลี่เองก็ได้ยินเรื่องที่จินเคอกรุ๊ปเข้าสู่อำเภอเฟิ่งซานของผมแล้วงั้นหรือครับ?”

“จินเคอกรุ๊ปเข้าสู่อำเภอเฟิ่งซาน? สิ่งนี้ถือเป็นข่าวดี ยินดีกับนายอำเภอเหมยด้วยครับ!” ประธานหลี่พนมมือพูด ใครๆต่างก็ดูออกว่าท่าทางของเขาทำลวกๆไม่จริงใจ

รอยยิ้มบนใบหน้าของประธานหลี่หุบลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าประธานหลี่คนนี้ไม่ได้มาเพื่อแสดงความยินดีต่อเรื่องที่จินเคอกรุ๊ปเข้าสู่อำเภอเฟิ่งซาน

สายตาของประธานหลี่กวาดมองกลุ่มผู้คน ทันใดนั้น ประธานหลี่ก็ยิ้มยินดี รีบวิ่งเข้าไปหา

“คุณเฉินครับ หลี่เต๋อลี่จากเมี่ยวเจี๋ยมาสวัสดีปีใหม่ให้กับคุณแล้วครับ!”