ชีวิตชีอวี่เซวียนมีขึ้นมีลง เขาเคยเจอเรื่องราวมาสารพัด แต่นับตั้งแต่เขาโด่งดังขึ้นมาก็ไม่เคยโดนใครตบ เสี่ยวเชี่ยนสร้างประสบการณ์พิเศษให้เขาจริงๆ
“ฮ่าๆๆ” ชีอวี่เซวียนที่ถูกหาว่าเป็นแก๊งค์ลักพาตัว ไม่เพียงแต่เขาจะไม่โกรธ ยังหัวเราะเสียงดังด้วย
เสี่ยวเชี่ยนเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็คิดในใจ หรือเธอยังเล่นได้ไม่สมบทบาท?
หรือเอาอีกสักหลายๆที…
“เด็กคนนี้ ในสายตาของผมคุณก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี ลูกไม้แบบเด็กๆของคุณใช้กับผมไม่ได้ผลหรอก ถึงผมจะยอมรับว่าคุณเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยาก แต่หากคุณคิดจะควบคุมจิตใจผมก็คงต้องรออีกหลายปี ตอนนี้คุณคิดจะทำอะไรผมรู้หมด อย่าเปลืองแรงเลยดีกว่า”
เสี่ยวเชี่ยนถูกยั่วโมโหเข้าแล้ว
นับตั้งแต่เธอกลับมาเกิดใหม่เธอก็ยังไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ คนที่มองเธอออกในแวบแรกแบบนี้ยิ่งไม่เคยเจอเลย เดิมเธอคิดว่าการทำตัวเสียมารยาทจะยั่วโมโหเขาได้ นึกไม่ถึงว่าตาเพี้ยนนี่จะพูดแบบนี้
“เสี่ยวเชี่ยนของเราชอบเล่นซนน่ะ แหะๆ…” ศาสตราจารย์หลิวยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เหตุการณ์กลายเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่รู้ว่าควรรับมือยังไง
“ผมชอบที่เขาซุกซนแบบนี้นี่แหละ เด็กน่ะนะ ต้องมีชีวิตชีวาหน่อย ถ้าเอาแต่ทำตัวเงียบขรึมก็ไม่เหมือนชีวิตวัยรุ่นสิ ใช่ไหม?”
วัยรุ่นกับผีสิ เสี่ยวเชี่ยนหงุดหงิดกับรอยยิ้มของชีอวี่เซียนแบบไม่ไหวแล้ว
“ขอแนะนำอย่างเป็นทางการนะ ผมชื่อชีอวี่เซวียน เป็นหมอประสาทควบอาจารย์ที่ปรึกษาของนักศึกษาปริญญาเอก ถึงผมจะดีใจที่คุณชมผมหน้าเด็ก แต่ผมขอบอกคุณด้วยความเสียดายอย่างสุดซึ้งว่า ถึงผมจะดูเด็ก แต่อายุจริงของผมเป็นพ่อคุณได้เลยล่ะ ถ้าคุณยอมเรียกผมว่าพ่อก็ได้นะ”
“ขอเรียกว่าขี้ได้ไหม?” เสี่ยวเชี่ยนไม่เคยเจอใครหน้าด้านขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ
ถึงเสี่ยวเฉียงของเธอจะหน้าหนา แต่อย่างน้อยเขาก็หน้าด้านหลังจากที่ขยับความสัมพันธ์กับเธอแล้ว ส่วนชีอวี่เซวียนที่หน้าด้านๆเข้ามาหาเธอแบบนี้มันอะไรกัน
มีใครบ้างที่เพิ่งเจอกันก็ให้เรียกพ่อ?
เสี่ยวเชี่ยนจงใจพูดแรงๆ ปรากฏว่าชีอวี่เซวียนกลับเอาแต่ยิ้มหน้าบานตอบรับ
“ได้เลย”
โวะ
เสี่ยวเชี่ยนกับศาสตราจารย์หลิวเหมือนถูกฟ้าผ่าพร้อมกัน
ตานี่น่าจะไปขอลงกินเนสบุ๊คเรื่องความหน้าหนานะ
นี่เขาไม่รู้เหรอว่าเสี่ยวเชี่ยนกำลังประชด?
“นี่เป็นบัตรประจำตัวผม คุณเอาไปดูได้ ผมไม่ใช่พวกแก๊งค์ลักพาตัวจริงๆ” ชีอวี่เซวียนล้วงบัตรประจำตัวออกมา เสี่ยวเชี่ยนกวาดตามองแล้วพูดอย่างเหวี่ยงๆ
“บัตรน่ะปลอมกันได้ ทำไมฉันต้องเชื่อด้วย?”
“เดือนหน้าผมมีคนไข้ คุณจะบินตามผมไปเมืองนอกเพื่อไปดูผมรักษาก็ได้นะ ผมจะใช่ชีอวี่เซวียนหรือเปล่า คุณเห็นผมรักษาคนเดี๋ยวก็รู้เอง” พอพูดถึงเรื่องการรักษา ชีอวี่เซวียนก็ยิ้มกว้างออกมา “ผมเชื่อว่าคุณต้องสนใจเคสนี้แน่ นี่เป็นเคสที่สนุกมาก อาการแบบนี้พบได้ยาก คนทั่วไปไม่ได้เจอหรอก”
“เคสอะไรเหรอ?” ศาสตราจารย์หลิวถาม
“โรคหลงรักศพ คนไข้รายนี้เนี่ยชอบที่จะมีอะไรกับศพ ไอ๊หยา ผมล่ะชอบเคสแปลกๆแบบนี้จริงๆ ต่อไปถ้าคุณมาอยู่กับผมจะได้เจอโรคจิตเวชแปลกๆจากทั่วทุกที่บนโลกนี้เลยล่ะ บางเคสทางตำรวจเป็นคนส่งมา ช่องทางอื่นไม่ได้เจอเคสแบบนี้หรอกนะ”
เสี่ยวเชี่ยนขยะแขยง
ดูเหมือนชีอวี่เซวียนจะติดลม “เป็นเคสที่น่าศึกษานะ พวกเขาปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับศพ ผมเคยเจอคนหนึ่งมีศพเต็มบ้าน ตอนที่ตามตำรวจเข้าไปกลิ่นในบ้านนั้นนะ…จึ๊ๆ อยากให้คุณได้ไปดมจริงๆ”
“ฉัน ไม่ อยาก” เสี่ยวเชี่ยนสะอิดสะเอียนมาก
“ทำไมไม่อยากล่ะ? คุณชอบดูหนังสยองขวัญไม่ใช่เหรอ? ของพวกนี้สนุกนะ ผมเคยเจอคนไข้ที่น่าสนุกกว่านี้ด้วย คุณเคยรักษาคนที่มีอาการเกิดอารมณ์ทางเพศกับบางสิ่งไหม? พอผมเข้าไปในห้องเขานะ ไอ๊หยา เดาซิว่าผมเห็นอะไร…จึ๊ๆๆ”
เสี่ยวเชี่ยนขยะแขยงไม่ไหวแล้ว “อาจารย์แน่ใจนะคะว่าเขาปกติดี? เขาน่าจะเป็นนักแสดงหนังอย่างว่ามากกว่ามั้ง?”
นี่มันเคสบ้าบออะไรกัน
ศาสตราจารย์หลิวปาดเหงื่อบนหน้าผาก “ศาสตราจารย์ชี คุณควบคุมอารมณ์หน่อย เด็กของฉันยังเด็กนัก เคสแบบนี้เขายังรับไม่ได้”
เมืองนอกไม่มีการเรียกว่าจิตแพทย์ ทั้งหมดล้วนอยู่ในหมอแผนกประสาท เมื่อเทียบกับจิตแพทย์ในประเทศนี้แล้ว ลักษณะคนไข้ที่ชีอวี่เซวียนเคยเจอย่อมมีความหลากหลายมากกว่า อีกทั้งเขายังมีอำนาจในการสั่งยา ซึ่งก็หมายความว่าเขาสั่งยาให้คนไข้ได้เลย ซึ่งนักบำบัดจิตใจในประเทศยังทำไม่ได้
บวกกับรสนิยมการชอบเรื่องประหลาดของเขา เขาจึงได้เจอแต่คนไข้พิลึก
“อันที่จริงผมก็เคยไปดูถ่ายหนังแบบนั้นนะ เพราะผมมีคนไข้คนหนึ่งเป็นนักแสดงหญิง ปัญหาทางจิตของเขาร้ายแรงมาก อันที่จริงวงการนี้ส่วนใหญ่จะมีปัญหาจิตเวชกัน ถ้าคุณสนใจ…”
“อาจารย์ ดูสิคะ เขาจะลากหนูไปถ่ายหนังแบบนั้น” เสี่ยวเชี่ยนแสร้งทำเป็นหลบหลังศาสตราจารย์หลิวด้วยความกลัว
ชีอวี่เซวียนอยากขำให้น้ำตาเล็ด
“คิดมากไปแล้ว ผมก็แค่อยากให้คุณไปเจอเคสแปลกๆที่ปกติไม่มีทางได้สัมผัส”
จะให้เบบี๋ของเขาไปถ่ายหนังแบบนั้นได้ยังไง?
“ฉันไม่อยากเจอ อาจารย์คะ หนูยังเด็กอยู่นะคะ อาจารย์จะส่งหนูให้คนพิลึกแบบนี้เหรอคะ?” เสี่ยวเชี่ยนดึงแขนเสื้อศาสตราจารย์หลิวทำท่าทางเหมือนเด็กน้อยเพื่อหวังขอความเมตตาจากพระแม่ศาสตราจารย์หลิว
“เหล่าชี พูดเรื่องที่มันดูปกติหน่อยได้ไหม?” ศาสตราจารย์หลิวรู้สึกว่าถ้าเหล่าชียังเล่นไม่เลิกแบบนี้เสี่ยวเชี่ยนจะยิ่งต่อต้านเขามากกว่าเดิม
“เท่าทีผมวิเคราะห์เขา ถึงปากเขาจะบอกว่าไม่ชอบ แต่ไม่ได้รังเกียจแน่นอน เบบี๋เชี่ยนเป็นคนที่กล้าท้าทายในสิ่งที่ไม่รู้อีกทั้งยังมีความสุขกับมันด้วย เขายินดีที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ และอยากลองในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้”
เสี่ยวเชี่ยนหรี่ตา ตานี่เคยศึกษาเกี่ยวกับตัวเธอด้วย?
“ฉันชอบแค่เงิน”
“ผมก็ชอบเงิน แกะที่คุณเชือดตอนนี้มันถูกปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ ไม่น่าสนุกหรอก ลองมาอยู่กับผมสักสองสามปีสิ เดี๋ยวผมจะสอนฆ่าแกะรัฐบาล เสพติดแน่”
“อะไรคือ…แกะรัฐบาล?” ถ้าศาสตราจารย์หลิวไม่รู้มาก่อนว่าคนๆนี้คือชีอวี่เซวียน เธอคงคิดว่าตัวเองเจออันธพาล
ทำไมคำพูดมีแต่เรื่องในด้านมืด?
“ก็คือการติดต่อหน่วยงานที่เป็นทางการของแต่ละประเทศ พวกเขามักจะเจอเคสที่แก้ปัญหาไม่ได้ พอถึงตอนนั้นก็จะเชิญพวกเราไปด้วยราคาสูงๆ แล้วมันก็จะถึงเวลาที่พวกเราจะไปเชือดคนพวกนั้น แบบนี้สนุกกว่าอีก คุณจะได้แหล่งทรัพยากรที่เงินซื้อไม่ได้เลยนะ”
ทัศนคติของเสี่ยวเชี่ยนถูกล้างเสียใหม่
เธอรู้สึกว่าตัวเองหน้าเลือดในวงการแล้วนะ
แต่ดูจากตอนนี้มีคนที่หน้าเลือดกว่าเธออีก
เธอแค่เอาเงินจากคนไข้ แต่สาดตาจานชีนี่เล่นเอาทั้งแหล่งเงินและทรัพยากรคน
เขาเข้าทางรัฐบาลของแต่ละประเทศ สิ่งที่ได้มาทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ เที่ยวไปในหลายๆประเทศ ใช้ชีวิตสุขสบายเสียยิ่งกว่าใคร
ศาสตราจารย์ชีเห็นเสี่ยวเชี่ยนอึ้งๆไปจึงเอามือตบบ่าเธออย่างได้ใจ
“เด็กน้อย มาอยู่กับพ่อชีเถอะ ต่อไปจะได้ท่องไปในหลายๆประเทศ มีหนุ่มหล่อๆมาให้เลือกมากมาย อยากได้แบบไหนก็หาได้หมด”
ถึงตอนนั้นก็ให้เบบี๋เชี่ยนถีบหัวส่งไอ้หมาทหารนั่นทิ้งซะ เขาเหม็นขี้หน้านานแล้ว