บทที่ 236 ราชันบรรพบุรุษไม่ยอมแพ้ สามพันล้านแต้มตกใจ!
ร่างของผู้โดดเดี่ยวจอมจักรพรรดิสวรรค์ จอมจักรพรรดิอู๋จื่อ ค่อยๆ เลือนหายไปพร้อมกับสายน้ำแห่งกาลเวลาที่ข้ามผ่านยุคสมัย
และราชันอมตะอันหรานยังได้ใช้โอกาสนี้หลบหนีและกลับไปยังแดนทมิฬได้สําเร็จชายแดน แดนทมิฬ
“สหายเต๋าอันหรานกลับมาได้สําเร็จ”
“ถือว่าโชคดี ดูเหมือนว่าสถานการณ์สงครามจะยังไม่ไปถึงจุดที่พวกเราไม่สามารถควบคุมได้
อันหรานกลับมาได้อย่างปลอดภัยราชันอมตะก็ออกมาจากส่วนลึกของแดนทมิฬเพื่อเป็นสักขีพยานทั้งหมดนี้
เมื่อเห็นว่าอันทรานปลอดภัย ราชันอมตะหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่ว่าในกรณีใด ราชันอมตะคือกองกําลังการต่อสู้สูงสุดของแดนทมิฬและยังเป็นรากฐานที่ดีที่สุดของแดนทมิฬอีกด้วย
การตายของราชันอมตะคนหนึ่งคนใดแดนทมิฬทั้งหมดก็ไม่อาจทนได้
และตอนนี้อันหรานกลับมาได้อย่างปลอดภัยคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว
“สหายเต๋าอันหรานทางด้านแดนนิรันดร์มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงหรือไม่?”
ราชันบรรพบุรุษแผดเสียงในเวลาเดียวกันก็มีความสงสัยในดวงตาของเขา
แม้ว่าตอนนี้อันหรานจะดูน่าสังเวช และได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่เขาสามารถหลบหนีกลับมายังแดนทมิฬได้ด้วยกําลังของตัวเองนี่คือสิ่งที่ไม่อาจจินตนาการได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามครั้งก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้โดดเดี่ยว จอมจักรพรรดิสวรรค์หรืออมจักรพรรดิอู่จื่อพวกเขาล้วนมีพลังที่สามารถบดขยี้ราชันอมตะได้
แม้ว่าร่างจริงของอันทรานจะอยู่ที่นี่ถึงแม้ว่าพลังการต่อสู้ของเขาจะแข็งแกร่งกว่าพลังต่อสู้
ของยุทธภัณฑ์ราชันอมตะทั้งสี่ของราชันบรรพบุรุษแต่ก็เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของคนใดคนหนึ่ง
และตอนนี้ยุทธภัณฑ์ราชันอมตะทั้งสี่ก็ถูกทําลายทั้งหมด การต่อสู้ของยอดฝีมือแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งสองก็ได้จบลงไปแล้วเช่นกัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เทียบได้ว่าอันหรานเพียงคนเดียวที่จะต้องเผชิญกับผู้โดดเดี่ยวจอมจักรพรรดิสวรรค์และจอมจักรพรรดิอู๋จื่อทั้งสามคนในเวลาเดียวกัน
ในกรณีที่อันหรานอาจจะถูกสังหารในทันที ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
แม้ว่าราชันอมตะจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะมา แต่แผนการของพวกเขาก็ไม่ได้ล่วงรู้ถึงชะตากรรมที่จะเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ อันหรานสามารถหลบหนีได้และถึงแม้ว่ามันจะทําให้เชียนโถวและคนอื่นๆพอใจแต่ก็ทําให้พวกเขารู้สึกสับสนเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามในความคิดของพวกเขาแม้ว่าอันทรานจะไม่ตายในตอนนี้แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีมาได้อย่างง่ายดายเว้นแต่….
มีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในแดนนิรันดร์!
“มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน ในตอนที่ข้ากลับมายอดฝีมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ปรากฏทีหลังไม่ได้ลงมือใดๆและค่อยๆสลายไป
แม้แต่ความแข็งแกร่งในการโจมตีของผู้โดดเดี่ยวก็ยังอ่อนกําลังลงมากและไม่น่าจะอยู่ในพิภพต่อไปได้เป็นเวลานาน”
อ้นหรานครุ่นคิด
แม้ว่าในตอนที่หลบหนีอย่างสุดกําลัง แต่การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์มองเขา
หากผู้โดดเดี่ยวยังคงรักษาสถานะสูงสุดไว้ก่อนหน้านี้อันหรานก็รู้ดีว่าเขาจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาอย่างแน่นอน
และตอนนี้ อธิบายได้เพียงอย่างเดียวคือทั้งสามคนนั้นไม่สามารถปรากฏตัวได้เป็นเวลานานสุดท้ายพวกเขาก็คือสิ่งมีชีวิตที่ข้ามแม่น้ำสายยาวของประวัติศาสตร์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในยุคนี้จริงๆ และทุกสิ่งที่พวกเขาทําจะอยู่ภายใต้ข้อจํากัดที่สอดคล้องกันตามปกติ
ก่อน
“ไม่สามารถคงอยู่ได้ตลอดไปนี่ช่าง….”
ราชันอมตะเชียนโถวและราชันอมตะคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
สิ่งที่อันหรานพูดนั้นถูกต้อง ผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากเมื่อหลายร้อยล้านปี
แม้ว่าจะแข็งแกร่งจนถึงขีดสุดแม้กระทั่งราชันอมตะก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา
แต่พวกเขาก็มีจุดอ่อนที่ร้ายแรงเช่นกัน นั่นคือพวกเขาไม่สามารถอยู่ในพิภพเป็นเวลานานได้และพวกเขาสามารถระเบิดพลังของตนเองได้ชั่วคราวเท่านั้น
“ถ้าเป็นอย่างนั้น เรายังมีโอกาสกลับไปยังแดนนิรันดร์ใช่หรือไม่?”
ราชันอมตะครุ่นคิด
เนื่องจากภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดถูกสงสัยว่าจะไม่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้อีกต่อไป แผนการของแดนทมิฬที่จะบุกรุกแดนนิรันดร์อาจดําเนินต่อไป
“ความเห็นของข้าคือค่อยตัดสินใจและอย่ารีบร้อนจนเกินไป”
อันทรานส่ายหน้าช้าๆปฏิเสธข้อเสนอของราชันอมตะ”ตอนนี้ทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดาข้าไม่รู้ว่าผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆจะปรากฏขึ้นอีกครั้งหรือไม่ถ้าเจ้ารีบร้อนจะผ่านดินแดนในครั้งนี้ถ้าโดนซุ่มโจมตีอีก ความเสียหายจะไม่ใช่แค่ยุทธภัณฑ์ราชันอมตะไม่กี่ชิ้น”
แดนทมิฬยังถือว่าโชคดีเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ติดตามอันหรานในการข้ามดินแดนไปไม่มีอะไรนอกเสียจากยุทธภัณฑ์ ของราชันอมตะทั้งสี่
แม้ว่าตอนนี้ยุทธภัณฑ์ของราชันอมตะซึ่งเป็นผลมาจากการความพยายามอันอุตสาหะของราชันอมตะจะพังทลายลง แต่นั่นก็ยังดีกว่าการตายของราชันอมตะที่แท้จริง
สุดท้ายแล้วยุทธภัณฑ์ของราชันอมตะก็สามารถหลอมสร้างขึ้นมาได้ใหม่อีกครั้งเมื่อพวกมันแตกสลายแต่ถ้าราชันอมตะที่แท้จริงตายไปก็ไม่มีทางที่จะทําได้
ตอนนี้ แม้ว่าผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆจะถูกสงสัยว่าได้สลายไป และพวกเขาได้กลับสู่แม่น้ำแห่งกาลเวลาที่ทอดยาว
แต่ไม่มีใครรู้ว่า พวกเขาจะปรากฏตัวขึ้นอีกหรือไม่
ในตอนนี้อันทรานได้รับบาดเจ็บสาหัสและเขาเพิ่งได้เห็นความยิ่งใหญ่ของผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆ ด้วยตาของเขาเอง
ดังนั้น ในตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะเสี่ยงชีวิตและกลับไปยังแดนนิรันดร์
หลังจากได้ยินคําพูดของอันหรานสี่ราชันอมตะที่ได้เสียสละยุทธภัณฑ์ราชันอมตะเพื่อข้ามดินแดนไปกับอันหรานก็พยักหน้าเช่นกัน
พวกเขาเป็นพยานในทุกสิ่งเมื่อรู้ถึงความแข็งแกร่งของผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเห็นด้วยกับมุมมองของอันหราน
และราชันอมตะอื่นๆ เมื่อเห็นว่าอันทรานและคนอื่นๆได้รวมความคิดเห็นของพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วและรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผลจริงๆจึงระงับความคิดที่จะบุกแดนนิรันดร์ชั่วคราวและต้องกลับไปที่ดินแดนบรรพบุรุษของแดนทมิฬ
ฉินมู่ไม่รู้ว่าอันทรานและคนอื่นๆ ที่ถอยออกไปยังคงมีความตั้งใจที่จะกลับมา
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้เขาก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด
แม้ว่าผู้โดดเดี่ยวและคนอื่นๆได้สลายไปแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันไม่สามารถก่อร่างใหม่ได้อีก
จะมีใครรู้ว่า หลังจากที่สร้างดินแดนลับเพียงบางส่วน
ตอนนี้แต้มตกใจของฉินมู่ได้พุ่งทะลุไปสู่สามพันล้านแต้มตกใจแล้ว!
สามพันล้านแต้มตกใจ!
นี่คือการเก็บเกี่ยวของฉินมู่
ถ้าอันหรานและคนอื่นๆ กล้าที่จะกลับมาจริงๆเพียงแค่ใช้แต้มตกใจเพียงบางส่วนเท่านั้นฉินมู่ก็สามารถทําได้มากมาย