จวินโม่ซี “เรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่เจ้าก็พอจะรู้เรื่องมาบ้างแล้ว ตระกูลของข้า ตระกูลจวินเป็นหนึ่งในสามตระกูลยาโบราณ เป็นเพราะการลงมือจากพลังลึกลับ ตระกูลของข้าทั้งหมดถูกทำลายล้างลง เหลือเพียงข้าคนเดียวที่หนีมากับม้วนไม้ไผ่โบราณม้วนนั้น”
“ข้านำม้วนไม้ไผ่โบราณหนีมาที่หนานจิ้ง มาเจอกับสำนักนิกายระดับสองแห่งหุบเขาหมอเทวดาที่ข้าเคยมีพระคุณต่อเขา แต่สุดท้ายคนเหล่านั้นกลับเนรคุณ และข้าก็สูญเสียสมบัติของมีค่ามากมายกว่าจะหนีออกมาจากหุบเขาหมอเทวดานั้นได้ ต่อมาข้ามาถึงเซี่ยโจวได้เป็นราชาโอสถที่หุบเขาราชาโอสถ แต่ข้าก็รู้ดีว่าต้องมีสักวันที่พวกมันจะตามข้าเจอ คนพวกนี้หากไม่ตายก็ไม่ยอมหยุดเป็นแน่!”
ตระกูลถูกทำลายล้าง ถูกหักหลัง ถูกตามฆ่าสังหาร นี่เป็นการบดขยี้คนให้หมดหนทางชัด ๆ
ทว่าชายผู้นี้ยังคงใช้ชีวิตอย่างไร้หัวใจ ใจจดใจจ่ออยู่กับการกินและการปรุงยา
เขาทำได้อย่างไร ?
จวินโม่ซี “มู่เฉียนซีสาวน้อย… สิ่งที่เจ้ามีอยู่ในมือตอนนี้ทำให้โอกาสในการตามหาหม้อเทพนิรันดร์ของเจ้ามีมากกว่าผู้อื่น ข้าหวังให้เจ้าหามันเจอสมดั่งปรารถนา”
มู่เฉียนซี “แน่นอนอยู่แล้ว เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะก่อนที่พวกมันจะตามมาทัน”
“เจ้าหนีไปก่อนดีกว่า ข้าจะล่อพวกมันไปทางอื่น เป้าหมายของพวกมันคือมาตามฆ่าข้า เจ้าอุตส่าห์ยอมให้ข้าไปอยู่ด้วย เลี้ยงดูทำอาหารอร่อย ๆ อย่างดี อีกทั้งยังช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าไม่ต้องการทำให้เจ้าต้องมาตายไปกับข้า”
ทันใดนั้นน้ำเสียงของมู่เฉียนซีพลันเปลี่ยนกลายเป็นเย็นชา “การที่ข้าเข้ามาในทะเลทรายเมฆามืดแห่งนี้ก็เพื่อมาช่วยเจ้า ทว่าตอนนี้กลับเจ้าบอกให้ข้าหนีไปเช่นนั้นรึ ?”
“แต่คนพวกนั้นล้วนมีพลังวิญญาณเป็นถึงจักรพรรดิแห่งภูต มันเป็นพลังวิญญาณระดับสูง เจ้าอยู่กับข้ามีแต่อันตราย ในเมื่อข้าหนีรอดมาได้เป็นสิบ ๆ ปี ข้าย่อมมีวิธีหนีของข้าเอง เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่เป็นไร”
เสี่ยวหง “ไม่เป็นไรรึ ? แล้วเมื่อครู่ใครกันที่เกือบโดนมังกรปีศาจบ้านั่นกลืนไป หืม ?!”
จวินโม่ซี “นั่นเป็นเพียงอุบัติเหตุ อุบัติเหตุเท่านั้น!”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จวินโม่ซี หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกครั้ง เกรงว่าเจ้าจะหายสาบสูญไปจากโลกนี้”
“แต่ว่า…”
“เจ้าก็รู้ดีว่าข้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น พวกคนของหุบเขาหมอเทวดาบีบบังคับให้ข้าตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง ข้าไม่ยอมปล่อยพวกมันเอาไว้แน่นอน ม้วนไม้ไผ่ม้วนที่สามอยู่กับสำนักหุบเขาหมอเทวดา ปล่อยให้พวกมันเข้ามาในทะเลทรายเมฆามืด ข้าจะพลาดโอกาสที่จะหาเบาะแสนี้ไปไม่ได้”
จวินโม่ซี “มู่เฉียนซีเจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ? พวกมันเป็นถึงจักรพรรดิแห่งภูต เจ้า…”
มู่เฉียนซีกล่าวแทรก “จวินโม่ซี ดูเหมือนว่าเจ้าจะลืมตัวตนอีกตัวตนหนึ่งของข้าไปเสียแล้ว ในเมื่อข้าฆ่าพวกมันไปได้กลุ่มหนึ่ง เช่นนั้นเราสองคนมาร่วมมือกันจัดการกับพวกมันกลุ่มนี้ ก็ใช่ว่าจะจัดการไม่ได้ หากเราจัดการมันได้ เบาะแสของเจ้าก็จะไม่ถูกเปิดเผยไปมากกว่านี้ นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าวิธีของเจ้า”
จวินโม่ซี “ช่างเถอะ ๆ ถือเสียว่าข้าบ้าคลั่งไปกับเจ้าสักคราก็แล้วกัน”
หลังจากที่กินอิ่ม พวกเขาก็ไม่ได้ออกไปจากทะเลทรายเมฆามืดแต่อย่างใด การถูกจักรพรรดิแห่งภูตตามฆ่าสังหารเช่นนี้ หากออกไปจากทะเลทรายเมฆามืดอาจจะอันตรายกว่านี้
กลิ่นอายของจักรพรรดิแห่งภูตนั้นเข้าใกล้มากขึ้นทุกที และกำลังจะล้อมพวกเขาเอาไว้
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
ร่างหลายร่างปรากฏขึ้นด้านหลังพวกเขา
พวกเขากล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ นั่นเจ้าเด็กตระกูลจวิน!”
“โอ้! แล้วยังมีแม่นางผู้นั้นอีกด้วย ที่แท้นางก็เป็นพวกเดียวกับเจ้าเด็กตระกูลจวินผู้นั้น พวกเราหลงกลเด็กนั่นแล้ว”
จวินโม่ซี “มู่เฉียนซีสาวน้อย เหมือนว่าพวกมันใกล้จะตามมาทันแล้ว เราจะทำอย่างไรกันดี ?”
มู่เฉียนซีเหลือบมองกองทรายด้านหน้าที่มีรูเล็ก ๆ พลันแสงประกายวาบผ่านดวงตาของนาง “อา… หามาตั้งนาน ในที่สุดก็หาเจอจนได้สินะ”
จวินโม่ซีกล่าวถามด้วยความสงสัย “เจ้าหาอะไรอยู่รึ ?”
มู่เฉียนซียกมือขึ้น ทันใดนั้นขวดยานับร้อยลอยออกมา นางตะโกนอย่างเย็นชาว่า “บุปผาหลั่งสายฝน!”
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
หยดน้ำจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงไปในทะเลทราย จากนั้นทรายใต้เท้าของพวกเขาดูเหมือนว่าจะมีสิ่งมีชีวิตกำลังเคลื่อนไหวอยู่ ช่างดูแปลกประหลาดนัก
จวินโม่ซีกระโดดขึ้นด้วยความตกใจพร้อมทั้งอุทาน “อ๊าก! นี่มันตัวอะไรกัน ?!”
— เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง! —
มู่เฉียนซีทุบขวดยาสามขวดเพื่อทำให้มันเปียก
“มันคือตัวอะไรเจ้าก็ดูเองสิ”
เวลานี้รอบ ๆ ตัวพวกเขามีแมงป่องสีทองที่มีพิษร้ายแรงกระจัดกระจายอยู่อย่างหนาแน่น ยาเมื่อครู่นั้นกระตุ้นพวกมัน ทำให้พวกมันตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล
แน่นอนว่ากลิ่นยาของมู่เฉียนซีทำให้แมงป่องสีทองเหล่านี้ไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้ พวกมันเป็นสัตว์พิษ แต่บนร่างกายของมู่เฉียนซีและพวกนั้นมีกลิ่นยา แน่นอนว่ากลิ่นยานี้เป็นพิษต่อพวกมัน
เดิมทีคนของหุบเขาหมอเทวดานั้นคิดว่าจะจับเหยื่อได้แล้ว แต่เมื่อศิษย์พี่ใหญ่เห็นแมงป่องพิษสีทองเหล่านี้มากันอย่างท่วมท้น ใบหน้าของศิษย์พี่ใหญ่พลันเปลี่ยนไปอย่างมาก
“ศึกด่วน! รีบจับเจ้าเด็กตระกูลจวินนั่นให้ได้และรีบถอยทันที แมงป่องพิษสีทองนี้รับมือได้ยากอย่างมาก พวกเราอาจเอาไม่อยู่”
แมงป่องพิษสีทองเป็นทรราชของทะเลทรายเมฆามืดแห่งนี้ มู่เฉียนซีก็เพิ่งเรียนรู้สิ่งนี้มาจากกลุ่มโจรสลัดทะเลทราย
เมื่อแมงป่องพิษสีทองโกรธขึ้นมา พวกมันก็จะล่าศัตรูจนตาย ไม่ตายไม่ปล่อย เปลือกร่างของพวกมันแข็งมาก ต่อให้เป็นจักรพรรดิแห่งภูตก็ยากที่จะทำลายมันได้ ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนของพวกมันมีมากล้นเหลือคณานับ เมื่อพลังวิญญาณระดับจักรพรรดิเจอพวกมันเข้าแล้ว ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต!
คนของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านี้ราวกับตกอยู่ในโศกนาฏกรรม พวกเขาเห็นมู่เฉียนซีและพวกยืนอยู่ในกลุ่มแมงป่องพิษสีทองอย่างปลอดภัย
ประกายแสงวาบผ่านดวงตาของพวกเขาทันที
“ดูนั่น พวกมันต้องใช้ยาเพื่อป้องกันการโจมตีของแมงป่องพิษสีทองนี้เป็นแน่!”
“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่ใหญ่ก็คงจะมีวิธีใช่หรือไม่ ?!”
ศิษย์พี่ใหญ่กล่าว “ข้ามีวิธี จะรับมือกับสัตว์พิษเหล่านี้ก็ต้องใช้พิษต่อสู้กับพิษ”
เมื่อเผชิญหน้ากับแมงป่องพิษสีทองจำนวนท่วมท้นเช่นนี้ ศิษย์พี่ใหญ่ก็เรียนรู้การใช้พิษควบคุมการโจมตีของแมงป่องพิษจากมู่เฉียนซี แต่เห็นได้ชัดว่าฝีมือเกี่ยวกับยาพิษของเขานั้นไม่เพียงพอ ซ้ำยังกระตุ้นให้แมงป่องพิษเหล่านี้ทวีความโกรธเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าทวีคูณ
“อ๊า อ๊า อ๊าก!” พวกเขาถูกแมงป่องพิษโจมตีตกอยู่ในอันตราย
— ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ! —
เข็มยาจำนวนมากพุ่งออกมา มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาว่า “พวกเรา ลงมือ!”
นางตั้งใจฉวยโอกาสนี้ลงมือคร่าชีวิต คนของหุบเขาหมอเทวดาถูกล้อมรอบไปด้วยแมงป่องพิษจำนวนมาก นี่เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะลงมือกับคนพวกนี้
จวินโม่ซีในเวลานี้อารมณ์ฮึกเหิมกระหายจะต่อสู้ เขาตะโกนขึ้นว่า “ฮ่าห์! ในที่สุดก็ถึงคราที่ข้าต้องแก้แค้นเสียที”
เผชิญหน้ากับจักรพรรดิแห่งภูต เพื่อความมั่นใจในชัยชนะ มู่เฉียนซีจึงกลืนยาสวรรค์ซวนหวงเข้าไปหนึ่งเม็ด ทันใดนั้นความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นถึงสองระดับ
ซวนหวงระดับสอง มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับพลังระดับจักรพรรดิ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเผชิญหน้าต่อสู้กับพวกเขาได้ ก็สามารถที่จะหลบหนีได้ทัน
“เสี่ยวหง อู๋ตี้ ชิงอิ่ง ลุย!”
กระบี่มังกรเพลิงถูกมู่เฉียนซีชักออกจากฝัก พลังระดับจักรพรรดิหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่มีขาด
มู่เฉียนซีตะเบ็งเสียง “หลงเหยียนพิฆาต!”
ขณะเดียวกับที่เสี่ยวหงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “เพลิงเผาสวรรค์!”
ร่างของอู๋ตี้หายวับไปในอากาศ จากนั้นภายในชั่วพริบตาเดียว เหล่าบรรดาศิษย์ของหุบเขาหมอเทวดาที่ถูกแมงป่องพิษโจมตีอยู่นั้น กลับโดนกรงเล็บอันแหลมคมข่วนเข้าที่คออย่างรุนแรง
โลหิตแดงสดกระเซ็นออกมาในทันที
— ตูม! ตูม! ตูม! —
ส่วนจวินโม่ซีนั้น แน่นอนเขาต้องร้ายกาจที่สุด
นอกจากนี้เขายังมีสิ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งติดตัวจำนวนไม่น้อยเลย และตอนนี้พลังความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นถึงจักรพรรดิแห่งภูตระดับสูงแล้ว การฆ่าศิษย์ของหุบเขาหมอเทวดาเหล่านี้ง่ายดายราวกับหั่นผักหั่นแตงโมก็มิปาน
“พลังสังหาร!” สีหน้าของจวินโม่ซีเย็นชา คนพวกนี้ที่ทำลายล้างตระกูลของเขา ต้องตายตกไป!
— ตูม! ตูม! ตูม! —
“อ๊าก!”
ศิษย์ของหุบเขาหมอเทวดาส่งเสียงร้องตะโกนลั่นออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยความเจ็บปวดแทบขาดใจ
.