บทที่ 470
บทที่ 470
เพียงหนึ่งประโยคจากถังหยิน ก็ทำให้ทุกคนตะลึงกันทั้งหมด ด้วยซ่งเทียนชายผู้ชั่วช้าถูกจับตัวได้แล้ว ! ซึ่งนั่น… มันก็หมายความว่าสงครามกำลังจะจบลงแล้ว !!!
หลังคิดแบบนั้น ทุกคนจึงพากันจ้องมองซ่งเทียนที่อยู่บนบ่าของถังหยินอย่างไม่วางตา
จากนั้นก็เป็นมูฉิงที่วิ่งเข้ามาพร้อมกับที่แสดงอาการดีใจสุดขีด !! “นายท่านสุดยอด กองทัพเฟิงสุดยอด นายท่านผู้แข็งแกร่งจะนำพากองทัพเฟิงและแคว้นเฟิงสู่ชัยชนะ !”
จากนั้นพวกแม่ทัพคนอื่น ๆ ก็เริ่มพูดตามมูฉิงพร้อม ๆ กัน พวกเขาคุกเข่าตะโกนออกมาจนทั้งเมืองได้ยินกันถ้วนหน้า
ข่าวลือเรื่องการจับตัวซ่งเทียนแพร่กระจายออกไปเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นใครต่างก็รีบมาที่เมืองจางหยูทันที ส่วนเจ้าของร้านก็แทบจะบ้าตายเมื่อเห็นว่าครอบครัวของเขาถูกฆ่าตายไปแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเป็นฝีมือของไอ้ชาติชั่วอย่างถังหยิน !
ตอนนี้ซ่งเทียนสติหลุดลอยออกไปแล้ว เขาถูกทุบตีโดยไม่ขัดขืนใด ๆ เช่นเดียวกับที่เจ้าของร้านก็ได้แต่จมอยู่ในความเศร้าโดยที่ไม่มีใครเหลียวแล
เมื่อถังหยินมาถึง อู่อิงและเจี๋ยนฟานที่คุ้มกันค่ายอยู่ก็เข้ามาต้อนรับ ก่อนที่พวกเขาจะยิ้มดีใจออกมาเมื่อเห็นซ่งเทียนที่ถูกจับคาที่อยู่ตรงนี้
หลังเห็นเช่นนั้น เจี๋ยนฟานก็พลันหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เพราะคนแบบนี้มันสมควรโดนแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อได้ข่าวว่าเสี่ยวชางต้องตายไปด้วย มันก็ทำให้เขาใจหาย ถังหยินจึงได้เดินเข้าไปหาแล้วกล่าวปลอบว่า “ข้าให้โอกาสเขารอดแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมฟังเลย ดังนั้นข้าจึงต้องกำจัดเขา”
“ไม่มีทางอื่นจริง ๆ หรือ ?” เจี๋ยนฟานถามกลับมา แต่แล้วเขาก็รู้ตัวและก้มหัวลงอย่างละอาย “เสี่ยวชางมันเป็นคนทรยศ ดังนั้นเขาสมควรตายแล้ว…”
ถังหยินพยักหน้าให้ “ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ข้าจะจัดคนไปทำพิธีฝังศพให้เขาก็แล้วกัน”
หลังจากที่กลับมายังค่ายหลัก ถังหยินก็บอกมูฉิงให้เขียนจดหมายไปยังเมืองหยานเพื่อกระจายข่าวเรื่องนี้ออกไป
มูฉิงรับคำและจัดการให้ทันที
และด้วยเหตุนี้ ความวุ่นวายจึงจบลงหลังจากที่ซ่งเทียนถูกจับได้….
ซ่งเทียนที่ก่อกบฏและยึดบัลลังก์มาได้ ในที่สุดก็ถูกโค่นล้มโดยถังหยินที่กู้สถานการณ์ได้เร็วกว่า ท้ายที่สุดแล้วเจ้าทรราชก็ถูกกวาดล้างเสียที ตั้งแต่นี้ไปอนาคตแคว้นเฟิงจะไม่เป็นเหมือนเก่าอีก !!
หลังการต่อสู้สิ้นสุดลง พวกหนิงก็ไม่ส่งทหารเข้ามาที่แคว้นเฟิงอีกเลย นี่จึงทำให้แคว้นเฟิงมีเวลามากพอที่จะพักฟื้นตัวเองได้บ้าง ส่วนแคว้นโมเองก็ได้ประโยชน์จากจุดนี้ที่ทำให้พวกหนิงไม่กล้าทำตัวระรานคนอื่นในละแวกนี้ชั่วคราว ทว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป แคว้นเฟิงเองก็อาจจะกลายเป็นภัยต่อแคว้นโมในอนาคตได้เช่นกัน
แต่แม้ว่าสงครามกลางเมืองของแคว้นเฟิงจะจบไปได้ด้วยดี ทว่าผลที่ได้หลังจากนี้คงไม่มีใครคิดฝันแม้แต่น้อย ด้วยต่อจากนี้ไป มันจะกลายเป็นยุคการปกครองของอ๋องที่บ้าคลั่งและเลือดเย็นยิ่งกว่าคนก่อนเป็นไหน ๆ!
หลังจากพักผ่อนกัน 2 วัน พวกเขาก็กลับมาถึงเมืองหลวง และเพราะข่าวเรื่องซ่งเทียนแพร่กระจายไปรวดเร็ว ระหว่างทางกองทัพเทียนหยวนจึงได้รับการต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี หลังจากออกมาจากมณฑลเกาฉวน ถังหยินและพวกทหารก็มานัดรอเพื่อรวมตัวกับกองทัพชานชุยที่ออกมาจากทางผ่านบาอีกทีหนึ่ง ก่อนที่พวกเขาทั้งหมดจะออกเดินทางพร้อมกัน
และเมื่อกองทัพใหญ่มาถึงเมืองหลวง พวกขุนนางทั้งหลายกับทุกคนในเมืองต่างก็ออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างยิ่งใหญ่
ในบรรดาพวกเขา อู่หยู เหลียงซิง และจี้หยาง ฮ่าวชุนยืนอยู่ตรงหน้าสุด ก่อนเป็นอู่หยูที่เข้าไปต้อนรับถังหยินเป็นคนแรก
“ท่านถังเป็นผู้กู้ชาติบ้านเมืองที่แท้จริง เขาคือวีรบุรุษ !” อู่หยูกล่าว
ถังหยินมองเขาแล้วมองประชาชนตรงหน้า ก่อนจะยิ้มให้แล้วลงจากม้า “ท่านอู่ก็พูดเกินไป ถ้าไม่ได้ท่านช่วยไว้ การศึกครั้งนี้ก็คงจะเป็นไปได้ยาก” เขาก้มหัวลงระหว่างที่พูด
“หายากนะเนี่ยที่ท่านถังจะไม่ภูมิใจในความสำเร็จของตัวเอง” แม้ว่าถังหยินจะไม่มีตำแหน่งที่สูงมาก แต่เขาก็มีอำนาจและมีคนสนับสนุนเยอะมากทีเดียว
อู่หยูมองไปรอบๆแล้วถาม “แล้วซ่งเทียนล่ะท่านถัง ?”
ในตอนนี้ทุกคนล้วนแต่อยากจะเห็นหน้าของชายแก่จอมทรราชแล้ว
ถังหยินที่ได้ฟังดังนั้นจึงหัวเราะแล้วโบกมือส่งสัญญาณ “พาตัวมันออกมา !”
จากนั้นพวกทหารก็พาคนออกมาจากรถม้า
นั่นคือซ่งเทียนในสภาพผีเข้าผีออก…
ภาพตรงหน้าทำให้แม่ทัพและขุนนางทุกคนต่างก็กัดฟันด้วยความเกลียดชังที่ต้องถูกสั่งคุมขังเพราะชายคนนี้ !!
..พวกเขาต่างเคยได้รับการปฏิบัติราวสุนัขข้างถนนในระหว่างที่ถูกกักขัง ดังนั้นมันจึงไม่แปลกเลยที่จะมีความโกรธแค้นกันมากขนาดนี้
“ซ่งเทียนเพื่อนยาก ทำไมอยู่ในสภาพแบบนี้กันเล่า ?” จี้หยาง ฮ่าวชุนวิ่งเข้ามาชี้นิ้วใส่และกล่าววาจายั่วยุ
ทว่าผลที่ได้กลับมา ก็เป็นเพียงแค่ซ่งเทียนมองเขากลับด้วยดวงตาที่ไร้วิญญาณ ไร้คำหรือสีหน้าใดที่โต้ตอบ ราวกับซากร่างไร้จิตใจที่ทำได้เพียงหายใจเข้าออกไปวัน ๆ
จี้หยาง ฮ่าวชุนที่เห็นแบบนั้นก็ยิ่งโกรธจัด เขาชักดาบออกมาหมายจะฟันอีกฝ่าย หากแต่ก็เป็นถังหยินที่เข้ามาห้ามเอาไว้ “ท่านแม่ทัพ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้น”
จี้หยาง ฮ่าวชุนที่ถูกห้ามปรามจึงได้แต่สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่เขาจะเก็บดาบลงไป ด้วยจริงดังว่า เนื่องจากมันไม่จำเป็นที่จะต้องจัดการกับอีกฝ่ายในตอนนี้ เพราะยังไงเสียโทษตายของซ่งเทียนก็ชี้ชัดอยู่แล้ว !!
คงจะมีแต่ความตายเท่านั้นที่เป็นปลายทางของซ่งเทียน !!
“ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านถังจริง ๆ” แม้ว่าจะโกรธและเกลียดกันเพียงใด แต่การจับซ่งเทียนได้ก็ต้องขอบคุณถังหยินจริง ๆ
ทางฝั่งถังหยินเอง หลังเขาได้ฟังเช่นนั้น ชายหนุ่มก็เพียงยิ้มให้เล็กน้อยแล้วพูดว่า “ท่านจี้หยาง ข้าก็แค่ทำหน้าที่ของชาวเฟิงที่ดีก็เท่านั้น !!”
ทันใดนั้นเองก็มีคนตะโกนออกมา “ไอ้ทรราชย์ !”
จากนั้นฝูงชนทั้งหมดก็พากันวิ่งกรูกันเข้ามา พวกเขาต่างขว้างปาหิน ผัก ข้าว ไข่ หรืออะไรก็แล้วแต่เข้าใส่ซ่งเทียน จนอีกฝ่ายเนื้อตัวเละเทะไปหมด และเมื่อเป็นแบบนั้น พวกทหารจึงต้องรีบเข้ามาเป็นกำแพงมนุษย์ให้จนโดนลูกหลงไปด้วย
…เมื่อเห็นว่าความวุ่นวายเริ่มจะควบคุมไม่อยู่ ถังหยินก็พลันรีบเข้าไปห้ามเอาไว้ในทันที “ช้าก่อนทุกท่าน !”