บทที่ 397
นายท่านเห็นด้วย?
เจี้ยงเสวี่ยผลักประตูเข้ามาและคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น “นายท่าน โปรดพิจารณาใหม่อีกครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ชิงเฟิงคุกเข่าตามมา “นายท่าน โปรดคิดทบทวนอีกครั้งด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
พระชายาเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ใครจะรู้ว่านางพูดจริงหรือไม่จริง
ก่อนหน้านี้นางเคยบอกว่าจะช่วยรักษาพิษให้นายท่าน แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้มิใช่รึ
“ถอยไป”
น้ำเสียงของเยี่ยจิ่งหานเย็นเยียบ
เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังถูกกู้ชูหน่วนดูดซับพลังภายในไปกว่าครึ่ง เวลานี้ร่างกายของเขาจึงอ่อนแรงถึงขีดสุด
หากยืนด้วยขาของตัวเองไม่ได้ ไม่ว่าภายในจะแข็งแกร่งเพียงไหนก็ยังห่างไกลกับการเป็นคู่ต่อสู้ของเผ่าเพลิงฟ้าอยู่ดี
ในการต่อสู้ครั้งล่าสุด เผ่าเพลิงฟ้าเห็นว่าขาของเขาพิการ ดังนั้นพวกนั้นจึงมุ่งความสนใจมาที่ร่างกายส่วนล่าง
เมื่อนึกถึงความบาดหมางกับเผ่าเพลิงฟ้าที่มีมายาวนาน เยี่ยจิ่งหานก็ยิ่งอยากรักษาขาและพิษในร่างกายของเขาให้หายสนิท
อย่างมากสุดเจ็ดวัน…
ขอเพียงแค่ผ่านเจ็ดวันนี้ไปได้
“จะเริ่มเมื่อใด”
“จะเริ่มเมื่อไรก็ได้ แต่ก่อนหน้านั้นมีสองอย่างที่จำเป็นต้องใส่ใจ อย่างแรก จำเป็นต้องหาสถานที่ที่ร้อนจัด อย่างเช่นบ่อน้ำพุร้อนหรือทะเลโลหิตหินหนืด* จะดีที่สุดถ้าเป็นที่ที่มีทะเลโลหิต อย่างที่สอง ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้ามารบกวนเด็ดขาด จำเป็นต้องทำอย่างเงียบสงบ หากถูกรบกวน ความร้อนอาจย้อนเข้าสู่เส้นลมปราณจนเสียชีวิตได้”
“เจี้ยงเสวี่ย รีบไปเตรียมการ เราจะไปเมืองอู๋ซวง”
ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยอยากจะลองเกลี้ยกล่อมอีก แต่น้ำเสียงของผู้เป็นนายนั้นยากจะโต้แย้ง ไม่มีช่องว่างให้หาทางออกอย่างอื่นเลย
เขาทำได้เพียงออกไปทำตามคำสั่ง
กู้ชูหน่วนตกใจ
เมืองอู๋ซวงงั้นหรือ
นางเองก็อยากไปเมืองอู๋ซวงเหมือนกัน
แผนที่บนระฆังวิญญาณสะบั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มันอยู่ที่เมืองอู๋ซวง
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน นางจะได้ไปดูด้วยเลย ว่าจะหาไข่มุกมังกรในตำนานที่เมืองอู๋ซวงได้หรือไม่
“ขอเวลาหนึ่งวัน ข้ามีเรื่องบางอย่างที่ต้องจัดการ”
ความเย็นเยียบฉายวาบบนใบหน้าของเยี่ยจิ่งหาน ที่มุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย้ยหยันและแน่วแน่
กู้ชูหน่วนมึนงง
รอยยิ้มนี่มัน…
เขากำลังวางแผนจะทำอะไรใครอีก?
“ตกลง ข้าต้องจัดเตรียมสมุนไพรเหมือนกัน เช่นนั้นเราจะออกเดินทางไปยังเมืองอู๋ซวงในอีกหนึ่งวันหลังจากนี้”
กู้ชูหน่วนขลุกอยู่ในห้องกลั่นยาทั้งวันโดยไม่ออกไปไหน
วันรุ่งขึ้น มีข่าวแพร่สะพัดไปในนครหลวง
เทพแห่งสงครามล้มป่วยอย่างกะทันหัน เขาไปพักรักษาตัวที่พระราชวังชิวเฟิงโดยมีพระชายาติดตามไปด้วย และจะไม่กลับมายังจวนหานอ๋องชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ผู้คนในนครหลวงเริ่มตั้งขอสังเกต
เทพแห่งสงครามเพิ่งอภิเษกก็ล้มป่วยเสียแล้ว
เป็นไปได้หรือไม่ว่าพระชายาที่อภิเษกเข้ามามีพลังปราณที่ชั่วร้ายเกินไป ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการมอบความสุขให้เทพแห่งสงคราม แต่ยังนำความชั่วร้ายมาสู่เขาด้วย
เรื่องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ เทพแห่งสงครามผู้โหดเหี้ยมอำมหิตกำลังเจ็บป่วยใกล้ตาย แต่เขายังคงโปรดปรานรักใคร่กับพระชายาหานดีอยู่
ไม่รู้ว่าพระชายาหานใช้อุบายใด จึงคว้าหัวใจของเทพแห่งสงครามไว้ได้
ถนนสายหนึ่งบนภูเขาลูกหนึ่งของเมืองอู๋ซวง
รถม้าธรรมดาคันหนึ่งกำลังวิ่งกลุกกลักไปข้างหน้า
นอกจากลุงคนขับรถม้า ในรถม้ามีเพียงกู้ชูหน่วนกับเยี่ยจิ่งหานเท่านั้น ไม่มีใครอื่นอีก
กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ
“เทพแห่งสงครามป่วยหนัก ไปพักฟื้นอยู่ที่พระราชวังชิวเฟิง น่าจะเป็นพระชายาที่นำความโชคร้ายมาสู่เทพแห่งสงคราม แหมๆๆ เยี่ยจิ่งหาน ท่านต้องการหน้าสักหน่อยไหม”
นิ้วที่เรียวยาวของเยี่ยจิ่งหานพลิกตำราที่อยู่ตรงหน้า เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น
เอ่ยเรียบๆ ว่า “ตั้งแต่แต่งงานกับเจ้า ที่จวนอ๋องก็มีแต่เหตุการณ์วุ่นวายจนหมาไก่กระเจิง เจ้าว่าเจ้านำพาความชั่วร้ายมาหรือไม่ล่ะ”
ทะเลโลหิตหินหนืด คือทะเลแมกมาบริเวณภูเขาไฟ