บทที่ 236 ร่อแร่จะตายมิตายแหล่

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 236 ร่อแร่จะตายมิตายแหล่

นางรู้ว่า เขากำลังเตือนนางอยู่!

มิฉะนั้นกู้โม่หานจะไม่ฆ่าใครต่อหน้านาง! ไหนจะคนที่เขาฆ่ายังเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของนางอีกด้วย!

หนานหว่านเยียนยังไม่ทันพูดอะไร หยุนโม่หรานก็ขาดใจตายแล้ว

“กู้โม่หาน ข้ายังไม่ได้ตอบตกลง” นางจ้องเขม็งใส่กู้โม่หาน “ข้าไม่ยอมรับการลงโทษของพระชายารอง ก็เห็นอยู่ว่านางเป็นคนบงการ! แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานโดยตรงที่จะตัดสินประหารนาง แต่นางก็ไม่สามารถเดินตัวปลิว! อย่างน้อยก็ต้องถูกเข้าเครื่องทรมานหนึ่งร้อยครั้ง!”

เข้าเครื่องทรมานหนึ่งร้อยครั้ง ต่างอะไรจากการประหารนาง?!

สีหน้าของหยุนอี่ว์โหรวซีดเผือด แต่ดวงตากลับดุดัน

นางเอ่ยปากทันที “ท่านอ๋อง เรื่องนี้เริ่มต้นจากข้า ทั้งหมดเป็นความผิดของโหรวเอ๋อร์เอง ท่านไม่ต้องลำบากใจหรอก หากพระชายาต้องการให้โหรวเอ๋อร์ตาย โหรวเอ๋อร์ก็ตายได้ แต่ก่อนตายมีความในใจอยากจะกราบทูลให้ท่านอ๋องทราบ…”

หยุนอี่ว์โหรวน้ำตาไหล จ้องมองเขาอย่างไม่ละสายตา

“ท่านอ๋องมีความสามารถโดดเด่นแห่งยุค กล้าหาญชาญฉลาด หากไม่ใช่โหรวเอ๋อร์ช่วยชีวิตท่านไว้โดยบังเอิญ คงไม่มีโอกาสได้ยืนเคียงข้างท่านอ๋อง เช่นนี้ โหรวเอ๋อร์คงไม่หลงรักท่าน โหยหาท่านมานานหลายปี เมื่อคิดว่าบรรลุผลสำเร็จแล้วจึงพบว่า ทุกอย่างเป็นความสมัครใจของข้าเอง”

“หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ คงไม่ทำเช่นนั้นแต่แรก หากข้าตายในทะเลสาบในตอนนั้น ก็อาจจะเป็นแสงจันทร์ในใจท่านตลอดไป…เชี่ยนปี้กับข้ามีความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง นางเลอะเลือนไปชั่วขณะก็เพื่อข้า ความผิดนี้ข้าขอรับไว้ ได้โปรดไว้ชีวิตนาง ปล่อยนางออกจากจวนไปเถอะ”

“ท่านอ๋อง เราพบกันชาติหน้าเถอะ”

พูดจบ หยุนอี่ว์โหรวก็อาศัยช่วงเวลาที่ทุกคนยังคงงุนงง วิ่งไปที่ทะเลสาบจิ้งด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ก่อนจะกระโดดลงไปโดยไม่ลังเล

ปลายฤดูใบไม้ร่วง น้ำในทะเลสาบจิ้งเย็นเฉียบเข้ากระดูก

แต่ก้นบึ้งหัวใจของหยุนอี่ว์โหรวกลับมืดมนยิ่งกว่านี้หลายพันเท่า

นางเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง หากไม่ถึงที่ตาย หนานหว่านเยียนจะไม่มีวันปล่อยนางไป!

ยิ่งกว่านั้นการถูกกักบริเวณเป็นเวลาสามปีมันคือโทษที่โหดร้ายทารุณสำหรับนาง กู้โม่หานไม่ต้องการเห็นนางอีกต่อไป แล้วนางจะมีวันหลุดพ้นจากสภาพเลวร้ายได้อย่างไร?!

นางกำลังเดิมพัน เดิมพันว่ากู้โม่หานจะนึกถึงบุญคุณของนาง กำลังเอาหัวใจเขากลับคืนมา!

หลายคนในเรือนต่างไม่คาดคิด แม้แต่หนานหว่านเยียนก็ยังคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าหยุนอี่ว์โหรวไม่เพียงโหดเหี้ยมกับคนอื่น แต่ยังโหดเหี้ยมกับตัวเองด้วย!

เชี่ยนปี้ตกใจจนหน้าถอดสี สะบัดเสิ่นอี่ว์ออกแล้ววิ่งไปที่ฝั่ง

“เจ้านาย! เจ้านายทำไมท่านทำอะไรโง่ๆ แบบนี้!”

“ท่านอ๋อง เรื่องฆ่าคน เจ้านายทำไม่ได้จริงๆ นะเพคะ เจ้านายอาการป่วยกำเริบ เมื่อวานนี้ยังเสียเลือดมากอีกด้วย ตอนนี้อากาศหนาว เจ้านายอาจจะตาย อาจจะตายจริงๆ ก็ได้! ได้โปรดเห็นแก่ที่เจ้านายเคยช่วยชีวิตท่านไว้ ช่วยนางด้วยเถอะ…”

กู้โม่หานตกตะลึง ในที่สุดก็ออกคำสั่ง “เสิ่นอี่ว์ ไปช่วยนาง!”

เสิ่นอี่ว์อึ้งไปเล็กน้อย ท่านอ๋องทรงเปลี่ยนไปมากจริงๆ เมื่อก่อนหากเกิดอะไรขึ้นกับพระชายารอง เขาจะต้องเคลื่อนไหวก่อน แต่ตอนนี้กลับขอให้เขาไปช่วยนาง

ยิ่งไปกว่านั้น ถึงอย่างไรหยุนอี่ว์โหรวก็เป็นพระชายารอง เขาช่วยชีวิตพระชายารอง ท่านอ๋องจะไม่สนใจจริงหรือ?

แต่เสิ่นอี่ว์แค่ลังเลครู่หนึ่ง ก็กระโดดลงไปในทะเลสาบทันที รีบไปช่วยนาง

สีหน้าของเซียงอวี้และอวี๋เฟิงดำทะมึน

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ท่านอ๋องมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหยุนอี่ว์โหรว หากเรื่องนี้คลี่คลายแล้ว ท่านอ๋องและพระชายาก็อาจจะยังมีโอกาส

แต่หยุนอี่ว์โหรวผู้ก่อปัญหาอยู่เสมอได้กระทำเช่นนี้อีกครั้ง…

เสิ่นอี่ว์ช่วยนางขึ้นมา

ในขณะนี้หยุนอี่ว์โหรวร่างกายโชกเลือด ตัวสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง อยู่ในสภาพจนตรอก

ในที่สุดนางก็ชนะการเดิมพัน กู้โม่หานยังคงห่วงใยนาง นางยังสามารถสะสมกำลังและจิตใจ อาศัยไพ่ใบสุดท้ายพลิกเกมกลับ!

หยุนอี่ว์โหรวอิงแอบอยู่ในอ้อมอกของเสิ่นอี่ว์ มองกู้โม่หานอย่างอ่อนแรง พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนยุง “ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์ผิดไปแล้ว โหรวเอ๋อร์จะไม่มีวันทรยศท่านอ๋อง…”

พูดจบ นางก็สลบไป ไม่ได้สติ

สีหน้าของหนานหว่านเยียนเย็นชา ไม่พูดจาใดๆ

กู้โม่หานเม้มปากแน่น “พาพระชายารองไปพักฟื้น หากไม่มีคำสั่งของข้า จะไม่อนุญาตให้นางก้าวออกจากเรือนจู๋หลานแม้แต่ครึ่งก้าว เงินเดือนและทรัพย์สินเดิมของนางจะถูกหักออกจนกว่าจะจ่ายคืนครบห้าแสนตำลึง!”

“สำหรับสาวใช้ของนาง จงลากไปโบยหนึ่งร้อยครั้ง!”

พ่อบ้านกาวเหงื่อยเย็นเยียบไหลริน “พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”

เสิ่นอี่ว์อุ้มหยุนอี่ว์โหรวออกไป

เชี่ยนปี้ถูกอวี๋เฟิงพาออกไป นางกลัวตายจริงๆ ถ้าไม้กระบองใหญ่โบยลงบนตัวนางหนึ่งร้อยครั้ง นั่นไม่เท่ากับส่งนางไปตายหรอกหรือ?

“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องได้โปรดยกโทษให้บ่าวสักครั้งเถิด ท่านอ๋อง…”

เมื่อเสียงของเชี่ยนปี้ไกลออกไปเรื่อยๆ เรือนเซียงหลินก็สงบเงียบลงอย่างน่าประหลาด

เซียงอวี้รู้สึกเพียงว่าอากาศรอบตัวเย็นจนหายใจไม่ออก

นางมองไปที่หนานหว่านเยียน กลับเห็นความเยือกเย็นน่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหนานหว่านเยียน นางไม่พูดจาใดๆ คว้าดาบของกู้โม่หานมา แล้วไล่ตามทางที่หยุนอี่ว์โหรวและเชี่ยนปี้ออกไป

“หนานหว่านเยียน” กู้โม่หานคว้าข้อมือของหนานหว่านเยียนไว้ แล้วลากนางเข้าไปในเรือนโดยไม่ยอมให้ชี้แจงใดๆ “เข้ามา!”

เซียงอวี้หวาดกลัวตัวสั่นงันงกอยู่กับที่

จะทำอย่างไรดี ท่านอ๋องคงไม่ลงไม้ลงมือกับพระชายาหรอกนะ?

หนานหว่านเยียนถูกกู้โม่หานใช้กำลังพาเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มถีบประตูปิด ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาบึ้งตึง

หนานหว่านเยียนฟันดาบไปที่ตัวเขา แต่กลับถูกเขาจับไว้ด้วยมือเปล่า เลือดสีแดงเข้มค่อยๆ ไหลออกมาจากง่ามนิ้วเรียวยาวของเขา

สีหน้าของหนานหว่านเยียนเยือกเย็นอย่างถึงขีดสุด “ปล่อยมือ! เจ้าไม่ยอมลงโทษนาง ถึงขนาดตระบัดสัตย์ปกป้องแม้แต่คนของนางด้วย ยังจะมาห้ามข้าไม่ให้ลงมือแก้แค้นด้วยตัวเองอีกหรือ?!”

วันนี้นางจับกุมหยุนอี่ว์โหรวและเชี่ยนปี้ได้ในคราวเดียว แต่กู้โม่หานกลับปล่อยให้แม่ดอกบัวขาวน้อยนั่นมีโอกาสหลบหนี?!

น่าเคียดแค้นชะมัด!

กู้โม่หานขยับริมฝีปากบาง น้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์ใดๆ “นางถูกลงโทษตามสมควรแล้ว เจ้าไม่เห็นหรือ นางร่อแร่จะตายมิตายแหล่”

หนานหว่านเยียนถลึงตาใส่เขาพลางยิ้มเยาะ “จะตายมิตายแหล่? หากข้าถูกมือสังหารฆ่าในวันนั้น นางอาจจะกำลังรับประทานอาหารในงานเลี้ยงอย่างมีความสุขอยู่ในเวลานี้ก็ได้”

“กู้โม่หาน ข้าจะบอกเจ้าให้ หากเจ้าไม่ฆ่าเชี่ยนปี้ ลงโทษโบยหยุนอี่ว์โหรว เจ้าจะต้องทนทุกข์แทนพวกนาง!”

พูดจบ นางก็เลียนแบบเขา แทงดาบเข้าที่ร่างกายของเขาอย่างแรง ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสตอบโต้…