ทั้งสองมองไข่เน่าที่ถูกปาออกมาพร้อมกับเสียงตะโกนด่าทอของชาวบ้าน “ซูหวานหว่าน! แม้ว่าเจ้าจะเป็นเพียงเป็นลูกศิษย์ของฮวงเหล่า แต่ก็นับได้ว่าเป็นหมอคนหนึ่ง! เหตุใดเจ้าถึงใจร้ายใจดำเพียงนี้!”

ฉีเฉิงเฟิงกอดซูหวานหว่านเอาไว้ ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อออกกว้างเพื่อป้องกันไข่เน่าที่ปาเข้ามา ส่งผลให้เสื้อผ้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยไข่เน่า!

ซูหวานหว่านรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก สิ่งที่นางเกลียดที่สุดคือการถูกกระทำลับหลัง การใส่ร้ายป้ายสีนาง! ทั้งยังทำร้ายคนที่นางรักอีกด้วย!!

ตอนนี้อารมณ์ของซูหวานหว่านเต็มไปด้วยความโกรธ ยังไม่เอ่ยคำใดออกมาก็ถูกผักเน่าปาใส่ ฉีเฉิงเฟิงรีบกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนเพื่อไม่ให้นางถูกของปาใส่และเอาตัวเข้ารับแทน ซูหวานหว่านจึงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “นี่พวกท่านทำอันใดกัน!!”

“พวกเราต่างหากที่ต้องเป็นคนถามเจ้า! เจ้าทำให้หน้าของพวกเรากลายเป็นเช่นนี้! มันต้องโทษน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าเอามาขาย!”

“โอ้? ความผิดข้างั้นหรือ?” ซูหวานหว่านกระตุกยิ้มอย่างเย็นชา หญิงสาวจับมือฉีเฉิงเฟิงและเบี่ยงตัวออกจากอ้อมแขนของชายหนุ่ม จ้องมองสตรีนางหนึ่งที่ยืนพูดอยู่ จากนั้นก็ดึงผ้าคลุมสีแดงออกจากใบหน้าของนาง!

“น้ำที่ข้าให้ไปมีเพียงแต่ขวดเล็ก ๆ เพียงขวดเดียว! ข้าอยากจะถามเจ้ากลับนักว่าเจ้าไปเอาน้ำขวดนั้นมาจากที่ใด! พวกเจ้าไม่มีตาหรืออย่างไรถึงมองไม่ออกว่าอันไหนของจริงอันไหนของปลอม! เมื่อใช้แล้วหน้าของเจ้ากลายเป็นเช่นนี้ก็มาโทษข้า!” กล่าวจบซูหวานหว่านก็ตบหน้าสตรีนางนั้นหนึ่งครั้ง ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวบวมเป่งแดงก่ำทั้งสองข้าง “ข้าตบเจ้าแล้วเหมือนความสกปรกจะติดมือข้ามาจริง ๆ เลยแฮะ!”

ซูหวานหว่านเช็ดมือกับผ้าเช็ดหน้าแล้วทิ้งมันลงพื้น หญิงสาวที่ถูกตบรู้สึกมึนศีรษะ คนรอบข้างเองก็ไม่กล้าเอ่ยอันใดแล้วเก็บผักเน่าใส่ตะกร้าเอาไว้ดังเดิม

“ทำไม? ทำไมไม่ลงมือแล้วเล่า? เจ้าคิดว่าข้าจะให้อภัยพวกเจ้าอย่างงั้นหรือ?” ซูหวานหว่านหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและกระชากหญิงสาวคนนั้นเอาไว้ “ข้าจะแจ้งเรื่องนี้แก่ทางการ ไม่ว่าใครก็ห้ามไปไหนเด็ดขาด!”

แค่โยนผักเน่าและไข่เน่าใส่แค่นี้ถึงกับต้องร้องเรียนเลยหรือ? ซูหวานหว่านจะทำเกินไปแล้วนะ!

สตรีนางนั้นรู้สึกไม่พอใจ นางส่งสายตาให้ชาวบ้านรวมตัวกันและพูดกับซูหวานหว่านว่า “เหตุใดเจ้าถึงมีหน้ามาบอกว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนขายน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่น! ทั้งที่เถ้าแก่ร้านนั้นเป็นคนจากตระกูลซู! เขาบอกว่าเจ้าให้สูตรนี้แก่เขา!”

“ใช่แล้ว! แล้วมันก็แพงมาก! ขวดเล็กราคาถึง 50 เหรียญ! พวกเราซื้อมาลองใช้แต่ใบหน้าของเรากลับพังเพราะเจ้า! ร้านตระกูลซูก็ปิดไปแล้ว! และบอกว่ารอให้เจ้ามาจัดการเรื่องนี้! บอกมาสิว่าไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครกัน?”

น้ำศักดิ์สิทธิ์? ซูหวานหว่านหัวเราะ “ข้ามีแซ่ซู แต่น้ำนั่นข้าไม่ได้เป็นคนขาย เจ้าไปเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์มาจากที่ใด? แล้วพวกเจ้าไม่ได้คิดให้ดีหรือย่างไรก่อนที่จะซื้อมัน! น้ำศักดิ์สิทธิ์นั่นมันเป็นของปลอม!”

ซูหวานหว่านตะโกนออกมาด้วยความขุ่นเคือง เสียงของนางส่งผลให้ชาวบ้านตกใจผวา พลันใดก็ปรากฏร่างชายคนหนึ่งเดินเข้ามาเอ่ยกับซูหวานหว่านด้วยความสุภาพนอบน้อม “คุณหนู คนของทางการได้มาที่ร้านของเรา มีผู้คนมากมายเรียกร้องให้พวกเราจ่ายค่าชดเชย พวกเราควรจะทำอย่างไรดี!”

คนคนนี้คือใคร? ซูหวานหว่านขมวดคิ้ว

เหล่าสตรีตรงนี้ต่างรู้จักบุคคลนี้! มีหญิงนางหนึ่งคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้อย่างไม่เกรงกลัวและเอ่ยออกมาด้วยแรงโทสะ “ซูหวานหว่าน! เจ้ายังมีหน้ามาพูดจาเช่นนี้อีกหรือ! นี่ไม่ใช่ลูกน้องของเจ้าหรือย่างไร! เขาเรียกเจ้าว่าคุณหนู เจ้าจะแก้ตัวอะไรอีก!”

“จ่ายเงินชดใช้มา!”

“จ่ายเงินชดใช้มา!”

“…”

เสียงตะโกนดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ เมื่อนั้นพลลาดตระเวนก็เดินเข้ามาพบกับสถานการณ์ตรงหน้า จึงเตรียมเอ่ยปากอธิบายแทนซูหวานหว่าน ทว่าหญิงสาวได้ยกมือขึ้นห้ามเขาเอาไว้ “หากพวกเจ้าคิดว่าเป็นคนทำ งั้นพวกเราไปยังร้านนั่นกัน หากพิสูจน์ได้ว่าข้าเป็นเจ้าของจริง ๆ ข้าจะจ่ายเงินชดใช้และค่ารักษาให้พวกเจ้า!”

เมื่อกล่าวจบ พลลาดตระเวนจึงสั่งให้ชายผู้นั้นนำทางไป โดยมีกลุ่มฝูงชนและผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเดินตามมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ผู้ชายผู้นั้นเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกจึงรีบเดินไปที่ร้าน

เมื่อประตูร้านตระกูลซูถูกเปิดออก ซูหวานหว่านก็มองซ้ายมองขวา นางมองสำรวจภายในและก็พบน้ำศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก หญิงสาวหยิบมาขวดหนึ่งและเปิดฝาออกดู พบว่าน้ำภายในขวดมีสีเหลือง เมื่อลองดมดูแล้วจึงตัดสินใจได้ว่ามันคืออะไร ส่วนผสมนี้ได้สกัดมาจากดอกไม้ป่าบนภูเขาและน้ำสีขาว

ซูหวานหว่านตกตกตะลึง น้ำเหล่านี้ถูกปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกหญิงสาวเหล่านี้งั้นหรือ? พวกนางจะรักสวยรักงามเกินไปแล้ว! หญิงสาวส่ายหัวก่อนจะถอนหายใจ พลันใดชายคนนั้นก็เดินเข้ามาเอ่ยถามว่า “คุณหนู… พวกเราจะจ่ายค่าชดใช้พวกเขาอย่างไรดีขอรับ? ทุกคนต่างมารอกันที่นี่หมดแล้ว”

เหตุใดชายคนนี้ถึงจะต้องเร่งนางขนาดนี้? คิดว่านางจะตกหลุมพรางของเขาอย่างงั้นหรือ!

ซูหวานหว่านยิ้มและเอ่ยออกมาอย่างเรียบนิ่งว่า “หากนี่เป็นของข้า ข้าจะจ่ายเงินชดเชยให้”

เด็กสาวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางสงบ แล้วเอ่ยว่า “ข้าจะถามเจ้าอีกหน ร้านนี้เป็นของข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่?”

“แน่นอนว่ามันเป็นของท่าน!” ชายคนนั้นจ้องมองซูหวานหว่านและนำสัญญาข้อตกลงระหว่างซูหวานหว่านและใครบางคนออกมา

หลักฐานนี้ถูกปลอมแปลงขึ้นมา ทำให้ร่างกายของซูหวานหว่านชาวูบ! ดูเหมือนคนที่ทำมันขึ้นมาจะรู้ว่านางจะมาที่นี่และเตรียมหลักฐานนี้เอาไว้จัดการนางโดยเฉพาะ ซูหวานหว่านลุกขึ้นยืนและเขวี้ยงขวดยาขนาดเล็กลงบนพื้นจนแตกกระจาย

ทุกคนไม่เข้าใจความหมายของซูหวานหว่าน เด็กสาวจึงกล่าวว่า “ในเมื่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวการที่ทำร้ายพวกเจ้า มาสิ มาทุบมันทิ้งให้หมด พวกเจ้าดูของที่อยู่บนชั้นมากมายนั่น หากเป็นของมีค่าก็หยิบมันไปได้เลย! เอาไปได้ทุกอย่าง!”

เมื่อชาวบ้านได้ยินเช่นนั้นก็พากันคว้าของเอาออกไปโดยไม่ลังเล แถมยังย้ายเก้าอี้ออกไปด้วย!

นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดมันไม่เหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้!

ชายคนนั้นตกตะลึง เขาร้องโวยวายออกมาด้วยความโกรธ “พวกเจ้าห้ามเอามันไปนะ! เถ้าแก่ของพวกเรายังไม่อนุญาตให้พวกเจ้าเอามันไป!”

“ซูหวานหว่านเป็นเจ้าของไม่ใช่หรือ? และนางก็ยืนอยู่ที่นี่แล้ว จะมาฟังเถ้าแก่อะไรของเจ้าอีก!”

“ใช่แล้ว! เจ้าเด็กนี่จะมายืนเกะกะทำไมกัน! หลีกทางให้พวกข้าเดี๋ยวนี้ ถอยไปให้พ้น!”

“…”

ชายคนนั้นอยากจะร้องไห้ออกมา เขาจ้องมองซูหวานหว่าน ซึ่งหญิงสาวก็ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ชายคนนั้นคิดว่าตัวเองน่าสงสารมากงั้นรึ! รอดูหน่อยสิว่าเขาจะแก้ไขสถานการณ์เช่นไร!

เถ้าแก่ต้องไล่เขาออกแน่!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็โพล่งออกมา “พวกเจ้าหยุดทุบได้แล้ว! อย่าเอามันไป! อย่าฟังคำพูดของซูหวานหว่าน นี่ไม่ใช่ร้านของนาง!”

พูดออกมาแล้ว เขาเผลอพูดมันออกมาแล้ว!

เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนั้น ก็แสดงว่าเขายอมรับแล้วไม่ใช่หรือว่าซูหวานหว่านไม่ใช่เจ้าของร้าน?

ชายคนนั้นตกใจและตบตัวเองด้วยความโกรธทันที!

ครั้นเห็นว่าไม่มีใครสนใจเขา ชายหนุ่มจึงหยิบของและเตรียมหนี พวกชาวบ้านรู้แล้วว่าตนเองไม่ใช่ลูกน้องของซูหวานหว่าน เขาต้องรีบหนี แต่ถูกพลลาดตระเวนเข้ามาขวางทางเอาไว้เสียก่อน “โปรดให้ความร่วมมือกับพวกเรา และไปให้ปากคำที่ว่าการด้วย”

เมื่อเห็นท่าจะไม่ดีแล้ว เขาก็ผลักพลลาดตระเวนและวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว!

พวกเขากำลังจะไล่ตามออกไป แต่ทว่าถูกซูหวานหว่านห้ามเอาไว้เสียก่อนและไล่ตามชายคนนั้นไปอย่างเงียบ ๆ

นางต้องการให้ชายคนนั้นรู้ถึงคำว่า หวงเชว่ซ่ายโฮ่ว[1] ที่แท้จริง!

และนางจะต้องรู้ให้ได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังใเรื่องนี้เป็นใครกันแน่!

[1] 黄雀在后 อ่านว่า หวง เชว่ ซ่าย โฮ่ว เป็นคำพังเพยเปรียบเทียบมีความหมายว่า มองเห็นแต่สิ่งที่จะได้อยู่ข้างหน้า แต่หารู้ไม่ว่ายังมีภัยมหันต์กำลังจะตามมา