บทที่ 351 ออกมา

บทที่ 351 ออกมา

“ทำไมคนของกิลด์มิดซัมเมอร์ถึงไม่กลับมาจัดทัพล่ะ?”

ในที่ราบกว้างใหญ่ ผู้คนนับล้านได้ล้อมฐานที่ตั้งของกิลด์มิดซัมเมอร์ ตอนนี้เหลืออีกครึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนเริ่มสงครามกิลด์ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้กองกำลังหลักของกิลด์แอนติควิตี้และผู้ชมแปลกใจคือ กิลด์มิดซัมเมอร์ไม่ได้จัดกองทัพทั้งที่มันใกล้จะเริ่มสงครามมากแล้ว!

พวกเขาอวดดีเกินไปหรือเปล่า?

ท้ายที่สุดแล้ว ฝ่ายบุกก็ไม่ใช่กิลด์เล็ก ๆ ธรรมดา ๆ ไม่เพียงแต่เป็นมหาอำนาจเท่านั้น แต่ยังเป็นกิลด์แอนติควิตี้ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการบุกทะลวง แม้ว่าฐานที่ตั้งของกิลด์มิดซัมเมอร์จะมีเลเวล 10 ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานที่เลเวลสูงที่สุดในเขตฮัวเซีย แต่ก็ยังอยู่ในระดับเมืองเล็ก ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสกัดกั้นการบุกทะลวงของกิลด์แอนติควิตี้ และมันจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อจัดแนวป้องกันนอกฐานที่ตั้งเท่านั้น

จำนวนสมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์นั้นมากกว่าล้านคนแล้ว หากพวกเขาต้องการจัดทัพให้ทันเวลา พวกเขาก็จัดให้ทันภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก่อนเริ่มสงครามไม่ได้ ดังนั้นทั้งกิลด์แอนติควิตี้ที่เป็นฝ่ายรุกและกองกำลังอื่น ๆ ที่มาชมการต่อสู้จึงสับสน

กิลด์มิดซัมเมอร์กำลังทำอะไร? เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าไม่สามารถหยุดการบุกทะลวงของกิลด์แอนติควิตี้ได้งั้นหรือ? พวกเขาจัดทัพไว้ในฐานและวางแผนที่ปกป้องห้องโถงฐานงั้นเหรอ?

แม้ว่าวิธีนี้จะสามารถขัดขวางทีมผู้เล่นระดับสูงของกิลด์แอนติควิตี้ได้บ้าง แต่สำหรับการต่อสู้โดยรวม มันไม่สามารถถอยแนวป้องกันได้ มันก็เลยเป็นวิธีที่งี่เง่า กิลด์มิดซัมเมอร์จะไม่ใช้วิธีนี้หรอกใช่ไหม?

“อะไรนะ! ห้องโถงฐานที่ตั้งกิลด์มิดซัมเมอร์ไม่ได้อยู่ในที่ราบกว้างใหญ่งั้นเหรอ?”

“นายว่าไงนะ? แน่ใจเหรอ? กิลด์มิดซัมเมอร์ย้ายที่ตั้งไปแล้ว?”

ทว่าในขณะนี้ กิลด์แอนติควิตี้ รวมถึงกองกำลังทั้งหมดที่เข้ามาดูสงครามระดับเจ้าผู้ครอง ก็ได้ข่าวที่น่าประหลาดใจพร้อมกัน

แหล่งข่าวมาจากสายลับของพวกเขาในกิลด์มิดซัมเมอร์ แต่เนื้อหาของข่าวทำให้พวกเขาตกใจและทำให้พูดไม่ออก

กิลด์มิดซัมเมอร์รวบรวมสมาชิกในช่องแชตกิลด์ แต่สถานที่ชุมนุมไม่ใช่ที่ฐานที่ตั้งกิลด์บนที่ราบกว้างใหญ่ แต่ให้พวกเขาทั้งหมดเทเลพอร์ตไปยังจุดเทเลพอร์ตที่ชื่อว่าเมืองแห่งความโศกเศร้า และอธิบายว่าห้องโถงของฐานที่ตั้งกิลด์ได้ย้ายไปอยู่ที่นั่นแล้ว

เรื่องนี้ทำให้กองกำลังทั้งหมดในเขตฮัวเซียตกตะลึง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กิลด์มิดซัมเมอร์ได้ย้ายฐานและละทิ้งฐานที่ตั้งที่พัฒนามาตั้งแต่เริ่มต้นกัน?

ทว่าข่าวที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากกว่านั้นกลับเป็นข่าวหลัง

“ว่าไงนะ? พูดอีกทีซิ! เมืองแห่งความโศกเศร้านั้นเป็นเมืองหลักระดับสองงั้นเหรอ? แน่ใจนะ?”

“อะไรนะ! กิลด์มิดซัมเมอร์ได้เมืองหลักงั้นเหรอ? ห้องโถงกิลด์ถูกย้ายไปที่นั่นแล้วงั้นเหรอ?”

“ใหญ่กว่าเมืองหลักของระบบด้วย? เมืองหลักของระบบคือเมืองหลักระดับสาม! แน่ใจนะว่าใหญ่กว่าเมืองหลักของระบบน่ะ? มันเป็นเมืองหลักระดับสองไม่ใช่หรือไง?”

“เดี๋ยวนะ! เมืองแห่งความโศกเศร้า? ทำไมชื่อนี้คุ้น ๆ จัง?”

“ส่งพิกัดมา!”

ในขณะนี้ ทั่วทั้งเขตฮัวเซีย ผู้เล่นระดับสูงทุกคนดูเคร่งเครียด หลังจากได้รับพิกัดแล้วพวกเขาก็รีบไปในทันที

โดยเฉพาะกิลด์แอนติควิตี้ หวงฟู ตงไลนั้นหน้าเสียเพราะว่าถูกหลอก เขามองไปยังฐานที่ตั้งกิลด์ตรงหน้าตัวเองอย่างเย็นชา จากนั้นจึงสั่งการกับสมาชิกหลายล้านคน จากนั้นก็หายตัวไปท่ามกลางแสงของคัมภีร์เทเลพอร์ตกลับเมือง และรีบไปที่ปลายทางอีกครั้ง

เขาได้รับแจ้งจากระบบว่าพิกัดแผนที่ของเป้าหมายในการประกาศสงครามนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่เลย ฐานที่ตั้งกิลด์ตรงหน้าของเขาไม่สามารถโจมตีได้เพราะมันไร้ประโยชน์

และเมื่อผู้คนจากทั้งหมดเดินเข้าไปในแดนทมิฬ พวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมคุ้นชื่อเมืองแห่งความโศกเศร้า!

นี่คือสถานที่ของภารกิจสงครามครั้งแรกไม่ใช่เหรอ! ไม่มีกิลด์ใหญ่ไหนที่พลาดภารกิจสงคราม! พวกเขาจะไม่คุ้นเคยกับที่นี่ได้อย่างไร!

เพราะเมืองหลักนี้ถูกพวกเขาโจมตีมาด้วยกัน! มีกองกำลังขนาดใหญ่จำนวนมากที่คิดจะยึดเมืองหลักแห่งนี้ รวมทั้งกิลด์ไดนัสตี้ด้วย อย่างไรก็ตาม นี่ก็เป็นเมืองหลักระดับสองที่ใหญ่กว่าเมืองหลักระดับสามทั่วไปของระบบ! เล็กกว่าเมืองหลักระดับหนึ่งอย่างเมืองหลวงเท่านั้น! ไม่มีใครสามารถทนต่อความล่อตาล่อใจของมันได้!

อย่างไรก็ตาม ในตอนแรกพวกเขาก็ได้แค่คิด ท้ายที่สุด มันก็เวอร์เกินไปที่จะดึงเมืองหลักขนาดใหญ่เช่นนี้ออกจากระบบ

แต่ตอนนี้พวกเขาได้รู้ว่าเมืองแห่งความโศกเศร้าแห่งนี้ได้ถูกกิลด์มิดซัมเมอร์ครอบครองและกลายเป็นฐานที่ตั้งของกิลด์มิดซัมเมอร์แล้ว!

พวกเขาจะไม่ตกใจได้อย่างไร?

กิลด์มิดซัมเมอร์ทำอย่างไรเพื่อให้ได้เมืองหลักระดับสองที่ใหญ่โตเช่นนี้มา! หากจะตีราคาให้เมืองหลักแห่งนี้ ก็จะมีคนซื้อต่อในราคาสูงเสียดฟ้าถึงหลายแสนล้านเลยทีเดียว!

ในบรรดาคนเหล่านี้ ก็มีผู้คนมากมายที่ความคิดยืดหยุ่นและคาดเดาอะไรบางอย่างได้คร่าว ๆ เพราะในภารกิจสงคราม ผู้บัญชาการของ NPC คือเจ้าแห่งฮีลเลอร์!

ผู้เล่นธรรมดาที่เข้าร่วมภารกิจจะได้รับรางวัลจากคะแนนความสำเร็จเท่านั้น แล้วเจ้าแห่งฮีลเลอร์ที่เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดล่ะ?

ไม่ต้องพูดเลย! เมืองแห่งความโศกเศร้าแห่งนี้จะต้องเป็นของเจ้าแห่งฮีลเลอร์อย่างแน่นอน!

และมีข่าวลือว่ากิลด์มิดซัมเมอร์และเจ้าแห่งฮีลเลอร์มีความสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ และตอนนี้มันก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง!

“หัวหน้ากิลด์! มานี่หน่อย! พิกัด แดนทมิฬ…”

“หัวหน้า! ตอนนี้คุณออนไลน์อยู่หรือเปล่า?”

“หัวหน้า ตอนนี้คุณสะดวกไหม?”

บางคนเป็นเพียงหัวหน้าระดับสูงของกิลด์ ไม่ใช่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ ดังนั้นในขณะนี้ พวกเขาจึงทำการติดต่อหัวหน้าของพวกเขา เนื่องจากสถานการณ์ในเมืองแห่งความโศกเศร้าอยู่เหนือการควบคุมของพวกเขา

ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาทั้งหมดทำได้ก็มีเพียงแจ้งผู้นำระดับสูงสุดที่อยู่เบื้องหลังกองกำลังของตนเท่านั้น

ในไม่ช้า ผู้เล่นกลุ่มเล็ก ๆ อีกกลุ่มหนึ่งก็เข้าสู่แดนทมิฬ และเข้าใกล้เมืองแห่งความโศกเศร้า

ในหมู่พวกเขามีคราวน์ปรินซ์ที่เนียนกับกลุ่มคนมาด้วย เขามองไปที่เงาขนาดมหึมาของเมืองแห่งความโศกเศร้า ซึ่งดูเหมือนสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ แล้วก็ครุ่นคิด

“หัวหน้ากิลด์…”

ก่อนที่คราวน์ปรินซ์จะมา คนที่มาดูสงครามให้กิลด์ไดนัสตี้คือรองหัวหน้ากิลด์ไดนัสตี้ ซอดออฟไดนัสตี้ ในเวลานี้เขามองด้วยสายตาระมัดระวังอยู่หลังคราวน์ปรินซ์และกล่าว

“สักวันหนึ่ง ฐานที่ตั้งกิลด์ไดนาสตี้ในโลกนี้จะยิ่งใหญ่และงดงามเช่นกัน”

คราวน์ปรินซ์ไม่หันกลับมา เพียงกล่าวบางอย่างเบา ๆ แต่ซอดออฟไดนัสตี้รู้สึกถึงความอิจฉาเล็กน้อยในคำพูดของเขา อย่างไรก็ตาม ตัวเองก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไป

“ไปกันเถอะ ไม่ต้องดูแล้ว กิลด์แอนติควิตี้ไม่สามารถทำลายเมืองหลักนี้ได้ และพวกเขาก็กำลังเจอปัญหาอีกครั้ง”

จากนั้นคราวน์ปรินซ์ก็ส่ายหัวและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หากเมืองหลักที่เขาชื่นชมสามารถนำมาใช้เป็นอุปสรรคต่อกิลด์แอนติควิตี้ได้ เขาก็ยินดีที่จะได้เห็นมัน

“แต่ว่า เจ้าแห่งฮีลเลอร์หายตัวไป ผู้เล่นระดับสูงของกิลด์แอนติควิตี้เหล่านั้นนับว่าไร้เทียมทานที่สุดในเขตฮัวเซียแล้ว แม้แต่เมืองหลักก็คงไม่สามารถหยุดพวกเขาได้หรอกใช่ไหม?” ซอดออฟไดนัสตี้ลังเล

“ถ้าเป็นเมืองหลักระดับสาม พวกเขาอาจจะยังมีโอกาส แต่เมืองหลักระดับสอง… นายคิดว่ากิลด์มิดซัมเมอร์พัฒนาตัวเองอย่างลับ ๆ มานานแค่ไหนแล้ว? ด้วยทรัพยากรทางการเงินที่สนับสนุนโดยร้านค้ามหาสมบัติแล้ว หากกิลด์แอนติควิตี้ต้องการบุกเข้าไปในเมืองหลักแห่งนี้ เทพดาบต้องมีเซ็ตอาร์ติแฟกต์ แต่คนล่าบอสระดับเทพเจ้าทั่วโลกทุกวันแต่จนถึงตอนนี้ก็ได้อาร์ติแฟกต์มาเพียงชิ้นเดียว” คราวน์ปรินซ์ส่ายหัว

“นั่นสินะครับ”

“ยังไงก็ตาม การสืบเรื่องการหายตัวไปของเจ้าแห่งฮีลเลอร์เป็นไงบ้างล่ะ?” คราวน์ปรินซ์ถามทันที

“ผมแค่ตรวจสอบได้ว่าจางเสี่ยวหยูแห่งตระกูลจางไปที่เมืองเฉิงไห่ จากนั้นก็ไม่รู้ข่าวคราวอะไรอีกเลย” ซอดออฟไดนัสตี้ขมวดคิ้ว อย่างลังเล “ด้วยวิธีการของตระกูลจาง มันง่ายที่จะฆ่าใครสักคน บางทีเจ้าแห่งฮีลเลอร์อาจจะ…”

“แม้ว่าฉันจะไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าแห่งฮีลเลอร์ แต่แน่นอนว่าความแข็งแกร่งของเขาต้องไม่ธรรมดา และเขาไม่น่าจะถูกฆ่าง่าย ๆ เช่นนั้น” คราวน์ปรินซ์กล่าว

“แต่…ตามแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ จางเสี่ยวหยูไม่ได้เดินทางไปเมืองเฉิงไห่เพียงลำพัง แต่พาทาสดาบของตระกูลจางไปด้วย” ซอดออฟไดนัสตี้กล่าวเสริม

“ทาสดาบของตระกูลจาง…” หลังจากได้ยินคำนี้ คราวน์ปรินซ์ก็เริ่มเคร่งขรึมในทันทีและเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดอีกครั้ง

“คอยดูไว้ก็แล้วกัน”

“ครับ!”

ในแดนทมิฬ นอกเมืองแห่งความโศกเศร้าที่กว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุด กองกำลังของทุกฝ่ายต่างตกตะลึง และผู้เล่นของกิลด์แอนติควิตี้ก็เกิดจลาจลเช่นกัน

แม้ว่าพวกเขาจะมีผู้เล่นนับล้าน ซึ่งดูเหมือนจะไร้ขอบเขต แต่หลังจากเข้าแถวเป็นวงกลมแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอที่จะล้อมรอบเมืองแห่งความโศกเศร้า!

คุณต้องรู้ว่าภารกิจสนามรบแต่เดิมนั้นลงทุนให้ผู้เล่นหลายล้านคนมาตีเมืองแห่งความโศกเศร้า นอกจากนี้ NPC ขั้นสูงยังเป็นกำลังหลักของการโจมตีด้วย ส่วนผู้เล่นก็แค่ให้ความร่วมมือกับการโจมตี

สมาชิกกิลด์ก่อจลาจล เมื่อมองดูกำแพงเมืองหลักซึ่งมีความสูงมากกว่าสามสิบเมตรและเสาที่ใหญ่ราวกับงาช้าง พวกเขารู้สึกทำอะไรไม่ถูก

หวงฟู ตงไลและคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นผู้นำระดับสูงพากันเปลี่ยนสีหน้าของพวกเขาและดูมืดมน

“ผมถามสมาชิกกิลด์ที่เคยเข้าร่วมการโจมตีเมืองหลักนี้มาก่อนแล้ว ความทนทานของประตูคือ 20,000,000 หน่วย และป้อมปราการก็มีความทนทานแยกต่างหาก มันมีความทนทานรวมกันกว่าร้อยล้านหน่วย เราจะพังมันได้หรือเปล่า?”

มู่หรงหยุนกลับมาจากด้านหลังและถามหวงฟู ตงไลอย่างไม่มั่นใจ พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมในภารกิจสนามรบนี้ แต่อดีตสมาชิกกิลด์กลอรี่ที่อยู่ในกิลด์มีประสบการณ์

“ไม่ว่าเราจะทำได้หรือไม่ เราก็ต้องสู้!” หวงฟู ตงไลกล่าวอย่างเย็นชา

“มุ่งไปที่การโจมตีทางเดียวและพยายามทะลวงประตูให้ได้” สีหน้าของซีเหมินชุยเสวียก็ดูเคร่งเครียดเช่นกัน

ในขณะนี้ การประกาศทั่วภูมิภาคถึงการเริ่มสงครามกิลด์ได้ดังขึ้นแล้ว แต่กิลด์แอนติควิตี้ยังไม่ได้เริ่มโจมตี กลับกัน กิลด์มิดซัมเมอร์ก็ไม่ต้องออกจากเมือง ป้อมปราการกว้างใหญ่นี้สามารถรองรับสมาชิกกิลด์ทุกคนให้ยืนบนนั้นได้

ในขณะเดียวกัน หลังจากการประกาศการเริ่มสงครามกิลด์ สมาชิกทั้งหมดของกิลด์มิดซัมเมอร์บนกำแพงเมืองก็ปกคลุมไปด้วยแสงหลายชั้น

ในทำนองเดียวกัน กองกำลังทุกฝ่ายได้รู้ข่าวที่น่าอัศจรรย์มากยิ่งกว่าผ่านสายลับของพวกเขาเอง

“อะไรนะ! หอคอยนักรบ? ในสงครามกิลด์ พลังป้องกันของนักรบทั้งหมดในกิลด์มิดซัมเมอร์จะเพิ่มขึ้น 10%?”

“แล้วมีหอคอยเวทมนตร์ด้วยเหรอ? พลังโจมตีของนักเวททั้งหมดเพิ่มขึ้น 10%?”

“มีหอสังเกตการณ์ด้วย! ระยะยิงของนักธนูทั้งหมดเพิ่มขึ้น 50%!”

“โอ้พระเจ้า! มีวิหารแห่งแสงระดับสองในเมืองหลักแห่งนี้ด้วย! โทษจากการตายของสมาชิกกิลด์มิดซัมเมอร์จะลดลงครึ่งหนึ่ง! และเสียค่าประสบการณ์เพียง 10% เท่านั้น!”

“เวรล่ะ…ถ้าฉันจำไม่ผิด เมืองหลักนี้น่าจะมีปืนใหญ่ผลึกปีศาจด้วยนี่?”

“จบแล้ว! ด้วยเมืองหลักนี้ กิลด์มิดซัมเมอร์จะไม่มีทางถูกทะลวงได้! กิลด์แอนติควิตี้จะสามารถทำลายประตูเมืองในเวลาสงครามกิลด์ 12 ชั่วโมงได้เหรอ?”

“ฉันคิดว่ากิลด์แอนติควิตี้น่าจะแพ้ อย่างที่คาดไว้ กิลด์มิดซัมเมอร์จะต้องไม่ง่ายอย่างที่เราเห็นแน่ เพราะมันสามารถอยู่ในอันดับที่สองในรายชื่อกิลด์ได้นานขนาดนี้ มันมีไพ่ตายลับไว้ขนาดนั้นจริง ๆ! ใครจะสามารถทำลายเมืองหลักนี้ในตอนนี้ได้?”

“มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นหรอก เจ้าแห่งฮีลเลอร์หายตัวไปนาน เทพดาบก็ค่อย ๆ กลายเป็นอันดับหนึ่งของเขตฮัวเซีย ความแข็งแกร่งส่วนผู้เล่นของเขานั้นก็สูงที่สุดในเขตอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เขาได้รับอาวุธระดับอาร์ติแฟกต์มาเมื่อวานนี้ บางทีพลังของเขาอาจทำลายเมืองได้!”