ซูฉิงไปที่ห้องของท่านผู้เฒ่าฮ่อก่อนจะเคาะประตู
“คุณซู” พ่อบ้านหลี่เปิดประตูห้องและพูดด้วยความเคารพ
ซูฉิงก้าวไปข้างหน้าและเดินไปที่เตียง “คุณปู่ฮ่อคะ วันนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ?”
“ดีขึ้นมากแล้วล่ะ” ท่านผู้เฒ่าฮ่อที่เห็นซูฉิง ใบหน้าก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม
ซูฉิงจับชีพจรของท่านผู้เฒ่าฮ่ออีกครั้ง และพบว่าชีพจรของเขาคงที่มากขึ้นก็อดดีใจไม่ได้
“คุณปู่ฮ่อคะ อีกไม่กี่วันก็ฟื้นตัวและออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะค่ะ” ซูฉิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ท่านผู้เฒ่าฮ่อยกยิ้มมุมปาก “เยี่ยมไปเลย!”
ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นได้ “จริงสิ เธอกับหยุนเฉิงทำอะไรน่ะ? ทำไมในเน็ตถึงมีรายงานบิดเบือนถึงเธอมากมายขนาดนั้น แล้วก็ถังรั่วอิงด้วย เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“คุณปู่ฮ่อไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ แค่เรื่องเล็กน้อยน่ะค่ะ” ซูฉิงกล่าวเสียงเบา
ท่านผู้เฒ่าฮ่อพยักหน้า ในเมื่อซูฉิงพูดอย่างนั้น เขาเองก็ไม่คิดจะถามอะไรมาก
เพราะยังไงเขาก็เชื่อในความรู้สึกของหลานชายที่มีต่อซูฉิง
ส่วนถังรั่วอิงคนนั้น…
ท่านผู้เฒ่าฮ่อไม่ชอบเธอเลย และเขาเชื่อว่าหลานชายของเขาสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ดี
“คุณปู่ฮ่อ พรุ่งนี้ฉันจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ” ซูฉิงยืนขึ้นและกำลังจะจากไป ทว่าจู่ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
ซูฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นยวี๋น่าที่โทรมา
“ยวี๋น่า โทรมามีอะไรหรือเปล่า?” ซูฉิงรับโทรศัพท์
น้ำเสียงของยวี๋น่าผิดหวังมาก “ซูฉิง ฉันอกหักแล้วล่ะ”
“อะไรนะ?” ซูฉิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
ตอนบ่ายยวี๋น่าไปที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์เพื่อหาเธอยังอยู่ดีอยู่เลย ทำไมจู่ๆ ถึงอกหักล่ะ?
“อู๋เทียนโห้วขอเลิกกับฉันแล้ว ซูฉิง ฉันเสียใจมากเลย” ยวี๋น่าพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้องไห้
หัวใจของซูฉิงบีบตีวแน่น “ยวี๋น่า เธออยู่ที่ไหนน่ะ?”
“ฉันอยู่ที่บาร์” เสียงของยวี๋น่าดังมาจากปลายสาย
“ฉันจะไปหา เธอรอฉันหน่อยนะ” ซูฉิงออกปากสั่ง ก่อนจะวางสายแล้วรีบไปที่บาร์
ชาร์มบาร์ ยวี๋น่านั่งอยู่ตรงบาร์ และรินเหล้าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อกี้เธอได้รับสายโทรศัพท์จากอู๋เทียนเหอ
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เสียงของอู๋เทียนเหอไม่ได้สั่นคลอน ฟังดูไม่คุ้นเคยเลย “ยวี๋น่า เราเลิกกันเถอะ!”
เลิก?
ยวี๋น่าไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจึงเงียบไปครู่หนึ่ง และถามกลับ “นายว่ายังไงนะ?”
“เราเลิกกันเถอะ” อู๋เทียนเหอพูดซ้ำอีกครั้ง
“ทำไมล่ะ?” หัวใจของยวี๋น่าตกตะลึงในทันที
อู๋เทียนเหอกล่าวอย่างเย็นชา “เราไม่เหมาะสมกัน”
“ไม่เหมาะสม? ทำไมถึงไม่เหมาะล่ะ” ยวี๋น่าถาม
“ไม่มีเหตุผล” เสียงของอู๋เทียนเหอเริ่มไม่แยแสมากขึ้นเรื่อยๆ
“นายอยู่ไหน? ฉันจะไปหา มีอะไรมาคุยกันต่อหน้าเถอะ” ยวี๋น่าไม่เชื่อว่าอู๋เทียนเหอจะเลิกกับเธอจริงๆ ต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่
“อย่ามาหาฉัน ฉันจะไม่ไปเจอเธอ!” อู๋เทียนเหอพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันรักผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว”
หลังจากพูดจบ อู๋เทียนเหอก็วางสายไป
เมื่อได้ยินเสียงตัดสาย ใจยวี๋น่าเหมือนถูกมีดกรีด
เธอไม่อยากเชื่อเลย คบกันมาตั้ง 5 ปี เขาจะมาบอกเลิกเธอทางโทรศัพท์เนี่ยนะ?
รักผู้หญิงคนอื่น?
เป็นไปได้ยังไง?
เขาเคยบอกว่ารักเดียวในชีวิตนี้คือเธอ ยวี๋น่า
เหตุการณ์ในอดีตไหลเข้าหัวเหมือนคลื่นยักษ์
อู๋เทียนเหอคือรุ่นพี่ของเธอ สูงและหล่อเหลาทั้งยังมีผลการเรียนและความสามารถที่ดี
พวกเขาพบกันในงานโต้วาที และแม้ว่ายวี๋น่าจะแพ้ให้กับอู๋เทียนเหอ แต่ในตอนนั้นเองที่เธอก็สนใจรุ่นพี่ที่มีความสามารถคนนี้ตั้งแต่นั้นมา
เป็นเธอที่ตามจีบอู๋เทียนเหอ
ในตอนแรก อู๋เทียนเหอมักจะเฉยเมยต่อเธอและเมินเฉยต่อความรู้สึกเธอด้วย
แต่ยวี๋น่าไม่ยอมแพ้และก็คอยสร้างโอกาสที่จะเจออู่เทียนเหอต่อเนื่องหลายโอกาส
เธอไม่เคยคิดว่าเธอซึ่งเป็นเด็กดีมาตลอด จะชอบผู้ชายคนนี้อย่างบ้าคลั่งแถมยังไล่จีบเขาอย่างเอาเป็นเอาตายด้วย
จนในที่สุดวันหนึ่ง อู๋เทียนเหอก็พูดกับเธออย่างจริงจัง “ยวี๋น่า ฉันยอมรับที่เธอจีบฉันแล้ว เป็นแฟนฉันเถอะนะ!”
ความสุขเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนยวี๋น่าเหมือนอยู่ในความฝัน
ตั้งแต่นั้นมา ทั้งสองก็เริ่มจึงได้เริ่มต้นความรักที่สวยงามนี้
จนกระทั่งก่อนสำเร็จการศึกษา ยวี๋น่าพาอู๋เทียนเหอกลับบ้าน แต่ความสัมพันธ์นี้กลับถูกพ่อแม่เธอคัดค้าน
เหตุผลก็คือครอบครัวของอู๋เทียนเหอนั้นยากจนและไม่คู่ควรกับยวี๋น่า
สิ่งนี้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่ออู๋เทียนเหอ จนเขาหนีไปรับการสอนบนภูเขา
ส่วนยวี๋น่า เธอไปฝรั่งเศสเพื่อศึกษาต่อ
หลังจากกลับบ้านเกิดหลายครั้ง ยวี๋น่าก็อยากไปหาอู๋เทียนเหอ แต่อีกคนปฏิเสธที่และไม่บอกเธอเลยว่าเขาอยู่ที่ไหน
เขาเลี่ยงเธอและไม่ยอมเจอเธอเลย
จนถึงวันนี้ก็มาขอเลิกกับเธอ
ยวี๋น่าที่อกหักตะโกนใส่พนักงานเสิร์ฟ “เอาเหล้ามาเพิ่มอีกหน่อยค่ะ!”
ไม่นาน ยวี๋น่าก็มึนจนการมองเห็นเริ่มเบลอ
ผู้ชายที่ย้อมผมทองนั่งอยู่ข้างๆ ยวี๋น่าเห็นว่าเธอเมาแล้ว จึงเอามือแตะเอวเธอแล้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “คนสวย ทำไมถึงดื่มคนเดียวล่ะครับ? ผมอยู่เป็นเพื่อนดีกว่านะ!”
“ไปให้พ้น!” ยวี๋น่ผลักชายคนนั้นออกไปด้วยสติที่เหลืออยู่
ชายคนนั้นยิ้มอย่างลามก “ออกมาแล้วยังจะเสแสร้งทำไมอีกล่ะครับ? ไปกับผมเถอะ รับรองว่าคืนนี้ผมจะทำให้มีความสุขเอง”
พูดจบชายคนนั้นจึงยืนขึ้นและดึงยวี๋น่าให้ลุกขึ้นด้วย
ยวี๋น่าเมามากจนตัวโงนเงนก่อนจะตกลงไปบนกายของชายคนนั้น
“ดูท่าคืนนี้จะสนุกสุดเหวี่ยงไปเลย” ชายคนนั้นหรี่ตาจ้องไปที่หน้าอกของยวี๋น่าก่อนจะกลืนน้ำลาย
เขาประคองยวี๋น่าและเดินไปที่ประตูบาร์
หลินหนานและเพื่อนสองสามคนมาเที่ยวบาร์ ทันทีที่เขาเดินเข้าประตูก็ชนเข้ากับชายคนหนึ่งเข้าเต็มเปา
“ไอ้นี่ เดินยังไงไม่ดูตาม้าตาเรือ” ชายคนนั้นก่นด่า
หลินหนานขมวดคิ้ว และทันใดนั้นก็เห็นว่าผู้หญิงในอ้อมแขนของผู้ชายดูช่างดูคุ้นตา
เขาเข้าไปมองใกล้ๆ ก่อนจะพูดด้วยความประหลาดใจ “พี่น่า?”
แต่ยวี๋น่ากลับไม่ตอบรับ
หลินหนานเข้าใจทันทีว่ายวี๋น่าเมาและชายผู้นี้มีเจตนาไม่ดีจะพาตัวยวี๋น่าไป
“ปล่อยเธอนะ!” หลินหนานพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“อย่ามายุ่ง!” ชายคนนั้นจ้องไปที่หลินหนานอย่างดุเดือดและเดินจากไปพร้อมกับประคองยวี๋น่าไปด้วย
หลินหนานก้าวขายาวไปขวางเขา “ฉันบอกให้ปล่อยเธอ ไม่ได้ยินเหรอ?”
เพื่อนของหลินหนานหลายคนก็รวมตัวกัน “ถ้ายังไม่ปล่อย เราจะแจ้งตำรวจ!”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคนเยอะ ผู้ชายที่ก่นด่าก็ผลัยวี๋น่าเข้าไปในอ้อมแขนของหลินหนาน “เอาไปเลย!”
หลินหนานรีบจับยวี๋น่าไว้ก่อนจะก้มมอง “พี่น่า พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ยวี๋น่าที่อยู่ในความมึนงงก็ได้ยินคนเรียกเธอ
เธอพยายามลืมตา และสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือใบหน้าที่ขาวซีดค่อนข้างคุ้นตา
เธออ้าปาก แต่คอของเธอแห้งมากจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ
“พี่น่า พี่เป็นอะไรหรือเปล่า?” หลินหนานถามด้วยความเป็นห่วง “ทำไมพี่ถึงเมาขนาดนี้ล่ะ?”