ตอนที่243 เอาทุกอย่างกลับคืนมา

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล]

ตอนที่243 เอาทุกอย่างกลับคืนมา

เวลาผ่านไอย่างรวดเร็วก็ครบสิบนาที จางต้าเฉิงลุกขึ้นและกล่าวกับเหล่าพันธมิตรรอบตัวอย่างมีชัย

“คุณจาง ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!”

“ฮ่าฮ่า….ยินดีด้วยครับคุณจาง!”

“หลังจากนี้คุณจางก็อย่าลืมสหายเก่าอย่างพวกเรานะครับ”

…….

จางต้าเฉินระเบิดหัวเราะลั่นและทุบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ กล่าวรับปากทุกคนทันที

“ไมม่ต้องห่วง ฉันไม่มีวันลืมบุญคุณของพวกนายแน่นอน ทันทีที่ฉันได้รับสิทธิ์การบริหารทั้งหมดมา ฉันจะขยายส่วนผู้ถือหุ้น ทำให้มูลค่าหุ้นในมือเหรินจานซวนเจือจางไปเอง หลังจากนั้นฉันจะอนุมัติให้พวกนายทุกคนอัดฉีดเงินเข้ามาได้เต็มที่!”

“ฮ่าฮ่า…ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอขอบคุณคุณจางล่วงหน้าครับ”

“ต่อไปผมจะอุทิศตนทำงานอย่างหนักเพื่อคุณจาง”

“ด้วยความสามารถของคุณจาง บริษัทเซียนเหว่ยของเราจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกในไม่ช้า!”

……..

ได้ฟังวาจาประจบสอพอของคนพวกนี้ จางต้าเฉินแทบยิ้มกว้างฉีกถึงหูอย่างสุขอกสุขใจ

สีหน้าของผู้ถือหุ้นฝ่ายเหรินจานซวนมิดทมิฬน่าเกลียดลงทันใด เมื่อเห็นว่าผ่านไปกว่าสิบนาทีแล้วเธอยังไม่มา พวกเขาก็พลันคิดไปว่า เธอคงไม่กล้ามาแล้วจริงๆ

จางต้าเฉินจ้องนาฬิกาในมือ และป่าวประกาศเสียงดังขึ้นทันทีว่า

“เอาล่ะ นี่มันเกินกว่าสิบนาทีแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่ให้โอกาสเธอ แต่เธอไม่สนใจบริษัทเอง เอาล่ะ ถึงเวลาลงมัติกันดีกว่า ฉันขอเสนอให้ถอดถอนสิทธิ์การบริหารทั้งหมดที่มีในมือเหรินจานซวนออกไป ให้เห็นด้วยกับฉันบ้าง?”

ทันทีที่สิ้นเสียงจางต้าเฉิน เหล่าผู้คนที่ให้การสนับสนุนต่างยกมือขึ้นเห็นชอบทันที

บางคนที่อยู่ฝ่ายสนับสนุนเหรินจานซวนก็เริ่มยกมือเห็นด้วยแล้วเช่นกัน สุดท้ายนี้พวกเขาไม่ได้ศรัทธาในตัวเหรินจาซวนเท่าไหร่นัก แต่ถ้าเป็นเธอเป็นเหรินไห่อัน พวกเขาในตอนนี้คงคัดค้านจางต้าเฉินหัวชนฝาแล้วเช่นกัน

แต่ปัจจุบัน เหรินจานซวนหวาดกลัวเกินกว่าจะมาประชุมด้วยซ้ำ ดังนั้นมันถึงเวลาที่พวกเขาจำต้องเอาตัวรอดเป็นสำคัญ

อย่างน้อบบริษัทยังสามารถพัฒนาขึ้นได้หากอยู่ในมือจางต้าเฉิน มากกว่าในมือเหรินจานซวน และบริษัทแห่งนี้จำต้องเดินหน้าพัฒนาต่อไปเท่านั้น พวกเขาในฐานะผู้ถือหุ้นจึงจะได้ผลประโยชน์

ในไม่ช้า เกือบทุกคนในห้องประชุมก็ยกมือเห็นชอบที่จะถอดถอนเหรินจานซวนออกจากสิทธิ์การบริหาร ทว่าเหลือเพียงคนเดียวที่ไม่ยกมือนั่นก็ถือประธานบริษัทเซียนเหว่ยคนปัจจุบันอย่างเฉิงต้าฉี

เฉินต้าฉีคนนี้กล่าวได้ว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของเหรินไห่อัน ในตอนนี้เหรินไห่อันแต่งตั้งให้เขาขึ้นเป็นรองประธานบริษัท บุคลิกนิสัยเป็นคนร่าเริง มองโลกในแง่ดี และซื่อสัตย์ต่อผู้มีบุญคุณอย่างยิ่ง ต่อมาหลังจากการหายตัวไปของเหรินไห่อัน เขาก็ขึ้นมานั่งแท่นประธานบริษัทแทน

เมื่อนึกถึงบุญคุณตลอดมาที่เหรินไห่อันมีให้แก่เขา เฉิงต้าฉีก็ได้สาบานกับตัวเองว่าจะไม่แปรพักไปอยู่กับจางต้าเฉินแน่นอน

ทุกคนต่างจับจ้องไปที่เฉิงต้าซีจนเป็นตาเดียว รอให้เขายกมือขึ้นมา แต่อย่างไรเสีย ทุกคนกลับต้องผิดหวัง เพราะอีกฝ่ายไม่มีท่าทีที่จะยกมือเลยสักนิด

สีหน้าของจางต้าเฉินมืดทมิฬลงทันใด เขาเอ่ยถามน้ำเสียงเย็นชาขึ้นว่า

“เฉิงต้าซีนี่มันหมายความว่ายังไง? นายแค่คนเดียวคิดจะสู้กับพวกเราทั้งหมดอย่างงั้นเหรอ? ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”

เฉิงต้าซียิ้มเยาะเอ่ยถามขึ้นสวนว่า

“ขยะอย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งประธานบริษัทอย่างฉันได้? จำใส่กะลาหัวไว้ซะ ที่ฉันยังอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะผลประโยชน์ แต่เพื่อปกป้องคุณหนูเหริน! ฉันไม่มีวันยอมให้ขยะอย่างแกมาทำร้ายคุณหนูได้!!”

จางต้าเฉินโกรธอย่างมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น ขณะที่จะลุกขึ้นด่าเฉิงต้าซี คนอื่นๆกลับออกมารับหน้าโต้เถียงแทนเขา

“เฉินต้าซี! นี่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ตอนที่คุณเหรินยังอยู่ แกก็ชอบทำตัวกรางใส่ พอตอนนี้ไม่อยู่ แกยังหน้าด้านทำตัวต่ำทรามกับพวกเราอีกงั้นเหรอ!”

“ก่อนจะทำเป็นเก่ง ช่วยดูหุ้นในมือแกด้วย! แกไม่มีคุณสมบัติมาพูดจาหมาๆแบบนี้ใส่พวกเราด้วยซ้ำไป! ที่ผ่านมา เพราะมีคุณเหลียวคอยคุ้มกะลาหัวแกอยู่ไง ทุกคนเลยยอมให้!”

“ตอนนี้คุณจางคือนายใหญ่ของเซียนเหว่ยแห่งนี้ ตำแหน่งประธานของแกก็แค่เสือกระดาษ! ถ้ายังเลี้ยงไม่เชื่องอยู่แบบนี้ พวกเราจะลงมัติให้ไล่แกออกไปซะเดี๋ยวนี้!”

…..

มุมปากของจางต้าเฉินแสยะยิ้มขึ้นทันที เขาสัมผัสได้ถึงชัยชนะอย่างสมบูรณ์แบบ ตอนนี้ทุกคนในบริษัทต่างสนับสนุนเขาทว่าเฉิงต้าซีคนนี้กลับไม่รู้เลยว่า อะไรเป็นอะไร ก็แค่ไอ้โง่คนหนึ่งที่ยังหัวรั้น

เฉินต้าซีไม่เกรงกลัวอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย กล่าวเย้ยขึ้นว่า

“พวกเราก็ลงความเห็นการอย่างยุติธรรมนะ ทำไมกลับมีสวะอย่างแกที่ยังจุ่นจ้านไม่เข้าเรื่อง? คนอย่างแกไม่มีคุณสมบัติมาพล่ามต่อหน้าฉันด้วยซ้ำ ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับแกอีกต่อไปแล้ว ไสหัวไปซะ!”

เฉิงต้าซีเค้นเสียงเย็นคำโต สวนตอบกลับไปอย่างไม่มีหวั่นเกรงเช่นกัน

“ก็แค่พวกหมาแก่ไร้ค่ารวมหัวกันโกงกินคนอื่น! ฉันเองก็ไม่อยากเกลือกกลั้วกับพวกขยะชั้นต่ำอย่างพวกแกเหมือนกัน! ระวังเถอะ สักวันกรรมจะสนองพวกแกแน่นอน!”

ทันทีที่พูดจบ เฉิงต้าซีก็ลุกขึ้นและเดินจากออกไปทันที

“เหอะ! ไอ้เวรนี่รนหาที่ตาย!”

“บ้าเอ้ย! ปล่อยมันไปเถอะ หลังจากนี้เราต้องคัดเลือกคนที่เชื่อฟังเรามาเป็นประธานแทนจริงๆแล้ว”

“ถูกต้อง ถ้าเลือกมาไม่ดี มันก็จะไม่เชื่องแบบเฉิงต้าซีนี่แหละ หรือคุณจางจะลงมาควบคุมเองไปเลย ด้วยความสามารถของคุณ จะต้องทำได้ดีกว่าไอ้ขยะนี่แน่ๆ!”

….

ถึงเบื้องหน้าจางต้าเฉินยังคงยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ภายในใจลึกๆ เขารู้สึกเกลียดเฉิงต้าซีและต้องกำจัดมันให้ได้ในอนาคต

เฉิงต้าซีจะต้องได้รับบทเรียนสั่งสอนให้เข็ดหลาบ เพื่อให้รู้ว่าอะไรควรล่วงเกิน อะไรไม่ควรล่วงเกิน

ทางด้านเฉิงต้าซี เขาเดินออกจากห้องประชุมด้วยความโกรธจัด ทันใดนั้นเองก็พลันเห็นเฮลิลอปเตอร์บินผ่านมา

เสี้ยวอึดใจหนึ่ง เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น พอหยิบออกมาดูปรากฏว่าเป็นเหรินจานซวนที่โทรมาหา

เฉิงต้าซีรีบกดรับสายทันทีและเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงว่า

“ฮาโหลครับ คุณหนูเหริน เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูกันแน่ครับ?”

เหรินจานซวนรีบตอบกลับทันที

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณเฉิงช่วยขึ้นไปดาดฟ้าเปิดประตูให้หน่อยได้ไหมค่ะ? หนูกำลังลงจอดฮอ”

เฉิงต้าซีที่ได้ยินแบบนั้นก็ตกใจอย่างมาก เขารีบเอ่ยถามกลับไปว่า

“หรือว่าคุณหนูอยู่ในฮอลำเมื่อกี้?”

“ใช่ค่ะ!”

“เยี่ยมเลยครับ! งั้นผมจะรีบขึ้นไปรับเดี๋ยวนี้เลย!”

เฉิงต้าซีรีบวางสายวิ่งขึ้นไปที่ห้องรปภ.เพื่อไปหยิบกุญแจดาดฟ้ามา และขึ้นไปเปิดรอเหรินจานซวนอย่างรวดเร็ว

เหรินจานซวนและจ้าวเฉียนลงจากเฮลิคอปเตอร์และวิ่งตรงไปหาเขาทันที

เฉิงต้าซีเร่งรายงานสถานการณ์ตที่เกิดขึ้นในห้องประชุมโดยละเอียด และเอ่ยถามเธอทิ้งท้ายไปว่า ตอนนี้พอจะคิดมาตรการณ์รับมืออะไรได้บ้างหรือไม่?

เหรินจานซวนส่ายหัวตอบ

“ไม่เลย แล้วอีกอย่างคือ ตอนนี้ฉันไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของเซียนเหว่ยอีกต่อไปแล้ว”

เฉิงต้าซีชะงักไปชั่วขณะ พลันเหลือบมองไปที่จ้าวเฉียนราวกับเข้าใจทุกอย่างได้ในทันใด

เขามองจ้าวเฉียนด้วยความประหลาดใจอยู่พักหนึ่ง เท่าที่สังเกต นอกจากความหล่อแล้ว อีกฝ่ายก็ดูจะไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรเท่าไหร่

จ้าวเฉียนยื่นมือออกไปจับทักทายอีกฝ่ายพร้อมกล่าวว่า

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมจ้าวเฉียน”

เฉิงต้าซีรีบยื่นมือออกไปจับเร่งกล่าวทักทายว่า

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเฉิงต้าซี ประธานเซียนเหว่ย…เอ่อ…หมายถึงเคยเป็นน่ะครับ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”

“ฮ่าฮ่า…คงเป็นเรื่องบากไม่ใช่น้อยเลยนะครับที่ต้องรับมือกับจางต้าเฉินกับที่เหลือ ขอบคุณนะครับที่ยังหยัดเคียงข้างคุณเหริน ไม่ต้องกังวลครับ ตำแหน่งประธานบริษัทยังเป็นของคุณแน่นอน และไม่มีใครสามารถแย่งมันไปจากคุณได้ เราไปเอาทุกอย่างกลับคืนมากันเถอะครับ”

จ้าวเฉียนยิ้มตอบด้วยความมั่นใจ

เหรินจานซวนที่เห็นดังนั้นก็เริ่มมองจ้าวเฉียนในแง่ดีขึ้นมาหน่อย

เฉิงต้าซีพยักหน้าอย่างหนักแน่น และทั้งสองก็เดินกลับเข้าไปในห้องประชุมโดยตรง