ตอนที่ 111 อันซย่าซย่า เธออยากได้โค้ชคนไหน (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ฉีเหยียนซี “ทำไมจะไม่แข่งเล่า!” 

 

 

“เอ้า งั้นก็แข่งสิ!” 

 

 

“ฉันจะแข่ง!”  

 

 

ระหว่างที่ทั้งสองคนทะเลาะกันเสียงดังนั้น เซิ่งอี่เจ๋อก็รู้สึกว่ามุมปากของเขากระตุกอย่างไม่อาจควบคุมได้  

 

 

เหอจยาอวี๋ซึ่งอยู่ข้างหลังถอนหายใจ “ทำไมสองคนนี้ถึงได้ทำตัวเป็นเด็กๆ …”  

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อส่ายหน้าพลางถอนหายใจอีกคน “รู้แต่ว่ามันพิสูจน์อะไรได้อย่างหนึ่ง” 

 

 

“ซึ่งก็คือ?” 

 

 

“คนประเภทเดียวกันมันก็จะดึงดูดกัน ไอคิวต่ำก็อาจจะเป็นโรคที่ติดต่อกันได้” 

 

 

“…” เขากำลังจะบอกว่าฉีเหยียนซีติดมาจากอันซย่าซย่างั้นเหรอ! 

 

 

ไม่ไหวเลย พูดถึงซย่าซย่าของตัวเองอย่างนั้นได้ยังไง! 

 

 

บ่ายวันนี้พวกเขาต้องเรียนวิชาพลศึกษา และอาจารย์พละก็ให้นักเรียนนำอุปกรณ์กีฬาที่แต่ละคนสามารถฝึกซ้อมได้ออกมา โดยครูจะเป็นผู้แนะนำให้ที่ข้างสนาม  

 

 

อันซย่าซย่าเดินอาดๆ อย่างมั่นใจลงไปในสนามหญ้าที่จัดไว้เฉพาะกีฬาทุ่มน้ำหนัก คังเจี้ยนยื่นลูกเหล็กให้เธอด้วยสีหน้าอันยากที่จะอธิบาย แล้วอันซย่าซย่าก็เอื้อมมือออกไปรับมันอย่างดีอกดีใจ  

 

 

แต่แล้วก็ต้องตกใจกับน้ำหนักในมือทั้งสอง  

 

 

ใครก็ได้ช่วยอธิบายทีว่าทำไมลูกบอลนี่มันถึงได้หนักขนาดนี้… 

 

 

ครูเน้นย้ำเรื่องหัวใจหลักให้ฟัง “ต้องให้มั่นใจว่าเธอจะขว้างลูกตุ้มออกไปได้สูงพอที่จะเกิดเป็นแนวโค้งในอากาศ เมื่อนั้นแหละเธอจะทุ่มออกไปได้ไกลพอ ครูจะทำให้ดูก่อน”  

 

 

เขาทุ่มลูกตุ้มออกไปด้วยการเคลื่อนไปข้างหน้า ซึ่งอันซย่าซย่าก็มองอย่างหวั่นๆ แล้วก็เป็นตาของเธอ 

 

 

เธอไม่ได้ใช้แรงในการทุ่มลูกตุ้มออกไปเลย! 

 

 

อาจารย์สวมบทเป็นผู้ให้คำแนะนำ “ปกติแล้วผู้หญิงจะไม่ค่อยมีแรงเท่าไหร่ และโดยปกติก็ทุ่มได้ระหว่างสามถึงหน้าเมตร เอ่อ…อันซย่าซย่าได้สามเมตร” 

 

 

“เย่! เห็นไหม!” อันซย่าซย่าดีอกดีใจและมองไปยังฉีเหยียนซี “เห็นไหม ฉันทุ่มได้ตั้งสามเมตร!” 

 

 

นักเรียนคนอื่นๆ พากันตบหน้าผาก ระยะนั้นมันแทบไม่ได้อะไรเลย เธอดีใจเรื่องอะไร 

 

 

ฉีเหยียนซีตอบด้วยเสียงเยาะเย้ย 

 

 

ติงอีอีเป็นคนที่สองและทุ่มน้ำหนักออกไปอย่างสบายๆ ได้ระยะที่หกจุดสี่เมตร! 

 

 

อันซย่าซย่ากะพริบตาแล้วใบหน้าเธอก็นิ่งงันไป 

 

 

อะไรกัน นี่ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดไว้ในหัวเลย เธอคิดว่าเธอโยนได้ไกลแล้วเชียว! 

 

 

ฉีเหยียนซีเดินออกมา หยิบลูกตุ้ม แล้วก็เหวี่ยงมันออกไปอย่างแทบไม่ได้ใช้ความพยายามเลย มันตกลงที่ระยะแปดเมตร 

 

 

อันซย่าซย่ามองด้วยความสิ้นหวัง 

 

 

โลกนี้มันช่างโหดร้าย… 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อเป็นคนต่อไป และเขาทุ่มได้สิบเมตร 

 

 

หญิงสาวยืนพิงไหล่ของซูเสี่ยวมั่วพลางพูดว่า “บอกฉันทีว่านี่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง” 

 

 

ด้วยความที่ซูเสี่ยวมั่วสูงว่าอันซย่าซย่าสองเซนติเมตร จึงลูบผมเพื่อนสาวก่อนจะเริ่มจิกกัดเพื่อนอย่างโหดร้ายไร้ความปรานี “ซย่าซย่า ไม่เป็นไรนะ ถึงแม้ว่าการทุ่มของเธอจะห่วยแตกแต่คนอื่นก็ทุ่มได้ไกล๊ไกล! ถึงแม้เธออาจจะอ่อนแอราวกับลูกไก่แต่พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นนักรบผู้ทรงพลัง!” 

 

 

อันซย่าซย่าชี้นิ้วอันสั่นระริกของเธอใส่ซูเสี่ยวมั่ว แต่พูดอะไรไม่ออก 

 

 

หล่อนเป็นเพื่อนประสาอะไรกัน ขนาดตอนนี้ยังไม่ยอมเข้าข้างกันบ้างเลย! 

 

 

เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบวง 

 

 

ฉีเหยียนซีถามอย่างเย้ยหยัน “การแข่งขันยังจะดำเนินต่อไปไหม” 

 

 

อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกไม่ดีใจเท่าไหร่ที่ได้เห็นความพ่ายแพ้ของอันซย่าซย่า 

 

 

ให้ตายสิ…เขาอยากเห็นใบหน้าที่มีความสุขของเธอตอนที่เธอทุ่มได้สามเมตรนั่นมากกว่า เธอดูน่ากลัวเวลาที่หน้าของเธอย่นยู่ไปหมดแบบนั้น! 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อมองเธอด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใด “อันซย่าซย่า ฉันคิดว่าเธอควรจะไปลงแข่งอย่างอื่นดีกว่า” 

 

 

ครูเองก็ถอนหายใจ “ครูเห็นด้วย เรี่ยวแรงแบบเธอ ความเป็นไปได้ที่จะได้รับเหรียญนั้น… เอ่อ ครูจะพูดยังไงดี…” 

 

 

ครูพละลังเล พยายามที่จะหาคำพูดที่เหมาะสมซึ่งไม่ทำร้ายจิตใจเด็กสาวไปมากกว่านี้ 

 

 

“นี่ อย่าเศร้าไปเลยนะ เอาเป็นว่าเธอเปลี่ยนไปเล่นอย่างอื่นแทนดีไหม เธอน่ะ เซิ่งอี่เจ๋อใช่ไหม ครูจำได้ว่าเธอเล่นบาสเกตบอลได้ดีทีเดียว ช่วยสอนเพื่อนหน่อยได้ไหม”