ภาคที่ 2 บทที่ 77 ขายดี

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 77 ขายดี

เมิ่งหลานมองซูเฉินด้วยความเห็นชอบ

นี่คือชายหนุ่มที่รู้อย่างชัดเจนนักว่าตนกำลังทำอะไร และทำไปเพื่อสิ่งใด เป็นคนมีความทะเยอทะยานสูงส่ง แต่ก็ยังกระจ่างแจ้งนัก

คนแบบนี้ย่อมมีเสน่ห์โดยธรรมชาติ

แม้จะไม่ได้มาจากเผ่าเดียวกัน เมิ่งหลานก็อดรู้จักใจเต้นไม่ได้

หากแต่นางรีบยั้งความรู้สึกนั้นไว้แล้วคลี่ยิ้มออกมา “ข้าเข้าใจเจ้า เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าจะช่วยเรื่องนี้เอง เกราะรบเหล็กกล้าจะประกาศอยู่บนป้ายหลักเป็นเวลาสามวัน พร้อมทั้งได้รับการประเมิน 9 ดาว”

ป้ายประกาศในโถงแห่งความรู้นั้นมีระดับที่ต่างกัน สำคัญกับทักษะต้นกำเนิดและวิชาบ่มเพาะมาก ดังนั้นนายท่านแห่งปราสาทและนายหญิงแห่งปราสาท บางคราก็จะให้คะแนนประเมินโดยดูจากเนื้อหา ความเป็นเอกลักษณ์ และความสามารถในการนำไปใช้ได้จริง โดยการประเมินจะให้เป็นระดับดาว มีตั้งแต่ 1 ดาวไปจนถึง 9 ดาว ยิ่งดาวสูงยิ่งมีคุณภาพดี

พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นของที่แนะนำโดยนายท่านและนายหญิงแห่งปราสาทนั่นเอง

ทักษะต้นกำเนิดที่ได้รับการแนะนำจากนายหญิงแห่งปราสาทนั้นคล้ายกับมีหลักประกันให้ ลูกค้าที่ซื้อก็จะมีความเชื่อถือมากขึ้น

ระดับประเมิน 9 ดาวนั้นนับเป็นระดับที่สูงที่สุด

ตำราเปิดพลังไคฮวงของซูเฉินไม่ได้รับการประเมินเป็นเพราะตอนนั้นเขายังไม่รู้จักกับเมิ่งหลาน และเพราะมันมีราคาเพียง 100 ละอองฝัน ดังนั้นวิชาเช่นนั้นจึงไม่จำเป็นต้องได้รับการประเมินจากนางเพื่อให้ขายดิบขายดี อันที่จริง ของเล็กน้อยเท่านี้ไม่จำเป็นต้องประเมินเสียด้วยซ้ำ

เมื่อได้รับการแนะนำบนประกาศใหญ่นานถึง 3 วันติด จึงมีคนเห็นประกาศขายนี้เป็นจำนวนมาก

ในทุก ๆ วันมีข้อมูลเป็นหมื่นชิ้นถูกส่งมายังโถงประกาศข้อมูล ข้อมูลของคนส่วนมากจะถูกดันลงไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ประกาศของวิชาเกราะรบเหล็กกล้าจะติดอยู่ในจุดที่สังเกตเห็นง่ายนานถึง 3 วันติด แตกต่างจากประกาศธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด

การป่าวประกาศในปราสาทแดนฝันเช่นนี้มักต้องจ่ายค่าประกาศสูง แต่เมิ่งหลานทำให้เขาโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

นับเป็นสิทธิ์พิเศษของเมิ่งหลาน

แม้นางจะไม่อาจยกระดับสิทธิ์ของซูเฉินได้ แต่นางก็สามารถช่วยเผยแพร่ข้อมูลที่มีประโยชน์ได้อย่างไม่จำกัด

เกราะรบเหล็กกล้านับเป็นทักษะต้นกำเนิดที่ดียิ่ง แม้ 9 ดาวอาจจะดูสูงไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าไร้เหตุผล

ป่าวประกาศ 3 วันและได้รับ 9 ดาวจากเมิ่งหลาน นับเป็นแรงสนับสนุนที่นางสามารถทำได้ดีที่สุดแล้ว

แน่นอนว่าเมิ่งหลานไม่ได้ช่วยเปล่า นางสั่งให้ซูเฉินใช้ละอองฝันทั้งหมดในการยกระดับสิทธิ์ตนเอง

แน่นอนว่าซูเฉินย่อมไม่ตกลง

การทำการค้นคว้าทดลองนั้นต้องใช้ของมากมาย เกราะรบเหล็กกล้าดูคล้ายกับเป็นเรื่องง่ายดาย หากแต่มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าและต้องใช้ทรัพยากรไปมากมาย

ดังนั้นความสำเร็จของเกราะรบเหล็กกล้านั้นทั้งเป็นเรื่องบังเอิญและเป็นเรื่องที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องเกิดขึ้นเป็นแน่ !

หากใช้เงินหมดไปกับการยกระดับสิทธิ์จนหมด แล้วต่อไปเขาจะทำการค้นคว้าอย่างไร ?

ทั้งสองฝ่ายถกเถียงเรื่องนี้กันระยะหนึ่ง

สุดท้ายทั้งสองก็ตกลงกันได้ วันแรกเมื่อออกขาย เงินกำไร 90 ส่วนจะนำไปยกระดับสิทธิ์ซูเฉิน

และหลังจากครบ 10 วันแล้ว กำไรทั้งหมดจะตกเป็นของเด็กหนุ่ม

วิชาเช่นนี้ไม่เหมือนกับสิ่งของจับต้องได้ ความรู้ หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่สามารถเผยแพร่ออกไปได้ เมื่อเวลาผ่านไปมันจะยิ่งขายได้ยากกว่าเดิม

ตัวอย่างเช่น หากมีคนซื้อเกราะรบเหล็กกล้าในแดนฝัน คนเหล่านั้นจะไม่อาจนำมันออกขายในแดนฝันได้ด้วยเจ้าแดนฝันสั่งห้ามไว้ หากแต่ยามออกจากแดนฝัน พวกเขาก็สามารถนำวิชานี้ออกขายในราคาถูกกว่าได้

ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจป้องกันเรื่องนี้ได้

ดังนั้นเมื่อข้อมูลใดถูกปล่อยผ่านข่ายฝัน ก็จะขายได้ในราคาเพียงหนึ่งในสิบของราคาเดิมบนโลกจริง

เมื่อพูดถึงทักษะต้นกำเนิดราคาสูง ตำราคัดลอกมักจะขายได้มากกว่าตำราต้นฉบับ คนบางคนก็นำเรื่องนี้ไปหาประโยชน์ด้วยการสั่งให้นำทักษะต้นกำเนิดชั้นดีที่ได้มาปล่อยขายคราวละมาก ๆ ดังนั้นส่วนมากทักษะต้นกำเนิดที่ซื้อมาในราคา 1 พันหินพลังต้นกำเนิด จึงอาจถูกขายที่ 500 เพื่อให้ขายได้จำนวนมากขึ้นเพื่อทำกำไร

ดังนั้นทักษะต้นกำเนิดจึงขายได้ดีใน 10 วันแรกหลังจากประกาศขาย เมื่อพ้น 10 วันไปก็จะขายได้ยากขึ้น ก่อนที่สุดท้ายจะมีมูลค่าตกลง

สำหรับเมิ่งหลาน การยกระดับสิทธิ์ของซูเฉินจะทำให้อีกฝ่ายต้องใช้เงินมากขึ้นในการปิดประกาศตำราเปิดพลังไคฮวง

สำหรับซูเฉิน เกราะรบเหล็กกล้านี้ต้องขายดีเป็นแน่เนื่องจากได้รับความช่วยเหลือจากเมิ่งหลาน ดังนั้นแม้พ้น 10 วันไปจะขายได้น้อยลง แต่อย่างไรก็ยังได้เงินเข้ามาเรื่อย ๆ

เรื่องนี้เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ดังนั้นเรื่องจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ไม่นาน เกราะรบเหล็กกล้าก็ปรากฏขึ้นบนป้ายประกาศหลักในโถงแห่งความรู้

ทักษะต้นกำเนิดที่ได้รับการประเมิน 9 ดาวย่อมเห็นได้ชัดกว่าใคร อีกทั้งยังเสริมด้วยคำกล่าวว่าวิชาเกราะรบเหล็กกล้านี้สามารถรับแรงโจมตีที่มีพลังเทียบเท่าหมี 8 ตัวได้

หมีที่กล่าวนั้นคือหมีผา เป็นอสูรร้ายระดับต่ำที่ใช้พลังกายตนในการต่อสู้เพียงอย่างเดียว มักถูกใช้เป็นมาตรฐานในการประเมินทักษะต้นกำเนิดต่าง ๆ คล้ายกับที่ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งหลายที่ใช้ม้าในการประเมินกำลัง

แต่แน่นอนว่าการใช้กำลังมาประเมินทักษะต้นกำเนิดเพียงอย่างเดียวก็ยังไม่อาจบ่งชี้มูลค่าที่แท้จริงของมันได้อย่างเหมาะสม เพราะอย่างไรทักษะต้นกำเนิดก็มีหลากหลายรูปแบบ เช่น นัยน์ตาวิญญาณ ตาข่ายลมพิสุทธิ์ วิชาหอคอยพิสุทธิ์เคลื่อนกาย และวิชาอื่น ๆ ที่ไม่อาจประเมินด้านพละกำลังเพียงอย่างเดียวได้ แต่ถึงกระนั้นกำลังจากหมีเหล่านี้ก็ยังใช้เป็นสิ่งอ้างอิงได้ดี

ทักษะต้นกำเนิดของด่านก่อเกิดลมปราณระดับต่ำนั้นเท่ากับแรงของหมี 1 ตัว ส่วนวิชาที่ดีกว่าจะเท่ากับหมี 3 ตัว และหากทักษะต้นกำเนิดจากสายเลือดปกติแล้วมันก็จะมีกำลังมากกว่าหมี 5 ตัวเป็นมาตรฐาน

ในทวีปต้นกำเนิด หากบอกว่าวิชาใดมีพลังเท่ากับ 5 มันย่อมหมายความว่ามีกำลังเท่ากับหมี 5 ตัว ส่วนวิชาใดที่พลังต่ำกว่านี้ไม่นับเป็นอะไร

ระเบิดเพลิงปักษาของซูเฉินนั้นเทียบได้กัลป์ทักษะต้นกำเนิดจากสายเลือดหลายวิชา เป็นเพราะมันมีพลังโจมตีเทียบเท่ากับหมี 12 ตัว ซึ่งเมื่อเทียบกับทักษะต้นกำเนิดที่มีอยู่นับไม่ถ้วนก็นับว่าเป็นวิชาที่น่าประทับใจไม่น้อย

และเพราะวิชาเกราะรบเหล็กกล้าไม่ได้ใช้คู่กับยาเหล็กกล้า พลังป้องกันมันจึงมีเพียงหมี 8 ตัวเท่านั้น หากแต่ก็ยังนับว่าสูง

อย่างไรก็ต้องเข้าใจก่อนว่าทักษะต้นกำเนิดนี้คือทักษะต้นกำเนิดประเภทป้องกัน ไม่ใช่ประเภทโจมตี

ในหมู่ทักษะต้นกำเนิดระดับเดียวกันนั้น ทักษะต้นกำเนิดประเภทโจมตีจะมีพลังมากกว่าประเภทป้องกัน แต่ในขณะเดียวกัน ทักษะต้นกำเนิดประเภทป้องกันนั้นจะมีมูลค่าสูงกว่ามาก

วิชาเกราะรบเหล็กกล้าที่สามารถรับแรงโจมตีของหมี 8 ตัวได้ย่อมหมายความว่าทักษะต้นกำเนิดใดที่มีพลังโจมตีน้อยกว่านี้จะไร้ค่าไปในพลัน และแม้จะมีพลังสูงกว่า แต่แรงโจมตีก็จะถูกลดลงไปมาก

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของทักษะต้นกำเนิดนี้คือ เมื่อเปิดใช้น้ำหนักตัวจะมากขึ้น ทำให้ความเร็วลดลง ส่วนผลนั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ยิ่งร่างกายแข็งแกร่งยิ่งได้รับผลกระทบน้อย ทว่าคนที่ใช้ความเบาเพื่อทำให้ตนคล่องแคล่วจะได้รับผลกระทบมากกว่า

แต่ถึงกระนั้น ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดด่านก่อเกิดลมปราณส่วนมากก็ยังมองทักษะต้นกำเนิดนี้ว่ามีค่านัก

ด้วยความช่วยเหลือจากนายหญิงแห่งปราสาทที่ประเมินให้ 9 ดาว ซูเฉินจึงสามารถขายตำราวิชาเกราะรบเหล็กกล้าไปได้ถึง 100 ครั้งภายในเวลาอันสั้น

ด้วยขายตำราเล่มละ 1 พันละอองฝัน จึงทำให้เด็กหนุ่มได้ 3 แสนละอองฝันไว้ในมือ โชคครั้งนี้หล่นใส่เขาอย่างรวดเร็วจนอดรู้สึกสับสนในใจไม่ได้

แต่เขาก็รู้ดีว่านี่เป็นเพราะการประเมิน 9 ดาวและการป่าวประกาศแนะนำจากเมิ่งหลานเท่านั้น อย่างแรกคือการรับประกันคุณภาพของทักษะต้นกำเนิด อย่างหลังคือการทำให้คนเห็นมันได้มากที่สุด

หากไม่ได้สองอย่างนี้ ซูเฉินอาจขายไม่ได้ถึง 10 ครั้งด้วยซ้ำ

1 วันต่อมา ซูเฉินก็ได้รับจำนวนของที่ขายออกไป

ตำราเกราะรบเหล็กกล้า 2,213 เล่มถูกขายออกไป

ทำให้ระดับสิทธิ์ของซูเฉินพุ่งเป็นเจ้าหน้าที่แห่งฝันขั้น 1 จนได้รับอำนาจขั้นกลางมา

นี่เป็นเพียงยอดขายในวันแรกเท่านั้น

2 วันต่อมา ยอดขายของเกราะรบเหล็กกล้าก็พุ่งทะยาน ตำรา 3,800 เล่มถูกขายภายในสองวัน เขาได้รับ 380,000 ละอองฝัน จนได้ยกระดับสิทธิ์เป็นเจ้าหน้าที่แห่งฝันขั้น 4

ภายในเวลา 3 วัน ซูเฉินได้หินพลังต้นกำเนิดมา 5 แสนก้อน ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตนกำลังฝันอยู่

อีกทั้งยังพูดไม่ออกเมื่อเห็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อยกระดับสิทธิ์

ด้วยหินพลังต้นกำเนิด 5 แสนก้อน ยกระดับสิทธิ์ได้ถึงเจ้าหน้าที่แห่งฝันขั้น 4 เท่านั้น เพราะหากต้องการเป็นราชันแห่งฝันขั้นสูง อย่างน้อยต้องมีหินพลังต้นกำเนิดอีก 1 ล้านก้อน !

หากแต่ระดับสิทธิ์เหล่านี้ก็มีประโยชน์ของมัน ดังนั้นเมื่อซูเฉินยกระดับสิทธิ์ตน เขาก็ย่อมได้รับผลประโยชน์เพิ่มมากขึ้น

เมื่อกลายเป็นราชันแห่งฝัน เขาจะสามารถติดประกาศของตนเป็นประกาศแนะนำบนป้ายประกาศหลักได้ เพียงแค่จ่ายค่าเช่าที่เล็กน้อยก็จะสามารถป่าวประกาศเช่นนั้นไปได้ระยะหนึ่ง แม้จะไม่นานเท่าเวลา 3 วันเช่นที่นายท่านและนายหญิงแห่งปราสาทสามารถทำได้ แต่ก็นานมากพอที่จะทำให้คนส่วนมากเห็น

แม้ตอนนี้เขาจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่แห่งฝัน แต่ก็ได้รับสิทธิ์พิเศษหลากหลายอย่างในแดนฝันแล้ว

อาทิเช่น เขาไม่จำเป็นต้องรอใช้ห้องด้านข้างแล้ว

เจ้าหน้าที่แห่งฝันสามารถเลือกภูติแดนฝันส่วนตัวได้

ซูเฉินเลือกลู่ลู่