ตอนที่ 1584 นายสนมขององค์หญิง (3) / ตอนที่ 1585 พรรคของอวิ๋นเซียว

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1584 นายสนมขององค์หญิง (3)

การทำตัวไม่ให้เกียรติของหูหลีทำให้ราชาเสือดาวโกรธเกรี้ยว

“ดูสิ มนุษย์ผู้ชายที่เจ้าชอบพอไม่ได้รับการอบรมสั่งสอน เห็นได้ว่าเพื่อนเขาก็เหมือนกัน พวกเขาควรคุกเข่าลงตอนข้ามาถึง!”

ราชาเสือดาวกวาดสายตามองอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวก่อนจะเผยสีหน้าเย็นชา

ในที่สุดอวิ๋นเซียวที่กำลังมองอวิ๋นลั่วเฟิงก็เงยหน้ามองราชาเสือดาวด้วยสายตาเย็นเยียบ อาภรณ์สีดำของเขาสะบัดไปตามลมก่อนจะยื่นมือออกมาแล้วพลังฌานจำนวนมากก็มารวมกันที่ฝ่ามือของเขา

“เสด็จพ่อ!” อีลี่กัดฟันแน่น “เสด็จพี่หญิงจับตัวบุรุษกลางถนน ไม่ใช่ว่านางหรอกหรือที่ไม่ได้ถูกอบรมสั่งสอน”

เพียะ!

ราชาเสือดาวตบหน้าอีลีด้วยความโมโห ตัวของเขาสั่นไปด้วยความโกรธที่บุตรสาวไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง “ใครสั่งสอนให้เจ้าไม่เคารพผู้อาวุโส เจ้าคิดหรือว่าข้าจะไม่กล้าลงโทษเจ้า”

ถ้านางไม่ได้หน้าเสียโฉม เขาก็คงชื่นชอบบุตรสาวคนเล็กของเขา แต่น่าเสียดายที่ใบหน้าของนางอัปลักษณ์ สำหรับเมืองสัตว์อสูรที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามแล้วก็ช่วยไม่ได้ที่นางถูกล้อเลียน

ตูม!

ตูม ตูม ตูม!

ทันใดนั้นราชาเสือดาวก็รู้สึกเหมือนพื้นสั่นสะเทือน เขาหน้าซีดแล้วรีบหันไปมองจุดกำเนิดของมัน ภายในสายลมกระโชกแรง มีชายหนุ่มที่ให้ความรู้สึกราวกับเทพสังหารที่ปีนขึ้นมาจากนรก เขาเดินเข้ามาพร้อมแผ่กลิ่นอายสังหารจากร่าง ทำให้ผู้คนตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

รัศมีทรงพลังที่ออกมาจากตัวเขาทำให้สิ่งปลูกสร้างรอบๆ ถูกพัดกระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า… แล้วจากนั้นพริบตาเดียว พวกเขาทุกคนก็ทรุดตัวลงที่พื้นจนเกิดเสียงดัง

เพราะราชาเสือดาวอยู่ตรงกึ่งกลางของพลัง เขาจึงหมดสติไปทันที องครักษ์พลันได้สติแล้วรีบพุ่งเข้าไปหาราชาเสือดาว

“ฝ่าบาทหมดสติไปแล้ว ช่วยฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!”

ตอนนั้นไม่มีใครให้ความสนใจอวิ๋นเซียวและคนอื่นๆ ขนาดองค์ราชายังหมดสติไปด้วยการโจมตีของเขา แล้วพวกเขาจะจัดการกับบุรุษผู้น่ากลัวคนนี้ได้อย่างไร

อีลี่อ้าปากค้างด้วยความตะลึง ดูเหมือนว่านางจะไม่คิดว่าเพื่อนของหูหลีจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ไม่นานหลังจากนั้น นางก็พูดอย่างกังวลว่า “หูหลี ถึงแม้ว่าเพื่อนของท่านจะแข็งแกร่งมาก แต่เผ่าทั้งหลายในเมืองสัตว์อสูรมีความเกี่ยวข้องกัน ถ้าเผ่าใดเผ่าหนึ่งตกอยู่ในมือของมนุษย์ เผ่าอื่นๆ ก็จะเริ่มโจมตีพวกเขา”

นางหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ท่านรู้หรือไม่ว่าทำไมนครสัตว์อสูรของเราถึงอยู่ใกล้เมืองอุดรมากที่สุด นั่นเป็นเพราะนครสัตว์อสูรของพวกเราอ่อนแอที่สุดในบรรดาเผ่าอื่นๆ…”

“โดยเฉพาะเผ่าลึกลับอย่างเผ่ามังกรและเผ่าวิหคเพลิงที่อยู่เหนือเผ่าขนาดใหญ่หลายเผ่า” นี่เป็นเรื่องที่อีลี่กังวลมากที่สุด

“ท่านเหนื่อยแล้ว” อวิ๋นเซียวหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง เขาไม่ได้ถามคำถามแต่พูดเพื่อให้แน่ใจ “ดังนั้นข้าจะพาท่านไปพัก”

“ตกลง” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม เมื่อมีอวิ๋นเซียวอยู่ข้างๆ นางก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา…

“หูหลี ท่านกำลังจะไปแล้วหรือ” เมื่อเห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวเดินจากไป อีลี่ก็เม้มริมฝีปาก น้ำเสียงที่นางใช้พูดก็มีความรู้สึกไม่อยากให้เขาไป

หูหลีไม่ได้รับรู้ถึงความผิดปกติของนางแล้วตอบว่า “น่าจะใช่”

“อันที่จริง… ถ้าท่านกำลังตามหาคน ข้าช่วยท่านได้” ตราบใดที่เขาอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย…

หูหลีชะงักไปชั่วครู่ “ข้ารบกวนเจ้ามานานแล้ว ข้าไม่ควรอยู่ต่อ ในเมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ที่นี่ ข้าก็จะออกเดินทางไปตามหาหงหลวนกับพวกเขา”

อีลี่ถอนหายใจ นางเข้าใจว่าแม้แต่นางเองก็ไม่สามารถทำให้อยู่ต่อได้…

…………………………………..

ตอนที่ 1585 พรรคของอวิ๋นเซียว

เผ่าวิหคเพลิง

เหนือภูเขาไฟ เสียงร้องอย่างโกรธเคืองของวิหคดังก้องไปทั่วยอดเขา ผู้อาวุโสที่นั่งขัดสมาธิอยู่ในหุบเขาก็พลันลืมตาขึ้นด้วยความดีใจ “นายท่านกลับมาแล้วงั้นหรือ”

หลายปีก่อน เผ่าวิหคเพลิงต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เลวร้าย ทำให้ยอดฝีมือจำนวนมากล้มหายตายจาก จนกระทั่งมีชายหนุ่มในอาภรณ์สีดำผู้หนึ่งที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาเปรียบเสมือนเทพที่ช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นวิกฤตมาได้

ตั้งแต่นั้นพวกเขาก็นับถือชายผู้นั้นเป็นนายเหนือหัวของเผ่าวิหคเพลิงแต่โชคร้ายที่เขาหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ไม่คาดคิดว่าเปลวไฟขอองวิหคเพลิงที่ถูกส่งออกไปตามหาเขาจะกลับมาพร้อมข่าวว่าชายคนนั้นปรากฏตัวขึ้น! ข่าวน่าตื่นเต้นนี้สร้างกระแสไปทั่วทั้งเผ่าวิหคเพลิง …

ขณะเดียวกันที่ด้านหน้าแท่นบูชาของเผ่ามังกรก็มีชาวหนุ่มผมสีขาวกำลังหลับตานั่งขัดสมาธิอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะมีใบหน้าหล่อเหลา แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อาจปิดบังชีวิตยากลำบากที่เขาประสบมาได้

“หืม?” ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นด้วยความปีติยินดี ความเฉื่อยชาในทีแรกจางหายไป

“ทหาร เรียกผู้อาวุโสของเผ่ามังกรทุกคนมา ข้ามีเรื่องจะประกาศ!”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” ร่างนั้นก็ค่อยๆ จางลงแล้วไม่นานก็หายไป

ชายหนุ่มยืนขึ้นแล้วเอามือไพล่หลัง เขารีบเดินไปที่ห้องโถงของเผ่า

ภายในห้องโถงของเผ่า ผู้อาวุโสทุกคนยืนรออยู่เงียบๆ เมื่อเห็นชายผมขาวเข้ามา พวกเขาก็รีบยืนขึ้นแล้วพูดอย่างเคารพว่า “ข้าน้อยขอเรียนถามฝ่าบาทว่า เหตุใดฝ่าบาทจึงเรียกให้พวกเรามารวมตัวกันพ่ะย่ะค่ะ”

ชายผมขาวเดินก้าวยาวๆ ไปนั่งแล้วกวาดสายตาจริงจังและคมกริบไปรอบๆ “ข้าเรียกพวกเจ้ามาเพื่อประกาศบางอย่าง…” เขาหยุดไปชั่วครู่ก่อนพูดต่อ “บรรพบุรุษของเผ่ามังกรของพวกเรากลับมาแล้ว!”

บรรพบุรุษงั้นหรือใบหน้าของทุกคนซีดเผือดด้วยความตกใจ บางคนถึงกับยืนขึ้นด้วยสีหน้าดีใจอันปิดไม่มิด

“ฝ่าบาทพูดจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ บรรพบุรุษของพวกเรากลับมาแล้วหรือ”

“ใช่แล้ว” ชายผมขาวพยักหน้าเบาๆ “หลายพันปีก่อน บรรพุรุษของเรามีปัญหากับยอดฝีมือไร้เทียมทานผู้หนึ่ง ท่านกล่าวว่าท่านจำเป็นต้องออกจากเผ่ามังกรเพื่อล่อให้ยอดฝีมือผู้นั้นตามไป ทั้งยังบอกให้เรามั่นใจว่าเผ่าของพวกเราจะปลอดภัย”

หลังจากพูดถึงเหตุการณ์ในอดีต ชายผมขาวก็อดที่จะรู้สึกอ่อนไหวไม่ได้ “โชคไม่ดีที่บรรพบุรุษของพวกเราคาดการณ์ผิด ยอดฝีมือผู้นั้นไม่ได้ไล่ตามท่านแต่กลับมาทำลายเผ่าของพวกเรา แต่ว่าพวกเราต้องเรียนรู้จากวิญญาณที่บรรพบุรุษท่านอื่นๆ ทิ้งไว้!”

“ฝ่าบาท ท่านบอกพวกเรามาเลยดีกว่าว่าท่านบรรพบุรุษอยู่ที่ไหน พวกเราจะได้ไปเชิญเขากลับมา”

“อันที่จริง ข้าก็ไม่รู้ที่อยู่แน่ชัดเพราะพลังฌานของข้าไม่แข็งแกร่งพอ จึงทำได้แค่แผ่พลังออกไปทั่วเมืองสัตว์อสูรเท่านั้น ถ้าบรรพบุรุษของพวกเราไม่ได้อยู่ในขอบเขตนี้ ข้าก็จะหาเขาไม่พบ แต่ว่าเมื่อครู่พลังฌานส่วนหนึ่งที่ปลายเขตแดนของข้าสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้ นั่นก็หมายความว่าเขากลับมาแล้ว!” ชายผมขาวตื่นเต้นมากขึ้น ในดวงตามีน้ำตารื้น

“ฝ่าบาท เผ่ามังกรในตอนนี้มีแค่ท่านที่เคยพบท่านบรรพบุรุษ พวกเราที่เหลือไม่รู้ว่าท่านมีหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วพวกเราจะตามหาเขาเจอได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ” ผู้อาวุโสคนหนึ่งถาม

อันที่จริงเพื่อที่จะหาที่อยู่ของบรรพบุรุษของเผ่ามังกร ชีวิตของชายผมขาวก็คล้ายตะเกียงที่น้ำมันแห้งคอด

ถึงแม้ช่วงชีวิตของสัตว์อสูรวิญญาณจะยืดยาวจนแม้แต่สัตว์อสูรที่อ่อนแอก็ยังมีชีวิตอยู่ได้เป็นพันปี แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่มีวันตาย! ถ้าความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ถึงจุดสูงสุด ก็ต้องมีสักวันหนึ่งที่พลังชีวิตของพวกเขาหมดลง