“มันก็ใช่” เย่หมิงเป่ยพยักหน้า แต่กลับแอบสงสัยว่า “แต่ฉูฉู่เข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไง? ทำไมถึงวาดออกมาได้? สถานที่ที่หล่อนเคยไปไกลสุดคือในอำเภอ ไปที่นั่นก็เพื่อไปซื้อยางมัดผม แต่ฉูฉู่กลับออกแบบเสื้อผ้าพวกนี้ออกมาได้ ผมไม่เข้าใจเลยว่าหล่อนออกแบบมาได้ยังไง”

โจวหมิ่นพูดด้วยท่าทางนิ่งสงบเป็นอย่างมาก “ฉูฉู่มีพรสวรรค์จากภายใน อีกอย่างคนที่ไม่เคยเห็นก็จะมีพื้นที่จินตนาการที่ใหญ่กว่า”

ถึงจะพูดแบบนี้ แต่น้องสาวสามีเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือไม่หล่อนย่อมทราบเป็นอย่างดี หล่อนมีความเป็นมืออาชีพที่ไม่ธรรมดา สิ่งนี้ไม่ต้องสงสัยเลย

“รอให้คุณได้ลองทำสักครั้งคุณจะเข้าใจมากกว่าฉัน ต่อให้ไม่ได้ที่หนึ่งกลับมา แต่ถ้ามีประสบการณ์ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการฝึกฝนที่ดีให้กับคุณได้” โจวหมิ่นเปลี่ยนหัวข้อสนทนา กล่าวให้กำลังใจเขาว่า “ดังนั้น คุณก็ไม่ต้องแบกรับภาระให้มากเกินไปนะคะ”

“ตกลง ผมเข้าใจแล้ว ผมจะทำให้ดีที่สุด ว่าแต่เรื่องนี้ต้องบอกฉูฉู่ไหม?” เย่หมิงเป่ยถาม ถึงอย่างไรก็ต้องนำเสื้อผ้าของน้องสาวไปร่วมการแข่งขัน

โจวหมิ่นครุ่นคิด ก่อนกล่าวว่า “ฉูฉู่ใกล้คลอดแล้วใช่ไหมคะ?”

“ดูเหมือนว่าจะเดือนตุลาคมนะ เดือนตุลาคมตามปฏิทินสากล ผมเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน” เย่หมิงเป่ยกล่าว

“งั้นก็อย่าเพิ่งบอกหล่อน หล่อนจะได้ไม่ต้องคิดมาก ถึงยังไงผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง รอให้หล่อนคลอดก่อนแล้วค่อยบอกก็ได้” โจวหมิ่นกล่าว

เย่หมิงเป่ยก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร เขาเปลี่ยนบทสนทนาไปเรื่องอื่น “ครั้งก่อนเหวินเทาโทรศัพท์มาหาผม เขากำลังจัดการเรื่องติดตั้งไฟฟ้าในหมู่บ้านอยู่ เขาบอกว่าถ้ามีไฟฟ้าแล้วจะทำอะไรสะดวกขึ้น แต่ผมคิดว่าเขาคิดตื้นเกินไปน่ะ การติดตั้งไฟฟ้าในหมู่บ้านไม่ใช่เรื่องที่เขาจะตัดสินใจเพียงคนเดียวได้”

โจวหมิ่นกลับเห็นการมองการณ์ไกลของจ้าวเหวินเทา

หล่อนทราบถึงการพัฒนาในภายหลัง แต่จ้าวเหวินเทาไม่ทราบ เขาอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แบบนั้นแถมข้อมูลก็ถูกปิดกั้นขนาดนั้น แต่กลับทราบถึงความสำคัญของไฟฟ้า

นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย ไม่แปลกใจที่ชาติที่แล้วเขาจะพัฒนาตัวเองได้ดีขนาดนั้น ตอนนี้ก็มองเรื่องเหล่านี้ออกแล้ว

“อันที่จริงเขาก็พูดถูกนะคะ อยากรวยก็ต้องมีไฟฟ้าเข้าถึงก่อน ไฟฟ้ามีความสำคัญมากเลยนะ” โจวหมิ่นกล่าว

“ผมรู้ แต่การเดินสายไฟฟ้าเข้าหมู่บ้านไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นสักหน่อย” หลังจากเย่หมิงเป่ยมาถึงเมืองหลวง เขาก็รู้สึกได้ถึงความสำคัญของไฟฟ้า ถ้าให้เขากลับไปอยู่บ้านเกิดตอนนี้ เขาคงไม่ชินแน่นอน

“ถ้าคิดจะรอให้ไฟฟ้าเข้าถึงคาดว่าตอนนี้คงไปไม่ถึงที่หมู่บ้านพวกเราหรอก ยกเว้นเขาจะบอกว่าอยากทำอะไรสักหน่อย เขาเองก็อยากเปิดฟาร์มกระต่ายมาตลอดไม่ใช่เหรอ แค่บอกว่าจะเปิดฟาร์มเลี้ยงกระต่าย เบื้องบนต้องพิจารณาเป็นพิเศษแน่นอน” โจวหมิ่นกล่าว

“เขาบอกว่าอยากเปิดฟาร์มกระต่าย แต่เปิดฟาร์มกระต่ายก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ผมได้ยินมาว่าเขาเป็นหนี้จำนวนไม่น้อยเพราะสร้างบ้าน” เย่หมิงเป่ยกล่าว

โจวหมิ่น “ถ้าทางนั้นรีบร้อนต้องใช้เงิน คุณก็ส่งเงินไปให้เขาก่อนสิคะ”

การโอนเงินในตอนนี้ไม่เหมือนกับยุคหลังที่สามารถโอนผ่านโทรศัพท์ได้โดยตรงก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์

ตอนนี้หากต้องการโอนเงินต้องไปที่ไปรษณีย์เพื่อกรอกใบธนาณัติ จากนั้นนำเงินจ่ายให้กับทางไปรษณีย์ ไปรษณีย์ก็จะนำธนาณัติส่งไปยังผู้รับเงิน เมื่อได้รับธนาณัติแล้ว ผู้รับเงินต้องนำบัตรประชาชน สมุดบัญชีและเอกสารอื่น ๆ ไปถอนเงินยังที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง

แต่จะได้รับเงินแน่นอน ไม่ต้องกังวลว่าเงินจะหาย

“ผมเองก็ถามเหวินเทาแล้ว เขาบอกว่าไม่ต้อง หนี้ที่เขาติดอยู่จำนวนไม่น้อยแต่ในมือของเขาก็ยังมีเงินอยู่” เย่หมิงเป่ยกล่าว

เงินปันผลของน้องสาวเขาก็มีไม่น้อย แต่ทางฝั่งนี้มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินในตอนนี้จริง ๆ เป็นเพราะต้องการยึดส่วนแบ่งทางการตลาด เงินทั้งหมดจึงต้องนำไปลงทุนเพื่อให้เงินทำเงิน

หากน้องเขยไม่ได้รีบร้อนต้องใช้เงิน ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องโอนก่อน รอเวลาแล้วค่อยนำไปให้น้องสาวของเขาทีเดียวเลยก็ได้

เดือนกรกฎาคมยังเป็นฤดูร้อน เป็นช่วงที่ร้อนจัดพอดี อุณหภูมิสูงสุดมากถึง 36-37 องศาเซลเซียส

ไม่ว่าจะโรงเรียนหรือในบ้านก็เริ่มนอนตอนเที่ยงกันแล้ว ในทุกทุกวันช่วงนี้นี้จะเงียบสงบ แม้แต่สุนัขก็หยุดพัก

การนอนตอนเที่ยงจะสิ้นสุดลงหลังบ่ายสองโมง

“จ้าวเสี่ยวลิ่ว ตอนเที่ยงไม่ยอมนอนมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?” เลขาหมู่บ้านขยี้ตาลุกขึ้นนั่งพลางกล่าว

จ้าวเหวินเทานำแตงโมที่ถือมาวางลงบนโต๊ะข้าง ๆ จากนั้นก็ไปหามีดพลางพูดว่า “เลขา ตอนนี้บ่ายสองโมงครึ่งแล้วนะ ตอนเที่ยงอย่านอนให้นานเกินไป มา ๆ มากินแตงโมคลายร้อนเถอะ ผมเพิ่งไปเก็บมาจากในสวนเลยนะ”

“นายไปเก็บมาจากไหน?” เลขามองแตงโมที่ดูสดใหม่ลูกนั้น พลางครุ่นคิดว่าในหมู่บ้านก็ไม่ได้มีใครปลูกแตงโมนี่นา

“ผมปลูกเอง” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม เขาถือมีดและถาดออกมา หลังจากนำถาดวางลงบนเตียง ก็นำแตงโมไปล้างหนึ่งรอบแล้วเริ่มผ่า

เนื้อสีแดงเมล็ดสีดำ มีกลิ่นหอมสดชื่น แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นแตงโมชั้นดี!

“แตงโมไม่เลวเลยนะ!” เลขาก้าวมาข้างหน้าและหยิบไปกัดหนึ่งชิ้น เขาพยักหน้าพลางกล่าว “อืม หวาน!” จากนั้นก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “ฉันจำได้ว่าที่ดินของนายปลูกทานตะวันกับข้าวโพดไม่ใช่เหรอ? แตงโมมาจากไหนเนี่ย?”

จ้าวเหวินเทายิ้ม “ผมปลูกไว้ในสวนที่บ้าน นี่เป็นแตงโมที่เก็บเกี่ยวครั้งแรกเลยนะ เป็นลูกแรกด้วย ผมก็เลยตั้งใจเอามาแบ่งให้เลขา” ระหว่างที่พูดเขาก็หยิบขึ้นมากัดหนึ่งชิ้น

เลขายิ้ม “เจ้าหนู นายคงมีเรื่องอะไรในใจแน่ ๆ พูดมาเถอะ มีธุระอะไร?”

จ้าวเหวินเทารีบหยิบแตงโมชิ้นใหญ่ด้วยมือทั้งสองข้าง “เลขาช่างรู้ใจผมจริง มา กินชิ้นนี้นะ ชิ้นนี้อร่อย พวกเรากินไปพลางคุยไปพลางแล้วกันนะครับ!”

“นายนี่กะล่อนนะ คงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แน่!” เลขาด่าเคล้ารอยยิ้ม

“อันที่จริงมันก็เป็นเรื่องก่อนหน้านี้แหละครับ” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่ก็เดือนกรกฎาคมแล้ว ใกล้จะเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้วด้วย ถ้าไม่ใช้โอกาสนี้ก็ไม่มีเวลาแล้วนะ”

“เรื่องที่บอกว่าจะขอติดตั้งไฟฟ้าน่ะเหรอ” เลขาเช็ดน้ำแตงโมที่เลอะปาก “เสี่ยวลิ่ว เรื่องนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลยนะ ฉันไปที่สำนักงานการไฟฟ้าตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ฝั่งนั้นบอกว่าหมู่บ้านของเราไม่มีแผนที่จะทำการจ่ายกระแสไฟฟ้า”

“งั้นก็ทำซะเลยสิครับ ทำตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ” จ้าวเหวินเทาวางแตงโมลงพร้อมกล่าว “เลขา หมู่บ้านไท่ผิงนั่นไฟฟ้าเข้าถึงมาสองปีแล้วนะ นี่ก็ไม่ได้ห่างจากกันเท่าไหร่ มันก็ควรจะถึงคิวของหมู่บ้านของเราแล้ว”

เลขากลอกตาใส่เขา “หมู่บ้านไท่ผิงห่างจากหมู่บ้านเราไม่เท่าไร? ห่างสิ! อีกอย่าง หมู่บ้านไท่ผิงก็มีเรือนกระจก ฝั่งนั้นพวกเขาพัฒนาไปมากแล้ว เป็นเรื่องปกติที่ต้องใช้ไฟฟ้า พวกเราไม่มีอะไรสักอย่าง ทางนั้นก็ต้องทำตามแบบแผน”

“หมู่บ้านของเราก็มีนะ” จ้าวเหวินเทากล่าว

“มีอะไร?” เลขาถาม

“ฟาร์มกระต่ายของผมไง ฟาร์มกระต่ายของผมก็เป็นของดีนะ!” จ้าวเหวินเทากล่าว

“นายพอเถอะ” เลขาพูดอย่างขบขัน “นายเลี้ยงกระต่ายแค่ไม่กี่ตัวก็เรียกว่าฟาร์มแล้ว นายเห็นพวกเขาโง่เหรอ!”

“เลขา ผมจะขยายพันธุ์ให้ใหญ่ขึ้นด้วย สิ้นปีก็น่าจะมีหลายพันตัวเลย!” จ้าวเหวินเทากล่าว

“แค่ก ๆ ๆ!” เลขาถึงกับสำลักเพราะคำพูดของจ้าวเหวินเทา เมล็ดแตงโมจึงติดเข้าที่หลอดลม ทำให้เขาไอติดต่อกันอยู่หลายครั้ง

จ้าวเหวินเทารีบวางแตงโม เข้าไปช่วยทุบหลังให้เลขา “เลขา แค่กระต่ายไม่กี่พันตัวก็ทำให้คุณตื่นเต้นขนาดนี้ สำนักงานการไฟฟ้าคงจะจ่ายกระแสไฟฟ้ามาแน่ ๆ เลยใช่ไหมครับ?”

ในที่สุดเลขาก็ไอจนเมล็ดแตงโมกระเด็นออกมา เขาชี้หน้าเหวินเทาพลางกล่าว “เจ้าหนู นี่เป็นเรื่องที่จะคุยโวได้เหรอ? ถึงเวลานั้นถ้าไม่ถึงหลายพันตัวขึ้นมา ฝั่งนั้นเขาจะมองหมู่บ้านเรายังไง นี่ไม่ใช่ตอนที่ปล่อยดาวเทียมเหมือนเมื่อก่อนนะ พวกเราต้องยืนอยู่บนความเป็นจริง ทำในสิ่งที่เป็นของจริง จะมากุเรื่องสร้างภาพหลอกลวงไม่ได้!”

จ้าวเหวินเทารีบพูด “เลขา ผมก็ทำเรื่องจริงอยู่นี่ไง ไม่ได้กุเรื่องสร้างภาพหลอกลวงสักหน่อย”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

มาเลียบๆ เคียงๆ ขอติดตั้งไฟฟ้าแล้ว คอยดูต่อไปนะคะว่าลูกอ้อนของเหวินเทาจะได้ผลไหม

ไหหม่า(海馬)