ตอนที่ 64 ถ้าเกิดเรื่องนายรับผิดชอบ / ตอนที่ 65 คออ่อนจริงๆ

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 64 ถ้าเกิดเรื่องนายรับผิดชอบ 

 

 

หลูจื้อมองชุยหังพลางครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยถาม: “นายดื่มได้แค่ไหน ดื่มเรื่อยๆ หรอ” 

 

 

ชุยหังส่ายหน้าไปมาพลางพูด: “แค่ขวดเดียวก็ไม่ไหวแล้ว” 

 

 

“ได้ ฝึกเสร็จนายกลับไปรอฉันที่หอ เดี๋ยวฉันจะโทรหา ถ้าวันนี้นายไม่ดื่ม พรุ่งนี้ฉันจะฝึกนายจนตายเลยคอยดู” หลูจื้อรับปากแล้วจริงๆ 

 

 

เดิมทีชุยหังคิดว่าถ้าตัวเองเอาแต่ใจทำตามใจตัวเองสักหน่อย ทำให้หลูจื้อเกลียดเขา แล้วก็คงจะออกห่างเขาไปเอง ไม่ต้องมาคอยทรมานเขาอีกแล้ว เขาพึ่งจะสูญเสียความรักครั้งก่อนไปแถมกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอ ถ้าหลูจื้อเอาแต่คอยมาโฉบไปโฉบมารอบตัวเขาแบบนี้มันนับว่าเข้ามาในช่วงเวลาที่อ่อนแอ 

 

 

เขาไม่สามารถให้โอกาสนี้กับหลูจื้อ ให้เขาทำเรื่องที่ไร้ศีลธรรมแบบนี้ 

 

 

แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าหลูจื้อจะตอบตกลง… 

 

 

“ไม่ได้ยินหรอ ไม่ใช่ว่านายอยากดื่มเหล้าหรอ ไม่กล้าแล้ว?” หลูจื้อถาม 

 

 

ชุยหังฝืนใจพูดออกมา: “ทำไมต้องไม่กล้า ไปก็ไป” 

 

 

“เอาล่ะ นายพักอยู่ตรงนี้เถอะ พักเสร็จแล้วค่อยกลับเข้าทีมเอง” หลูจื้อพูด 

 

 

จากนั้นเขาก็กลับไปสอนบรรดานักศึกษาที่ยังคงตกอยู่ในอาการตกตะลึงเหล่านั้นต่อ 

 

 

มีคนหันกลับมามองชุยหัง แต่ชุยหังก็ไม่ได้ตอบสนองกลับอะไรทั้งนั้น 

 

 

พวกเขาอยากจะคิดยังไงก็ให้คิดแบบนั้นไปเถอะ ในเมื่อตอนนี้ถึงตนจะอยากอธิบายพวกเขาก็ไม่มีทางเข้าใจ 

 

 

การฝึกสิ้นสุดลงไปอีกหนึ่งวันแล้ว เพื่อนร่วมห้องทุกคนไปกินข้าวกันหมดแล้ว มีแค่ชุยหังที่เดินกลับหอพักเองคนเดียว 

 

 

เขาพึ่งจะปีนขึ้นเตียงก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ในห้องพักดังขึ้น 

 

 

เขารีบปีนลงจากเตียงนอนอีกครั้งแล้วเดินไปรับโทรศัพท์: “ฮัลโหล สวัสดีครับ ต่อสายใครครับ” 

 

 

“หานาย” 

 

 

เมื่อชุยหังได้ยินก็รู้ว่าคือหลูจื้อ 

 

 

“แต่งตัวแล้วลงมาข้างล่าง ฉันรอนายอยู่ใต้ตึก” 

 

 

“ครับ ผมเข้าใจแล้ว” ชุยหังพูด 

 

 

นึกไม่ถึงว่าจะมาเร็วขนาดนี้ 

 

 

เขารีบหยิบเสื้อผ้ามาใส่แล้ววิ่งลงจากตึกทันที 

 

 

ด้านล่างตึกหลูจื้อสวมชุดลำลองยืนอยู่ตรงนั้น แต่ว่าตัวเขาก็ยังคงตรงทื่ออยู่เหมือนเดิม ดูเหมือนว่าจะเป็นความเคยชินของทหารสินะ คงจะเป็นรากฐานฝังแน่นไปแล้ว 

 

 

ปกติเห็นแต่เขาใส่ชุดเครื่องแบบก็องอาจผ่าเผยไร้ที่ติแล้ว ตอนนี้มาสวมชุดลำลองก็ยังรู้สึกว่าหล่อมาก 

 

 

เป็นดังที่ว่าคนที่ฝึกทหารจากกองทัพแค่คุณสมบัติประจำตัวก็ชนะขาดแล้ว 

 

 

ชุยหังเดินเข้าไปพลางถาม: “ครูฝึก ทำไมใส่ชุดนี้ล่ะ เล่นซ่อนแอบหรอ” 

 

 

“ออกไปทำผิดกับนายยังจะให้ฉันใส่ชุดเครื่องแบบทหารหรอ นายอยากตายหรือไง” หลูจื้อพูด 

 

 

อันที่จริงชุยหังก็พอจะรู้ว่ากฎของทหารเข้มงวดและเด็ดขาดมาก 

 

 

สิ่งที่ขอไปวันนี้ดูเหมือนว่าจะทำให้หลูจื้อลำบากใจมากไปหน่อยจริงๆ 

 

 

“ครูฝึก ถ้าอย่างนั้นพวกเราไม่ต้องออกไปกินเหล้าแล้วล่ะ แบบนี้มันไม่ดี” ชุยหังพูด 

 

 

เขาไม่อยากให้หลูจื้อต้องมาถูกลงโทษเพราะตัวเอง 

 

 

หลูจื้อกลับพูดขึ้นว่า: “พอเลย พูดคำไหนก็คำนั้น ไอ้โรคพอเรื่องมาถึงตัวก็เอาแต่หนีแบบนี้ไปเรียนมาจากใคร” 

 

 

“ได้ คุณพูดเองนะ ถ้าถึงตอนที่โดนจัดการขึ้นมาอย่ามาโทษผมนะ” ชุยหังพูด 

 

 

“จะไม่โทษนายได้ไง ถ้าฉันเกิดเรื่องขึ้นมาจะมาหานายเป็นคนแรก นายต้องรับผิดชอบ” หลูจื้อพูด 

 

 

คำพูดแบบนี้ ถ้าหากเป็นพวกเกย์พูดกันชุยหังย่อมเข้าใจความหมายแฝงที่อยู่ข้างในนั้น 

 

 

แต่เขารู้ว่าที่หลูจื้อพูดแบบนี้ ก็แค่พูดออกมาตามใจปากก็เท่านั้น 

 

 

“ถ้าผมสามารถรับความรับผิดชอบนี้ได้ไหว ผมก็จะรับ” ชุยหังพูด 

 

 

“เอาล่ะ เลิกพูดมากได้แล้วจะไปดื่มที่ไหน” หลูจื้อถาม 

 

 

ชุยหังก็มึนไปแล้ว มหาวิทยาลัยนี้สามารถไปดื่มเหล้าที่ไหนได้บ้าง 

 

 

คิดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วส่งวีแชทไปหาชย่าอวี่ชิว: [ใกล้ๆ มหา’ ลัยมีที่ไหนพอจะดื่มเหล้าได้บ้าง] ” 

 

 

ตอนแรกชย่าอวี่ชิวก็มึนหน่อยๆ จึงส่งสติ๊กเกอร์หน้าสงสัยกลับมาให้เขา 

 

 

ชุยหังถามอีกครั้ง ชย่าอวี่ชิวถึงพิมพ์ข้อความกลับมาหาเขาว่า: [ถนนเฟิงหลิว (ถนนเจ้าชู้) ] 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 65 คออ่อนจริงๆ 

 

 

ถนนสองสายข้างมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค ทั่วทั้งถนนตั้วลั่ว (ถนนเสื่อมทราม) จะเป็นพวกร้านอาหารของกิน ส่วนถนนเฟิงหลิว (ถนนเจ้าชู้) จะเต็มไปด้วยร้านคาราโอเกะ ร้านนั่งชิวและที่สำหรับดื่มเหล้า 

 

 

หลูจื้อกับชุยหังเลือกร้านที่ดูไม่ค่อยสะดุดตาร้านหนึ่ง แล้วก็เลือกห้องส่วนตัวเล็กๆ หนึ่งห้อง 

 

 

“ดื่มอะไร” หลูจื้อถาม 

 

 

ชุยหังกลับพูดขึ้นว่า: “คุณสั่งเถอะ ผมเลี้ยง” 

 

 

“ไม่ต้องถึงมือนายหรอก เร็วๆ เถอะ ถือเสียว่าเป็นการชดเชยกับที่ทรมานนายมาตลอดหลายวันนี้ รีบสั่งเถอะ” หลูจื้อพูด 

 

 

ชุยหังยังคงพูดเลี่ยง: “ผมสั่งอาหารไม่ค่อยเป็น คุณสั่งเถอะ ผมดื่มเบียร์ขวดสองขวดก็พอแล้ว” 

 

 

หลูจื้อไม่มีทางเลือกจึงสั่งอาหารตามใจไปแล้วสองอย่างและดูเหมือนกำลังจะสั่งเพิ่ม ชุยหังจึงรีบพูดขัดขึ้นทันที: “กินไม่หมด ผมไม่ใช่หมู” 

 

 

“นายไม่ใช่หมูก็เกือบแล้วนะ” หลูจื้อพูดเยาะเย้ยเขาก่อนจะให้พนักงานไปทำก่อน ถ้าไม่พอค่อยสั่งเพิ่ม สำคัญที่เบียร์ต้องเสิร์ฟก่อน 

 

 

หลังจากที่เบียร์มาเสิร์ฟที่โต๊ะแล้ว หลูจื้อก็กำลังจะรินให้ชุยหังสักแก้ว แต่ชุยหังกลับยืนยันว่าจะดื่มมันทั้งขวดนี้เลย 

 

 

“นายดื่มได้แค่ไหนกันแน่” หลูจื้อถาม 

 

 

ชุยหังตอบ: “ก็ขวดสองขวดไง ทำไมหรอ” 

 

 

“แล้วนายวางท่าซะน่าตกใจแบบนั้นไปเพื่ออะไร” 

 

 

“ไม่อยากเปลืองแก้วเขา…ที่นั่นพวกเราก็ดื่มกันแบบนี้ทั้งนั้น…” ชุยหังพูด 

 

 

“ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะดื่มเป็นเพื่อน เลี่ยงไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกับนายจนต้องชักสีหน้าใส่ฉันอีก” หลูจื้อพูด 

 

 

ชุยหังมองใบหน้าหล่อเหลาของหลูจื้อ ทั้งยังมีทุกอย่างที่มีมาตรฐานก็รู้สึกว่าเขาแมนมากจริงๆ 

 

 

ทำไมในแวดวงของเกย์ถึงได้มีแต่พวกตุ้งติ้งออกสาวกันหมดนะ?  

 

 

“มา ไม่ว่าหลายวันมานี้ใครจะถูกใครจะผิดก็ดื่ม” หลูจื้อพูด 

 

 

อาหารยังไม่ทันขึ้นโต๊ะ เดิมทีเขาอยากจะใช้การดื่มเหล้ามาคลี่คลายเรื่องระหว่างเขากับชุยหัง และบรรยากาศที่ดูเหมือนจะอึดอัดนิดหน่อย 

 

 

ที่จริงชุยหังก็ตื่นเต้นมาก หนุ่มสุดหล่อนั่งอยู่ต่อหน้าตัวเอง แถมยังกำลังดื่มเหล้ากับตน ทั้งยังเป็นครูฝึกอีกด้วย นี่เป็นเรื่องที่เมื่อก่อนแค่คิดก็ไม่กล้าแม้แต่จะคิด 

 

 

ความอึดอัดใจในหลายวันที่ผ่านมา ความพัวพันกันในหลายวันที่ผ่านมา ไหนจะเรื่องหลิวเฮ่ออีก เขายกขวดขึ้นก่อนจะดื่มมันลงไปอึกใหญ่ 

 

 

“นี่นายอยากจะรีบจบสงครามเร็วๆ หรือไง ดื่มเร็วขนาดนั้นไปเพื่อ?” หลูจื้อมองวิธีการดื่มของชุยหังแล้วก็ถามออกไปตรงๆ 

 

 

ชุยหังไม่พูดอะไร ตอนนี้เขายังมีสติดีอยู่ 

 

 

เมื่อเบียร์ตกถึงท้อง เขาไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวตัวเองจะเผลอพูดอะไรตามใจกับหลูจื้อออกไปหรือเปล่า ดังนั้นจึงถือโอกาสที่ตัวเองยังไม่ทันได้เลอะเลือนเลอะเทอะ รักษาความสงบเสงี่ยมสำรวมเอาไว้ 

 

 

“ไม่มีใครแย่งนายหรอก จะดื่มเร็วขนาดนั้นทำไม” หลูจื้อพูด 

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “เปล่า ก็แค่รีบดื่มให้เสร็จจะได้รีบกลับไปนอน พรุ่งนี้ยังต้องถูกทรมานอีก” 

 

 

“ถูกทรมาน? แบบนี้มันนับว่าทรมาน? นายก็เป็นซะแบบนี้ ถ้าเอานายไปทิ้งไว้ที่กองทัพของเราคงต้องจับถลกหนังเลย” หลูจื้อพูด 

 

 

ชุยหังตอบกลับเร็วไว: “ดังนั้นผมฉลาดก็เลยไม่เป็นทหารไง” 

 

 

“เป็นทหารเสียใจสองปี ไม่เป็นทหารเสียใจไปตลอดชีวิต ไม่เคยได้ยินหรอ” หลูจื้อถาม 

 

 

อาหารยกขึ้นโต๊ะแล้ว ชุยหังดื่มลงไปอีกอึกใหญ่จากนั้นก็พูดต่อ: “เคย พึ่งได้ยินคุณพูดเมื่อกี้” 

 

 

หลูจื้อเหลือบมองเขาพักหนึ่ง ถึงแม้ชุยหังพึ่งจะดื่มไปไม่เท่าไหร่แต่ว่าใบหน้ากลับเริ่มแดงขึ้นมาแล้ว 

 

 

“นายคออ่อนจริงๆ หรอ คออ่อนแล้วยังจะดื่มสมองมีปัญหาหรือไง” 

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “ผมบอกแล้วไงว่าดื่มได้ก็แค่ดื่มน้อยเท่านั้นเอง ใครกำหนดหรอว่าคนตงเป่ยทุกคนต้องดื่มเหล้าขาว แล้วต้องพันแก้วไม่เมา?” 

 

 

“ไม่มีใครกำหนดแต่ว่าท่าทางของนายแบบนี้มันน่าตกใจเกินไปแล้ว” 

 

 

“ขอบคุณที่ชม” ชุยหังพูด 

 

 

เหล้าทางนี้กับเหล้าแถวบ้านเกิดไม่เหมือนกันเลยจริงๆ กระปรี้กระเปร่าดีเหมือนกัน 

 

 

“ว่ามาสิ ทำไมวันนี้จู่ๆ ถึงอยากดื่มล่ะ” หลูจื้อพูด 

 

 

ชุยหังใจกล้ามากขึ้นหน่อยแล้วจึงพูดขึ้น: “อารมณ์ไม่ค่อยดี ถูกทิ้งมาไง”