บทที่ 402 ให้พวกมันออกตัวไปก่อน

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บทที่ 402 ให้พวกมันออกตัวไปก่อน

บทที่ 402 ให้พวกมันออกตัวไปก่อน

ภาพที่เห็นสร้างความฮือฮากับผู้ชมในสนามไม่น้อย

เสียงวิจารณ์เหล่านั้นลอยไปถึงหูหนุ่มสาวตระกูลหลี่ ทำให้พวกเขาอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

น่าอายชะมัด!

วันนี้พวกเขามาทำอะไรที่นี่? มาเป็นตัวตลกงั้นเหรอ!

ตอนนี้หลี่หรงที่ยืนมองอยู่บนอัฒจันทร์ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอมั่นใจว่าพี่เขยไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ได้ง่าย ๆ

แต่ไม่ใช่ว่าเขาประเมินคู่แข่งต่ำไปหรอกเหรอ?

เมื่อเห็นอย่างนั้น เธอจึงฝ่าการป้องกันของการ์ดสนามแล้ววิ่งไปที่รถสปอร์ตสีเหลืองอีกครั้ง

“พี่เขย ทำไมไม่ขับออกไปล่ะ? พวกเขาไปกันหมดแล้ว!”

อวี้ฮ่าวหรานเหลือบตาขึ้นมองไปยังหัวโค้งขณะที่มุมปากกระตุกยิ้มเบา ๆ

“ฮ่า ๆ ปล่อยพวกเขาไปก่อนเถอะ”

ไม่นานหลี่หรงก็ถูกเจ้าหน้าที่ในสนามพาตัวไปนั่งบนอัฒจันทร์

ตอนนี้ความสงสัยของทุกคนต่างพุ่งขึ้นถึงขีดสูงสุด อวี้ฮ่าวหรานยกนาฬิกาขึ้นมองเวลาแล้วค่อย ๆ ขึ้นรถ

“บัดซบ ออกรถตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร? นี่มันผ่านไปสามนาทีแล้ว!”

“อะไรวะ เพิ่งนึกได้ว่าต้องแข่งเหรอ? ยอมแพ้ไปซะดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องขายหน้าไปกว่านี้”

“…”

เมื่อพวกผู้ชมเห็นอย่างนั้นจึงหัวเราะเยาะ

ในสายตาพวกเขา ผู้ชายคนนั้นเป็นเหมือนตัวตลกของค่ำคืนนี้ แต่แล้วในวินาทีต่อมา ทุกคนก็ต่างพากันตกตะลึง!

หลังจากอวี้ฮ่าวหรานขึ้นไปนั่งบนรถ รถสปอร์ตสีเหลืองสดใสก็พุ่งตรงออกจากเส้นปล่อยตัวอย่างรวดเร็วราวกับลูกศร

เนื่องจากเขาออกตัวด้วยความเร็วสูง พวกผู้ชมจึงรู้สึกเหมือนกำลังมองสายฟ้าสีเหลืองสด!

ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาก็เข้าโค้งแรกได้อย่างสวยงาม! ถึงอย่างนั้นความเร็วของรถสปอร์ตสีเหลืองก็ไม่ลดลงเลย

แต่กลับเร่งความเร็วขึ้นอีก!

เมื่อเห็นอย่างนั้น ทุกคนก็เบิกตากว้างจนเกือบถลนออกมาจากเบ้า

ไม่สำคัญว่าจะลดความเร็วตอนเข้าโค้งไหม แต่ผู้ชายคนนั้นจะตามคนอื่นทันจริงเหรอ?

“เวรเอ๊ย! บ้าไปแล้ว! มันควรจะออกตัวด้วยความเร็วแบบนี้ตั้งแต่แรกสิ!”

“จบแล้ว! คืนนี้พวกเราทุกคนจบเห่แน่!”

“ไอ้คนนี้เป็นอะไรของมันวะ รนหาที่ตายชัด ๆ!”

“…”

ไม่มีใครเชื่อว่าอวี้ฮ่าวหรานจะทำแบบนี้ แม้แต่นักแข่งรถมืออาชีพยังไม่สามารถขับด้วยความเร็วสูงอย่างเขา

แม้จะเกิดความผิดพลาดเล็กน้อย แต่ด้วยความเร็วขนาดนี้ รถยนต์อาจสูญเสียการทรงตัวแล้วไถลไปชนกับรถคันอื่นได้!

ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าอวี้ฮ่าวหรานรนหาที่ตาย รถสปอร์ตสีเหลืองสดก็แล่นผ่านหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด

“อะไรน่ะ?!”

ผู้คนในสนามตกตะลึงทันที!

พอมองขึ้นไปบนจอแอลอีดีขนาดใหญ่ พวกเขาแทบหยุดหายใจไปตาม ๆ กัน

ภาพที่เห็นน่ากลัวมาก!

แค่ผิดพลาดเล็กน้อยอาจถึงตายได้!

“บ้าไปแล้ว! เขาบ้าไปแล้วจริง ๆ!”

ผู้ชมคนหนึ่งพึมพำ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าอวี้ฮ่าวหรานวางแผนทุกอย่างมาแล้ว

คนธรรมดาจะเทียบกับผู้บรรลุขอบเขตก่อตั้งรากฐานขั้นสูงสุดได้ยังไง?

เพียงแค่เขานึกถึงมัน ทุกรายละเอียดของรถ ทุกสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะปรากฏในความคิดของเขาอย่างชัดเจน

แถมเขายังตอบสนองเร็วกว่าคนธรรมดาถึงหนึ่งร้อยเท่า!

สำหรับเขาแล้ว ความเร็วสูงขนาดนี้ไม่ต่างอะไรกับความเร็วปกติสักนิด

บนถนนในสนามแข่งรถ รถสปอร์ตสีดำของเหอเส้าอยู่ข้างหน้าสุด ซึ่งนำรถที่ตามมาเพียงครึ่งคันเท่านั้น

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ รถสปอร์ตทั้งสองคันขับไล่บี้กันอย่างน่าหวาดเสียว

“ฮึ่ม เร็วเข้า! ยังเหลืออีกเจ็ดโค้ง! พวกมันไม่มีทางแซงฉันได้แน่!”

เขาพึมพำอย่างมั่นใจ ตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้อยู่ในความคิดของเขาเลย

ไอ้นั่นเป็นแค่ตัวตลก บางทีมันอาจจะกลัวจนกลับบ้านไปแล้วก็ได้

ทันใดนั้น หางตาของเหอเส้าเหลือบไปเห็นสายฟ้าสีเหลือง!

พอมองดูในกระจกมองหลัง เห็นได้ชัดว่ารถสปอร์ตคันนั้นแล่นเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วสูง!

นั่นคือผู้ชายคนนั้นเหรอ?!

ทันทีที่เห็นรถสปอร์ตคันนั้น เหอเส้าก็ต้องตกตะลึง เพราะในบรรดารถทั้งแปดคัน มีเพียงรถของคนตระกูลหลี่เท่านั้นที่เป็นสีเหลือง!

แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจกว่าเดิม!

เมื่อเข้าใกล้โค้งที่เจ็ด แม้แต่พวกนักแข่งมืออาชีพยังต้องชะลอความเร็ว ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถควบคุมพวงมาลัยและเสียหลักได้

แต่ขณะที่ทุกคนกำลังลดความเร็วลง สายฟ้าสีเหลืองก็ฟาดผ่านพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว!

“บ้าไปแล้ว!”

เมื่อได้ยินเสียงคำรามของรถยนต์ ในใจเหอเส้ารู้สึกตื่นตระหนกทันที

ตัวเหอเส้า รวมไปถึงผู้ชมทุกคนที่กำลังดูการแข่งขันผ่านจอแอลอีดีขนาดใหญ่ต่างพากันตะลึงงัน เมื่อพบว่าสายฟ้าสีเหลืองไม่แม้แต่จะชะลอความเร็วลงเลย เขาเลี้ยวโค้งทั้งเจ็ดด้วยความเร็วอย่างต่อเนื่อง!

เข้าโค้งเร็วมาก!

ความเร็วถึงขีดจำกัดอีกแล้ว!

เขาเข้าโค้งติดต่อกันเจ็ดโค้ง ซึ่งเกือบทุกครั้งข้างรถจะขูดกับกำแพงกั้นอย่างน่าหวาดเสียว!

ความน่าหวาดเสียวนี้ทำให้เขาแซงรถคันอื่นและขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่ง!

เหอเส้าที่ก่อนหน้านี้อยู่ในอันดับหนึ่งถูกรถของอีกฝ่ายทิ้งห่างตอนเข้าโค้งที่เจ็ด

สายตาของคนหนุ่มสาวเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิม ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นได้?

มนุษย์ธรรมดาสามารถทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?

เพี้ยนไปแล้ว!

ชายหนุ่มหลายคนแอบบ่นในใจ หลังจากคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการแข่งรถยนต์มาหลายปี พวกเขาไม่เคยเห็นใครบ้าเท่าผู้ชายคนนี้เลย!

ถึงอย่างนั้นความเร็วของรถสปอร์ตสีเหลืองก็ไม่ช้าลงเลย แถมยังดูเหมือนว่าหลังจากเข้าโค้งติดต่อกันแล้ว ความเร็วของรถจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็หายลับไปกับตา!

ไม่นานรถสปอร์ตคันสีเหลืองก็ปรากฏตัวที่หน้าเส้นชัย พวกผู้ชมต่างส่งเสียงฮือฮาทันที!

“เชี่ย! เพิ่งผ่านไปเก้านาที! แต่เขามาถึงแล้วเนี่ยนะ!”

“นักแข่งมืออาชีพยังทำแบบนี้ไม่ได้เลย! มันไม่ใช่คนแล้ว!”

“ไม่! ไม่ใช่แค่เก้านาทีนะ แต่ผู้ชายคนนี้ใช้เวลาแค่สามนาทีเอง!”

“…”

ทุกคนต่างพากันตกใจ เสียงพูดคุยดังอื้ออึง สาวตาผู้ชมต่างจับจ้องภาพบนจอเป็นตาเดียวกัน!

เร็วมาก!

ตอนนี้อวี้ฮ่าวหรานจอดรถแล้วก้าวลงมาอย่างช้า ๆ ท่าทางของเขายังคงสงบนิ่งเหมือนเดิม

กลุ่มคนที่เชียร์เหอเส้าไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก…

นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่มันคือวิธีที่ทำให้อีกฝ่ายอับอายจนไม่กล้าสู้หน้าใครได้!

ไม่กี่นาทีต่อมา รถสปอร์ตสีดำของเหอเส้าก็แล่นเข้าเส้นชัย ถ้าเป็นการแข่งขันครั้งก่อน ๆ เขาจะได้รับเสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องอย่างล้นหลามแน่นอน

เพราะเขาทำลายสถิติเดิมและเข้าเส้นชัยภายในเวลาสิบนาที

แต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเขาสักคน

ตอนนี้ทุกคนในตระกูลหลี่มารวมตัวกันที่ข้างสนาม

“พี่เขย…พี่เก่งเกินไปแล้ว! สุดยอดมาก! ไอ้พวกนั้นหน้าเจื่อนไปเลย ฮ่า ๆ!”

หลี่จิงเทียนพูดอย่างภาคภูมิใจ ก่อนกวาดสายตามองพวกที่อยู่บนอัฒจันทร์

พวกนั้นหน้าถอดสีกันทุกคน…

หลี่หรงที่ยืนอยู่ด้านข้างมองท่าทางพึงพอใจของชายหนุ่มทั้งสองอย่างเงียบ ๆ

“ฮึ่ม ตอนนี้ชื่อเสียงครอบครัวหลี่ของเราถูกกอบกู้แล้ว”

เธอให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตระกูลมากกว่าสิ่งใด ถ้ามีแค่หลี่จิงเทียนที่โดนเหยียดหยาม เธอจะไม่เข้าไปยุ่งแน่…

อวี้ฮ่าวหรานแสยะยิ้มมุมปาก หลังจากได้ยินว่ารถสปอร์ตส่วนใหญ่แล่นเข้าเส้นชัยแล้ว เขาก็หันไปมองทางเหอเส้า

แต่ขณะนั้นหลี่จิงเทียนและคนในตระกูลหลี่สองสามคนกำลังเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

“ฮ่า ๆๆ! แกเพิ่งมาถึงเหรอ? น่าอายชะมัด ขยะก็คือขยะ ตอนที่รอแกเข้าเส้นชัย ฉันเกือบจะผล็อยหลับไปแล้วนะเนี่ย”

เขาหัวเราะเยาะเสียงดัง คำพูดถากถางของเขาแทงใจดำอีกฝ่ายเข้าอย่างเต็มเปา