ตอน 112 ฉากตบหน้าฉาดใหญ่

ระบบอัพเกรดเทพชาย

ตอน 112 ฉากตบหน้าฉาดใหญ่

 

เมื่อหลิงเซียวเห็นเช่นนั้นก็โกรธทันที

 

“หมายความว่าอย่างไร? แกไม่ยอมรับมันใช่ไหม? ฉันรู้แล้ว พวกแกอิจฉาใช่ไหม!” หลิงเซียวกล่าว

 

ซูโจวและคนอื่นๆได้ยินดังนั้น ก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง เมื่อเห็นแบบนั้นพวกเขาก็แทบจะกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

 

หลิงเซียวกล่าวเสริมว่า “สั่นทําไม? ละอายใจที่จะอับอายขายหน้าใช่ไหม?”

 

เมื่อคําพูดนี้หลุดออกมา ซูโจวและอีกห้คนที่เหลือก็กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง

 

ในโลกนี้มีคนไร้ยางอายเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ? ไม่ละอายมั้งหรือ?

 

จากนั้นดวงตาของทั้งห้าคนก็ด่ามืดและหมดสติไปในทันที

 

หลิงเซียวหยิบแว่นตายุทธวิธีของทั้งห้าคนขึ้นมาและกดปุ่มช่วยเหลือทันที

 

จนถึงตอนนี้ หลิงเซียวได้กําจัดคนไปแล้ว 20 คน!

 

นอกรอยแยกต่างมิติ หัวหน้าหน่วยหลินเห็นฉากนี้แล้วไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

มีผู้เข้าแข่งขันเพียง 200 คน เท่านั้น และหลิงเซียวก็กําจัดคนออกไปแล้ว 20 คน

 

อัตราส่วนนี้ ในรอบคัดเลือกก่อนหน้านี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

 

“เหล่าหลิน เจ้าหนูนี้มาจากไหนกันแน่?” หัวหน้าหน่วยคมดาบที่แหลมคมคนหนึ่งมองภาพถ่ายทอดสดอย่างสงสัยแล้วเอ่ยปากถาม

 

มุมปากของหัวหน้าหน่วยหลินกระตุกและพูดว่า “คนไร้ยางอาย ตลก และทรงพลัง จริงสิตอนที่เขาเพิ่งทะลวงผ่านไปยังนักรบวิญญาณ เขาก็ได้เข้าสู่ขั้นนักรบวิญญาณระดับสองแล้ว”

 

“นอกจากนี้เขายังสังหารผู้ฝึกยุทธต่างโลกที่อยู่ในขั้นนักรบวิญญาณระดับที่สามอีกด้วย”

 

ทันทีที่เขากล่าวเช่นนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่รอบด้านก็ตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

 

แต่พวกเขาก็ต้องเชื่อเพราะหัวหน้าหน่วยหลินไม่จําเป็นต้องโกหกพวกเขา

 

หลังจากนั้นไม่นานสมาชิกของกองกําลังดาบที่แหลมคมก็พาซูโจวและคนอื่นๆออกจากต่างโลก

 

ก่อนจากไป สมาชิกหลายคนมองไปที่หลิงเซียวด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับว่าพวกเขามองไปที่สัตว์ป่าหายากทําให้หลิงเซียวสับสน

 

ไม่กี่นาทีต่อมา หลิงเซียวก็หยิบถาดอบขนาดเล็กออกมา หลังจากทาน้ํามันเสร็จ เขาก็วางเนื้อสัตว์วิญญาณเหยียบเมฆาลงบนถาดอบ

 

อีก!

 

อีก!

 

ทันใดนั้นเสียงกลืนน้ําลายของทุกคนก็ดังขึ้น

 

หลังจากนั้นไม่นานกลิ่นหอมก็ลอยออกมาทําให้ทุกคนไม่สามารถควบคุมจมูกของตัวเองได้ พวกเขาอยากจะถามเกี่ยวกับกลิ่นหอมที่เย้ายวนใจนี้

 

เฉาผิงและหยวนม่ได้สติกลับมาแล้ว พวกเขาจ้องมองถาดอบด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

 

โครกครากษ

 

ท้องของพวกเขาเริ่มร้องออกมาเป็นเสียงเพลง

 

ซูเหยาส่ายหัว “พวกนายสองคนนี้เก็บอาการกันไม่เป็นหรืออย่างไร! “

 

เฉาผิงและหยวนซูเกาหัว อยากจะอธิบาย

 

แต่เพียงไม่นานท้องของซูเหยาก็มีเสียงอึกทึกครึกโครมดังออกมาเช่นกัน

 

เฉาผิง และ หลิน รั่วเหยียน มองไปที่ซูเหยาใบหน้าที่สวยงามของซูเหยาพลันแดงระรื่อขึ้นทันที

 

“ซูเหยายังจะมาพูดถึงคนอื่นอยู่อีกเหรอ?” หลิว รั่วเหยียน พูดหยอกล้อ

 

หลังจากนั้นฉากตบหน้าฉาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น

 

โครกคราก

 

เสียงนี้มาจากท้องของ หลิว รั่วเหยียน เธอตะลึงงันไปในทันที

 

หลิงเซียวมีความสุขและกล่าวว่า “พวกเธอทุกคนยับยั้งชั่งใจกันไม่ได้หรือไง? ไม่เหมือนฉันเลย…”

 

โครกครากษ

 

ฉากนี้น่าอึดอัดใจมาก ทั้งห้าคนกะพริบตาปริบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาชั่วขณะทุกคนตกอยู่ในความเงียบอันแปลกประหลาด

 

คนดูในห้องถ่ายทอดสดหัวเราะอย่างบ้าคลัง

 

“ฉากตบหน้าฉาดใหญ่ ทุกคนเป็นพวกเห็นแก่กิน!”

 

“เป็นอย่างที่คิด พวกเขามากินข้าวที่ต่างแดน!”

 

“พวกสัตว์วิญญาณ รีบหนีเร็วเข้า อย่าเข้าใกล้หลิงเซียวและคนอื่นๆเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกแกคงได้กลายเป็นวัตถุดิบของพวกเขา!”

 

“หลิงเซียวนําทีมนี้ไปเป็นทีมนักกินหรือยังไง?”

 

“233333…… สไตล์ทีมของคนอื่นเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ แต่สไตล์ของหลิงเซียวกลับเป็นภาพยนตร์ตลก!”

 

“..”

 

ไม่นาน เนื้ออบเมฆาก็สุก หลิงเซียวรีบจับตะเกียบทันที หลังจากตักเข้าปาก นัยน์ตาของเขาก็พลันหดแคบลง