ตอนที่ 693

Elixir Supplier

693 ผู้ที่ไม่เคารพชีวิตของผู้อื่นจะต้องได้รับผลของการกระทำ

 

“เธอทำแท้งเหรอ? แล้วอาจารย์ดูยังไงเหรอ?” พันจวินถามด้วยความประหลาดใจ

 

ปกติแล้ว การดูว่าผู้หญิงท้องหรือไม่ท้องนั้นไม่ได้ยากมาก แต่การจะบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นเคยทำแท้งมาหรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย

 

“ผมบอกได้จากการสังเกตดูเธอครับ กลิ่นที่ผมสัมผัสได้จากตัวเธอมันเกี่ยวข้องกับการทำแท้งครับ” หวังเย้าพูด

 

“แล้วเธอป่วยเป็นโรคของผู้หญิงเหรอ?” พันจวินถาม

 

“ใช่ครับ แล้วก็หนักมาด้วย” หวังเย้าพูด “เธอน่าจะเปลี่ยนคู่นอนเยอะมากเลยล่ะครับ”

 

“ในเมื่ออาจารย์บอกให้พวกเธอกลับมาวันนี้ แล้วทำไมอาจารย์ไม่ตรวจพวกเธอซะล่ะ?” พันจวินถามด้วยความไม่เข้าใจ เขาคิดว่า ไม่มีคนไข้คนไหนสมควรจะได้รับการปฏิบัติแบบนั้น ถ้าหากเขาเป็นคนไข้ เขาก็คงจะรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก

 

“เหตุผลที่ผมให้พวกเธอกลับมา เพราะต้องการให้โอกาสผู้หญิงอีกคนต่างหากล่ะครับ” หวังเย้าพูด

 

“เธอก็ป่วยเหมือนกันเหรอ?” พันจวินถาม

 

“ครับ เธอยังเคยทำแท้งมาก่อนด้วย” หวังเย้าพูด

 

“จริงเหรอ?” พันจวินตกตะลึง

 

คนที่เป็นเพื่อนกันได้มักจะมีความคล้ายกันในบางเรื่อง แล้วทั้งสองก็เคยทำแท้งมาเหมือนกันด้วย

 

“เธอเลือกคบเพื่อนผิดน่ะครับ” หวังเย้าพูด

 

หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว ทั้งสองก็ยังคงไม่หายโมโหหวังเย้า

 

“แม่ง! ไอ้หมอนั่นทุเรศจริงๆ! ฉันจะร้องเรียนให้คลินิกของมันโดนปิดไปซะเลย” หนึ่งในนั้นพูด

 

“อย่าโกรธไปเลยนะ” เพื่อนของเธอที่กำลังคิดถึงคำพูดของหวังเย้าอยู่ได้พูดขึ้นมา

 

เธอคิดในใจ เขาหมายความว่ายังไงกัน?

 

“เข้าไปในเมืองกันเถอะ” เพื่อนของเธอพูด

 

“เธอจะเข้าไปทำไมเหรอ?” เธอถาม

 

“ก็ไปร้องเรียนไอ้คลินิกนี่น่ะสิ!” หญิงสาวน่าตาดีไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ

 

“เธอเอาจริงเหรอ?” อีกคนถาม

 

“แน่นอนสิ” หญิงสาวหน้าตาดีพูด เธอไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆหรอก

 

พวกเธอเดินทางไปที่ที่กรมอนามัยเพื่อส่งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับคลินิกของหวังเย้า

 

“คุณช่วยจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดจะได้ไหมคะ?” หญิงสาวหน้าตาดีถาม

 

“เราจะลองดูว่าพอจะทำอะไรได้บ้างนะครับ” เจ้าหน้าที่รับรายงานไป

 

ตามหลักการทั่วไปแล้ว ทางกรมอนามัยจะทำการตรวจสอบทุกเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนมา แต่ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รู้สึกสงสัยในเรื่องที่หญิงสาวสองคนร้องเรียนมาว่า หวังเย้าทำตัวไร้มารยาทและเชื่อถือไม่ได้ เจ้าหน้าที่รู้จักคลินิกของหวังเย้า เพราะเหลียนชานเป็นเมืองเล็กๆ ดังนั้น ข่าวสารจึงเดินทางรวดเร็วและทั่วถึงกัน หวังเย้าและคลินิกของเขาถือว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงอยู่ในเหลียนชานนี้

 

เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องมาคิดในใจ หมอหวังมีชื่อเสียงที่ดีมากนะ

 

“ฉันว่า สองคนนั้นต้องไม่ใช่คนที่นี่แน่” เพื่อนร่วมงานพูดขึ้นมา หลังจากที่เขาได้เห็นข้อมูลของหญิงสาวทั้งสองคน

 

“ไม่ใช่ สองคนนั้นเป็นคนจากที่อื่น” เจ้าหน้าที่พูด

 

“ดูจากท่าทางของสองคนนั้น พวกเธอน่าจะไปทำเสียมารยาทกับหมอหวังแน่ๆ เขาก็เลยไม่ยอมตรวจให้น่ะ” เพื่อนของเขาพูด

 

“ก็อาจจะเป็นแบบนั้น แต่ในเมื่อเขาร้องเรียนมาแล้ว เราก็คงต้องทำไปตามขั้นตอนล่ะนะ” เจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องพูด

 

“เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถอะ” เพื่อนร่วมงานของเขาพูด

 

“ชาของอาจารย์รสดีจริงๆ!” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พันจวินพูดคำนี้

 

“ฮาฮา มันก็ถือว่าไม่เลวนะครับ มันเป็นชาที่ผมปลูกเอง รับรองได้เลยว่ามาจากธรรมชาติและปราศจากมลพิษครับ” หวังเย้าพูด

 

ชาแบบไหนคือชาดี? ใบชาต้องเป็นชาป่าและเติบโตในพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างเช่น เนินเขาหนานชาน

 

“ฉันรู้น่า! รู้สึกเป็นเกียตริจริงๆที่ได้ดื่มชาของอาจารย์” พันจวินพูด

 

หวังเย้าได้รับสายจากทางกรมอนามัยในตอนมื้อกลางวัน ซึ่งมันทำให้เขาต้องประประหลาดใจมาก

 

“มีเรื่องอะไรเหรอ?” พันจวินถาม

 

“ผู้หญิงสองคนนั้นไปร้องเรียนผมที่กรมอนามัยน่ะสิ” หวังเย้าพูด

 

“อะไรนะ?” พันจวินประหลาดใจ “คิดไม่ถึงเลยนะ ว่าสองคนนั้นจะทำแบบนี้น่ะ!”

 

เจ้าหน้าที่ของทางกรมอนามัยโทรหาหวังเย้าเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น และเตือนให้หวังเย้าปฏิบัติตัวกับคนไข้ดีดี เรื่องทั้งหมดจบลงแค่นั้น ถ้าหากปัญหาร้ายแรงกว่านี้และมีหลักฐานมาด้วยล่ะก็ หวังเย้าอาจจะต้องถูกปรับ

 

ปัญหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่รับมือเรื่องนี้โดยการหาจุดสมดุลระหว่างหวังเย้าและหญิงสาวต่างถิ่นสองคนนั้น ข้อแค่ไม่ได้ผิดกฎข้อบังคับ เจ้าหน้าที่ก็ไม่คิดจะสร้างปัญหาให้กับหวังเย้า

 

ในตอนบ่าย หวังเย้ามีคนไข้มาตรวจกับเขาสองคน

 

ในตอนที่คนไข้เดินเข้ามาในคลินิก พันจวินก็คอยสั่งเกตพวกเขาไปด้วย เขาให้ความสนใจเป็นพิเศษไปที่ ท่าทางการเดิน, ดวงตา, สีหน้า, และกลิ่นตัว เขามองไม่เห็นความผิดปกติจากคนไข้ทั้งสองคนเลย แต่มันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับเขาในการเรียนรู้แพทย์แผนจีน

 

“ไม่ต้องรีบร้อนหรอกครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมเริ่มเรียนแพทย์แผนจีนจากการจับชีพจร แล้วขั้นตอนการวินิจฉัยที่ยากที่สุดในสี่อย่างนี้ก็คือ การมอง”

 

“ฉันรู้” พันจวินพูด

 

“ผมว่า วันนี้คงไม่มีใครมาแล้วล่ะ ออกไปเดินเล่นกันเถอะ” หวังเย้าเสนอ

 

แต่ทันทีที่พวกเขากำลังจะเดินออกไปจากคลินิก ก็มีคนไข้อีกคนเดินเข้ามา หวังเย้ารู้สึกแปลกใจมาก ความจริง ทั้งหวังเย้าและพันจวินต่างก็แปลกใจ เพราะคนไข้ที่มานั้นก็คือ หนึ่งในหญิงสาวสองคนที่เพิ่งจะมาหาหวังเย้าไปในตอนเช้า

 

“คุณหมอ ขอโทษที่มารบกวนอีกรอบนะคะ” หญิงสาวพูด เธอดูลังเลเล็กน้อย

 

“เธอนั่นเอง!” หวังเย้ามองไปที่เธอ

 

เธอรู้มีท่าทีรีบร้อน

 

“เข้ามาสิ” หวังเย้าพูด “แล้วเพื่อนของเธอล่ะ?”

 

“เธอกลับไปแล้วค่ะ” หญิงสาวพูด

 

“แล้วเธอมาที่นี่เพราะอยากจะมาตรวจใช่ไหม?” หวังเย้าถาม

 

“ค่ะ เอ่อ เดี๋ยวนะคะ! หมอคิดว่าฉันป่วยเหรอคะ?” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ

 

ที่เธอกลับมาในครั้งนี้ก็เพราะคำพูดของหวังเย้าในตอนเช้า เธอรู้สึกสงสัยกับคำพูดของเขา ยิ่งเธอคิดมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งไม่เข้าใจ เธอคิดว่า หวังเย้าไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ในตอนที่อยู่ต่อหน้าเพื่อนของเธอ ดังนั้น เธอจึงหาข้ออ้างเพื่อปลีกตัวออกมาในระหว่างทางที่พวกเธอจะเดินทางกลับ แล้วเธอก็เรียกแท็กซี่เพื่อกลับมาที่คลินิกนี้ แต่เธอไม่คิดเลยว่า หวังเย้าจะคิดว่าเธอป่วย

 

“หมอคิดว่า ฉันผิดปกติตรงไหนเหรอคะ?” หญิงสาวถาม

 

“ถ้าเธอไม่คิดจะมารักษา แล้วเธอกลับมาที่นี่ทำไมล่ะ?” หวังเย้าถาม

 

“ฉันกำลังคิดถึงเรื่องที่หมอพูดกับฉันเมื่อเช้าค่ะ ฉันอยากรู้ว่า มันหมายถึงอะไร” หญิงสาวพูด

 

“ประโยคไหนล่ะ?” หวังเย้าถาม

 

“ที่คุณพูดว่า ให้ฉันอยู่ห่างจากเพื่อนของฉันเอาไว้น่ะค่ะ” หญิงสาวพูด

 

“เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันหมายถึงอะไร แล้วเธอก็น่าจะรู้ดีด้วย ว่าเพื่อนของเธอเป็นคนแบบไหน การมีเพื่อนที่ดีก็จะทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น และในทางกลับกัน เธอก็น่าจะเข้าใจนะ” หวังเย้าพูด

 

หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นคนยังไง เพื่อนของเธอเป็นคนหน้าตาดี เธอมักจะใช้หน้าตาที่มีเพื่อให้ได้คบหากับคนรวย บางคนก็เป็นชายหนุ่มอายุน้อย และบางคนก็แก่กว่า เพื่อนของเธอนอนกับพวกเขาและขอให้เธอพาไปทำแท้งที่โรงพยาบาลอยู่หลายครั้ง

 

“แล้วตัวฉันมีปัญหาอะไรเหรอคะ?” หญิงสาวถาม

 

“เธอไม่รู้เหรอ? ประจำเดือนของเธอมาไม่ปกติใช่ไหม?” หวังเย้าถาม “ตอนมีประจำเดือน เธอก็จะปวดท้องด้วย”

 

“หมอรู้ได้ยังไงกัน?” ถ้าก่อนหน้านี้เธอรู้สึกสงสัย ตอนนี้มันได้กลายเป็นตกตะลึงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประจำเดือนของไม่ได้มาเป็นประจำ แล้วทุกครั้งที่ประจำเดือนมาเธอก้จะปวดท้องน้อยตลอดด้วย

 

“เธอเคยทำแท้งมาก่อนใช่ไหม?” หวังเย้าถาม

 

หญิงสาวอยู่ในอาการตกตะลึง ใบหน้าของเธอซีดเผือดราวกับกระดาษ มันคือความลับที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ลึกที่สุด เธอไม่เคยบอกใครเลย แม้แต่พ่อแม่ของเธอเอง มันเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับเธอ และเธอตั้งใจที่จะฝังมันเอาไว้ในซอกหลืบที่ลึกที่สุดของหัวใจเธอไปตลออดกาล เธอไม่มีทางลืมมันได้ก็จริง แต่เธอจะไม่มีวันพูดถึงมันให้ใครได้รู้ แต่ตอนนี้ ความลับของเธอกลับถูกพูดออกมาจากปากของหมอหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เป็นการย้ำเตือนเธอถึงเรื่องที่ตัวเธอพยายามที่จะลืมมันให้ได้ แก้มของเธอแดงก่ำและร้อนผ่าว ราวกับเธอยืนกำลังอยู่กลางแดดร้อนในเดือนกรกฎาคม

 

ในบางครั้ง ความเงียบก็หมายถึงคำตอบ เธอยอมรับมัน

 

“จริงเหรอเนี่ย?!” เมื่อได้เห็นสีหน้าของหญิงสาวแล้ว พันจวินก็รู้ว่าที่หวังเย้าพูดมานั้นเป็นความจริง

 

“เพื่อนของเธอยังร้ายกว่านั้นด้วยซ้ำ” หวังเย้าพูด “เธอทำแท้งมาหลายครั้งแล้วใช่ไหม?”

 

“ค่ะ เท่าที่ฉันรู้มา เธอทำมาแล้วสามครั้ง” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เพราะยังไม่หายจากอาการตกใจ เธอเคยพาเพื่อนของเธอไปทำแท้งที่โรงพยาบาลและช่วยจัดการเรื่องเอกสารอยู่ทั้งหมดสามครั้ง

 

“เพื่อนของเธอจะมีลูกไม่ได้อีกแล้ว” หวังเย้าพูด

 

สำหรับผู้หญิงแล้ว คำพูดของหวังเย้าก็ไม่ต่างอะไรกับผ่าฟ้าตอนกลางวันแสกๆ “อะไรนะ?”

 

การมีลูกไม่ได้คือการลงโทษที่เลวร้ายที่สุดสำหรับผู้หญิงส่วนใหญ่ การเป็นแม่คือเรื่องที่ยากที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำให้มีความสุขที่สุดเช่นเดียวกัน

 

“บนโลกใบนี้ เมื่อทำอะไรลงไปก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา” หวังเย้าพูด “เด็กที่อยู่ในท้องคืออีกชีวิตหนึ่งและเป็นของขวัญจากพระเจ้า เด็กไม่ใช่ก้อนหินที่เธอจะขว้างปายังไงก็ได้ เพื่อนของเธอเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ไม่เคารพอีกชีวิตที่จะเกิดมา และนี่ก็คือผลจากการกระทำของตัวเธอเอง”

 

“แล้วฉันล่ะ?” หญิงสาวใบหน้าซีดเผือดลงอีกครั้ง

 

“เธอยังไม่ถือว่าแย่เท่าไหร่ และยังรักษาได้อยู่” หวังเย้าพูด

 

หญิงสาวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ถ้าเธอเกิดไม่สามารถมีลูกได้อีกเพราะการเอาเด็กที่เธอไม่ต้องการออก หัวใจของเธอก็คงจะแตกสลาย เธอสงสัยว่า เพื่อนของเธอจะรู้สึกยังไง ถ้าได้รู้ว่าตัวเองจะไม่สามารถมีลูกได้อีก และตอนนี้ก็มีเธอคนหนึ่งที่รู้แล้ว

 

“หมอช่วยตรวจฉันได้ไหมคะ?” หญิงสาวถาม

 

“ได้สิ” หวังเย้าพูด

 

เขาตรวจเธอและจ่ายยาที่ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตและพลังฉีราบรื่นขึ้น รวมทั้งปรับธาตุหยินหยางในร่างกายของเธอให้สมดุลด้วย

 

“เอายานี่ไปกิน” หวังเย้าพูด “ต้องกินตามที่บอกเอาไว้ แล้วอีกสิบวันให้กลับมาอีกที”

 

“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวพูด หลังจากนั้น เธอก็จ่ายเงินและจากไป