บทที่ 300
เมื่อครูพูดจบ นักเรียนคณะกำแหงด้านหลัง พากันตะโกนออกมา

เสียงตะโกนดังสนั่น เสียงโหยหวน เต็มไปด้วยพลัง

“พวกเราให้นักเรียนคณะอื่นได้เห็นการต้อนรับขับสู้ของคณะกำแหง!”

เมื่อชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา

นักเรียนคณะกำแหง ตบอกแล้วหัวเราะออกมา

“ฟังคำสั่งฉัน ทุกคนร้องพร้อมกัน หนึ่ง สอง สาม!”

เสียงกลองดังขึ้น ชายคณะกำแหงกระทืบเท้า จากนั้นร้องเพลงออกมาเสียงดัง

“คณะไหนเจ๋งสุดยอด ฮุยเลฮุย!”

“นักเรียนคณะกำแหงเจ๋งสุดยอด ฮุยเลฮุย!”

“นักเรียนที่ไหนพลังปราณแข็งแกร่ง นักเรียนที่ไหนร่างกายกำยำ ฮุยเลฮุย!”

“นักเรียนคณะกำแหงพลังปราณแข็งแกร่ง นักเรียนคณะกำแหงร่างกายกำยำ”

……

เสียงดังสนั่น นักเรียนที่โดดเด่นของคณะอื่น รวมไปถึงพวกครู ได้ยินถึงกับสีหน้าไม่สู้ดี

อาจารย์เซินถูหัวเราะเสียงดัง ฟังแล้วส่ายหัวไปมา

ขณะนั้น ชายที่เป็นผู้นำพูดเสียงสูง “นักเรียนคณะกำแหงแข็งแกร่งเหมือนวัว คืนเดียวเก้าครั้ง ไม่ต้องกังวล!”

ชายเป็นร้อยคนพูดพร้อมกัน “แม่สาวน้อยไม่ต้องกังวล อันที่จริงเก้าครั้งยังไม่พอ!”

ชายที่เป็นผู้นำทำท่ายั่วยวน พูดเสียงดังขึ้นมาอีก “นักเรียนคณะกำแหงมีกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังสูง หล่อและอ่อนโยน”

ชายเกือบพันยืนขึ้นมา ตะโกนเสียงดังว่า “ไม่ได้อ่อนโยนธรรมดาๆ ท่าไหนก็ทำได้!”

ชายที่เป็นผู้นำตะโกนสุดเสียง “นักเรียนคณะกำแหงไม่มีเงื่อนไข เป็นผู้หญิงก็ได้หมด”

ทั้งลานประลอง ผู้ชายทุกคนยืนขึ้น พูดเสียงดังสนั่น “แค่แม่สาวน้อยไม่ไปไหน ก็ไม่หยุดหย่อนทุกคืน”

สุดท้ายนักเรียนคณะกำแหงทุกคน ย่ำเท้าตามจังหวะ ปรบมือแล้วพูดขึ้น

“สนุกๆ สนุกจริงๆ อีกทั้งยังมีลูกได้”

“คณะกำแหงๆ มีพลังห้าวหาญ!”

เมื่อบทเพลงจบ สีหน้าของลู่ฝานและคนอื่น อึมครึมเหมือนถ่าน

ไม่เคยเจอพวกคนประหลาดขนาดนี้มาก่อน นี่คือคณะกำแหงที่มีชื่อเสียงในสถาบันสอนวิชาบู๊มาตลอดเหรอ

ลู่ฝานคิดว่ามาผิดที่แล้ว

อาจารย์เซินถูหัวเราะ จากนั้นจึงนั่งลง หันไปถามเมิ่งอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ ด้วยเสียงดัง “เป็นไง พวกเด็กนรกของคณะเรา ดูมีพลานุภาพมากใช่ไหม”

อาจารย์เมิ่งอวิ๋นสีหน้าอึมครึม เธอรู้สึกเสียใจที่มาที่นี่

แอบตัดสินใจอยู่ในใจว่า หลังจากกลับไป ต้องอบรมศิษย์ในคณะบังเหิน อย่าหาคู่เป็นพวกปัญญาอ่อนของคณะกำแหง ช่างน่าอายจริงๆ

คนที่คิดเหมือนอาจารย์เมิ่งอวิ๋น ยังมีอาจารย์อู๋โฉวคณะสงบใจด้วย

เดิมทีอาจารย์อู๋โฉวกังวลเล็กน้อยที่หลิงเหยาและคนอื่น หาคู่เป็นนักเรียนคณะหนึ่งเดียว

แต่คณะนี้ ยังกลัวที่จะเปรียบเทียบ เมื่อมองเช่นนี้ พวกลู่ฝานคณะหนึ่งเดียว ปกติที่สุดแล้ว สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนมีเกียรติน่านับถือ

ดูพวกเปลือยท่อนบนพวกนี้สิ ผู้ชายคณะกำแหงใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ย้วยๆ ร้องเพลงเต้นรำ ร่างกายแข็งแกร่งจริง แต่ความคิดตื้นเขินตามแบบฉบับ

หลิงเหยาและคนอื่น ทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว ศิษย์พี่ม่านเหยียนที่อยู่ข้างๆ ก่นด่าออกมา

“พวกปัญญาอ่อน”

นักเรียนที่โดดเด่นของคณะอื่น ต่างมีสีหน้าประหลาดเช่นกัน บางคนอยากหัวเราะ แต่ไม่กล้าหัวเราะออกมา บางคนมีสีหน้าดูหมิ่น ตัดสินใจหลับตาลงทันที

อาจารย์อี้ชิงกระแอมสองครั้ง “โอเค พวกนายใครจะขึ้นมาก่อน รีบขึ้นมาสิ รีบสู้ให้เสร็จ จะได้กลับเร็วๆ”

หานเฟิงพูดเบาๆ ว่า “ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมศิษย์พี่ใหญ่กับอาจารย์เต้ากวงไม่มา ที่แท้กลัวแปดเปื้อนสายตากับหูนี่เอง ช่างเถอะๆ ผมขึ้นไปสู้ก่อน”