บทที่ 291 ราบรื่นเกินไป

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 291 ราบรื่นเกินไป
“พวกแก เฝ้าระวังอยู่ที่นี่ให้ดี มีเหตุการณ์อะไร ให้รีบรายงานทันที!”

หลู่ตี๋ออกคำสั่งกับลูกน้องเสร็จ คราวนี้ถึงเอ่ยกับฉินเทียนเสียงเบาว่า: “ผมสงสัยว่าจะมีสายลับของปรมาจารย์พิษอยู่ในเมือง”

“เพื่อหลบซ่อนให้พ้นหูตาผู้คน ขอเชิญราชาเทพและพี่น้องทุกท่านตามผมลงไปยังห้องใต้ดินดีกว่า”

“ที่นั่นปลอดภัยดีมาก”

ฉินเทียนก็คิดเช่นกันว่า หากตนพาคนเป็นขโยงขนาดนี้ไป จะต้องเป็นที่สะดุดตาแน่นอน

จึงตามหลู่ตี๋ มายังห้องหลบภัยใต้ดิน

ที่นี่คือห้องหลบภัยขนาดเล็กห้องหนึ่ง ที่สร้างโดยเจ้าของห้องหลบภัยคนก่อน

อยู่ลึกลงไปใต้ดินหลายเมตร รอบด้านใช้ปูนฉาบโครงเหล็กเสริมไว้ทั่ว ประตูบานใหญ่เพียงหนึ่งเดียว มีความหนาถึงหลายสิบเซนติเมตร

ต่อให้ใช้ปืนรบมาระเบิด ก็ไม่อาจทะลายลงได้

หากปิดประตูลงกลอน ที่นี่ก็จะเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดอย่างแน่แท้

แม้จะแข็งแรงหนาแน่นแบบนี้ แต่ด้านบนยังมีช่องหน้าต่าง ที่เชื่อมต่อกับภายนอกซ่อนอยู่หลายแห่ง ลมโกรกอากาศถ่ายเท

ดังนั้นจึงสบายโล่งโปร่ง หายห่วงเรื่องหดหู่จนจิตตกไปได้เลย

หลู่ตี๋สั่งให้คนยกโต๊ะใหญ่เข้ามาสองสามตัว จัดวางให้เสร็จสรรพ

ไม่นาน อาหารละลานตา ทั้งจีนทั้งตะวันตก เนื้อย่าง และอาหารทะเล ถูกยกจากห้องครัวเรียงรายกันเข้ามา

หลู่ตี๋หอบกล่องเหล้าสองกล่องมาเองกับมือ กล่องหนึ่งเป็นไวน์ชั้นสูงของท้องถิ่น อีกกล่อง เหล้าหลงไท่

“ราชาเทพ เหล้าหลงไท่ เป็นเหล้าที่ใช้ในงานสังสรรค์ระดับชาติของเมืองจีนคุณ ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลกทีเดียว”

“ขอบอกนายแบบไม่ปิดบังว่า กลิ่นเจี้ยงนั้นหอมรัญจวนใจ ฉันเองก็ชอบดื่มเหมือนกัน”

“ที่ผ่านมาเก็บสะสมอยู่หลายปีเหมือนกัน รอสักครู่ ผมจะให้คนขนเข้ามาให้หมด”

“คุณกับเหล่าพี่น้องลำบากกันมาหลายปีขนาดนี้ คืนนี้ต้องดื่มให้หนำใจสักยก”

เขาเปิดเหล้าหลงไท่ออกขวดหนึ่ง แล้วยกแก้วดื่มให้ฉินเทียนเป็นการส่วนตัวหนึ่งแก้ว

ฉินเทียนเอ่ยกลั้วหัวเราะ: “น้ำใจงามจริงเชียว”

“ทุกท่าน เหล้าหลงไท่ที่พวกท่านดื่มกันในเมือง อาจเป็นของปลอม แต่สำหรับที่นี่ ผมเชื่อว่าต้องเป็นของแท้แน่นอน”

“มา คืนนี้เรามาคล้องคอดื่มเหล้าด้วยกันเถอะ”

เห็นเขาอารมณ์ดีชื่นมื่น ทุกคนก็พากันยกแก้วเหล้าขึ้นมา

คนที่ไม่คุ้นเคยกับการดื่มเหล้าชั้นสูงแบบนี้ ก็ดื่มไวน์ไป

เนื่องจากสภาพอากาศของเกาะมลายูเหมาะสมพอดี ไวน์แดงรสฝาดที่บ่มหมัก จึงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

ไวน์แดงรสฝาดขวดนี้ ราคาแพงกว่าเหล้าหลงไท่ขวดหนึ่งเสียอีก

แต่ของประเภทนี้ ในสายตาของถงชวน เถียปี้และคนกลุ่มนี้ เป็นเพียงเครื่องดื่มดับกระหายเท่านั้น

พวกเขากระดกขวดรวดเดียว ราวกับวัวควาย

ตอนแรกทุกคนยังเก้ๆ กังๆ เล็กน้อย แต่ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ไม่นานก็เริ่มคึกคักสนุกสนาน

อารมณ์ของฉินเทียน ดีเป็นพิเศษ เมื่อไรที่มีคนยกแก้วดื่มให้ ไม่ว่าจะสุราขาวหรือสุราแดง ก็ยกดื่มจนหมดจอก

ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง หลายคนก็เมามายกันแล้ว ดวงตาฉินเทียน เริ่มแดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย

“ราชาเทพ คุณกับเหล่าพี่น้องดื่มกันไปก่อนนะ เดี๋ยวผมจะรีบไปที่ครัว ทำซุปแก้เมามาแป๊บเดียว”

หลังหลู่ตี๋ชี้แจ้งเสียงเบา ก็ย่องถอยหลังออกไป

อาจเป็นเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย เมื่อเขาออกไป มือจึงเลื่อนกดปุ่มตามไปด้วย

ประตูเหล็กบานหนาและหนักปิดลงช้าๆ โดยไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อย

“เริ่มได้” เมื่อออกมาแล้ว สีหน้าของหลู่ตี๋ก็แปรเปลี่ยน

เมื่อเขาชี้นิ้วออกคำสั่งเสร็จ ก็ออกมายืนอยู่ด้านนอก สังเกตการณ์ด้านในผ่านช่องหน้าต่างขนาดเท่ากำปั้นช่องหนึ่งบนประตู

ตอนเห็นควันสีขาวด้านในค่อยๆ ลอยโขมงออกมาจากช่องระบายอากาศหลายช่องด้านบน เขาก็โบกไม้โบกมือด้วยความดีใจ

“ราชาเทพผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร วันนี้ถูกฝังด้วยน้ำมือฉันแล้ว!”

“ฝีมือฉันนี่เด็ดดวงจริงๆ!”

ช่องลมอยู่สูงมาก ฉินเทียนที่นั่งรอคนอยู่ในอาการเมาเปลี้ย มึนไม่ได้สติ

พวกเขานึกว่า นั่นเป็นกลิ่นเหล้า

แต่แท้จริง มันคือแก๊สสลบ

“บ้าเอ้ย เหล้าหลงไท่นี้พออยู่ต่างประเทศ ฤทธิ์แรงขนาดนี้เลยเหรอ?”

“แกล้งฉันเล่นหรือเปล่าเนี่ย!”

ถงชวนเริ่มของขึ้น ตอนแรกยังเหมือนจะยืนขึ้นชูแก้วดื่ม แต่กลับหมดสติล้มคะมำ เสียงดังตุ้บ

คนที่เหลือ รวมถึงฉินเทียนและเหลิ่งหยุน สายตาพร่าเลือน ล้มพับหมดสติลงบนโต๊ะไปตามๆ กัน

“เยส!”

เมื่อเห็นฉากนี้ หลู่ตี๋ก็ดีใจยกใหญ่ เพื่อความปลอดภัย เขาจึงเฝ้าดูต่ออีกสองสามนาที ให้แน่ใจว่าคนกลุ่มนี้สลบกันไปหมดแล้ว

คราวนี้ถึงนำหน้ากากกันแก๊สพิษขึ้นมาสวม แล้วเปิดประตูวิ่งพุ่งเข้าไปด้านในพร้อมกับลูกน้องคนสนิทอีกสองสามคน

“รีบระบายอากาศ แก๊สสลบคละคลุ้งเกินไป ที่นี่จะระเบิดแล้ว”

“พวกแก ล่ามโซ่พวกมันไว้ ระวังด้วยล่ะ ไอ้พวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ต้องใช้โซ่ที่แข็งแรงที่สุด”

“แก รีบไปหาท่าน M ที่ถนนซีหลัว บ้านเลขที่ 46 บอกเขาว่า งานใหญ่สำเร็จแล้ว ให้รีบมา”

หลู่ตี๋สั่งการเสร็จ ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งออกไปส่งข่าว

ส่วนลูกน้องคนสนิทที่เหลือ หยิบกุญแจมือทำขึ้นพิเศษที่เตรียมไว้ออกมา เริ่มจับคน

“รวยแล้ว!”

“ฉันจะรวยแล้วโว้ย!”

หลู่ตี๋ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น ในความคิดของเขา คนตรงหน้าเหล่านี้ ล้วนเป็นธนบัตรเงินแวววาวทั้งสิ้น

ไม่คิดเลยว่า วันนี้จะตกมาอยู่ในกำมือของเขากันหมด

“ระวังหน่อย ต้องมัดให้ดีๆ นะ” เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เขาจึงกำชับแล้วกำชับอีก

หลังจากเจ้าหนุ่มคนหนึ่งล็อกงูเขียวหางไหม้แล้ว เห็นร่างอรชรของเหลิ่งหยุนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนโต๊ะข้างๆ เขาก็เหยียดยิ้มเดินเข้าหา

เอื้อมมือ จะเข้าไปลากเหลิ่งหยุนมามัดข้างๆ

“วอนหาที่ตาย!” ทันใดนั้น เสียงตะโกนแหลมเล็กเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เหลิ่งหยุนที่กำลังสะลืมสะลือ พลิกตัว มือสวยเงื้อขึ้น จากนั้นแสงเย็นเยือกก็สว่างวาบ

เจ้าหนุ่มทางด้านหลังร้องโหยหวน มือกุมลำคอ แล้วล้มลงไปกองกับพื้น

เหตุการณ์เหนือเมฆที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลู่ตี๋กับลูกน้องของเขาตกใจเตลิดเปิดเปิง

“เร็ว จับมันมาให้ได้!” หลู่ตี๋ร้องตกตื่น

ลูกน้องเหล่านั้นควักอาวุธออกมา แล้วกระโจนพุ่งเข้าใส่เหลิ่งหยุน

เหลิ่งหยุนเนื้อกายสว่างวาบ ดุจเงาดำเส้นหนึ่ง

เมื่อเงาดำแล่นผ่าน เจ้าหนุ่มหลายคนเหล่านั้นก็เอามือกุมคอ แล้วล้มลงบนพื้น

หลู่ตี๋ตอบสนองด้วยการคิดจะวิ่งหนี แต่ฉับพลันนั้นก็รู้สึกเย็นเฉียบที่ลำคอ ก้มศีรษะลงจึงเห็นกริชวาวแสงสีฟ้าเล่มหนึ่ง ตื่นกลัวจนใบหน้าซีดเผือด

“อย่าฆ่าฉันนะ มีอะไรค่อยพูดค่อยจา!” เขาเอ่ยอย่างหวาดหวั่น

เหลิ่งหยุนเอ่ยอย่างมีโทสะ: “เลิกเสแสร้งได้แล้ว!”

“ลุกขึ้นเถอะ!”

และแล้วเหตุการณ์แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น

ฉินเทียนและทุกคนที่ดูเหมือนหลับใหลไม่ได้สติไปแล้ว ลุกขึ้นมาทีละคน

ฉินเทียนเหลือบมองเหลิ่งหยุน อดพูดไม่ไหวว่า : “ทำไมถึงผลีผลามแบบนี้”

“คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเราจะแกล้งสลบ รอให้เขาเรียกคนที่อยู่เบื้องหลังออกมาก่อน?”

เหลิ่งหยุนหน้าแดง เอ่ยว่า: “เจ้านั่นมันจะลวนลามฉัน”

ฉินเทียนพูดไม่ออก

ที่แท้ เมื่อครู่เจ้านั่นเห็นถึงความงดงามของเหลิ่งหยุน ถึงอย่างไรก็หลับไม่ได้สติแล้ว เขาเลยฉวยโอกาสหาเศษหาเลย

คราวนี้เลยทำให้ราชินีงูโกรธ

แกล้งสลบอ่อนแอ

แล้วตอบโต้ด้วยการพุ่งสังหาร

นี่จึงทำให้แผนล่มก่อนกำหนด

ที่แท้ ฉินเทียนต้องการรอให้หลู่ตี๋เรียกตัวบงการออกมา หลู่ตี๋พูดแล้วว่า ถนนซีหลัว เลขที่ 46 ท่าน M

“ฉันจะไปจับไอ้ท่าน M นั่นเอง!” เหลิ่งหยุนเอ่ย หมุนตัวหมายมั่นจะเดินออกไป

“ไม่ต้อง”

ฉินเทียนยิ้มเอ่ย: “จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่า ปล่อยเขาหนีไปก็ดีเหมือนกัน”

“วางใจเถอะ ฉันมีวิธีของฉันแล้ว”

เขาเบนสายตาไปหยุดบนใบหน้าของหลู่ตี๋ : “ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นของคุณ คุณทูตสวรรค์”

หลู่ตี๋ตัวเกร็งค้างไปทั้งร่างราวกับลูกบอลแฟบไร้ลม

“นายรู้ตั้งแต่เมื่อไร?” เขาถามอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ

ฉินเทียนเอ่ยยิ้มๆ : “ก็ตั้งแต่แรก ฉันกับราชาหนู รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยชอบมาพากล”

“ถ้าทูตสวรรค์เป็นคนสำคัญขององค์กรปรมาจารย์พิษจริง จะประมาทเลินเล่อ ทิ้งไอพีแอดเดรสไว้แบบนี้ได้ยังไง”

“อีกอย่าง ถูกล็อกกุญแจได้ง่ายดายขนาดนี้”

“ทั้งหมดนี้ มันราบรื่นไปซะหมด”