ตอนที่ 64
เครื่องประดับ
“ยินดีต้อนรับขอรับ”ทหารเฝ้าประตูรีบยืดตัวตรงขณะไป๋จูเหวินเดินเข้ามาในเมือง อาจจะเพราะข่าวลือแปลกๆแต่มันก็ทำให้ไป๋จูเหวินสามารถเข้าออกเมืองได้โดยไม่ต้องตรวจตราอะไร นับว่าสะดวกมากตอนที่พาอสูรแมงมุมมาด้วย
“น้องสาว เจ้าจะไปไหนงั้นเหรอ”ทหารหนุ่มคนหนึ่งถามพลางมองอสูรแมงมุมที่เดินตามไป๋จูเหวินเข้ามาหน้าตาเฉย ตอนออกไปมันจำได้ดีว่าไม่มีเด็กสาวคนนี้ไปด้วย
“ไม่เป็นไร นางมากับข้าเอง”ไป๋จูเหวินเห็นทหารเข้าไปเรียกอสูรแมงมุมก็ออกหน้าแทนทันที
“ขอรับ”ทหารหนุ่มได้ยินเช่นนั้นก็ถอยออกมาทันที แถมพอมองแล้วตัวนายทหารก็สัมผัสพลังวิญญาณจากเด็กสาวคนนี้ไม่ได้ แถมทั้งตัวนางก็มีแต่เสื้อผ้าชุดเดียวแถมไม่มีแหวนมิติด้วยถึงตรวจไปก็ไม่เจออะไรอยู่ดี นอกจากนี้ก็มีแต่ถุงบางอย่างที่นางถือเอาไว้เท่านั้น แต่พอเห็นนางหยิบก้อนสีเขียวๆออกมาเข้าปากทหารหนุ่มเลยเดาเอาว่าเป็นถุงลูกกวาดเป็นแน่
“ท่าทางน่าอร่อยจังเลยนะแม่หนู ให้พี่ชายกินบ้างสิ”ทหารอีกคนว่าพลางนั่งยองๆให้ความสูงไล่เลี่ยกับอสูรแมงมุม
“ไม่”อสูรแมงมุมค้อนขวับใส่ชายคนนั้นพลางกอดถุงลูกกวาดแน่น
“ขอโทษด้วย น้องสาวข้าหวงของกินไปหน่อย”ไป๋จูเหวินยิ้มเจื่อนๆพลางเดินเข้ามายืนข้างๆอสูรแมงมุม ขืนแบ่งให้จริงคงลำบากแน่เพราะมันก็ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรว่าทำไมเด็กสาวถึงกินก้อนหยกแทนขนมเช่นนี้
“ไม่เป็นไรๆ”ทหารหนุ่มว่าพลางยิ้มออกมา มันเองก็แค่ถามเล่นๆเท่านั้น
“ไปเถอะหลินหลิน “ไป๋จูเหวินว่าลางพาอสูรแมงมุมเดินออกจากด่านตรวจไป ชื่อหลินหลินที่มันเรียกเมื่อครู่เป็นชื่อที่ตั้งอย่างกระทันหันก่อนเข้าเมืองนี่เอง
“ค้า”หลินหลินขายรับพลางเดินตามไป๋จูเหวินไปอย่างว่าง่าย ส่วนหยงเวยนั้นกลับเดินทิ้งระยะห่างพอสมควร
“เจ้าควรหาเครื่องประดับเอาไว้ให้นางใส่นะ อย่างน้อยก็ให้คนอื่นได้รู้ว่านางเป็นอสูรเลี้ยงของเจ้า”หยงเวยว่าพลางมองหลินหลินที่เดินตามไป๋จูเหวินต้อยๆ หากมีผู้มีพลังอสูรมาพบเจอนางอาจจะเข้าใจผิดได้หากไม่สวมเครื่องประดับเอาไว้
“นั่นสิ หลินหลินเจ้าตามข้ามาเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางพาหลินหลินเดินไปทางร้านคลังสมบัติผาหยกที่ตนเคยมาแลกเงิน
“พี่ไป๋ ที่นี่คนเยอะจังเลย”หลินหลินว่าพลางมองไปรอบๆอย่างสนอกสนใจ ตั้งแต่เกิดมานางก็ไม่เคยเจอสิ่งมีชีวิตเยอะขนาดนี้มาก่อน
“เดินระวังด้วยล่ะ เดี๋ยวจะหลงทางเอา”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางลูบหัวหลินหลินเบาๆ ตั้งแต่เข้าเมืองมาหลินหลินก็เดินใกล้ไป๋จูเหวินมากกว่าปกติ ท่าทางจะไม่ค่อยชินกับคนจำนวนมากเช่นนี้
“ไม่หลงหรอก…กลิ่นของพี่ไป๋มันต่างจากของคนอื่น ข้าแยกแยะได้”หลินหลินว่าพลางเอาจมูกเข้ามาดมชายเสื้อของไป๋จูเหวินทำให้ไป๋จูเหวินรีบดึงชายเสื้อออกก่อนจะดีดหน้าผากของหลินหลินไปทีหนึ่ง
“…พี่ไป๋ ที่นี่มีอสูรด้วย”หลังจากเดินมาถึงร้านคลังสมบัติผาหยก หลินหลินก็พบว่าภายในมีพลังอสูรอยู่จุดหนึ่ง แม้จะเล็กไปบ้างแต่ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน
“นั่นน่าจะเป็นอสูรเลี้ยงเจ้าอย่าทำร้านมันล่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางสัมผัสพลังอสูรที่อยู่ข้างใน ท่าทางอสูรเสือดำจะยังอยู่ในร้าน
“เชิญขอรับ”หลังจากเดินมาที่หน้าประตู คนงานของจื่อลู่ก็จำไป๋จูเหวินได้ทันทีและพาไป๋จูเหวินเข้าไปหาจื่อลู่อย่างรวดเร็ว
โครมม!! ขณะไป๋จูเหวินจะเข้าไปภายในห้องของจื่อลู่ อยู่ๆก็มีเสียงโครมครามมาจากข้างใน ทำให้คนงานตกใจอย่างมาก
“หนีไปแล้วล่ะ”หลินหลินว่าพลางมองไปในห้อง อสูรเสือดำที่อยู่ในห้องจนถึงเมื่อครู่อยู่ๆก็วิ่งหนีออกไปเสียอย่างนั้น บางทีอาจจะเพราะสัมผัสพลังของหลินหลินได้กระมัง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”จื่อลู่ว่าพลางเปิดประตูห้องออกมา เมื่อครู่อยู่ๆเสือดำก็ส่งเสียงขู่ไปทางประตู แต่ไม่นานก็วิ่งหนีหายไป ทำเอาจื่อลู่งงไปหมด
“คุณชายไป๋?”จื่อลู่พูดพลางเปลี่ยนท่าทีให้สงบเรียบร้อยในทันที
“ข้ามารบกวนหรือเปล่า”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มรับ เพราะเบื้องหลังจื่อลู่ปรากฏข้าวของเครื่องใช้แตกหักหลายชิ้นเลยทีเดียว พอจื่อลู่รู้ตัวนางก็รีบปิดประตูห้องก่อนจะพาไป๋จูเหวินไปที่ห้องอื่นแทน
“วันนี้คุณชายมีธุระอะไรคะ”จื่อลู่ถามพลางนั่งลงที่ห้องข้างๆ
“ข้ามาหาเครื่องประดับให้กับนาง”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปทางหลินหลิน
“เครื่องประดับ?”จื่อลู่ทวนคำเพราะไม่คิดว่าไป๋จูเหวินจะมาหาซื้อเครื่องประดับมาก่อน
“นางเป็นอสูรเลี้ยงของข้า”ไป๋จูเหวินว่าพลางลูบหัวหลินหลินเบาๆ
“อสูรเลี้ยง? หรือว่านางเป็นอสูรระดับสูง”จื่อลู่ถามด้วยท่าทีประหลาดใจ มิน่าเล่าเสือดำถึงหนีไปเช่นนั้น เพราะมีอสูรระดับสูงเข้ามานั่นเอง
“ใช่ เจ้าพอมีเครื่องประดับที่เหมาะกับนางหรือไม่”ไป๋จูเหวินถามพลางยิ้มบางๆ ร้านคลังสมบัติผาหยกมีแม้กระทั่งอาวุธวิเศษ มันเชื่อว่าเพียงเครื่องประดับชิ้นเดียวคงหาได้ไม่ยาก
“งั้นต่างหูหยกคู่นี้เป็นอย่างไร มันเข้ากับเสื้อผ้าของนางมากเลยทีเดียว”จื่อลู่ว่าพลางหยิบต่างหูหยกออกมาคู่หนึ่งออกมาจากแหวนมิติ มันเป็นต่างหูหยกที่แกะสลักอย่างสวยงามเลยทีเดียว
“หยกมัน….”
กรุบ.. ไม่ทันได้พูดอะไรออกไป อยู่ๆหลินหลินก็เอาต่างหูหยกเข้าปาก ก่อนจะกัดเสียจนต่างหูหยกขาดครึ่งทำเอาจื่อลู่มองหลินหลินตาโตด้วยความตกใจ
“อันนี้อร่อยดี”หลินหลินว่าพลางยิ้มแฉ่ง ทำเอาไป๋จูเหวินไม่ทราบจะว่าอะไรดี
“อย่างที่เห็น ช่วยหาเครื่องประดับที่ไม่ได้ทำจากหยกหรือพวกหินได้หรือไม่”ไป๋จูเหวินว่าพลางถอนหายใจออกมา
“พวกทองก็ไม่ได้เหรอ”จื่อลู่ถามพลางมองไปที่หลินหลิน
“ข้าไม่รู้ว่าทองคืออะไร”หลินหลินว่าพลางกลืนหยกลงคอ เห็นแบบนี้แล้วจื่อลู่ไม่กล้าเอาเครื่องประดับที่ทำจากทองออกมาเลย
“อืม…”จื่อลู่พูดพลางแตะไปที่แหวนมิติของตนเองราวกับพยายามหาว่าในแหวนมิติของตนมีเครื่องประดับอะไรที่ไม่ได้ทำจากหินบ้าง
“ที่ข้าพอจะมีก็…”จื่อลู่พูดพลางนำเครื่องประดับออกมา 3 ชิ้น โดยชิ้นแรกเป็นปลอกคอหนัง เพราะนางไม่ได้เอาให้เสือดำใส่นางเลยทิ้งมันเอาไว้ในแหวน ส่วนชิ้นที่สองเป็นพู่ประดับที่ทำจากเชือกแดง และชิ้นที่สามเป็นปิ่นปักผมไม้ที่วาดลวดลายอย่างสวยงามเอาไว้
“พวกนี้ไม่น่าอร่อยเลย”หลินหลินว่าพลางทำหน้ามุ่ย
“ของพวกนี้ไม่ได้เอาไว้กิน มันเอาไว้ให้เจ้าใส่ต่างหาก”ไป๋จูเหวินว่าพลางลองหยิบปิ่นปักผมขึ้นมาดู แต่ทรงผมของหลินหลินมันราวกับเซ็ตมาจากการกลายร่างแล้วการใช้ปิ่นปักผมเองก็ดูไม่เหมาะเท่าไหร่ ไป๋จูเหวินเลยเลือกพู่เชือกขึ้นมาแทนแต่พู่เชือกก็ออกจะเรียบเกินไป ทำให้ไป๋จูเหวินคิดหนักไม่น้อย ตัวมันไม่มั่นใจการเลือกเครื่องประดับให้สตรีเลย
“เจ้าคิดว่าไง”ไป๋จูเหวินถามพลางหันไปมองจื่อลู่
เห็นไป๋จูเหวินถามเช่นนั้น จื่อลู่ก็จ้องมองใบหน้าของจื่นหลินพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกมา เด็กสาวคนนี้น่ารักน่าชังไม่น้อย ถ้าไม่นับเรื่องเอาหยกเข้าปากละก็
“คุณชายช่วยรอสักครู่นะเจ้าคะ”จื่อลู่ว่าพลางหยิบพู่สีแดงออกมา ก่อนจะดึงเชือกออกจนปกเชือกคลาย ก่อนจะเริ่มถักพู่ใหม่ให้เป็นพู่สีแดงสองอันที่มีขนาดเล็กลง ก่อนจะนำลูกแก้วสีแดงมาตกแต่งทำเป็นต่างหูเล็กๆสองข้าง
“เสร็จแล้ว”จื่อลู่ว่าพลางเอาต่างหูที่ทำจากเชือกออกมาเทียบกับใบหน้าของหลินหลินพร้อมพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ลูกสีแดงนั่นน่ากินนะ”หลินหลินว่าพลางยิ้มกว้าง ทำเอาจื่อลู่สะดุ้ง นางตกแต่งเพลินไปหน่อยเลยเอาลูกแก้วออกมาประดับเสียอย่างนั้น ทั้งที่ไป๋จูเหวินก็บอกแล้วว่าห้ามใช้ของที่ทำจากหิน
“หลินหลิน เจ้าสัญญาได้ไหมว่าจะไม่กินลูกแก้วพวกนี้”ไป๋จูเหวินเห็นจื่อลู่ตั้งใจทำไม่น้อย เลยลองเจรจากับหลินหลินดู
“มันกินไม่ได้เหรอ”หลินหลินถามพลางส่งสายตาสงสัยมาให้
“พี่จื่อลู่อุตส่าห์ทำให้เจ้าโดยเฉพาะ นางคงไม่อยากให้เจ้าเอาเข้าปากหรอก”ไป๋จูเหวินพูดจบก็รับต่างหูพู่มาจากจื่อลู่ ก่อนจะสวมมันให้หลินหลินด้วยตนเอง
“นี่ไง สวยมากเลยนะ”จื่อลู่ว่าพลางหยิบกระจกออกมา พอหลินหลินเห็นตนเองในกระจกแล้วก็หน้าแดงนิดหน่อย
“ก็ได้ ข้าจะไม่กินลูกแก้วพวกนี้”จื่อลู่พูดพลางใช้มือสัมผัสลูกแก้วที่หูของตนเองเบาๆ นางไม่เคยใส่เครื่องประดับมาก่อน แต่ที่เห็นจากกระจกก็ไม่เลวเลย
“เด็กดี”ไป๋จูเหวินว่าพลางลูบหัวหลินหลินอย่างเอ็นดู
สุดท้ายไป๋ไป๋จูเหวินก็จ่ายค่าต่างหูพู่และค่าต่างหูหยกไปเต็มราคา ก่อนจะพาหลินหลินไปที่สำนักเขี้ยวมังกรเพื่อบอกเจ้าสำนักว่าตนปลอดภัยดีและอสูรแมงมุมในถ้ำก็กลายเป้นอสูรเลี้ยงของมันแล้ว