ตอนที่ 65 ดาบ

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 65

ดาบ

 

“มัน…กลายเป็นอสูรเลี้ยงของเจ้าแล้วงั้นหรือ”เจ้าสำนักเขี้ยวมังกรถามพลางมองไปทางหลินหลินด้วยท่าทีประหลาดใจ แต่ที่หูของนางก็มีต่างหูอยู่ จะบอกว่าโกหกก็คงไม่ใช่ แถมมันยังสัมผัสพลังแบบเดียวกับที่สัมผัสได้ที่ถ้ำหยกได้จากนางอีกต่างหาก

“ใช่ ตอนนี้ข้าเป็นอสูรเลี้ยงของพี่ไป๋แล้ว”หลินหลินว่าพลางยิ้มกว้าง ทำเอาเจ้าสำนักเขี้ยวมังกรมองด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ มันหรืออุตส่าห์เป็นห่วงแทบตายแถมยังส่งจดหมายไปให้กลุ่มนักล่าอสูรไปแล้วเสียด้วย แบบนี้มันควรจะรีบเขียนจดหมายไปอีกฉบับเพื่อบอกให้กลุ่มนักล่าอสูรยกเลิกการส่งตัวนักล่าอสูรมาสินะ

“เอาเถอะ หากนางไม่ทำร้ายใครก็ไม่มีปัญหา”เจ้าสำนักว่าพลางมองเหล่าอาจารย์อสูรที่อยู่ด้านหลัง เหล่าอาตารย์อสูรไม่มีใครสักคนกล้าเข้าใกล้อสูรแมงมุมนามหลินหลินเลยแม้แต่คนเดียว เห็นได้ชัดเลยว่านางมีพลังมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

“อ๊ะ หมดแล้ว”หลินหลินพูดพลางมองถุงขนมของนาง หยกที่อยู่ในถุงนางตัดมาจากภายในถ้ำหยก แถมนางยังเดินกินมาตลอดทางทำให้ก้อนหยกที่นางมีหมดในพริบตา

“เอาไว้ข้าจะหาซื้อให้เจ้าอีกก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองถุงเปล่าในมือของหลินหลิน ไม่ทราบท้องของนางมีขนาดเท่าไหร่ แต่นางก็กินก้อนหยกอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ตอนเป็นร่างแมงมุมก็ตาม

“ถ้าเป็นขนม ข้ามีนะ”อาจารย์จื่อว่าพลางยื่นลูกอมให้หลินหลิน อาจจะเพราะขนมที่อาจารย์จื่อยื่นให้มีสีเขียว ทำให้หลินหลินเอาขนมนั่นเข้าปากทันที

“ไม่อร่อย..”หลินหลินแลบลิ้นออกมาด้วยสีหน้าเหยเก ท่าทางขอมของอาจารย์จื่อจะเป็นขนมธรรมดา

“อาจารย์ หลินหลินเป็นอสูรธาตุทอง นางเลยกินแร่ธาตุเป็นอาหารขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบ

“โอ้ ธาตุทองนี่เอง งั้นเจ้าก็กินแร่ธาตุสินะ”อาตารย์จื่อว่าพลางจับไปที่แหวนมิติของตนเอง

“เจ้ากินนี่ได้หรือไม่”อาจารย์จื่อพูดก็เอากระบี่ออกมาเล่มหนึ่ง มันเป็นกระบี่เหล็กธรรมดาๆเล่มหนึ่ง

“ให้ข้ากินเหรอ”หลินหลินถามพลางมองกระบี่ในมือของอาจารย์จื่อ

“ได้สิ ข้าให้เจ้าแทนคำขอโทษที่ให้กินอะไรไม่อร่อย”อาจารย์จื่อยิ้มพลางยื่นกระบี่ให้หลินหลิน

“อื้อ”หลินหลินว่าพลางรับกระบี่มาอย่างยินดี

“หลินหลิน เจ้าต้องขอบคุณอาจารย์จื่อด้วยสิ ท่านให้ของเจ้านะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองหลินหลินที่กำลังจะเอากระบี่เข้าปาก แม้จะเป็นกระบี่ธรรมดา แต่ลวดลายก็สวยงามและแข็งแกร่งทีเดียว หากไม่นับอาวุธวิเศษกระบี่นี่ต้องเป็นของดีอย่างไม่ต้องสงสัย

“ขอบคุณค่ะ”หลินหลินพูดพลางยิ้มหวานให้อาจารย์จื่อ ทำให้อาจารย์จื่อยิ้มอย่างพอใจ

กร๊อป หลังจากขอบคุณเสร็จเรียบร้อย หลินหลินก็ยื่นปลายกระบี่เข้าปากทำเอาภาพออกมาน่าหวาดเสียวทีเดียว แต่ทันทีที่นางกัดกระบี่ขาดเป็นรูปฟัน ทุกคนก็ได้ทราบแล้วว่าหลินหลินกินได้แม้กระทั่งอาวุธโลหะ

“เป็นลักษณะพิเศษจริงๆ”อาจารย์จื่อว่าพลางยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ มันไม่มีท่าทีเสียดายกระบี่เลยแม่แต่น้อย

“พิเศษอะไรเหรออาจารย์จื่อ”เจ้าสำนักถามพลางมองหลินหลินที่กำลังเคี้ยวกระบี่ตุ้ยๆ

“นางเป็นอสูรธาตุทองบริสุทธิ์ขอรับ นางเลยสามารถใช้แร่ธาตุเป็นอาหารและสามารถนำแร่ธาตุเหล่านั้นมาเป็นพลังของตนเองได้ด้วย”อาจารย์จื่ออธิบาย ซึ่งอสูรธาตุทองระดับต่ำไม่สามารถทำอย่างหลินหลินได้ อย่างอาจารย์กระทิงเองก็ไม่สามารถกินหยกแล้วเอาหยกมาใช้แทนเกราะป้องกันได้เหมือนหลินหลิน

“โฮ่ น่าทึ่งจริงๆ”เจ้าสำนักพยักหน้าอย่างสนใจ ที่นี่ไม่ใช่เขตอสูร อสูรส่วนใหญ่จึงไม่ได้มีธาตุบริสุทธิ์เหมือนหลินหลิน หากเป็นในเขตเทืองเขาทองคำของน้าไก่ฟ้าจะสามารถหาอสูรแบบหลินหลินได้ไม่ยากเลย

“เอาเถอะ ในเมื่อนางไม่เป็นอันตรายแล้วเจ้าก็ดูแลนางดีๆแล้วกัน”เจ้าสำนักเขี้ยวมังกรว่าพลางถอนหายใจออกมา ตัวมันเป็นคนพาไป๋จูเหวินไปถ้ำแมงมุมเอง หากไป๋จูเหวินเป็นอะไรไปมันคงไม่สามารถแบกรับตำแหน่งเจ้าสำนักได้อีกต่อไปแล้วแน่ๆ

“นายน้อย”ขณะกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ต้าชิงและต้าเฉินก็วิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ข่าวการโดนจับตัวไปของไป๋จูเหวินแพร่กระจายในสำนักอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้าชิงและต้าเฉินล้วนกังวลใจราวไฟผลาญไม่มีผิด

“ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ”ต้าชิงถามพลางมองร่างกายของนายน้อย

“พวกท่านไม่ต้องกังวลหรอก ข้าไม่เป็นไร หลินหลินเพียงจับตัวข้าเพราะข้าไปบุกรุกเขตของนางเท่านั้น”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางลูบหัวหลินหลินเบาๆ

“หลินหลิน?”ต้าเฉินขมวดคิ้วพลางมองไปทางเด็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆนายน้อย

“ใช่ น่างคือหลินหลิน เป็นอสูรที่จับข้าไป ตอนนี้นางเป็นอสูรเลี้ยงของข้าแล้ว พี่ชิงพี่เฉินทำดีกับนางด้วยนะ”ได้ยินเช่นนั้นต้าชิงต้าเฉินก็หันไปมองหน้ากัน

“ขอรับนายน้อย”ต้าชิงรับปากพลางยิ้มให้หลินหลินที่อยู่ข้าง

“จริงสิ พี่ต้าชิง พวกท่านเลื่อนเป็นระดับผลึกวิญญาณแล้วสินะ”ไป๋จูเหวินถามพลางมองพลังของต้าชิงอละต้าเฉิน เหตุผลที่พวกมันไม่ออกมาจากห้องเลยเพราะพวกมันฝึกใกล้สำเร็จแล้วนั่นเอง วิชาที่ไป๋จูเหวินให้พวกมันทำให้พวกมันฝึกฝนได้อย่างรวดเร็วมาก

“ขอรับ เพื่อไม่ให้เป็นตัวถ่วงของนายน้อยพวกข้าจึงตั้งใจฝึกฝน”ต้าเฉินตอบพลางยิ้มอย่างอารมดี

“ถ้าเช่นนั้นไปที่ห้องข้ากันเถอะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางขอตัวลาท่านเจ้าสำนักและเหล่าอาจารย์ไปก่อน ความจริงสำนักเขี้ยวมังกรก็มีเคล็ดวิชาและกระบวนท่าของสำนักเขี้ยวมังกรเช่นกัน แต่ไป๋จูเหวินลองอ่านและทำความเข้าใจแล้วเคล็ดวิชาโลหิตมังกรและวิชาของพวกท่านน้าแข็งแกร่งกว่ามาก และวิชาที่ให้ต้าชิงต้าเฉินไปก็ดีกว่าวิชาของสำนักเขี้ยวมังกรเช่นกัน

แน่นอนว่าเมื่อพวกต้าชิงและต้าเฉินเลื่อนขึ้นมาเป็นระดับผลึกวิญญาณแล้ว ไป๋จูเหวินย่อมหลอมยาให้พวกมันเพื่อเพิ่มความเร็วการฝึกฝนอยู่แล้ว แต่ไป๋จูเหวินพึ่งกลับไปที่เขตอสูร เลยมีสมุนไพรเพิ่มเข้ามาในมิติของมันไม่น้อย ยาที่ไป๋จูเหวินจะหลอมให้พวกต้าชิงเลยเป็นยาที่คุณภาพดีกว่าที่ให้พวกเฟิงชิวเสียอีก

“พี่ไป๋ ท่านทำอะไรงั้นเหรอ”หลินหลินถามพลางมองไป๋จูเหวินที่เริ่มเรียงสมันไพรเอาไว้บนพื้นที่ปูผ้าเอาไว้อย่างดี        “ข้าจะหลอมยาไงล่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเริ่มทำความสะอาดสมุนไพรที่เก็บมา

“ของพวกนี้ไม่เห็นน่ากินเลย มันจะเป็นยาได้เหรอ”หลินหลินถามพลางทำหน้ามุ่ย ขนมของนางหมดไปนานแล้ว แต่นางก็ยังรู้สึกหิวอยู่เลย

“เอาไว้พนุ่งนี้ข้าจะไปซื้อหยกมาให้เจ้าก็แล้วกัน”ไป๋จูเหวินพูดพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน ตัวมันมีเงินไม่น้อยเพียงแค่ค่าอาหารของเด็กสาวคนเดียวทำไมจะแบกรับไม่ไหว แม้เด็กสาวจะมีท้องความจุมหาศาลและกินของแพงอย่างหยกเป็นอาหารก็ตาม

“ท่านจะทำอีกนานหรือเปล่า ถ้านานข้าขอออกไปเดินเล่นได้ไหม”หลินหลินถามพลางมองออกไปข้างนอก การอยู่ในห้องเฉยๆทำให้นางรู้สึกไม่มีอะไรทำขึ้นมา

“หลินหลินต้องสัญญากับข้าก่อนว่าเจ้าจะไม่ทำร้ายมนุษย์”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองหลินหลินนิ่ง นางยอมทำตามที่ไป๋จูเหวินพูดอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าอยู่ข้างนอกคนเดียวนางอาจจะมีเรื่องกับคนอื่นได้ ตอนนั้นหากไม่มีไป๋จูเหวินคอยห้ามคนที่เข้ามาหาเรื่องอาจจะตายก็ได้

“ข้าสัญญา”หลินหลินว่าพลางส่งสายตาอ้อนมาให้ไป๋จูเหวิน

“อืม ก็ได้ อย่านานนักล่ะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางเริ่มหลอมยาเงียบๆ

“อื้อ”หลินหลินยิ้มกว้างก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว แม้การปล่อยเด็กออกไปเดินเล่นคนเดียวจะอันตราย แต่นางเป็นอสูรระดับทองซึ่งในเมืองแห่งนี้แทบจะไม่มีใครทำอันตรายอะไรเธอได้เสียด้วยซ้ำ แถมไป๋จูเหวินยังสวมเครื่องประดับให้นางแล้ว คงไม่มีใครเข้าใจอะไรผิดๆหรอกมั้ง

เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว หลินหลินก็วิ่งออกไปจากห้องในทันที แม้ภายนอกจะเป็นเด็กสาวตัวเล็ก แต่นางก็ยังมีพลังของอสูรแมงมุมอยู่เต็มเปี่ยม ออกวิ่งครู่เดียวก็ออกจากสำนักมุ่งไปทางประตูที่ตนพึ่งเข้ามาเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว

“ไม่ได้”หลังจากจะขอพวกทหารออกนอกประตู หลินหลินกลับได้คำปฏิเสธมาแทน

“เราปล่อยให้เด็กอย่างเจ้าออกไปตอนเย็นแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ”ทหารยามคนหนึ่งว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ แม้พวกมันจะจำได้ว่าหลินหลินมากับพวกไป๋จูเหวิน แต่จะให้เด็กตัวเล็กๆออกจากเมืองไปอย่างนี้คงไม่ดี

“โถ่…”หลินหลินหน้ามุ่ยพลางเดินกลับเข้ามาในตัวเมืองอย่างช่วยไม่ได้ แต่นางไม่ได้เชื่อฟังคนอื่นเท่าไป๋จูเหวินเท่าไหร่ นางแอบเดินมาที่กำแพงเมืองห่างจากประตูพอสมควรก่อนที่นางจะกระโดดเกาะกำแพงแล้วใช้ใยแมงมุมแทนเชือกดึงตัวนางขึ้นไป

“คิกๆ”หลินหลินหัวเราะพลางมองเหล่าทหารจากบนกำแพง นางกระโดดออกไปนอกเมืองอย่างรวดเร็วด้วยใยแมงมุมที่ตนสร้างขึ้น

ไม่นานร่างของหลินหลินก็กลับมาถึงถ้ำที่ตนขุดเอาไว้ ทำให้นางยิ้มออกมาราวกับเด็กๆได้เจอของเล่น ไม่ทราบทำไม ตั้งแต่ผาตรงนี้ถล่มมาก็มีพลังบางอย่างดึงดูดนางให้มาหา หยกที่นางกินภายในถ้ำเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังยิ่งกว่าหยกที่นางกินในร้านของจื่อหลินเสียอีก ราวกับมันมีพลังบางอย่างตกค้างอยู่ในหยก

แกร๊กๆ เพราะไป๋จูเหวินบอกให้นางรีบกลับไป นางเลยไม่ได้นั่งกินอย่างที่เคยทำ นางหยิบถุงของนางออกมาแล้วเฉือนหยกเป็นชิ้นๆใส่ลงในกระเป๋าอย่างอารมดี

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่”

“ว้าย!!”หลินหลินร้องเสียงดังลั่นเมื่อได้ยินเสียงของหยงเวย มันรู้สึกไม่ไว้ใจหลินหลินตั้งแต่แรก เพราะมันไม่เชื่อว่าอยู่ๆอสูรจะเชื่องกับมนุษย์ได้ราวกับสัตว์เลี้ยง ยิ่งมันเห็นหลินหลินแอบออกมาจากเมืองมันยิ่งไม่ไว้ใจ สุดท้ายมันเลยตามมาจนถึงถ้ำหยกแห่งนี้

“ข้าเปล่านะ”หลินหลินว่าพลางหันหลังซ่อนมือที่กำถุงใส่หยกเอาไว้ด้านหลัง

“เปล่าอะไร”หยงเวยว่าพลางชักดาบออกมา

“ข้าไม่ได้อยากกินจนทนไม่ไหวนะ เชื่อข้าสิ”หลินหลินว่าพลางหลบสายตาหยงเวยราวกับคนโกหกไม่เป็น

“เจ้าจะบอกว่าที่เจ้าแอบออกมาเพื่อมากินหยกงั้นเหรอ”หยงเวยว่าพลางลดดาบลงช้าๆ

“ไม่ใช่นะ”ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็ไม่เหมือนคนพูดจริงสักนิด ทำเอาหยงเวยถอนหายใจออกมา เจ้าหนูนี่แค่ตะกละหรอกหรือ แต่หากเป็นแค่นั้นก็ดีแล้ว เพราะมันไม่สามารถสู้กับหลินหลินได้ตรงๆอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ต้องมีอาวุธที่ดีกว่านี้ เพราะดาบที่มันใช้เจาะเกราะของหลินหลินไม่เข้านั่นเอง

กร็อป!! ราวกับสวรรค์ได้ยินเสียงในใจของหยงเวย อยู่ๆกำแพงที่ด้านหลังของหลินหลินก็เกิดรอยร้าว ก่อนที่รอยร้าวนั้นจะแตกออกเป็นวงกว้างกระทั่งกำแพงหยกถล่มลงมา

“นี่มัน….”หยงเวยมองพลางจ้องไปที่กำแพงที่กลายเป็นรูโหวตรงหน้า ภายในหยกจำนวนมหาศาลของผาหยกปรากฏร่างของมนุษย์คนหนึ่งนอนพิงอยู่ภายในถ้ำ ที่มือของร่างนั้นปรากฏดาบเล่มหนึ่งส่องแสงสีเขียวมรกตออกมาราวกับอาวุธวิเศษ

“อันนี้น่าอร่อย”หลินหลินว่าพลางหยิบดาบเล่นนั้นมาถือ สีของมันเขียวเข้มยิ่งกว่าหยกภายในห้องเสียอีก ทำให้นางสนใจมันเป็นอย่างมาก

“เดี๋ยวยัยแมงมุม”หยงเวยพยายามห้ามหลินหลินเอาไว้เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนมันก็คือดาบวิเศษอย่างแน่นอน ขืนปล่อยให้แมงมุมจอมตะกละอย่างนางกินเข้าไปก็เสียของเกินไปแล้ว

กรุบ….