บทที่ 151 ไวน์ภูตในตำนานสร้างเรื่อง
บทที่ 151 ไวน์ภูตในตำนานสร้างเรื่อง
ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แคลร์กำลังนั่งอยู่บนระเบียงแคบ ๆ ในมือมี ‘บันทึกของแวมไพร์’ นอกจากฉากอีโรติก นิยายก็ได้นำภูมิหลังของตัวละครนำหญิงมาวิเคราะห์ลักษณะและนิสัยของแวมไพร์อย่างละเอียด ซึ่งถือว่ามีคุณค่าทางวิชาการในระดับหนึ่ง เธอหลงใหลมันมากจนไม่ได้ยินเสียงของดาร์ก
หลังจากเคาะอีกสามครั้ง
ดาร์กก็ลดมือลงแล้วถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าคืนนี้แคลร์จะไม่ได้ปล่อยสัตว์ของเธอออกมา”
ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคิดว่าแคลร์ไม่อยู่ในห้องพัก แต่ดาร์กรู้จักเธอดีพอที่จะรู้ว่าแคลร์อาจจะทำอย่างอื่นอยู่และไม่ตอบรับเสียงจากคนภายนอก เพราะหากเธอปล่อยสัตว์ออกมา เจ้าสิงโตจอมขี้เกียจที่ชอบนอนข้างประตูจะเป็นคนเปิดประตูให้เอง อย่างไรก็ตาม ดาร์กมีวิธีการอื่นและรับมือกับเรื่องนี้ได้
เขาอัญเชิญรุกกี้เดวิมอนออกมาแล้วสั่งให้มันบินออกไป จากด้านนอกหอพัก รุกกี้เดวิมอนเห็นแคลร์ขดตัวอยู่บนเตียง แล้วมันก็ยกอุ้งเท้าแตะที่หน้าต่างกระจก
ก๊อก! ก๊อก!
ในที่สุดแคลร์ก็เงยหน้าขึ้น “นี่มันวิญญาณรับใช้ของดาร์กนี่นา?” เธอนึกบางอย่างออกก่อนจะเหลือบมองที่ประตู มีแมวปรากฏขึ้นจากแสง แล้วมันก็บินไปที่ประตูแล้วเปิดกลอน…
ดาร์กผลักประตูเข้ามา เขาลูบหัวแมวแล้วปิดประตู แน่นอนว่าหอพักศาสตราจารย์ต่างจากหอพักของนักเรียน แม้ว่าหอพักนักเรียนจะค่อนข้างกว้างขวาง แต่ก็มีห้องเดียว ระเบียงเดียว ส่วนหอพักศาสตราจารย์แบ่งเป็นสามห้องนอน และหนึ่งห้องโถงซึ่งกว้างขวางเกินไป หอพักสะอาดมาก ซ้ำยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แน่นอนว่าคนคลั่งสัตว์ไม่ได้เป็นคนทำเรื่องพวกนี้ นับตั้งแต่จบสงคราม แคลร์ก็เกียจคร้านมากขึ้น
โชคดีที่เธอมีสัตว์มากมายที่สามารถดูแลชีวิตประจำวันของเธอได้
ดาร์กเหลือบมองสองสามครั้งแล้วพูดว่า “ศาสตราจารย์ครับ ศาสตราจารย์แคลร์อยู่ไหมครับ?”
แคลร์เปิดประตูจากห้องนอน เสื้อตัวในรัดรูปท่อนบนของเธอไม่น้อย ขณะที่เสื้อตัวนอกเป็นเสื้อคลุมชุดนอนหลวม ๆ เท่านั้น เธอถือหนังสือไว้ ดวงตาของเธอเปิดอยู่อย่างปกติ อันที่จริงมันเต็มไปด้วยประกาย
“ฉันอยู่ ๆ หาว~” เธอหาวออกมาฟอดใหญ่
ดาร์กเหลือบมองเธอเล็กน้อย เขาวางของขวัญที่นำมาไว้บนโต๊ะ ส่วนแคลร์ก็เดินเข้ามาด้วยสายตาเป็นประกาย
“ไวน์ในตำนาน เธอมีของแบบนี้ได้ยังไง?”
ดาร์กมองแคลร์ผู้ไม่มีมารยาทก่อนจะโล่งใจเล็กน้อย ป้าคนนี้ออกไปเที่ยวรอบโลกหลายปี และหลังจากที่เธอบุกห้องนอนเขาในตอนนั้น ดาร์กก็ไม่ได้คุยกับเธออีกเลยนานครึ่งเดือน อันที่จริง เขากังวลว่าจะเข้าหาเธออย่างไรดี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแคลร์จะไม่ได้แตกต่างจากเมื่อก่อนเลย และเมื่อความทรงจำต่าง ๆ ผุดขึ้นมาในหัว พฤติกรรมของดาร์กก็เป็นธรรมชาติมากขึ้น
ดาร์กนั่งลงบนโซฟาและตอบว่า “ผมเจอมันในร้านเหล้าบนถนนนักเดินทาง ต้องขอบคุณจดหมายแนะนำตัวจากศาสตราจารย์ลิลลี่ เจ้าของร้านเหล้านั้นถึงเต็มใจที่จะเอาสมบัติออกมาขายให้”
“แน่นอน ไวน์ดี ๆ แบบนี้จะขายให้ภูตเท่านั้น ไวน์ดีที่ฉันดื่มครั้งล่าสุดก็เป็นของที่คนมอบให้ฉัน” แคลร์วางบันทึกของแวมไพร์ไว้บนโต๊ะ แล้วหยิบขวดไวน์ขึ้นมามองดูดี ๆ ของในตำนานเช่นนี้ช่างดูสูงส่งและชวนฝัน
“รอเดี๋ยวนะ”
เธอพูดแบบนั้นแล้ววิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปในห้องครัวเพื่อหยิบแก้วสองใบ เปิดขวด เทไวน์ทั้งหมดในคราวเดียว เมื่อไวน์ไหลลงสู่แก้วกลิ่นหอมของมันก็ถูกปล่อยออกมา
ไวน์ภูตในตำนานนั้นไม่มีแอลกอฮอล์ แต่มันสามารถทำให้กระบวนการคิดของผู้คนสับสนและกระตุ้นความรู้สึกที่อยู่ลึก ๆ ได้
อันที่จริง มันเป็นเครื่องดื่มที่ทำให้คนเมาทั้ง ๆ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หลังจากที่แคลร์เทไวน์ เธอก็นั่งลงข้างดาร์กอย่างสบาย ๆ แล้วถามว่า “ทำไมจู่ ๆ วันนี้เธอถึงมาหาป้าล่ะ?”
เธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและเหลือบมองเด็กชายผมบลอนด์ ดาร์กยกแก้วขึ้น มาดู สังเกต และจิบไวน์ภูตในตำนานอย่างสนอกสนใจ เฉพาะผู้ที่ใกล้ชิดกับภูตเท่านั้นที่สามารถลิ้มรสมันได้ ยิ่งใกล้ชิด ไวน์ก็จะยิ่งหอม หลังไหลลงคอไปแล้วรสชาติมันก็ดีขึ้น เขาหลับตาและเพลิดเพลินกับมันเป็นเวลานาน
เมื่อลืมตาขึ้น เขาก็ตระหนักถึงคำถามของแคลร์อีกครั้ง “ผมอยากเรียนรู้วิธีขัดเกลาการ์ด [สวนสัตว์] น่ะครับ”
แต่แคลร์ไม่ได้สนใจ กลิ่นหอมของไวน์ทำให้สติของเธอพร่ามัว
แต่ละคนประกอบไปด้วยเศษเล็กเศษน้อยที่เรียกว่า ‘อดีต’ มันทั้งสุขและทุกข์ ย้อมไปมาเหมือนทาสีลงผืนผ้า
หลังไวน์ถูกดื่มหมด
แคลร์ถูกบังคับให้ระลึกถึงอดีต และยิ่งดื่มไปมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งต้านการหวนรำลึกยากขึ้นเท่านั้น ขณะที่ความทรงจำที่ขมขื่นนั้นชัดเกินไป แคลร์หยุดชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะมองดูดาร์กที่อยู่ข้างกายเธอ อย่างไรก็ตาม เธอพบว่าดาร์กดูตกอยู่ในภวังค์ อันที่จริงแล้วเขาดูเมานิดหน่อย
“ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของเขากับภูตตัวน้อยจะสนิทสนมกันมากนะ” แคลร์ยังคงรินไวน์ให้ตัวเองอีกแก้ว ขณะย้อนกลับไปในตอนนั้น ปีเตอร์ได้แบ่งปันไวน์ภูตให้เธอ และเธอก็ได้ลิ้มรสความหอมหวานของวัยเยาว์
วันนี้เกิดความคิดมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร? ยิ่งหัวใจของมนุษย์ซับซ้อน ยิ่งซ่อนอะไรไว้ในใจมากเท่าไร ผลของไวน์ภูตก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
ยิ่งดื่มยิ่งเมา แม้แต่เมล็ดพันธุ์ความลับที่ฝังลึกอยู่ในใจก็ถูกเผยออกมาเช่นกัน
เธอไม่รู้ว่าดาร์กเมายิ่งกว่าเธอ หลังจากดื่มไปแก้วเดียวเขาก็เมาแล้ว นี่อาจเป็นสิ่งที่ดาร์กเองก็คาดไม่ถึง
หลังดื่มไปสองแก้ว แคลร์ก็มาถึงขีดจำกัดของเธอแล้ว เธอมองดูไวน์ที่เหลืออยู่ที่ก้นขวด ก่อนจะเทมันออกทั้งหมดและดื่มรวดเดียว หลังจากนั้น เธอก็เมามากจนแก้มขึ้นสีแดง สายตาที่มองเด็กผมบลอนด์ในตอนนี้เหมือนกับสัตว์กินเนื้อที่หิวโหย เด็กชายกลายเป็นลูกแมวในสายตาของเธอ ก่อนที่เธอจะกระโจนใส่เขาเหมือนกับสิงโตและกลิ้งไปบนพรมหนานุ่มพร้อมกัน
พระจันทร์กลมมาก
และดาร์กก็ฝัน
เขาฝันว่าตัวเองกลายเป็นแมว โดยมีป้าแคลร์ที่เป็นสิงโตคร่อมอยู่ เขาพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด
เวลาตีสี่
ในห้วงมิติความฝัน สติของดาร์กพลันกลายเป็นสีขาวโพลนอย่างสมบูรณ์ มันกลายเป็นทุ่งน้ำแข็งที่เขาอยากสัมผัส แต่แล้วแจ้งเตือนสีแดงก็ตัดผ่านสายตาเขา
[ราคะ +1]
[ราคะ +1]
ดาร์กสะดุ้งจนตัวลอย จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น
“เฮ้อ” ดาร์กหายใจหอบ “โชคดีที่ไม่ได้กลายเป็นแมว ดูเหมือนว่าแคลร์จะยั้งมือและไม่ลงมือกับเราเมื่อโตขึ้นแล้ว”
เมื่อคิดจบ ดาร์กก็ลากตัวออกมาจากอ้อมกอดของแคลร์อย่างระมัดระวัง เขาพบว่าเขาผล็อยหลับไปบนพรมกับแคลร์ ดาร์กลุกขึ้นนั่งขณะที่ยังเวียนหัวอยู่ “มันเป็นไวน์ที่ดีจริง ๆ ไม่คิดเลยฉันจะรับมันไม่ไหว ดูเหมือนว่าชีวิตนี้จะไม่เหมาะกับไวน์เท่าไหร่ สงสัยหลังจากนี้ฉันจะต้องพยายามดื่มไวน์ให้น้อยลงแล้ว”