ตอนที่ 707 ไพ่เอกลักษณ์และเงาคู่

Worlds’ Apocalypse Online หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา ออนไลน์

บนยานอวกาศของกลุ่มนักล่าเงินรางวัล

ยักษ์เทาถอนสายตาออกจากท้องฟ้า

แม้บางสิ่งที่อยู่บนท้องฟ้าจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ แต่ตอนยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ

“นายพบเจ้าหนุ่มนั่นแล้วงั้นเหรอ?” เขาถาม

“ใช่”

“แล้วระดับความแข็งแกร่งของเขาล่ะ?”

“คำนวณตามมาตรฐานพลังของผู้ฝึกยุทธ คิดว่าน่าจะอยู่ในขอบเขตพันวิบัติขั้นปลาย” ตาสวรรค์กล่าว

พริบตานั้นกลุ่มนักล่าเงินรางวัลพลันระเบิดเสียงหัวเราะทันที

หากเป็นผู้ฝึกยุทธที่บรรลุถึงขอบเขต ดาราโกลาหล หวนคืนสู่ศูนย์ กระจ่างจิตเทวะ หรือเบิกเนตรมิติ กลุ่มนักล่าเงินรางวัลของพวกเขาคงจำต้องวางแผนจัดการอย่างรอบคอบ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในดินแดนชิงอำนาจกว่าสองร้อยล้านชั้น กลุ่มของพวกเขา ยังไม่นับว่าติดอยู่ในอันดับดีๆ

แต่ถ้าในภารกิจนี้ เป็นแค่การกำจัดผู้ฝึกยุทธขอบเขตพันวิบัติล่ะก็ ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา มันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากเย็นอะไร

ยักษ์เทามองคนของเขา ปากอ้าตะโกนว่า “เช่นนั้นก็ดี ถึงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ก็ช่างหัวมัน พวกเราจะไปล่าเงินรางวัลมาก่อนเป็นอันดับแรก!”

“ทุกคน! มุ่งหน้าไปฆ่าเจ้าหนุ่มนั่นได้!”

“ครับบอส!”

กู่ฉิงซานค่อยๆ ลดระดับลงจากเบื้องบนอย่างช้าๆ

ท้องฟ้าบัดนี้ถูกปกคลุมไปด้วยแมลงปีศาจ

ไม่สิ อันที่จริงสมควรกล่าวว่าโลกทั้งใบถูกกลืนกินไปแล้วต่างหาก

โลกทั้งใบ บัดนี้อยู่ภายในกระเพาะของแมลงปีศาจ แต่มันกลับจมลงสู่ความเงียบอย่างน่าฉงน

ความเงียบงันนี้ เปรียบดั่งช่วงเวลาก่อนพายุซัดกระหน่ำ

“ครอบครัวแมงป่องถูกจับตัวไป” กู่ฉิงซานกล่าว

“มันเรื่องอะไรกัน?” ซีน้อยถาม

กู่ฉิงซานบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดไป

“นี่ดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในวิธีคุมขังของเทพวิญญาณ” ซีน้อยครุ่นคิด

ท่าทีของเธอเปลี่ยนเป็นจริงจัง จั่วไพ่ออกมาจากในความว่างเปล่า

-มันคือไพ่อัญเชิญราชินีปีศาจแมงป่อง

ซีน้อยมองไปที่ไพ่ แต่กลับไม่พบอะไรเลย

“ฉันไม่สามารถอัญเชิญเธอได้แล้ว ดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติจริงๆ” ซีน้อยขมวดคิ้ว

กู่ฉิงซานมองไพ่ที่ว่างเปล่า อดไม่ได้ต้องเอ่ยถาม “ราชินีแมงป่องเป็นบาป ฉันหมายถึงเธอก็เป็นหนึ่งในสำรับไพ่ผู้หลบหนีเหมือนกันเหรอ?”

“เปล่า เธอเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตในหุบเหวแห่งบาป เพราะก่อนที่ฉันจะทันได้สลายพลังไป ครั้งหนึ่งเธอเคยได้สัมผัสกับกลิ่นอายของฉัน ดังนั้นเธอเลยเกิดความสมัครใจที่จะทำสัญญากับฉัน”

“หุบเหวแห่งบาปคืออะไร?”

“ภายใต้ผืนทราย ลึกลงไปตรงก้นเหวจะมีผนึก เทพวิญญาณได้สร้างผู้พิทักษ์เอาไว้ปกป้องหุบเหวที่เก็บผนึก เผื่อว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น ผู้พิทักษ์จะสามารถเข้าไปแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที” ซีน้อยกล่าว

“แต่เทพวิญญาณได้จากไปตั้งนานแล้วนี่” กู่ฉิงซานท้วงติง

ซีน้อย “ดังนั้น พวกเขาจึงได้อาศัยอยู่ในหุบเหวแห่งบาปตลอดมา ไม่เคยออกไปจากนอกโลกเลย”

“แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเทพวิญญาณจะตลบหลังพวกเขาแบบนี้”

ทั้งสองเงียบไป

จู่ๆ กู่ฉิงซานก็ยกดาบของเขาขึ้นอย่างกะทันหัน

ซีน้อยเองก็จั่วไพ่ออกมาเช่นกัน

มันเป็นไพ่ที่ภายในเป็นรูปถุงตาข่ายสีขาว

ไพ่ป้องกัน ตาข่ายสะท้อนกลับ!

ตาข่ายสะท้อนกลับ สามารถสะท้อนการโจมตีครั้งแรกของศัตรูได้อย่างสมบูรณ์

“คำอธิบาย ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!”

“คำอธิบาย ถุงตาข่ายนี้ไม่สามารถตอบโต้การโจมตีถึงตายได้ และมันจะไม่สามารถสะท้อนกลับการโจมตีที่รุนแรงกว่าฐานพลังของราชทูตตัดสินบาปสามเท่า”

ปัง!

ไพ่แตกกระจาย

ในเวลาเดียวกัน ตาข่ายสีขาวก็ผลุบออกมาจากในความว่างเปล่า

ตาข่ายสีขาวบดบังขึ้นเบื้องหน้าทั้งสอง ปิดกั้นเสาแสงที่สาดลงมาอย่างกะทันหัน

เสาแสงกระทบลงกับตาข่าย เชือกที่เชื่อมติดกันถึงขั้นย้วยลงมาใกล้กับใบหน้าของทั้งสอง

“ไม่เป็นไร มันยังไม่ทะลุถึงขั้นขีดจำกัดสูงสุดที่ตาข่ายจะรับไหว การโจมตีนี้ยังพอสามารถสะท้อนกลับได้” ซีน้อยกล่าว

ทันทีที่เสียงตกลง เสาแสงก็ม้วนตัวกลมเป็นลูกบอล และดีดย้อนกลับไป

ทันใดนั้นเอง บนท้องฟ้าไกล ก็พลันเกิดประกายแสงสว่างวาบขึ้น

ยานอวกาศถูกระเบิดใส่อย่างแรง ควันโขมงพวยพุ่งเต็มท้องฟ้า

กู่ฉิงซานกับซีน้อยจ้องมองยานอวกาศ

ดูเหมือนว่าการโจมตีก่อนหน้านี้ จะเป็นการลอบโจมตีโดยตรงจากยานอวกาศ

“นายไปมีปัญหากับใครมาอีกรึเปล่า?” ซีน้อยถาม

“ไม่มีนะ แต่ฉันคิดว่าพวกเขาต้องการมาจับเรามากกว่า” กู่ฉิงซานกล่าว

“ใครจะมาจับพวกเรา?” ซีน้อยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“แน่นอนว่าต้องเป็นวิหารแห่งความตาย” กู่ฉิงซานกล่าว

ซีน้อยตระหนักถึงสถานการณ์ในทันใด

ไม่ไกลออกไป ผู้คนนับสิบเริ่มทยอยกันออกมาจากยานอวกาศที่กำลังร่วงตกลง พุ่งเข้าหาทั้งสองอย่างรวดเร็ว

ระยะห่างระหว่างทั้งสองไม่ไกลจากกันและกัน

คนเหล่านั้นพุ่งตรงมาข้างหน้าเร็วมาก และเริ่มจัดรูปแบบเป็นวง ปิดล้อมทั้งสองคน

ซีน้อยเอ่ยถาม “คนพวกนี้ บางคนดูเหมือนไม่เหมือนกับนักบวชเลย ทำไมพวกเขาถึงมาจับตัวพวกเราเพื่อเทพวิญญาณด้วย? หรือว่าพวกเขาเป็นอาวุธใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพวิญญาณ?”

กู่ฉิงซาน “ไม่ใช่อาวุธหรอก แต่น่าจะเป็นคนที่คิดจะฮุบรางวัลนำจับของจากทางวิหารมากกว่า”

“อะไรคือรางวัลนำจับ?”

“…”

ณ เวลานี้ กู่ฉิงซานได้รู้จักซีน้อยมากขึ้น

เขาค้นพบว่าซีน้อยแม้จะล่วงรู้ความลับมากมายจากในสมัยโบราณ แถมยังมีความสามารถในการต่อสู้ แต่เธอกลับไม่มีความรู้ ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโลกในยุคปัจจุบันเลย

เขาอธิบายความหมายของ ‘รางวัลนำจับไป’

ระหว่างทั้งสองสนทนา ยักษ์เทาก็ก้าวนำออกมาจากท่ามกลางหลายสิบคน

โดยมีใบประกาศจับอยู่ในมือของเขา

มองไปยังวัยรุ่นชายและหญิงที่ตรงกันกับภาพ ยักษ์เทาก็พยักหน้ายืนยัน

เป้าหมายถูกต้อง

เขาคำรามเสียงกระจ่างใส “ไปฆ่ามันซะ!”

ในฐานะหัวหน้าทีม เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมีเสียเวลาเจรจาอะไรกับศัตรูให้มากความ

เมื่อคำสั่งถูกส่งออกไป นักล่าเงินรางวัลทั้งหมดก็กระโจนเข้ามารุมทันที

ซีน้อยกล่าวอย่างร้อนรน “ความแข็งแกร่งของนายต่ำเกินไป ดูแลตัวเองให้ดีแล้วกัน ฉันจะทำหน้าที่เป็นตัวรับโจมตีหลักให้เอง”

“เข้าใจแล้ว” กู่ฉิงซานรับคำด้วยความสุข

คนพวกนี้แข็งแกร่งเกินไป หากเป็นเขาที่ต้องสู้เพียงลำพัง ตนคงตัดสินใจเผ่นหนีไปแล้ว ทว่าหากมีคู่หูรู้ใจอยู่ด้วย ย่อมต่างออกไป

เขาสวมใส่ชุดเกราะเฉินเว่ย และเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

ร่างของซีน้อยกะพริบไหว วิ่งกุมไพ่ตรงไปข้างหน้า

เธอพยายามดึงดูดกำลังรบของศัตรูให้หันเหมาทางตัวเองให้มากที่สุด

ทว่าก็ยังมีอีกกว่าเจ็ดถึงแปดคนอยู่ดีที่พุ่งเข้าหากู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานกวาดจิตสัมผัสเทวะออกมา

และพบว่าไม่มีใครอ่อนแอกว่าเขาเลย

อ้างอิงความแข็งแกร่งตามกลิ่นอายของคนเหล่านี้ อย่างน้อยที่สุด คืออยู่ในขอบเขตพันวิบัติของผู้ฝึกยุทธ

แถมยังมีหลายคนเทียบเท่าได้กับผู้ฝึกยุทธขีดสุดความว่างเปล่า และลมปราณจิตเลย

แม้กระทั่งคนที่อยู่เหนือกว่าขอบเขตลมปราณจิต ขอบเขตดาราโกลาหลก็ยังมี!

กู่ฉิงซานตัดสินใจหลีกเลี่ยงชายคนที่สุดท้ายที่กล่าวถึง เขากุมสองดาบในมือ และหายวับ! ไปปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางสามคนที่อ่อนแอที่สุดอย่างกะทันหัน

ดาบยาวขยับไหว

ล่าชีพ!

สองคนพลันตกตายลงในคมดาบเดียว

ขณะที่อีกหนึ่งอาศัยสัญชาตญาณตัวเอง สามารถปัดป้องคมดาบของกู่ฉิงซานเอาไว้ได้

อีกหลายคนเมื่อเห็นฉากนี้ก็เริ่มตื่นตัวทันที

“ระวังกันด้วย! เหมือนว่าเจ้าหนูนี่จะสามารถโจมตีแยกอากาศได้” นักล่าเงินรางวัลที่แกร่งที่สุดกล่าว

กู่ฉิงซานลอบถอนหายใจ

คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะฉวยโอกาสฆ่าได้แค่สองคนเท่านั้น

อีกฝ่ายไม่เลือกที่จะเข้ามาใกล้เขาแล้ว แต่กลับถอยไปไกล และเริ่มร่าย เทคนิคมนตราแทน

นักล่าเงินรางวัลที่แข็งแกร่งที่สุด และนักรบระยะประชิดอีกสองคนประกบติดกับนักเทคนิคมนตรา เพื่อป้องกันว่ากู่ฉิงซานจะเร้นกายมาปรากฏตัวลอบสังหารอีกครั้ง

นักเทคนิคมนตรา เริ่มต้นร่ายมนตร์ด้วยความเร็วสูงสุด

ใบมีดตัดมิติ!

เพลิงผลาญ!

แยกลมปราณ!

รังสีเยือกแข็ง!

ทุกชนิดของเทคนิคมนตราสาดแสงระยับ วิบวับเข้าหากู่ฉิงซาน

เทคนิคมนตรา ห่ากระสุน โจมตีไม่รู้จบ!

เทคนิคเหล่านี้ล้วนผสมผสานกันอย่างชาญฉลาด เพื่อป้องกันไม่ให้กู่ฉิงซานถอยหนี

ทว่ากู่ฉิงซานเตรียมพร้อมใช้ร่างเงาแทนที่สำหรับสถานการณ์นี้เอาไว้อยู่แล้ว

ทว่าชายคนหนึ่งในบรรดานักล่าเงินรางวัลที่ไม่เคยเคลื่อนไหวเลยตั้งแต่ต้นก็ตะคอกออกมาอย่างกะทันหัน

“กฎเกณฑ์ ทุกมนตราจงปะทะกับเป้าหมายทันที!”

ช่วงเวลาฉุกละหุก เทคนิคมนตราทั้งหมดถูกปลุกเร้าขึ้น ความเร็วของพวกเขาทะยานจนเห็นแค่เพียงเส้นแสง ปะทะเข้าใส่กู่ฉิงซานในฉับพลัน

เปรี้ยง!

กู่ฉิงซานถูกกระแทกอย่างแรงจากเทคนิคมนตราเหล่านี้ เขาร่วงปะทะเข้ากับผืนทรายดังตู้ม! บังเกิดระลอกคลื่นทรายกระจายไปทั่ว

เม็ดทรายลอยฟุ้งกระจายไปทั่วฟ้า

กู่ฉิงซานกระอักเลือดออกมา พยายามยืนหยัดขึ้นบนผืนทราย

แม้ว่าเขาจะสวมใส่เกราะรบเฉินเว่ยอยู่ก็ตาม แต่หากถูกระดมยิงใส่ด้วยเทคนิคมนตรามากมายในคราวเดียวแบบนี้ เจ้าตัวก็ล้มได้เหมือนกัน

กลยุทธ์ของฝั่งตรงข้าม ช่างประณีตและมากไปด้วยฝีมือ ทุกอาชีพถูกจัดสรรหน้าที่ไว้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นคนร่ายมนตราโจมตี หรือคนที่ใช้เทคนิคกฎเกณฑ์โจมตีอย่างกะทันหัน กู่ฉิงซานที่ไม่ทันระวังเลยโดนเข้าจังๆ

มันเป็นเรื่องยากที่จะเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลัง แถมยังร่วมมือกันเป็นอย่างดี

ไม่ต้องกล่าวถึงว่าที่แห่งนี้คือดินแดนชิงอำนาจ ดังนั้น เหล่านักล่าเงินรางวัลจะต้องมีความเชี่ยวชาญในการต่อสู้มากเป็นพิเศษแน่นอน

กู่ฉิงซานหัวเราะ

ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน เกราะรบแตกเป็นเสี่ยง ห้อยอยู่ตามตัวของเขา และหลุดลุ่ยลงมา

“ประโยคหนึ่งก่อนที่จะถูกเทคนิคมนตราโจมตีเข้าใส่ เหมือนจะนั่นจะเป็นมนตราแห่งกฎเกณฑ์สินะ…”

“เจ้าสิ่งนั้นมันฟังดูน่าสนใจจริงๆ”

เขาบ่นพึมพำเบาๆ

ท่ามกลางหายนะโทษทัณฑ์ที่ร้ายแรงถึงตาย เจตนาฆ่าอันไร้ที่สิ้นสุดพลันปะทุขึ้นมาจากร่างของกู่ฉิงซานอย่างกะทันหัน

เขายื่นมือออกไปคว้าจับในอากาศที่ว่างเปล่า

ดาบขุนเขาเทวะและเช่าหยินถูกกุมอีกครั้ง

กู่ฉิงซานกำลังจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า

แต่ในตอนนั้นเอง เงาๆ หนึ่งก็ร่วงตกลงมาล้มลงข้างกายกู่ฉิงซาน

เป็นซีน้อย

เธออ้าปากหอบหายใจและกล่าว “บ้าจริง พอคนเยอะ จะทำอะไรมันก็ลำบากไปหมด”

กู่ฉิงซานหยุดมองเธอ “แล้วนี่ได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?”

บนท้องฟ้า กลุ่มนักล่าเงินรางวัล ภายใต้คำสั่งของยักษ์เทา ได้ตีวงล้อม ปิดทางหนีทั้งคู่ถึงสองชั้น

ชายคนหนึ่งหัวเราะออกมา “บอส เหมือนว่างานคราวนี้เหมือนจะง่ายกว่าที่คิด”

“แต่ก็เพราะมันง่ายเกินไปนี่แหละ ทำให้ฉันดันคิดถึงปัญหาอื่นขึ้นมา” ยักษ์เทาขบคิด

“ปัญหาอะไรเหรอบอส?”

“ทั้งๆ ที่พวกเขาอ่อนแอถึงขนาดนี้ แต่ทางวิหารกลับต้องการให้พวกเขาตาย นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องไปรู้ความลับอะไรบางอย่างเข้าแน่ๆ…”

“บอสต้องการจะสื่ออะไร?”

“เค้นความลับของพวกมันออกมาก่อน ถึงค่อยลงมือฆ่าได้”

“แต่ถ้าเราทำแบบนั้น ไม่ใช่ว่านั่นจะเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับทางวิหารเหรอ?”

“อืม…เพราะนี่ไงฉันถึงได้ลังเลอยู่”

ระหว่างพวกเขากำลังตัดสินใจ ซีน้อยกับกู่ฉิงซานก็เร่งสื่อสารกันอย่างรวดเร็ว

“พวกเขามีจำนวนมากเกินไป แถมยังประสานงานกันเป็นอย่างดี ความแข็งแกร่งก็มากกว่าพวกเรา เธอว่าเอายังไงดี?” กู่ฉิงซานถาม

ซีน้อยส่ายหัวและกล่าว “ฉันเชี่ยวชาญในด้านเทคนิคมนตรา แต่ตอนนี้ได้สูญเสียอำนาจส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว ดังนั้นนี่ก็เป็นเรื่องยากที่ฉันจะรับมือกับมันเหมือนกัน”

กู่ฉิงซานถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้นก็คงจะมีแค่หนทางดะ…”

เขายังเอ่ยไม่ทันจบ ซีน้อยก็ขัดจังหวะขึ้นซะก่อน “ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องหลอมรวมกันซะแล้วถึงจะสู้ได้”

กู่ฉิงซานตกใจ เอ่ยพึมพำ “เธอหมายความว่ายังไง?”

ซีน้อยเหยียดสองนิ้วออกไป แล้วไพ่สีขาวก็ผลุบออกมาจากในอากาศที่ว่างเปล่า

เธอจั่วไพ่ใบนั้นออกมา

นี่เรียกว่าไพ่เอกลักษณ์ (ไม่มีซ้ำ)

แสงจางๆ หลากสีระยับออกมาจากไพ่ ส่งผลให้ทั้งใบของมันดูวิจิตรตระการตา

บนหน้าไพ่ เป็นรูปของสองนางฟ้าที่งดงาม ยืนอิงแผ่นหลังกันและกัน ขณะที่สองมือของพวกเธอประกบพนมเบื้องหน้า แสดงท่าทีว่ากำลังอธิษฐานอยู่

ซีน้อยมองไพ่ และกล่าว “ฉันไม่เคยมีคู่หูมาก่อนเลย ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้ใช้ไพ่ใบนี้”

ว่าจบเธอก็โยนไพ่ออกไป

ไพ่หายวับไปอย่างกะทันหัน

ในเวลาเดียวกัน ตัวกู่ฉิงซานก็สาดแสงสีเทาออกมา

ส่วนทางซีน้อยสาดแสงสีเขียว

แล้วรังสีแสงทั้งสองประกบม้วนเป็นเกลียว รวมกันเป็นด้ายเส้นหนึ่ง

ด้ายเส้นนี้เชื่อมต่อระหว่างกู่ฉิงซานกับซีน้อย

ด้ายแสงผสานรวมกันเพียงชั่ววูบ และมันก็หายวับไป

ซีน้อยกล่าว “คราวนี้ล่ะ สถานการณ์มันจะแตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง”

สายตาของกู่ฉิงซานเบนมองหน้าต่างระบบเทพสงคราม

ที่บัดนี้ปรากฏเส้นแสงหิ่งห้อยเด้งเตือนขึ้นมา

“ไพ่เอกลักษณ์ เงาคู่ ได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว”

“ราชทูตตัดสินบาป กู่ฉิงซาน กำลังพยายามประสาน”

“นางฟ้าตัดสินบาป ซี กำลังพยายามประสาน”

“การประสานสำเร็จแล้ว”

“โหมดเงาคู่ประจัญบาน เปิดใช้งาน ณ บัดนี้!”

……………………..