กู่ฉิงซานเบนสายตามองหน้าต่างเทพสงคราม

ตัวอักษรหิ่งห้อยยังคงกะพริบไหวต่อเนื่อง

“โหมดเงาคู่ประจัญบาน ในโหมดประจัญบานนี้ สองราชทูตตัดสินบาปจะสามารถแบ่งปันไพ่ต่อสู้ และประสบการณ์ต่อสู้ในรูปแบบของไพ่แก่กันและกันได้ทันที”

“คุณได้รับสิทธิ์ในการใช้ไพ่ระดับหยกทั้งหมดของนางฟ้าตัดสินบาปซี”

“คุณได้เรียนรู้วิธีการใช้ไพ่เหล่านั้น”

“ทว่าคุณเป็นไพ่ระดับเทา ดังนั้นนางฟ้าตัดสินบาปซีจึงไม่สามารถได้รับไพ่ต่อสู้ใดๆ จากคุณ”

“คุณยังไม่เคยใช้ไพ่สู้ นางฟ้าตัดสินบาปซีจึงไม่สามารถรับประสบการณ์ต่อสู้ใดๆ จากคุณ”

“พิจารณาจากข้อจำกัดเหลือนี้ ได้ข้อสรุปที่เท่าเทียมว่า เมื่อใดก็ตามที่คุณใช้ไพ่สามใบของอีกฝ่าย นางฟ้าตัดสินบาปซีจะสามารถสกัดหนึ่งในสกิลของคุณ มาใช้งานมันในรูปแบบไพ่ได้”

“อันดับแรก คุณสามารถกำหนดสกิลส่วนตัว สกิลแรกของคุณให้เป็นไพ่ และวางมันลงในสำรับไพ่ของนางฟ้าตัดสินบาปซี เพื่อพร้อมใช้งานได้เลย”

กู่ฉิงซานอ่านมันในลมหายใจเดียว

ซีน้อยเอ่ยปาก “ต่อจากนี้ไป นายจะสามารถใช้งานสำรับไพ่หยกของฉันได้เลยโดยตรง มันจึงเทียบเท่ากับว่ามีฉันสองคนในสนามรบ เท่านี้ก็น่าจะเอาชนะพวกเขาได้”

เธอกล่าวต่อ “ตามกฎแล้วนายสามารถระบุสกิลที่จะใส่ลงใน ‘สำรับร่วม’ ของพวกเราได้ แต่ฉันชอบสู้ด้วยเทคนิคมนตรา ไม่ต้องการสกิลระยะประชิดของนาย ดังนั้น ถ้าจะใส่มา ช่วยเลือกอันที่มันเหมาะสมหรือเป็นมนตราด้วย”

กู่ฉิงซานคิดสักพักและกล่าว “ขอนึกก่อนนะ”

ในเวลานี้ เขาได้รับประสบการณ์ในการใช้ไพ่จากซีน้อย ดังนั้นเค้นสมอง ใช้สมาธิในจิตใจเพื่อกำหนดสกิลที่จะแบ่งปันเป็นไพ่ที่ใช้ร่วมกัน

ทันใดนั้นไพ่สีเทาปรากฏขึ้นกลางอากาศเบื้องหน้าทั้งสอง

บนตัวไพ่ ถูกวาดด้วยสองลูกศร ม้วนเป็นวง วิ่งไล่หลัง สลับกันไปกันมา

“ไพ่ ร่างเงาแทนที่”

“สกิลเทวะประเภทมิติ คุณสามารถสลับตำแหน่งกับอะไรก็ตามที่อยู่ในรัศมีขอบเขตจิตใจของคุณได้ดั่งใจปรารถนา”

“คำอธิบาย สกิลเทวะนี้ เป็นสกิลแห่งกฎเกณฑ์ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดก็มิอาจต่อต้านมัน ในกรณีนี้รวมไปถึงค่ายกล กำแพงอุปสรรค กระทั่งเทคนิคลับ หรือวิชาลับต้องห้าม ก็มิอาจต่อต้านได้”

ซีน้อยตะลึงงัน เธอคว้าไพ่ใบนั้นในมือ ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น “ว้าว! นี่เป็นไพ่สำหรับหลบหนีที่ดีที่สุดในระดับปัจจุบันที่ฉันสามารถใช้ได้เลย!”

กู่ฉิงซานยิ้ม

เขาดูดซับประสบการณ์ การต่อสู้ด้วยไพ่ของซีน้อยอย่างเงียบๆ

“ซีน้อย”

“หือ?”

“ฉัน… บางทีเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเทพวิญญาณถึงได้หวาดกลัวเธอ”

“ฮี่ฮี่ พูดอะไรล่ะนั่น ตอนนี้พลังฉันยังอ่อนแออยู่เลยนะ”

ในตอนนั้นเอง บนท้องฟ้า ในที่สุดยักษ์เทาก็สามารถตัดสินใจขั้นเด็ดขาดได้

“ไม่ว่ามันจะเป็นความลับอะไร แต่พวกเราก็ไม่สมควรไปกระตุ้นทางวิหาร”

เขาตะโกน “ไม่ต้องยั้งมือแล้ว! จงฆ่าพวกมันทั้งสองเพื่อฉัน!”

ว่าจบ กลุ่มนักล่าเงินรางวัลก็เฮลงไปทันที

กู่ฉิงซานกับซีน้อยกลายเป็นตื่นตัว

สองตาสาดมองศัตรู หนึ่งมือเริ่มจั่วไพ่จากในความว่างเปล่า

ซีน้อยเอ่ยถาม “นายพร้อมที่จะใช้ไพ่มนตราของฉันโจมตีรึยัง?”

กู่ฉิงซานเองก็จั่วไพ่จากในอากาศ ปากเอ่ยตอบ “คงไม่ล่ะ เพราะฉันเองก็ไม่เคยใช้พวกไพ่มนตราต่อสู้มาก่อนเลย ฉันรู้แค่วิธีต่อสู้ ดังนั้น…”

ซีน้อย “ดังนั้น?”

กู่ฉิงซาน “ดังนั้นฉันจะขอเป็นคนรับผิดชอบในการพุ่งโจมตีระยะประชิดเอง ส่วนเธอก็ต้องรับผิดชอบใช้เทคนิคมนตราจากระยะไกล นี่ต่างหากจึงถึงจะเป็นการจับคู่อาชีพที่เหมาะสม!”

ว่าจบเขาก็โบกมือออกไป

ไพ่ในมือถูกขว้างออก มันกลายเป็นกลุ่มแสงกระจัดกระจายรอบกายกู่ฉิงซาน

“เร่งเร้าโจมตี”

“เมื่อเปิดใช้งานไพ่ใบนี้ ความเร็วในการโจมตีของคุณจะเพิ่มขึ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์”

กู่ฉิงซานค่อยๆ วางไพ่ใบอื่นๆ กว่าอีกเก้าไพ่ ในอากาศอย่างเบามือ

ไพ่เก้าใบหมุนวนรอบตัวเขา และค่อยๆ จางหายไปในความว่างเปล่า

สองมือกลับมากุมดาบคู่ ทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า

ช่วงระหว่างเหินอากาศ ไพ่ใบที่สองก็สาดแสงสว่างขึ้นทันใด

มันเปล่งแสงสีมรกต กะพริบหายเข้าไปในความว่างเปล่า

วินาทีนั้นชุดเกราะรบโลหะทั้งตัว ที่สลักด้วยลวดลายแลดูซับซ้อนทว่าสง่างามก็พลันปรากฏขึ้นเบื้องหลังกู่ฉิงซาน

เกราะรบแยกตัวออกเป็น เกราะหมวก เกราะอก เกราะไหล่ เกราะข้อมือ เกราะเอว เกราะขา เกราะเท้า กระชับกับร่างกู่ฉิงซานอย่างรวดเร็ว

“เกราะรบระดับหยก ของขวัญแห่งชีวิต”

“เมื่อสวมใส่ชุดเกราะนี้ คุณจะได้รับสกิลพิเศษ ดื่มด่ำไปกับน้ำพุแห่งชีวิต”

“คำอธิบายสกิลพิเศษ ครึ่งหนึ่งของการโจมตีที่คุณได้รับ จะถูกเปลี่ยนสถานะให้เป็นพลังในการรักษา มันจะรักษาอาการบาดเจ็บของคุณต่อเนื่องแปดวินาที”

กู่ฉิงซานเปิดใช้งานสกิลพิเศษทันที

แสงมรกตพลันท่วมไปตามตัว สาดแสงออกมาจากทั้งคนทั้งร่างของเขา

อาศัยจังหวะช่วงที่แสงจ้าจนตาพร่ามัว พลันหายวับไปจากสถานที่เดิม ปรากฏขึ้นใจกลางกลุ่มนักล่าเงินรางวัลโดยตรง

“มันใช้ท่ามิติอีกแล้ว! เร่งฆ่ามันเร็วเข้า!”

บางคนร้องตะโกนขึ้น

ทุกคนโจมตีในเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม แสงมรกตบนตัวกู่ฉิงซานได้ทำการดูดซับการโจมตีเอาไว้ถึงครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด แถมยังเปลี่ยนมันเป็นช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้แก่เขา

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ  เขาจะถูกรักษาในเวลาเดียวกันกับที่ได้รับบาดเจ็บ

ยังมี การโจมตีส่วนใหญ่ ไม่อาจสร้างความเสียหายให้กับชุดเกราะรบของกู่ฉิงซานได้ มันเพียงกระทบกับผิวเกราะจนเกิดเสียง ‘กิ๊งๆ!’ เท่านั้น!

และห้ามลืมนะว่า สำหรับผู้ฝึกดาบแล้ว หากพวกเขาไม่จำเป็นต้องคอยพะวงเกี่ยวกับการป้องกัน อาชีพนี้จะกลายเป็นการดำรงอยู่ที่เลวร้ายที่สุดในสนามรบ!

ดาบคู่ของกู่ฉิงซานลงมือพร้อมกัน

ค่ายกลดาบ ไท่หยี!

อำนาจคมกล้าจากดาบกลายเป็นวังวนที่มองไม่เห็น เกิดเสียงคำรามหวีดหวิวอย่างรุนแรงท่ามกลางฝูงชน

ฝนเลือดกระเซ็นไปทั่วฟ้า!

“ทุกคนถอยไป ฉันจะรับมือกับมันเอง!” นักล่าเงินรางวัลคนหนึ่งตะโกน

เขาโยนตนเข้าหากู่ฉิงซาน ทั้งคนทั้งร่างกลายเป็นเพชรแวววาว

ดาบสายลมเข้าตัดเฉือนมัน แต่ก็แทบไม่มีผลใดๆ เลย

เมื่อเห็นอย่างนี้ กู่ฉิงซานก็ทิ้งสองดาบในมือ สั่งการนึกคิดในจิตใจให้พวกมันจัดการค่ายกลดาบด้วยตัวมันเอง

ส่วนเขา หนึ่งมือเหวี่ยงออก คว้าจับไพ่ที่อยู่เบื้องหน้าตน

นี่คือไพ่สีแดงเข้ม

ตามตัวไพ่ ถูกวาดไปด้วยสีแดงเข้มแพรวพราว

ภายใต้ความแพรวพราวนี้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นภาพของสิ่งที่อยู่บนไพ่

“หอกปีศาจแดง”

กู่ฉิงซานกล่าวเสียงกระซิบ

หอกยาวสะท้อนไปด้วยสีแดงเข้มอันไร้ที่สิ้นสุดพลันผลุบออกมาจากในความว่างเปล่า และถูกคว้าจับโดยเขา

ในเวลาเดียวกัน เกราะมรกตทั้งร่างของเขาก็สลายไปอย่างรวดเร็ว

“แรร์ไอเท็ม หอกปีศาจแดง”

“เมื่อติดตั้งหอกปีศาจแดง คุณจะไม่สามารถสวมใส่เกราะรบใดๆ ได้ในเวลาเดียวกัน”

“หอกปีศาจแดงมีกฎเกณฑ์เฉพาะตัว คมกล้า”

“คำอธิบาย นี่คืออาวุธที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยเหล่าทวยเทพในยุคบรรพกาล เพื่อใช้ทำร้ายพวกเดียวกันเอง”

“ไม่มีอะไรจะหยุดมันได้!”

กู่ฉิงซานกุมหอกยาว และล็อคสมญาเทพสงครามเป็น ‘นายพลชั้นเฉินเว่ย’

นายพลชั่นเฉินเว่ย ความเร็วในการโจมตีของคุณจะเพิ่มขึ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์

ด้วยโบนัส ‘เร่งเร้าโจมตี’ ก่อนหน้านี้ ควบคู่ไปกับสมญาเทพสงคราม ส่งผลให้ความเร็วในการโจมตีของกู่ฉิงซานทะยานขึ้นไปสู่ในระดับที่น่าหวาดกลัว!

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง นักล่าเงินรางวัลเพชรก็ได้เข้ามาประชิดกู่ฉิงซานแล้ว

เขากำลังจะสำแดงสกิลระยะประชิดของตน ทว่ากลับเห็นแค่เพียงแสงสีแดงเข้มพรวดเข้าหา

รังสีแสงนี้มันว่องไวเกินไป เกินกว่าที่ขีดจำกัดปฏิกิริยาของตนจะตอบสนอง

เขาทำได้เพียงยกสองมือขึ้นตั้งการ์ดรังสีแสงนี้

ทว่าเส้นแสงสีแดงกลับสามารถวาบผ่านการ์ดเขาไปได้อย่างง่ายดาย

ระเบิดอัดอากาศปะทุขึ้นเป็นเสียงคร่ำครวญของท้องฟ้า กระจายเป็นวงกว้างราวกับคลื่นทะเล ความมืดมิดโดยรอบถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

ฉัวะ!

ด้วยการจ้วงแทงอย่างรวดเร็ว ควบคู่ไปกับคมกล้าอันหาที่ใดเปรียบ ผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมมีเพียงหนึ่งเดียว-

เพียงปลายแหลมน้อยๆ ของหอกปีศาจแดง คนร่างเพชรก็ถูกป่นแหลกเป็นผงทันที!

บนทะเลทราย มุมปากของซีน้อยยกสูงขึ้น

“ต้องอย่างนั้นสิ ถึงจะเป็นคู่หูของฉัน”

เธอเอื้อมมือไปคว้าจับอากาศที่ว่างเปล่า

กู่ฉิงซานได้ใช้ไพ่สามใบของเธอแล้ว ดังนั้นเธอย่อมสามารถสกัดสกิลต่อไปมาจากกู่ฉิงซานได้

แต่เดิม เธอไม่ได้คาดหวังอะไรกับสกิลของกู่ฉิงซาน แต่เมื่อได้เห็น ‘ร่างเงาแทนที่’ ที่อีกฝ่ายเลือกให้ตนก่อนในตอนแรก เธอก็เกิดความประทับใจขึ้นมาทันที

ส่งผลให้สกิลต่อไปที่จะได้รับจากกู่ฉิงซาน  ซีน้อยตั้งตารอคอยมันด้วยความหวัง

และแล้วไพ่ใบที่สองจากสกิลของกู่ฉิงซานเริ่มปรากฏขึ้น

คราวนี้ มันเป็นไพ่สีชมพู พร้อมกับรูปริมฝีปาก

“ไพ่ทักษะ จุมพิตแห่งรัก”

“ด้วยไพ่ใบนี้ คุณจะสามารถสร้างจูบที่น่าจดจำที่สุดในประวัติศาสตร์”

ซีน้อยกลายเป็นโง่งม สักพักหน้าของเธอก็เริ่มแดง

“บ๊ะ! ทำไมฉันต้องสกัดได้ไพ่ใบนี้ด้วยนะ!”

เธอผลักไพ่กลับไปด้วยอารมณ์ทั้งโกรธทั้งอาย!

อีกด้านหนึ่ง

ยักษ์เทาที่อยู่ในมุมสูง สังเกตว่าสถานการณ์รบกำลังเปลี่ยนแปลงไป

เห็นได้ชัดว่าผู้ฝึกยุทธปล่อยมือจากดาบคู่ของตน แต่สองดาบกลับยังคงเคลื่อนไหวได้เองอย่างต่อเนื่อง แถมยังระเบิดอำนาจอันรุนแรงของสกิลดาบออกมา

“โชคไม่ดีจริงๆ ดันต้องมาเจอกับนักดาบนิรันดร์อย่างกะทันหัน!” ยักษ์เทาตวาด

นักดาบนิรันดร์เป็นหนึ่งในผู้ฝึกยุทธนานๆ ครั้งจะถือกำเนิดขึ้น และพลังโจมตีของพวกเขาจัดว่าน่าหวาดกลัวนัก!

ตนไม่สามารถปล่อยให้ศัตรูต่อสู้แบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว!

ยักษ์เทาเอื้อมมือไปคว้าค้อนสงครามขนาดใหญ่ โถมตัววูบไปตามสายลมภายใต้ค่ายกลดาบที่กำลังร่ายระบำ

เขาพุ่งไปได้ครึ่งทาง แต่แล้วก็จำต้องหยุดกายลงอย่างกะทันหัน สะบัดค้อนใหญ่ กระแทกใส่เบื้องหน้าอย่างแรง

เปรี้ยง!!

ทว่ามันไม่เป็นผล!

สองหุ่นเชิดที่ในมือกุมกระบี่ดำปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน โบกสะบัดกระบี่เพื่อปัดป้องค้อนใหญ่นี้

“บัดซบ!” ยักษ์เทาคำราม

เขาก้มลงมองผืนทราย

เห็นแค่เพียงซีน้อยที่ที่พึ่งปลดปล่อยไพ่หุ่นเชิดสองใบออกมา

“หืม…อย่าคิดว่าฉันจะยืนอยู่เฉยๆ สิ”

เธอเริ่มวาดไพ่ออกไปอีกครั้ง

คราวนี้ ในที่สุดเธอก็ได้ไพ่สองใบที่ตนเองต้องการ

ซีน้อยโยนไพ่ใบหนึ่งไปที่กู่ฉิงซาน

ไพ่ได้หายวับไป

และร่างกายของกู่ฉิงซานก็ถูกล้อมด้วยห้าโล่ที่ซีดเซียว พวกมันโคจรไปมา “โล่มนตรา โล่แห่งความตาย”

“การเปิดใช้งานสกิลนี้ จะช่วยให้คุณสามารถปัดป้องการโจมตีจากศัตรูได้ถึงห้าครั้งติดต่อกัน”

แม้ว่ากู่ฉิงซานจะกุมหอกปีศาจแดงอยู่ ทำให้ไม่สามารถสวมเกราะรบได้ ทว่าโล่ป้องกันที่ลอยอยู่ในอากาศ มิได้สัมผัสต้องตัว ยังคงสามารถใช้งานได้

ซีน้อยชี้ไพ่อีกใบไปทางยักษ์เทา ปากอ้าตะโกน “เทคนิคต้องห้ามอาวุธ ค้อนสงคราม!”

ค้อนสงครามในมือของยักษ์เทาพลันหายวับไป และปรากฏขึ้นบนไพ่ของเธอ

ยักษ์เทาสบถด้วยความโกรธ “ ‘เอินเจี้ยน’ รีบใช้ร่างเงาของแก ไปฆ่านังผู้ใช้ไพ่ให้ฉันซะ!”

นักล่าเงินรางวัลที่กุมสองกริชแหลมในมือตอบรับคำ

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง ขอเวลาแค่นาทีเดียวก็พอ”

ว่าจบ เจ้าตัวก็กลายร่างเป็นเงาปีศาจ โฉบเข้าหาซีน้อย

นี่คือร่างเงาที่พบเจอได้ยากยิ่ง มันสามารถทะลุผ่านทุกชนิดของมนตรา ตราบใดที่สามารถสังหารศัตรูในระยะเวลาที่กำหนดได้ ร่างเงาจะดูดซับจิตวิญญาณของศัตรู เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายทั้งหมดที่เขาได้รับ

แต่ซีน้อยดูจะไม่สนใจขว้างไพ่ออกไป เธอเพียงสละไพ่หลายใบจากมือ ปล่อยทิ้งลงรอบตัว

จากนั้น…

เธอก็หยิบไพ่ใบแรกที่ได้มาจากกู่ฉิงซาน

เปิดใช้งานร่างเงาแทนที่!

ในเสี้ยววินาที นักล่าเงินรางวัลก็ปรากฏตัวขึ้นในตำแหน่งของซีน้อย

เขาหันไปมองรอบกายด้วยความสับสน

อ่าว? ทำไมจู่ๆ ตนถึงมายืนอยู่บนทะเลทรายกัน?

ทันใดนั้นเอง พื้นทรายใกล้ๆ กับเท้าเบื้องล่างเขา หลากหลายไพ่ก็เริ่มสาดรังสีแสงออกมา

ในเวลาเดียวกัน ซีน้อยก็ไปปรากฏขึ้นกลางอากาศเบื้องบน

ปากเปล่งทำนองไพเราะเสนาะหู “บ๊ายบาย”

บรึ้ม!

………………….