ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 291
cจื่ออันส่ายหัว “เขาไม่น่าจะทำเรื่องเช่นนั้นออกมาได้”
cไม่ใช่ว่าเซี่ยจื่ออันจะปกป้องเซี่ยหวายจุน แต่ว่าการที่อวดเบ่งอำนาจในที่สาธารณะเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่เขาน่าจะทำตอนอายุเท่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่จวนมหาเสนาบดีมีชื่อเสียงที่ด่างพร้อยอยู่ เขาก็ยิ่งจะไม่ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ออกมาได้อย่างแน่นอน
cซูชิงมองมาที่นางแล้วยิ้มเย้ยหยัน “เขานั่นแหละเป็นคนทำ แน่นอนว่าถ้าเป็นยามปกติ อย่างมากก็ตำหนิอย่างรุนแรงไม่กี่คำ แต่ในวันนั้นเกี้ยวของซีเหมินเสี่ยวเยว่อยู่ข้างหลังเขาพอดี”
c“อะไรนะ?” จื่ออันรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลย “เจ้าหมายถึง เขาจงใจอวดเบ่งอำนาจต่อหน้าซีเหมินเสี่ยวเยว่อย่างนั้นหรือ? เป็นการเอาใจนางสินะ?”
c“เป็นทั้งการเอาใจและการใช้อำนาจข่มขวัญ เท่ากับบอกซีเหมินเสี่ยวเยว่ว่า ถึงตอนนี้เขาจะมีชื่อเสียงที่ไม่ดี แต่เขายังคงเป็นมหาเสนาบดีของราชสำนัก อีกทั้งตระกูลจิ้นกั๋วกงกับเขาก็จะดองเป็นญาติกันแล้ว ต่อไปอย่าได้คิดดูถูกเขา” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเฉยเมย
cจื่ออันมองไปยังเขา ดูเหมือนกับว่าเขาจะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว แต่กลับไม่เคยบอกนางเลย
cอันที่จริง ถึงแม้ว่าช่วงนี้นางจะอยู่ในจวนอ๋องทุกวัน แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะไม่ได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวกันสักเท่าไหร่
cนอกจากนี้เขายังรู้สึกรังเกียจที่จะพูดถึงเรื่องของจวนมหาเสนาบดี
cมีแค่ครั้งนั้นเท่านั้นที่ใช้ให้เซียวท่าไปโจมตีเซี่ยหวายจุน
c“ยังมีอีกเรื่องที่ข้ายังไม่เคยบอกกับเจ้าเลย ตอนที่เจ้าขอให้อ๋องอันเข้าวังไปตามหาร่างของเซี่ยหลิน แต่ข้าค้นหาทั่วทั้งวังแล้วแต่ก็ไม่พบร่างของเขาเลย”
cจื่ออันตกใจ “เป็นไปไม่ได้ เขาก็อยู่ที่พระตำหนักร้างตรงข้ามวังซีเหวยอย่างไรเล่า ตอนที่ข้าจากมา เขาก็อยู่ตรงนั้น”
c“ไม่มีจริง ๆ บางทีร่างของเขาอาจจะถูกกำจัดทิ้งอย่างลับ ๆ ไปแล้ว” มู่หรงเจี๋ยกล่าว
cจื่ออันรู้สึกอึดอัดมาก ก่อนหน้านี้ที่ขอให้อ๋องอันไปค้นหา ก็ไม่มีข่าวคราวกลับมาเลย ก็นึกว่าอ๋องอันไม่อยากช่วยนาง ที่ไหนได้ที่แท้กลับหาไม่เจอนี่เอง
cถ้ากำจัดศพไปแล้วจริง ในวังจะจัดการกับศพอย่างไรกัน? คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่าการฝัง หรือไม่ก็มัดกับหินก้อนใหญ่ถ่วงลงไปในทะเลสาบหรอกนะ
c“คนที่รู้ว่าเซี่ยหลินตายแล้ว มีเพียงคนในวังของพระสนมอี๋เท่านั้น ส่วนอาฟาที่อยู่ในวังของพระสนมเหมยก็ถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้ว ดังนั้นน่าจะเป็นคนของพระสนมอี๋ที่จัดการกำจัดศพของเขา” ซูชิงคาดเดา
cจื่ออันไม่ต้องการแสดงสีหน้าที่เศร้าให้ทุกคนเห็น จึงกล่าวออกไป “โรคผีดิบนี้ แท้จริงแล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร?”
c“ผีดิบก็คือผีดิบ จะเป็นโรคผีดิบได้อย่างไร?” ซูชิงกล่าว “ข้าเคยถามหมอผีมาบ้างแล้ว ในโลกนี้มีผีดิบจริง ๆ”
cจื่ออันในตอนนี้ก็ไม่ได้ตัดเรื่องการมีอยู่ของผีดิบหรือผีสางอะไรพวกนั้นออกไป เพราะเรื่องที่จิตวิญญาณของนางทะลุมิติเข้ามา เดิมทีมันก็แปลกมากอยู่แล้ว ใครก็ไม่สามารถอธิบายได้แม้แต่คนที่เคยแนะนำว่าอนาคตอาจจะสามารถเดินทางข้ามกาลเวลาได้ ก็น่าจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมวิญญาณของนางจึงทะลุมิติเข้าอยู่ในร่างของคนแปลกหน้าที่อยู่ในสถานที่ และเวลาที่แตกต่างกันได้ นอกจากนี้ทฤษฎีการเดินทางข้ามกาลเวลาของฮอว์กิงก็บอกเพียงว่าสามารถทะลุมิติเวลาไปอนาคตได้ ยังบอกอีกว่าเรื่องย้อนกลับไปในอดีต มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
cเนื่องจากวิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ เช่นนั้นเลยต้องใช้คำพูดที่ดูลึกลับแปลกประหลาด และเหลือเชื่อพวกนั้นมาใช้ในการคาดเดา
cแต่ว่าถึงอย่างไร นางก็ยังรู้สึกว่าสิ่งที่เรียกว่าผีดิบนี้เป็นแค่โรคชนิดหนึ่งเท่านั้น
c“แล้วสองคนที่อยู่ในคุกนั่นเล่า” จื่ออันถาม
c“ตายแล้ว และศพก็ถูกเผาไปแล้วด้วย” ซูชิงกล่าว
c“ตายแล้ว? ถูกฆ่าแล้วรึ?” จื่ออันรีบถาม
c“ไม่ใช่ หลังจากอยู่ในคุกมาสองสามวัน พวกเขาก็ส่งเสียงร้องโหยหวนมาโดยตลอด ไม่กินและไม่ดื่มอะไรทั้งสิ้น เป็นเช่นนั้นอยู่ไม่กี่วัน พวกเขาก็สิ้นใจ” ซูชิงกล่าว
cหลังจากที่เขาพูดจบ ก็รู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา “ผีดิบคงจะไม่อดตายกระมัง?”
cจื่ออันมองไปที่มู่หรงเจี๋ย “นี่อาจไม่ใช่ผีดิบ อาจจะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ท่านอ๋องได้โปรดรีบตามล่าตัวคนที่กัดผู้อื่นคนแรกด้วย ถ้ามีคนที่ถูกเขากัดอีก นี่มันอาจจะทำให้เกิดการระบาดในวงกว้างได้นะเพคะ”
cมู่หรงเจี๋ยกล่าว “ข้าสั่งการออกไปแล้ว แต่ว่าดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะหายสาบสูญไป ทั้งในเมืองนอกเมืองล้วนหาตัวเขาไม่เจอ”
c“คนผู้นั้นมาจากหมู่บ้านศิลาหรือ? ท่านเคยไปค้นหาในหมู่บ้านนั่นหรือไม่?” จื่ออันกล่าวถาม
c
c
c
cc