ตอนที่ 370 ความลับของซูมู่ชิง!

เมื่อได้ยินคำว่า ‘คนรักที่สมบูรณ์แบบ’ เย่เฉินก็ชะงักนิ่งไป

มือสองข้างที่คว้าคอเสื้อของหัวหมิงเยว่ก็ค่อยๆ อ่อนแรงลงน้อยๆ แล้วปล่อยมือออกช้าๆ

เย่เฉินชะงักนิ่งไปทันทีแล้วพึมพำเสียงเบาๆ “คนรัก…ที่สมบูรณ์แบบเหรอ?”

เขายังคิดว่าคุณหมอกัวจะฝังหัวซูมู่ชิงให้คิดว่าตนเองเป็นคนสารเลวอย่างถึงที่สุด คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำให้ซูมู่ชิงเห็นตัวเองเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบ!

กัวเยว่หมิงอธิบาย “ด้วยสถานการณ์ในตอนนั้น จะให้ซูมู่ชิงลืมเรื่องที่ไม่มีความสุขทั้งหมด มันเป็นไปไม่ได้ มีเพียงวิธีเดียวก็คือเปลี่ยนความคิดที่หล่อนมองเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองที่หล่อนมีกับคุณ! ถ้าหากว่าหล่อนไม่เห็นคุณเป็นคนสารเลว ไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับหล่อนเป็นความผิดรุนแรงนักหนา แต่เห็นคุณเป็นแฟนแทน เป็นอนาคตสามี เป็นรักเดียวในชีวิต เป็นคนที่ใกล้ชิดกับหล่อนที่สุด เช่นนั้นแล้วหล่อนก็จะยอมรับเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นผมเลยสะกดจิตหล่อน ในระหว่างที่สะกดจิต ผมก็สะกดจิตหล่อนเพื่อให้หล่อนเปลี่ยนความคิดทั้งหมดที่มีต่อคุณ ผมทำให้คุณกลายเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกใบนี้ เกลาให้คุณกลายเป็นผู้ชายที่หล่อนรักที่สุด แล้วกล่อมเกลาเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องหยอกล้อกันกับคนรัก ผมขอสารภาพของแบบนี้มันก็เหมือนกับการฝังความทรงจำในเรื่องจิตพิฆาตคุณ ผมเองก็ไม่ได้มีความหวังเรื่องนี้เท่าไหร่หรอก แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจก็คือการฝังความคิดนี้เข้าไปในหัวหล่อนเป็นไปอย่างราบรื่น! ใช้เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์หล่อนก็ยอมรับแต่โดยดีว่าคุณเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบของหล่อน!

เมื่อได้ยินคำอธิบายของกัวเยว่หมิง เย่เฉินอดย้อนคิดถึงภาพเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนเจอกันเป็นครั้งแรก

“มิน่าล่ะตอนที่เจอกันครั้งแรกในร้านกาแฟที่เทียนไห่ ตอนหล่อนเห็นผม ในสายตาไม่ได้มีแววตาตัดพ้อ แต่กลับรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ แล้วตอนที่เจอกันครั้งสุดท้ายที่ร้านกาแฟ ตอนที่แสร้งทำเป็นจะจูบหล่อน หล่อนถึงไม่ได้ขัดขืน ที่แท้ในระยะเวลาหลายปีนี้ หล่อนเห็นฉันเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบก็เลยไม่ได้ต่อต้านอะไร!”

เย่เฉินถึงได้เข้าใจว่าความจริงเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะซูมู่ชิงใจกว้าง เลยไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยในเรื่องนั้น แล้วยิ่งไม่ใช่เพราะซูมู่ชิงแพศยา หรือว่ามีรสนิยมส่วนตัว

แต่กลายเป็นว่าซูมู่ชิงเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเรื่องนี้!

กัวเยว่หมิงสูบบุหรี่จากนั้นก็มองเย่เฉินพลางเอ่ย “ทันทีที่โดนฝังความคิดเข้าไปในหัวแล้ว คุณก็กลายเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบของหล่อน โดยเงื่อนไขคือหล่อนจะต้องห้ามไปเจอคุณ ไม่เพียงแต่ห้ามไปเจอแต่ข่าวคราวเพียงเล็กน้อยของคุณ หล่อนก็ห้ามอยากรู้ด้วย เพราะว่าในมโนภาพของหล่อนนั้นคุณเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ ส่วนในความเป็นจริงนั้นคุณอาจเป็นเหมือนขยะที่ไร้ประโยชน์ ทันทีที่ความจริงมันกลับกันจากความทรงจำของหล่อนแล้ว ก็อาจจะทำให้หล่อนแตกสลายทันที แต่คุณหนูซูมู่ชิงกลับแอบคอยสะกดรอยตามดูคุณตลอด ถึงขนาดที่ว่าช่วงนี้เจอหน้าคุณแต่ที่แปลกก็คือเมื่อโดนความคิดนี้ฝังหัวไปแล้ว กลับยังสมบูรณ์แบบไม่มีขาดวิ่น ไม่เสียหายอะไร หรืออาจจะเรียกว่ายิ่งหยั่งรากลึกมากกว่าเดิม ”

กัวเยว่หมิงจุดบุหรี่อีกมวนอย่างอดไม่ได้ เย่เฉินจึงกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าผมจะไม่อยากยอมรับแต่คุณเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกตั้งแต่ที่ผมเคยเห็นมาแล้ว!”

กัวหมิวเยว่ไม่อยากจะชมเย่เฉิน แต่ที่จริงแล้วเขานับถือเย่เฉินอย่างยิ่ง

ผู้ชายแบบไหนกันที่จะเป็นผู้ชายที่จะเป็นไปตามสิ่งที่เขาอุปโลกน์ขึ้นมา

วันนี้เขาได้มาเจอตัวเป็นๆ ก็เข้าใจขึ้นมา

อันที่จริงแล้วไม่ว่าหน้าตาหรือพื้นเพ ความสามารถหรือนิสัยใจคอ รสนิยมหรือการวางตัวของเย่เฉิน ต้องยอมรับว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องหวั่นไหว

เย่เฉินจึงกล่าวขึ้นว่า “คุณหมอกัวเมื่อครู่คุณบอกว่าซูมู่ชิงเจ็บป่วยหมายความว่ายังไง? ทำไมตอนมีคนอยากจะรังแกหญิงสาว ทำไมหล่อนถึงได้มีปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรงขนาดนี้? แล้วนานไม่หายด้วย?”

กัวเยว่หมิงถอนหายใจพลางอธิบาย “เป็นเหมือนที่ผมบอกนั้นแหละครับ หล่อนปักใจแล้วว่าคุณเป็นคนรักคนเดียวของหล่อน ดังนั้นไม่มีทางแบ่งใจให้ผู้ชายคนอื่นถ้าหากว่ามีคนอยากจะครอบครองหล่อน หล่อนจะต่อต้านอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้หล่อนย้อนคิดถึงเรื่องเมื่อสี่ปีก่อน ผมหมายถึงความจริงที่ผมไม่ได้ฝังหัวหล่อนเข้าไป ซูมู่ชิงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าคุณไม่ใช่แฟนของตนเอง หล่อนสามารถประคองทั้งสองอย่างได้เป็นอย่างดี ถ้ามีใครขืนใจหล่อนก็จะทำใหความคิทดทั้งหมดนี้หายไปด้วย!”

ก็จะทำให้ทั้งหมดนี้ถล่มลงไป”

คำพูดนี้ของกัวเยว่หมิง ออกจะอ้อมไปเล็กน้อย เย่เฉินไม่ค่อยเข้าใจ

ดังนั้นกัวเยว่หมิงจึงพูดตรงๆ “สรุปโดยง่ายๆ ก็คือทั้งชีวิตของคุณหนูซูมู่ชิงจะมีสัมพันธ์กับคุณคนเดียว หล่อนไม่สามารถยอมรับผู้ชายคนอื่นได้!”

เย่เฉินตกใจจนถอยร่นไป คิดไม่ถึงว่า…จะมีเรื่องแบบนี้ด้วย!

เป็นถึงหญิงงามลำดับหนึ่งในเมืองหลวง มีคนตามจีบจำนวนนับไม่ถ้วน มีผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนให้เลือก

แต่หล่อนกลับยอมรับเย่เฉินได้เพียงคนเดียว!

“มิน่าหลายปีมานี้หล่อนถึงไม่ยอมแม้แต่จะพบหน้าคนที่ที่บ้านจัดการดูตัวให้”

เย่เฉินถึงได้เข้าใจในความทุกข์ของซูมู่ชิง ไม่ใช่เพราะหล่อนเย็นชา แต่ไม่ใช่เพราะหล่อนไม่อยากจะเดินจากมาและมีความรักครั้งใหม่

แต่เพราะหล่อนทำไม่ได้! สภาพของหญิงสาวไม่เอื้อไม่อำนวยให้หล่อนทำแบบนั้น!

แต่เย่ฉินนั้นเหมือนว่าตีตราสลักเข้าไปในใจของซูมู่ชิง ทันที่เย่เฉินหายไปส่วนหนึ่งของหญิงสาวก็จะเหมือนหายไปด้วย!

ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับซูมู่ชิง!

เย่แฉินไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าตนเองจะสำคัญกับซูมู่ชิงขนาดนั้น!

“คนโง่ ทำไมไม่บอกผมล่ะ!”

เย่เฉินสะเทือนใจคิดถึงเมื่อหลายปีก่อนซูมู่ชิงแอบรักเขาเงียบๆ แล้วเห็นเขาเป็นคนรักที่สมบูรณ์แบบทำให้เขาอดสงสารหญิงสาวไม่ได้

ย้อนนึกถึงเมื่อสามปีก่อน เขายังเป็นแค่เขยที่แต่งข้าวของตระกูลหวัง ถ้ารู้แบบนี้เขาคงเลือกจะคบกับซูมู่ชิงไปแล้ว!!

ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็นึกถึงเรื่องงานแต่งงานระหว่างซูมู่ชิงและหลี่เฉิงเจี๋ย และถามอย่างร้อนรน “คุณบอกว่าโรคนี้ของซูมู่ชิง หล่อนจะทำใจยอมรับได้แค่ผม แล้วที่ไปแต่งกับหลี่เฉิงเจี๋ย…”

เย่เฉินยังไม่ทัพูดจบ กัวเยว่หมิงก็โยนบุหรี่ลงพื้นอย่างโมโห แล้วตะโกนเสียงดัง “คุณหนูซูแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นนอกจากคุณไม่ได้! โดนเฉพาะคุณชายเศรษฐีอย่างหลี่เฉิงเจี๋ย! เพราะด้วยสถานการณ์ของคุณหนูซูในตอนนี้ ไม่มีทางจะสามารถมีสัมพันธ์แบบสามีภรรยาปกติกับหลี่เฉิงเจี๋ยได้แน่นอน

ถ้าหมอนั้นเป็นคนในตระกูลเล็กๆ หรือเป็นเขยที่แต่งเข้า คุณหนูซูก็คงจะไม่แยแสเขา แยกห้องกันนอนกับเขาไป แต่ว่าหลี่เฉิงเจี๋ยเป็นคุณชายของตระกูลหลี่ เขาไม่มีทางยอมนอนแยกห้องอยู่แล้ว”

กัวเยว่หมิงเองถอนหายใจ เขาจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบ “หลายปีที่ผ่านมา คุณหนูซูไม่เคยคิดจะแต่งงาน หล่อนบอกผมว่าทั้งชิวตอขงหล่อนนี้จะอยู่กับแค่ภาพมายาของคุณไปจนแก่ แต่ว่าเมื่อสองวันก่อนหล่อนกลับบอกว่าจะแต่งงาน! ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ!”

เย่เฉินเหม่อลอย เขาทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างไร้เรี่ยวแรงพลางกล่าว “เป็นเพราะผมเอง หล่อนถึงเลือกทำแบบนั้น”