‘นี่มันยาวิญญาณระดับสุดยอด เขาไปได้พวกมันมาจากไหน!?’ ประมุขนิกายคิดอย่างตื่นเต้นพร้อมกับใบหน้าที่พอใจและคาดหวังอย่างมาก “ฮ่าฮ่า! วิเศษ! วิเศษจริง ๆ ! ผู้อาวุโสเกรงใจเกินไปแล้ว!”

เม็ดยาสองเม็ดนี่มันยอดเยี่ยมมาก!

ถึงแม้แดร์ริลจะยิ้ม แต่ในใจของเขานั้นแอบเจ็บปวดอยู่ เพราะเขากลั่นพวกมันไว้สำหรับตัวเอง เพราะว่าวัตถุดิบในการทำพวกมันนั้นหายากและล้ำค่าเกินไป! หากไม่ใช่เพราะสมุนไพรพิเศษจากวิลล่าของเซอร์ซีเมื่อคืน เขาคงไม่มีทางกลั่นพวกมันได้

แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาก็ไม่มีทางเลือกเนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของประมุขนิกาย หากเขาไม่แสดงความหวังดีต่อประมุขนิกายในวันนี้ ประมุขนิกายก็อาจจะไม่ชอบแดร์ริลมากกว่าเดิม

หลังจากมอบเม็ดยาให้ แขกทั้งหลายก็ได้ยกแก้วขึ้นให้ประมุขนิกาย ผู้ซึ่งกำลังอารมณ์ดีและดื่มร่วมกับพวกเขาทั้งหมดจนท้องของเขาถูกเติมน้ำไปหลายแก้ว โมนิก้าเองก็อารมณ์ดีเพราะมันเป็นงานรื่นเริงในวันนี้ เธอเองก็ดื่มเข้าไปมากไม่น้อย ใบหน้าอันงามประณีตของเธอค่อย ๆ แดงขึ้น

หลังจากดื่มไปสามรอบ

ประมุขนิกายก็ถามโมนิก้า “โอ้จริงสิ เธอเจออะไรจากการอ่านคัมภีร์นั้นบ้างหรือยัง?”

ทุกคนในโถงล้วนเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงทั้งหลายถึงกับหยุดตะเกียบลงเมื่อพวกเขาได้ยินถึงเรื่องคัมภีร์ พวกเขารู้ดีว่าคัมภีร์ที่ประมุขนิกายกล่าวถึงนั้นไม่ใช่สิ่งใดอื่นนอกจากคัมภีร์มหาปริศนา!

โมนิก้าส่ายหัว เธอนำคัมภีร์ออกมา แล้วกล่าวเสียงเบา “ประมุขนิกายที่รัก ฉันได้อ่านอย่างละเอียดมาบ้างแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เจอสิ่งใดเช่นกันค่ะ”

ประมุขนิกายถอนหายใจออกมาแล้วขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น “เฮ้อ… ตำนานว่าไว้ ความลับยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ในคัมภีร์ทั้งเจ็ด หากผู้ใดพบมัน ผู้นั้นมีอำนาจครองโลกา ฉันศึกษามันมานานแต่ก็ยังไม่มีโชคใด ๆ ฉันแปลกใจจริง ๆ ที่แม้แต่ภรรยาผู้หัวไวและเฉลียวฉลาดของฉันก็ยังไม่สามารถพบสิ่งใดเช่นกัน”

บางทีตำนานอาจไม่จริงก็ได้?

ทุกคนถึงกลับระงับลมหายใจไว้เมื่อเห็นใบหน้าที่ผิดหวังอย่างมากของ

ในขณะเดียวกัน พยัคฆ์ขาวก็ยืนขึ้นแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “ท่านประมุขนิกายครับ เป็นไปได้รึไม่ที่เราจำเป็นต้องเก็บให้ครบเจ็ดเล่มก่อน เราถึงจะค้นพบความลับ?”

ดวงตาของประมุขนิกายเป็นประกายขึ้นแล้วพยักหน้า นั่นมันมีเหตุผล

โมนิก้า ผู้ที่นั่งอยู่ข้างเขาก็พยักหน้า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ประมุขนิกายของฉัน ตอนนี้เรามีสามเล่มแล้ว ฉันเชื่อว่าเราจะครอบครองอีกสี่ที่เหลือในอีกไม่นาน”

“สรรเสริญแก่ประมุขนิกายของเรา หนึ่งในใต้หล้าที่จะครอบครองทั้งเจ็ดเล่ม!”

เหล่าศิษย์ทั้งหลายโห่ร้องออกมาเป็นเสียงเดียว

ประมุขนิกายพยักหน้าด้วยความพอใจ จุดประสงค์ที่เขากล่าวถึงคัมภีร์ทั้งสามที่เขาได้เก็บขึ้นมาไว้ในโอกาสก็เพื่อแสดงให้ศิษย์ของเขาเห็นว่าเขาทรงพลังขนาดไหน เพราะยังไงเสีย ทุกคนก็ต้องการจะครอบครองคัมภีร์พวกนั้น และเขาเองก็ครอบครองพวกมันไว้ถึงสาม!

“ท่านประมุขนิกายครับ”

แดร์ริลจู่ ๆ ก็ยืนขึ้นแล้วกล่าวเสียงดัง “ท่านประมุขนิกาย ท่านจะว่าอะไรหรือไม่ หากผมจะขอดูทั้งสามเล่มสักหน่อย?”

หือ?

นี่เขาเป็นบ้ารึไง?
ทันใดนั้น ทุกคนในโถงก็มองที่แดร์ริลด้วยความสับสน ทุกคนรู้กันดีว่าคัมภีร์มหาปริศนานั้นล้ำค่ามากสำหรับประมุขนิกาย

แล้วเขากล้าดียังไงไปขอดูพวกมัน? แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อาวุโส แต่เขาก็ควรรู้จักที่ของตนเองสิ

ใบหน้าของประมุขนิกายมืดลง คิ้วของเขาขมวดแน่น

‘เด็กนี่หยาบคายจริง! กล้าดียังไงมาขอดูคัมภีร์ต่อหน้าคนมากมาย?’ เขาคิด

โมนิก้าดึงแขนของเขาเมื่อเห็นว่าท่าทางของประมุขนิกายเปลี่ยนไปแล้วกล่าว “ได้โปรด อย่าโกรธเลยค่ะ แดร์ริล! เธอคิดว่าเธอกำลังทำอะไร!?”

ในตอนนั้นเอง นกยูงเพลิงก็อดกลั้นความโกรธไว้ไม่ได้อีกต่อไป “ผู้อาวุโส ท่านรู้หรือไม่ว่าคัมภีร์มหาปริศนาล้ำค่าขนาดไหน? มีเพียงประมุขนิกายเท่านั้นที่สามารถดูมันได้ ท่านเป็นใครถึงขอดูมัน? ท่านถูกแต่งตั้งมาได้เพียงไม่นาน แต่ตอนนี้กลับคิดว่าตัวเองมีอำนาจจะขอได้แล้วรึ?”

เธอไม่พอใจแดร์ริลในเรื่องที่เขาถูกแต่งตั้งเป็นผู้อาวุโส ดังนั้นเธอจึงไม่ทิ้งโอกาสในการแตะเขาออกจากตำแหน่งแน่

แดร์ริลยิ้มอ่อน ๆ เขาไม่สะทกสะท้านกับสายตาโกรธเกรี้ยวและการแสดงความคิดเห็นต่อเขาเลย เขาอธิบายอย่างใจเย็น “ท่านประมุขนิกาย ผมไม่ได้คิดจะล่วงเกินท่านสักนิดเดียวครับ ผมเพียงคิดว่าจากสามเล่มนั้น เล่มสีเหลืองนั้นดูแปลกเล็กน้อย มันดูเหมือนจะเป็นของปลอม”

เล่มสีแดงและเขียวนั้นดู ‘เก่าแก่’ เมื่อมอง ยังไงก็ตาม สีเหลืองที่ถูกส่งมาโดยนิกายตำหนักอมตะกลับดูเหมือนของเลียนแบบ แดร์ริลนั้นมีพรสวรรค์เรื่องการประเมินวัตถุโบราณ ดังนั้นเขาจึงบอกได้ทันทีว่าเล่มสีเหลืองนั้นดูเหมือนถูกจงใจ ‘ทำให้ดูเก่า’ เพื่อเลียนแบบรูปลักษณ์อันโบราณของมัน