[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 388 : ฆ่าคนราวผักปลา!
หลิงหยุนวางสายไป จากนั้นก็จ้องมองเหล่ากุ่ยและตู้กู่โม่ด้วยความนับถือจากใจ..
ในใจหลิงหยุนต้องการจะถามเหล่ากุ่ยว่าเขาไปเอาข่าวพวกนี้มาจากใหน และเพราะอะไรตู้กู่โม่เมื่อได้รู้ข่าวกลับไม่หวั่นไหว?
เหล่ากุ่ยเป็นใครกันแน่? ตู้กู่โม่ก็เช่นกัน!?
ตู้กู่โม่เห็นหลิงหยุนจ้องมองเขาอยู่ครู่ใหญ่แล้ว จึงได้แต่ยกมือขึ้นเกาศรีษะพร้อมกับถามขึ้นอย่างงงๆ
“นี่.. เจ้าจ้องข้าทำไมกัน?”
แต่หลิงหยุนกลับพูดเตือนตู้กู่โม่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“นายได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ.. ที่นั่นมียอดฝีมือเซียงเทียนถึงสามคน! นายไม่กลัวหรือยังไง? แล้วยังมียอดฝีมืออีกสี่คนที่ฝีมืออยู่ในระดับเดียวกับนาย ใหนจะยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสูงของขั้นโฮ่วเทียน-8 อีกถึงยี่สิบคน แต่พวกเรามีกันแค่สามคน!”
ตู้กู่โม่ตอบกลับยิ้มๆ “เจ้ามาที่นี่เพื่อช่วยคนไม่ใช่รึ? อีกอย่าง.. เจ้าก็เป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้! ที่ผ่านมาพวกเราก็ผ่านอันตราย และความยากลำบากมาด้วยกัน แล้วทำไมข้าจะไปเป็นเพื่อนเสี่ยงตายกับเจ้าอีกสักครั้งไม่ได้ล่ะ?”
คำตอบของตู้กู่โม่ทำให้หลิงหยุนไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้อีก ส่วนเหล่ากุ่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ได้แต่อแอบถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
หลิงหยุนหันหน้าไปทางเหล่ากุ่ยพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เหล่ากุ่ย.. ท่านมาช่วยข้าไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่คืนนี้จะเป็นการต่อสู้ที่มีแค่คำว่าอยู่หรือตายเท่านั้น.. ข้าว่าท่าน..”
เหล่ากุ่ยหัวเราะหึหึ “หลิงหยุน.. ฟังนะ! ถ้าข้ากลัวตาย ข้าคงจะไม่มาที่นี่ในคืนนี้ เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดใช่ไม๊?”
“อีกอย่าง.. การต่อสู้ที่มีแค่คำว่าอยู่หรือตายนั้น คนแก่อย่างข้าก็ผ่านมาแล้วทั้งนั้น!”
หลิงหยุนไม่สามารถโต้แย้งคำพูดของเหล่ากุ่ยได้อีกเช่นกัน และได้แต่คิดสงสัยในใจว่าเหล่ากุ่ยจะเป็นคนที่แม่ของเขาส่งมาดูแลคุ้มครองตัวเขาหรือไม่!?
ตู้กู่โม่เสริมขึ้นว่า “นั่นสิ.. ยอดฝีมืออย่างพวกเราก็ต้องออกมาหาประสบการณ์จากการต่อสู้ที่ดุเดือดช่วงชิงความเป็นความตายบ้าง ถ้าเห็นการต่อสู้แล้วกลัวจนต้องวิ่งหนี ก็ไม่ต้องฝึกวรยุทธจะดีกว่า กลับไปนอนกอดเมียเจ็ดแปดคนอยู่ที่บ้านไม่ดีกว่าหรือยังไง?!”
หลิงหยุนหัวเราะอย่างมีความสุข “ใหนนายบอกว่าผู้หญิงเปรียบเหมือนเสือไง? แล้วยังจะกล้ามีมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ตู้กู่โม่ทำเสียงฟึดฟัดพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “ขนาดเถียนป๋อเตายังมีเป็นสิบ ฉันก็ต้องมีให้เท่ากับมันบ้าง..”
หลิงหยุนจ้องมองตู้กู่โม่ด้วยสายตาแน่วแน่พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้างั้นก็ขอต้อนรับทุกคนด้วยความยินดี ถึงแม้พวกมันจะมีหลายคน แต่พวกเราก็จะไม่ยอมตายอย่างแน่นอน!”
“พวกเราไม่เพียงแค่มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่ยังมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือการช่วยเหลือคน ช่วยเหลือคนก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง! ไปกันได้แล้ว!”
หลิงหยุนเดินนำหน้าไป จากนั้นก็ตามมาด้วยเหล่ากุ่ยและตู้กู่โม่ และทั้งสามคนก็มุ่งหน้าสู่บ้านของตระกูลเฉิง
……..
“พวกเจ้าเป็นใครกัน?!”
แม้ทั้งสามคนจะสวมชุดดำและมีผ้าปิดบังใบหน้า แต่ก็ไม่ได้ไปอย่างหลบๆซ่อนๆ ดังนั้นเมื่อพวกเขาปรากฏตัวอยู่ที่หน้าประตูบ้านของตระกูลเฉิง ใครบางคนก็วิ่งออกมาตะโกนถามทันที พร้อมด้วยยอดฝีมืออีกสี่คนตามมาติดๆ
“ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-6 หนึ่งคน ส่วนอีกสี่คนอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-5!” เหล่ากุ่ยส่งกระแสจิตบอก
หลิงหยุนเดินลมปราณด้วยวิชาพลังลับหยินหยาง และใช้มังกรพรางร่างไปโผล่ตรงหน้าคนที่ถามพร้อมกับร้องตอบไปว่า
“ข้าก็คือยมบาลไง!”
“นี่เจ้า..!”
ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-6 ผู้น่าสงสาร ยังไม่ทันที่จะได้โต้ตอบอะไร ก็ถูกหมัดปีศาจเถียนกังของหลิงหยุนซัดเข้าที่หน้าอกจนกระดูกหักเจ็ดแปดท่อน ตับและถุงน้ำดีแตก และเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด
หลิงหยุนไม่ต้องการเสียเวลาไปกับการโต้ตอบทางวาจา มือขวาของเขาซัดตะปูยาวออกไปราวกับห่าฝน และยอดฝีมืออีกสี่คนก็ล้มลงกับพื้นทันที ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนานัก!
หลิงหยุนเดินหลังตรงเข้าไปในบริเวณบ้านอย่างรวดเร็ว และทันทีที่เท้าของเขาสัมผัสกับพื้นดินภายในบ้าน หลิงหยุนก็ถูกยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ตามต้นไม้กระโจนออกมาล้อมไว้ทันที
ที่น่าแปลกคือยอดฝีมือทั้งเจ็ดคนที่กระโดดออกมาล้อมหลิงหยุนไว้นั้น กลับมีใบหน้าสีดำกันทุกคน ดูเหมือนว่าใครๆก็ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยใบหน้าของตัวเองกันทั้งนั้น
“สองคนอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-8!” เหล่ากุ่ยและตู้กู่โม่ที่ตามเข้ามาร้องเตือนหลิงหยุน!
สำหรับเหล่ากุ่ยแล้ว.. คืนนี้เขาไม่สนใจเรื่องอื่น นอกจากภารกิจในการปกป้องคุ้มครองหลิงหยุนซึ่งเป็นนายน้อยแห่งตระกูลหลิงเท่านั้น!
ความจริงแล้ว.. หากยอดฝีมือคนใหนยังไม่เข้าสู่ขั้นเซียงเทียน ตัวหลิงหยุนเองก็สามารถจะมองออกว่าฝีมืออยู่ขั้นใด โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยเหล่ากุ่ยคอยเตือน
หลิงหยุนโคจรดารกะดายัน และแสงสว่างไสวของดวงจันทร์ก็ปกคลุมร่างที่อยู่ในชุดดำของหลิงหยุนไว้ ทำให้เขาดูโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางความมืด
ปัง.. ปัง..!
ความดุร้ายของหลิงหยุนยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เขาซัดฝ่ามือทั้งสองข้างใส่ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 ทั้งสองคนพร้อมกัน ฝ่ามือซ้ายคือพลังหยิน และฝ่ามือขวาคือพลังหยาง!
ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 ทั้งสองคน ต่างก็ไม่คิดว่าฝ่ามือของหลิงหยุนนั้นจะรุนแรงและมีพลังมากมายถึงเพียงนี้ ทั้งคู่ได้ยินเสียงแกร๊ก.. แกร๊ก.. ดังขึ้นพร้อมกัน จากนั้นพวกเขาก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับร่างที่ลอยละลิ่วออกไปพร้อมกัน!
แม้ยอดฝีมือทั้งสองคนจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว แต่หลิงหยุนยังไม่ปล่อยพวกมันไป เขาพุ่งตามไปซ้ำร่างของทั้งคู่ โดยที่ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 ทั้งสองคนยังไม่ทันที่จะได้ตกถึงพื้น อีกทั้งยังไม่ทันได้แม้แต่จะหายใจ..
หลิงหยุนประกาศไว้แล้วว่า คืนนี้จะเป็นคืนแห่งการสังหารเท่านั้น!
ระหว่างหลิงหยุน เหล่ากุ่ย และตู้กู่โม่นั้น กำลังภายในของหลิงหยุนแม้จะอยู่ในขั้นที่ต่ำที่สุด แต่กลับแข็งแกร่งที่สุด อีกทั้งครั้งนี้เขายังลงมือโจมตีคู่ต่อสู้อย่างไม่ปราณีเลยแม้แต่น้อย
ระหว่างที่หลิงหยุนจัดการกับยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 เหล่ากุ่ยก็จัดการกับยอดฝีมืออีกสามคน ส่วนตู้กู่โม่ก็จัดการกับยอดฝีมืออีกสองคน แม้ทั้งคู่จะไม่ได้สังหารยอดฝีมือทั้งห้าคน แต่พวกมันก็สูญเสียพลังและไม่อาจต่อสู้ได้อีก!
“ใครกัน.. กล้าบุกรุกตระกูลซัน?!” ยอดฝีมืออีกสามคนร้องตะโกนถามเสียงดัง
“ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 เจ้าจะเป็นรายต่อไป!”
หลิงหยุนไม่รอให้เท้าของยอดฝีมือผู้นั้นได้สัมผัสพื้นด้วยซ้ำ เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก จากนั้นก็ใช้มังกรพรางร่างเหาะขึ้นสูง และพุ่งตรงเข้าหายอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 ที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาหาหลิงหยุนเช่นกัน!
“โอ๊ะ..!”
ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน 9 ร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆหลิงหยุนก็พุ่งเข้าไปโดยที่เขาเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ระหว่างที่อยู่กลางอากาศนั้น เขาก็ซัดฝ่ามืออย่างสุดกำลังเข้าใส่ร่างของหลิงหยุน!
แต่หลิงหยุนกลับเพียงแค่ยื่นมืออกไปคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้ แล้วจึงรูดฝ่ามือไปตามแขนและซัดฝ่ามือของตนเองเข้าที่หน้าอกของยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 อย่างแรง!
ปัง!
หลังจากที่ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 ถูกหลิงหยุนฟาดเข้าที่หน้าอก เขาก็รู้สึกไม่ต่างจากการถูกอุกาบาตลูกใหญ่วิ่งชนเข้าอย่างรุนแรง!
สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือ หน้าอกที่ถูกหลิงหยุนฟาดฝ่ามือใส่นั้นถึงกับแบนราบติดแผ่นหลัง จนกระทั่งอวัยวะภายในหลักทั้งห้าชิ้นมีเลือดไหลคั่งอยู่ภายใน และร่างก็ร่วงลงสู่พื้นดินทันที!
“โอ้ะ..”
ไม่เพียงเท่านั้น หลิงหยุนยังจัดการซัดตะปูอีกสองดอกเข้าใส่ดวงตาของยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 และด้วยพละกำลังที่มหาศาลของหลิงหยุน ทำให้ตะปูที่ซัดออกไปนั้น พุ่งทะลุดวงตาทั้งสองข้างผ่านกะโหลกศรีษะ และไปปักอยู่ที่พื้นหินอ่อนด้านหลัง!
ในเวลานี้เอง ตู้กู่โม่และเหล่ากุ่ยก็กำลังช่วยหลิงหยุนจัดการกับยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 อีกสองคน ซึ่งกว่าทั้งคู่จะเอาชนะได้ ก็ใช้เวลาครู่ใหญ่อยู่เหมือนกัน
หลิงหยุนมองเห็นว่าด้านหน้าเขานั้น มีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมา และเขาสัมผัสได้ว่าช่วงเวลาแห่งการต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว หลิงหยุนจึงเรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมาพร้อมกับใช้มังกรพรางร่างพุ่งตรงเข้าหายอดฝีมือกลุ่มนั้นทันที
ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-8 สองคนที่วิ่งเข้ามานั้น จู่ๆก็รู้สึกว่าร่างของตนเองเบาขึ้น และก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าที่เบาขึ้นนั้น เพราะขาทั้งสองข้างของพวกเขาถูกตัดจนขาดไปแล้ว และตอนนี้เลือดก็กำลังพุ่งกระฉูดออกจากขาของพวกเขาทั้งคู่!
ระหว่างที่ทั้งคู่มัวแต่ตกใจนั้น หลิงหยุนก็สะบัดกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือเข้าใส่ลำคอของยอดฝีมือทั้งสองคน ทั้งคู่ต่างก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและเจ็บปวดก่อนจะสิ้นใจตายในที่สุด!
ในเมื่อหลิงหยุนตัดสินใจที่จะลงมือสังหารแล้ว แววตาของเขาจึงไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความเมตตาปราณี หรือความสงสารเลยแม้แต่น้อย มีเพียงรังสีอำมหิตซึ่งแตกต่างจากมือฆาตกรทั่วไป!
สำหรับหลิงหยุนในเวลานี้.. ในสมองของเขามีเพียงเรื่องของการช่วยคนสองคน นั่นก็คือเฉิงเม่ยเฟิง และถังเทียนห่าว!
“นั่นมัน..” เมื่อเหล่ากุ่ยได้เห็นกระบี่สีดำในมือหลิงหยุน เขาก็ได้แต่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
“พวกเราบุก!”
หลิงหยุนยกกระบี่ชี้ขึ้นฟ้าพร้อมกับร้องสั่งให้ตู้กู่โม่และเหล่ากุ่ยให้บุกเข้าไปจัดการกับยอดฝีมืออีกแปดคนที่กรูเข้ามาพร้อมกัน!
“ถึงคราวของเจ้า!”
สายตาของหลิงหยุนจับจ้องอยู่ที่ยอดฝีมือผู้หนึ่งที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วที่สุด และดูเหมือนว่าผู้ที่ออกมาต้อนรับหลิงหยุนนั้น จะเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-9!
สิ้นเสียงร้องตะโกนของหลิงหยุน ร่างของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า มือทั้งสองข้างกำด้ามกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้แน่น พุ่งตรงไปทางด้านหน้าของยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสูงสุดของขั้นโฮ่วเทียน-9
“ระวัง!”
“ระวัง!”
เสียงร้องตะโกนดังออกมาจากทั้งสองฝ่าย เสียงร้องเตือนครั้งแรกดังออกจากปากของเหล่ากุ่ยที่ร้องเตือนหลิงหยุน ส่วนเสียงร้องเตือนที่ตามมานั้น เป็นเสียงของคนฝั่งตระกูลซันที่ร้องเตือนยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 ของตนเอง
สามในแปดยอดฝีมือที่กรูเข้ามานั้น ได้ซัดอาวุธลับใส่หลิงหยุนกลางอากาศ ทำให้หลิงหยุนต้องเปลี่ยนเป้าโจมตีกลางคัน เขาจัดการปัดอาวุธลับที่ซัดมาจนกระเด็นออกไปทางประตูบ้าน ส่วนอาวุธลับบางส่วนที่ซัดโดนร่างกายของหลิงหยุนนั้น ดูเหมือนหลิงหยุนจะไม่ใส่ใจนัก!
ติ๊ง.. ติ๊ง.. เสียงคล้ายวัตถุกระทบกันนี้เกิดจากอาวุธลับบางส่วนที่ซัดโดนร่างกายของหลิงหยุน และทุกคนต่างก็เห็นกับตาว่า หลิงหยุนยังคงปลอดภัยดี ไม่มีแม้แต่บาดแผลเกิดขึ้น ทุกคนต่างก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ!
“ดูเหมือนเขาจะสวมเสื้อเกราะทองคำ!”
ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 แสยะยิ้ม.. เขาเงื้อดาบเล่มใหญ่ในมือขึ้นกลางอากาศฟันใส่กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของหลิงหยุน!
ดาบเล่มใหญ่ของยอดฝีมือผู้นี้ทำจากทองคำ และหากนำไปขายเป็นเงินก็จะสามารถซื้อบ้านหลังใหญ่โตได้เลยทีเดียว เขาจึงมั่นใจอย่างมากว่าดาบทองคำของเขาจะสามารถฟันกระบี่ของหลิงหยุนให้หักได้อย่างแน่นอน!
แต่เขายังไม่รู้ตัวว่าได้ประเมินตนเองไว้สูงจนเกินไป!
ชัวะ!
กระบี่โลหิตแดนใต้ของหลิงหยุนตัดดาบเล่มใหญ่ที่ทำจากทองคำได้อย่างง่ายดายราวกับตัดเต้าหู้ และดูเหมือนกระบี่สีดำของหลิงหยุนจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะทันทีที่ยอดฝีมือผู้นั้นได้ยินเสียง ‘ชัวะ’ กระบี่สีดำที่มีกระแสเย็นยะเยือกก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนจะฟันเข้าที่ศรีษะด้านบนของเขาทันที!
“อ๊าก!” เขากรีดร้องออกมาด้วยความตกใจสุดขีด!
ท่ามกลางความหวาดกลัว ยอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9 ผู้นี้ ได้แต่หันศรีษะไปตามสัญชาติญาณเพื่อหลบหนีการโจมตีที่เหี้ยมโหดของหลิงหยุน!
ชัวะ!
หลิงหยุนไม่ได้ฟันพลาด.. แต่เขาตั้งใจใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ตัดแขนข้างหนึ่งของยอดฝีมือผู้นี้จนร่วงลงไปกับพื้น และเลือดก็กระฉูดออกไปทั่วทุกทิศทาง!
จากนั้นหลิงหยุนก็พูดขึ้นว่า.. “ตายซะ!”
ตั้งแต่มาถึง.. หลิงหยุนก็ลงมือสังหารยอดฝีมือคนแล้วคนเล่า จนล้มตายราวกับผักปลา!