บทที่ 410 ปราณสังหารหมื่นกระบี่

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

สิ่งที่ทำให้ปรมาจารย์กระบี่คิดไม่ถึงแม้ในยามฝันก็คือ หลังจากที่แสงสีทองถูกยิงออกมาจากดวงตาทั้งสองของเย่เทียนเฉินแล้วจะทำให้ใจกลางของค่ายกลหมื่นกระบี่เกิดประกายสายฟ้าในพริบตา ที่สำคัญก็คือเจ้าหนูนี่ไม่ได้รู้ว่ากระบี่เล่มไหนคือกระบี่เซวียนหยวนที่แท้จริง แต่ยังตะโกนขึ้นฟ้า กำหมัดขวาแน่น ระเบิดสายฟ้าอันแข็งแกร่งออกมา แล้วต่อยลงไปยังใจกลางของค่ายกลหมื่นกระบี่อย่างรุนแรง

“โง่งม!” ปรมาจารย์กระบี่ตะโกนออกมาเสียงดัง เพียงแต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหยุดเย่เทียนเฉินได้ ทำได้เพียงมองเย่เทียนเฉินต่อยลงไปต่อหน้าต่อตา

ดูเหมือนเย่เทียนเฉินจะหาที่อยู่ของกระบี่เซวียนหยวนที่แท้จริงไม่พบ แต่ยังคงใช้หมัดต่อยลงไปที่ค่ายกลหมื่นกระบี่ นี่ทำให้ปรมาจารย์กระบี่ต้องด่าออกมาและทำให้เขารับไม่ไหว เจ้าหนูนี่สมองมีปัญหาเลยคิดสั้นหรือไง? บุ่มบ่ามทำเรื่องโง่งมเช่นนี้ออกมา รนหาที่ตายหรือ? ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่อาจแตะต้องค่ายกลหมื่นกระบี่ง่ายๆ ตนก็บอกเขาจนชัดเจนแล้วว่าโอกาสมีเพียงครั้งเดียว จำเป็นต้องค้นหากระบี่เซวียนหยวนออกมาให้ได้ในชั่วขณะที่ลงมือ จากนั้นจึงคิดหาวิธีป้องกันไอสังหารที่กระบี่นับเหมือนเล่มส่งออกมา มิฉะนั้นหากแตะค่ายกลหมื่นกระบี่เพียงเบาๆ ก็จะถูกไปสังหารจากค่ายกลหมื่นกระบี่โจมตี นี่ไม่ใช่อะไรที่คนธรรมดาจะป้องกันได้ ทำได้เพียงรอความตาย ดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์

ตู้ม!

เสียงหนึ่งดังสนั่น ในช่องว่างอันแปลกประหลาดที่อยู่ในกระบี่เซวียนหยวนทั้งหมดสั่นสะเทือน ปรมาจารย์กระบี่รู้สึกว่าตนเองยืนไม่มั่นคง หมัดนี้ของเจ้าหนูนี่เหมือนกับโจมตีลงไปยังหัวใจก็มิปาน พลังสั่นสะเทือนรุนแรงมาก ในใจปรมาจารย์กระบี่ลอบตะโกนด่า เขารู้ว่าเย่เทียนเฉินคิดผิดแล้ว

พลั่ก!

ปราณกระบี่นับหมื่นสาย พลังสังหารไร้ทิศทาง พุ่งขึ้นสู่ฟ้าทั้งหมด ในตอนที่เย่เทียนเฉินซัดหมัดลงไป เขาถูกปราณกระบี่อันมหาศาลกระแทกจนกระเด็น เลือดสดๆ พุ่งกระฉูดออกมา เขากัดฟันรับพลังสังหารอันรุนแรงนี้ไว้ ชั่วขณะนั้นเขาเองก็ลอบรู้สึกตื่นตกใจ ปรมาจารย์กระบี่ไม่ได้หลอกเขาจริงๆ ไอสังหารที่ออกมาจากกระบี่นับหมื่นเล่มนี้แข็งแกร่งเกินไป ถ้าไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพราชันคงไม่อาจต่อต้าน มีพลังอำนาจที่จะกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ดูเหมือนเขาจะไม่มีแรงต่อต้านจนถูกกระแทกออกไป เพียงถูกปราณสังหารจากกระบี่นับหมื่นเล่มกวาดถูกเล็กน้อยก็บาดเจ็บไม่น้อยแล้ว มุมปากมีเลือดสดๆ ไหลออกมา

ตู้ม!

เย่เทียนเฉินยังไม่ทันได้สติกลับมา ในค่ายกลหมื่นกระบี่ก็มีไอสังหารที่ทำให้ผู้คนต้องสั่นกลัวพุ่งออกมา ปราณสังหารรวมกันจนกลายเป็นกระบี่เล่มหนึ่ง ฟาดฟันอากาศจนฉีกขาด หากไม่ใช่เพราะอยู่ในช่องว่างอันแปลกประหลาดของกระบี่เซวียนหยวน เกรงว่าคงทำลายฟ้าดินไปได้แล้ว ปราณสังหารที่กลายเป็นกระบี่นั้นมุ่งโจมตัสังหารมายังเย่เทียนเฉิน

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปราณสังหารอันรุนแรงที่แปรสภาพเป็นกระบี่ เย่เทียนเฉินไหนเลยจะกล้าละเลย มือทั้งสองยื่นไปด้านหน้า แสงสีทองเปล่งประกาย กำแพงสีทองอันแข็งแกร่งขวางอยู่เบื้องหน้า เขาทะยานตัวไปด้านหลังด้วยความรวดเร็ว เมื่อลงมือก็เกิดโล่ทองคำขึ้น นับว่าในตอนนี้เขาได้ใช้เคล็ดวิชาป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาแล้ว

ที่น่าเสียดายก็คือ โล่ทองคำที่แข็งแกร่งของเย่เทียนเฉิน ต่อให้เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่มีขอบเขตพลังสูงกว่าเขาเล็กน้อยก็ยังไม่ถูกโจมตีจนทลายไปง่ายๆ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับปราณกระบี่สังหารนี้กลับไม่มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย พริบตาเดียวก็ทลายเป็นผุยผง

“กำแพงพสุธา!”

“เคล็ดวิชาข่ายวารี!”

“พลังพิเศษคุ้มกาย!”

ตามมาด้วยการตะโกนสามครั้งติด เย่เทียนเฉินใช้เคล็ดวิชาป้องกันทั้งหมดที่ตนมีออกมาอย่างสุดความสามารถ เมื่ออยู่ต่อหน้าปราณกระบี่สังหารที่ก่อกำเนิดจากกระบี่นับหมื่นเล่ม เย่เทียนเฉินก็ไม่โง่เข้าไปปะทะตรงๆ ทำเช่นนั้นเป็นการรนหาที่ตายเปล่าๆ เขาหวังเพียงว่าเคล็ดวิชาป้องกันของตนจะขวางปราณกระบี่สังหารนี้ได้ชั่วครู่ เช่นนั้นตนก็จะมีโอกาสหนี

เพียงแต่เคล็ดวิชาป้องกันที่แข็งแกร่งเหล่านี้ของเย่เทียนเฉิน เมื่ออยู่ต่อหน้ากระบี่สังหารที่เกิดจากการรวมตัวของปราณกระบี่นับหมื่นเล่มพลันกลายเป็นไร้เรี่ยวแรง ไม่มีพลังขวางกั้นแม้แต่น้อย กลายเป็นผุยผงทั้งหมด เย่เทียนเฉินตื่นตะลึงยิ่งนัก แต่ก็ไม่ได้ขัดเคืองใจ ถ้าสามารถขัดขวางปราณสังหารจากกระบี่นับหมื่นเล่มได้ง่ายๆ เช่นนั้น ยอดฝีมือหกคนก่อนหน้านี้รวมไปถึงผู้แข็งแกร่งชั้นยอดที่อยู่ในระดับนักรบจักรพรรดิขั้นปลายคงไม่ตายง่ายขนาดนั้น กระบี่เซวียนหยวนยังไม่ถึงคราวที่จะยอมจำนนแก่เขา นี่เป็นกระบี่ที่สามารถสร้างโลกได้ และสร้างกฎเกณฑ์ของตนเองขึ้นมาได้

“ปรมาจารย์กระบี่ รีบหนีไป…แม่งเอ้ย…ตาแก่นั่นจะหนีเร็วไปหรือเปล่า!”

ในตอนที่เย่เทียนเฉินลงมือไม่หยุด พยายามสกัดกั้นปราณหมื่นกระบี่สังหารอย่างสุดความสามารถ ยังคิดเป็นห่วงว่าปรมาจารย์กระบี่จะมีอันตราย จะอย่างไรปรมาจารย์กระบี่ก็เป็นเพียงรอยประทับจิตวิญญาณ ไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นความตาย แต่ปราณหมื่นกระบี่สังหารนี้ตัดทำลายทุกสิ่ง ต่อให้เป็นรอยประทับจิตวิญญาณก็หนีอันตรายที่จะถูกทำลายล้างไม่ได้

ไหนเลยจะรู้ว่า ในตอนที่เย่เทียนเฉินหมุนตัวไป คำพูดยังไม่ทันตะโกนจบ บริเวณที่เดิมทีตนนั่งขัดสมาธิครุ่นคิดห้าวันห้าคืนนั้น ไหนเลยจะมีเงาร่างของปรมาจารย์กระบี่อยู่อีก ชายชราคนนี้เห็นท่าทางไม่ดีจึงรีบวิ่งหนีคนแรก ทำให้เย่เทียนเฉินโมโหจนอดไม่ได้ที่จะใช้ภาษาของโลกด่าออกมา ตาแก่นี่ทำให้คนอื่นอยากอัดให้ร่วงสักครั้งจริงๆ เวลาสำคัญยังทิ้งเย่เทียนเฉินไปได้ ทำให้เย่เทียนเฉินโกรธจนสมองบวมไปหมด

อย่างไรก็ตาม เย่เทียนเฉินไม่มีโอกาสด่าปรมาจารย์กระบี่ที่พึ่งพาไม่ได้คนนั้นอีก เนื่องจากปราณหมื่นกระบี่สังหารบีบเข้ามาใกล้แล้ว ห่างกันเพียงไม่ถึงสิบเมตร เสื้อผ้าของเย่เทียนเฉินขาดกระจุย ถูกปราณกระบี่ฟันจนขาด เพียงแค่นี้ก็แทบจะตกอยู่ในจุดจบที่ต้องสลายหายไปดุจหมอกควันแล้ว น่ากลัวจริงๆ มิน่าล่ะยอดฝีมือหกคนก่อนหน้านี้ที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่เก่งกว่าเย่เทียนเฉินถึงได้ตายกันหมด!

ปราณหมื่นกระบี่สังหารรวมไอสังหารเข้าด้วยกัน เย่เทียนเฉินสูดหายใจเย็นยะเยือก พริบตาเดียวก็ใช้เคล็ดวิชาป้องกันทั้งหมดที่ตนมีออกไป แต่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นปราณหมื่นกระบี่สังหารได้แม้เพียงชั่วครู่ ทำได้เพียงหมุนตัววิ่งหนี พริบตาเดียวความเร็วก็เร่งระดับจนถึงขีดสุด พุ่งไปยังขอบของค่ายกลหมื่นกระบี่ในพริบตา เพียงแต่ปราณหมื่นกระบี่สังหารยังไม่หยุดแม้แต่น้อย ไม่ทันไรก็มาถึง เย่เทียนเฉินหันไปมอง กัดฟันแน่น ไถลตัวครั้งหนึ่งก็ไปถึงขอบค่ายกลหมื่นกระบี่แล้ว เขาไม่ได้หนีออกไปทันที แต่จ้องมองกระบี่เล่มที่อยู่เบื้องหน้า กระบี่นี้ยู่ที่ริมขอบสุดของค่ายกลหมื่นกระบี่ ซึ่งอยู่หน้าเย่เทียนเฉินในตอนที่ในตอนที่เย่เทียนเฉินนั่งขัดสมาธิ ในขณะที่เขาไถลลงพื้น มือขวาจับก็กระบี่เล่มนั้นไว้โดยไม่สนใจทุกสิ่ง ตะโกนออกมาครั้งหนึ่ง!

“ไป!”

ตู้ม!

ความรู้สึกเหมือนกับดึงก็มิปาน เสียงดังสะเทือนฟ้าสะท้านดิน เย่เทียนเฉินมองไปยังกระบี่ในมือขวาของตน มุมปากยกยิ้มขึ้น เพียงแต่ไม่นานรอยยิ้มของเขาก็ต้องแข็งชะงัก เนื่องจากปราณสังหารของกระบี่หมื่นเล่มโจมตีมาถึงเบื้องหน้าแล้ว เขาร่างกายเปลือยเปล่า เสื้อผ้าและกางเกงถูกปราณกระบี่ฟันขาดไปนานแล้ว โชคดีที่นี่ไม่มีคนอื่น อย่างมากก็มีแค่ปรมาจารย์กระบี่เท่านั้น

อยากหลบก็หลบไม่ได้ อยากเลี่ยงก็เลี่ยงไม่ได้ เมื่อต้องเจอกับเรื่องเช่นนี้ กระทั่งผู้แข็งแกร่งที่มีพลังในขอบเขตนักรบจักรพรรดิขั้นปลายก็ยังถูกปราณหมื่นกระบี่ฟันจนขาดเป็นชิ้นๆ ในเวลาเพียงชั่วพริบตา เย่เทียนเฉินพยายามเต็มที่แล้วจนมาถึงทางตัน ตอนนี้เขาราวกับอยู่ในเส้นขอบของความเป็นความตาย แน่นอนว่าเขาจะไม่นั่งรอความตายเฉยๆ แน่ การนั่งรอความตายไม่ใช่นิสัยของเย่เทียนเฉิน ในใจของเขาแข็งแกร่งราวก้อนเหล็ก ต้องต่อสู้ให้ถึงที่สุด

ซู่ม!

ซู่ม!

กระบี่ไท่อาและกระบี่อวี๋ฉางปรากฎตัวออกมาพร้อมกัน ฟาดฟันจนเกิดเป็นปราณกระบี่สองสาย เล่มหนึ่งคือกระบี่แห่งเดชานุภาพ อีกเล่มหนึ่งคือกระบี่ที่ใช้สังหารบิดาสังหารจักรพรรดิ ฟาดฟันไปยังปราณหมื่นกระบี่นั้น

พลังอันยิ่งใหญ่ปะทะกันจนระเบิดกลางอากาศ เย่เทียนเฉินขมวดคิ้ว เขาคิดไม่ถึงว่ากระบี่ไท่อาและกระบี่อวี๋ฉางซึ่งเป็นกระบี่เทพที่เป็นหนึ่งในสิบกระบี่บรรพกาล มีพลังทำลายล้างถึงขั้นทลายสวรรค์ถล่มปฐพี ฟาดฟันไปยังปราณหมื่นกระบี่นั้นพร้อมกัน แต่ยังไม่สามารถหยุดมันได้ ทำได้เพียงลดความเร็วของปราณกระบี่ที่โจมตีมาเท่านั้น

ที่แท้การที่เย่เทียนเฉินนั่งขัดสมาธิอยู่เบื้องหน้าค่ายกลหมื่นกระบี่เป็นเวลาห้าวันห้าคืน แล้วยังถามปรมาจารย์กระบี่เรื่องที่ว่ากระบี่บรรพกาลทั้ง 10 เล่มเคยเป็นค่ายกลกระบี่เดียวกันจริงหรือไม่เป็น นั่นเพราะในตอนที่เขานั่งขัดสมาธิอยู่เบื้องหน้าค่ายกลหมื่นกระบี่ กระบี่ไท่อาและกระบี่อวี๋ฉางที่อยู่ในร่างกายต่างพากันสั่นสะท้าน รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบริเวณใจกลางของค่ายกลหมื่นกระบี่ หากจะกล่าวว่ากระบี่เซวียนหยวนที่แท้จริงอยู่บริเวณใจกลางของค่ายกลหมื่นกระบี่จริงๆ บางทีใครหลายคนอาจคิดได้ ในเมื่อกระบี่เซวียนหยวนซ่อนอยู่กลางค่ายกลหมื่นกระบี่ เช่นนั้นเป็นไปได้มากว่าจะอยู่ตรงกลาง จะอย่างไรด้านในก็เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เย่เทียนเฉินถูฏกระบี่ไทอาและกระบี่อวี๋ฉางดึงดูดก็ควรจะเชื่อมากขึ้นถึงจะถูก

เพียงแต่เขามักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง กระบี่เซวียนหยวนสามารถสร้างโลกเป็นของตัวเองได้และมีกฎเกณฑ์ของตัวมันเอง ด้านในของมันยังมีช่องว่างอันแปลกประหลาดเช่นนี้อยู่ด้วย เกรงว่ากระบี่เซวียนหยวนคงมีจิตวิญญาณนานแล้ว คงจะตื่นรู้ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ถ้าหากมันหาได้ง่ายๆ ยอดฝีมือที่แท้จริงมาแย่งไป ไม่ใช่ว่าจะกำราบมันได้ในเวลาเพียงชั่วพริบตาหรือ?

สุดท้ายเย่เทียนเฉินพบว่า ในตอนที่อยู่บริเวณริมสุดของค่ายกลหมื่นกระบี่ เบื้องหน้าของตนมีกระบี่ที่มีลักษณะพิเศษอยู่เล่มหนึ่ง ที่พิเศษนั้นไม่ใช่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของมันมีอะไรแปลกไปกว่ากระบี่เล่มอื่น แต่จากตำแหน่งของกระบี่เล่มนั้น สามารถมองสถานการณ์ในค่ายกลหมื่นกระบี่ได้ทั้งหมด ดังนั้นเย่เทียนเฉินจึงมั่นใจว่ากระบี่เล่มที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือกระบี่เซวียนหยวน เพียงแต่เขาไม่ได้ลงมือทันที กลับทะยานไปยังใจกลางของค่ายกลหมื่นกระบี่ก่อน แล้วใช้หมัดต่อยลงไป ทำให้ค่ายกลหมื่นกระบี่ทั้งหมดสั่นสะท้านและเกิดการโจมตีของปราณหมื่นกระบี่ ทำให้ตนตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต ทั้งนี้ก็เพื่อหลอกกระบี่เซวียนหยวนที่แท้จริง ทำให้มันลดการป้องกันลงแล้วค่อยดึงออกมา หากเดินไปดึงมันตรงๆ อย่างแรกกระบี่เซวียนหยวนจะหนีแน่นอน อย่างที่สองเป็นไปได้มากว่าจะถูกพลังแห่งเส้นทางปราชญ์ฟาดฟัน นี่ยังน่ากลัวยิ่งกว่าปราณกระบี่สังหารของกระบี่นับหมื่นเล่มเป็นสิบเท่า

นี่คือการเดิมพัน เย่เทียนเฉินหากระบี่เซวียนหยวนที่แท้จริงออกมาได้แล้วโดยใช้วิธีเอาความเป็นความตายเข้าเสี่ยง ทำให้ค่ายกลหมื่นกระบี่สั่นสะท้าน และหลอกกระบี่เซวียนหยวน ในช่วงเวลาฉับพลันก็ดึงกระบี่เซวียนหยวนออกมา เพียงแต่ตอนนี้ปราณหมื่นกระบี่ยังไม่หยุด กระบี่ไท่อาและกระบี่อวี๋ฉางฟาดฟันออกไปก็ยังทำได้เพียงหยุดชะงักชั่วคราวเท่านั้น ขณะนั้นเอง กระบี่นับหมื่นเล่มที่อยู่ในค่ายกลกระบี่สั่นไม่หยุด ลอยขึ้นสู่อากาศ เล็งโจมตีมาที่เย่เทียนเฉินทั้งหมด

จินตนาการได้เลย เย่เทียนเฉินที่ถือกระบี่เซวียนหยวนอยู่ในมือ ไม่เพียงต้องเผชิญหน้ากับพลังสังหารของปราณหมื่นกระบี่ แต่มีกระบี่หมื่นเล่มเล็งมาที่ตนอีกด้วย หากเป็นคนธรรมดาคงถูกทำให้ตกใจตายไปแล้ว เย่เทียนเฉินเองก็ตกใจจนสูดหายใจเย็นยะเยือก กระบี่เซวียนหยวนไม่ยอมจำนนจริงๆ !

ซู่มๆๆ …กระบี่หมื่นเล่มโจมตีฝ่าอากาศเข้ามาโดยมีพลังสังหารของปราณกระบี่หมื่นสายเป็นส่วนคม เดิมที่เย่เทียนเฉินก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว ไม่อาจควบคุมกระบี่ไท่อารและกระบี่อวี๋ฉางได้ ตอนนี้มือขวายังจับกระบี่เซวียนหยวนเอาไว้ ทำได้เพียงลืมตามองเท่านั้น เพียงแต่เขาไม่ยินยอม เขามองอย่างดุดัน จากนั้นจึงตวัดกระบี่เซวียนหยวนในมือออกไป!

ตู้ม!

ทันใดนั้นเย่เทียนเฉินสัมผัสได้ถึงแรงดึงอันมหาศาลจากด้านหลัง เขากระเด็นไปด้านหลังในพริบตา ขณะเดียวกันปรมาจารย์กระบี่ก็พุ่งไปยังปราณหมื่นกระบี่และกล่าวกับเย่เทียนเฉินว่า “รีบไป…อย่าลืมตามหาภรรยาและลูกสาวข้า บอกพวกนางว่าข้าเสียใจ ข้ารักพวกนาง!”

……………….