บทที่ 303
เสียงอึกทึกที่ชัดเจน เป็นเสียงสะท้อนออกมาจากทรวงอก หลังจากพลังปราณเข้าไปในอวัยวะภายใน

ตอนนี้หานเฟิงน่าจะบาดเจ็บภายในแล้ว ถ้าไม่รีบรักษา ไม่แน่อาจเกิดอาการบาดเจ็บ ที่รักษาหายยาก

อาจารย์เซินถูสะบัดมือให้ครูที่ดูอยู่ข้างเวที รีบให้พวกเขาขึ้นไปช่วยหานเฟิง

แต่ขณะนั้น หานเฟิงกลับเงยหน้าขึ้น แล้วหัวเราะออกมา

รอยยิ้มของเขาดูชั่วร้าย ร่างกายบิดอย่างประหลาด กระบี่ฟ้าครามในมือหายไป

จากนั้นตัวของจ้าวคั่วระเบิดจนเลือดสาด หงายหลังล้มลงไปพร้อมใบหน้าตกตะลึง เขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองแพ้ได้ยังไง

ภาพน่าตกใจเช่นนี้ ทำให้อาจารย์จำนวนไม่น้อยเบิกตาโต

เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น

อาจารย์อี้ชิงมีสีหน้ารู้อยู่แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ เขายิ้มแล้วพูดว่า “หานเฟิงเริ่มฉลาดขึ้นแล้ว”

หานเฟิงเก็บกระบี่ฟ้าคราม ปัดฝุ่นบนหน้าอก บิดตัวไปมาเล็กน้อย

เสียงที่ทำให้คนเสียวฟันดังขึ้น นั่นเป็นเสียงที่กระดูกกลับเข้าตำแหน่งเดิม

กระบี่ฟ้าครามปรากฏอยู่ในมือเขาอีกครั้ง ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

หานเฟิงเก็บกระบี่ฟ้าคราม เดินลงมาเหมือนคนไม่เป็นอะไร ก่อนจะไป ยังพูดกับจ้าวคั่วว่า

“ฉันบอกแล้ว เมื่อมีครั้งแรก ก็มีครั้งที่สอง ครั้งนี้นายควรยอมรับได้แล้ว!”

พูดจบ หานเฟิงเดินลงไปอย่างสบายใจ

นักเรียนคณะกำแหงมองหน้ากันไปมา ยังตั้งสติไม่ได้

“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น”

“ใครเห็นชัดๆ บ้าง เจ้าห้า นายเห็นชัดหรือเปล่า”

“ชัดกะผีน่ะสิ ฉันตาลายไปหมด แป๊บเดียวก็จบแล้ว”

“ศิษย์พี่จ้าวคั่วแพ้ได้ยังไง”

“ใครจะไปรู้ล่ะ!”

……

อาจารย์แต่ละคณะก็มีสีหน้าประหลาดเช่นกัน บางคนดูออกบ้าง บางคนกำลังครุ่นคิด

อาจารย์ซิงยวนมีแววตาประหลาด หันไปพูดกับเอี๋ยนชิงและคนอื่น “ต่อไปถ้าพวกนายเจอคนคนนี้ ต้องเพิ่มความระวังขึ้นอีก ถ้าต้องสู้กัน ต้องโจมตีเขาให้สลบ หรือซัดให้ตกจากเวที อย่าให้เขามีโอกาสได้ลุกขึ้นมา”

เอี๋ยนชิงและคนอื่นไม่เข้าใจ แต่ก็พยักหน้าตอบ

หานเฟิงน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ

ในแววตาของเอี๋ยนชิง มีแสงแผ่ซ่านเหมือนยาพิษ

อาจารย์เสวียนเจินคณะกระบี่ หันไปถามอาจารย์อู๋โฉวที่นั่งอยู่ไม่ไกล “อู๋โฉว เธอรู้นานแล้วใช่ไหม”

อู๋โฉวยิ้มแล้วพูดว่า “รู้นิดหน่อยเท่านั้น”

เสวียนเจินหัวเราะ “คณะหนึ่งเดียวมีความสัมพันธ์ไม่เลวกับคณะสงบใจของเธอ เธอรู้นิดหน่อยก็เป็นเรื่องสมควร แต่เธอไม่ควรปิดบังพวกเรา หานเฟิงตระกูลหาน ฉันควรจะเดาได้ตั้งแต่แรก ดูเหมือนคณะกระบี่ของเรา ก็ต้องรับการท้าประลองของคณะหนึ่งเดียวแล้วเหมือนกัน”

อู๋โฉวยิ้มบางๆ ไม่พูดอะไรอีก

อาจารย์เซินถูอ้าปากค้าง เพิ่งพูดว่าตัดสินแพ้ชนะแล้ว สุดท้ายกลายเป็นแบบนี้ เขารู้สึกขายหน้าจริงๆ

อาจารย์เซินถูตบท้ายทอยนักเรียนคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “ยังไม่รีบพาจ้าวคั่วลงมาอีก”

เฉียวเซวียนโน้มหน้าไปกระซิบข้างหูเซินถู “อาจารย์ ที่หานเฟิงใช้คือ……”

อาจารย์เซินถูยั้งเฉียวเซวียนไม่ให้พูดมาก “นายดูออกก็ดีแล้ว ไม่ต้องพูดออกมา เฮ้อ คนมีความสามารถแบบนี้ ควรเป็นคนของคณะกำแหงของเราสิ!”

เฉียวเซวียนได้รับคำตอบยืนยัน แววตาเป็นประกายลุกโชนทันที

“คณะหนึ่งเดียว น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ แล้ว”