บทที่ 302
เสียงระเบิดบนเวทีประลองค่อยๆ หายไป

หานเฟิงเพ่งมองเข้าไปในเศษหิน

จ้าวคั่วยังยืนตระหง่าน ไม่ได้ล้มลงด้วยกระบวนท่าเดียว

จ้าวคั่วหอบหายใจ บนตัวเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดไหลออกมาเต็มตัว

แต่เขายังยืนตระหง่าน พลังปราณบนตัวเทียบกับเมื่อครู่ ดูแข็งแกร่งไม่ด้อยลงเลย

เลือดสดไหลออกมา แต่สีหน้าจ้าวคั่วยังเหมือนเดิม

จู่ๆ ทั้งตัวถูกปกคลุมด้วยสีดำทมิฬ เสื้อปราณบนตัวเขากลายเป็นของเหลวหนืด ไหลไปทั่วทั้งตัว

“รางปราณเคลือบทอง!”

จู่ๆ ฉู่สิงหัวเราะออกมา

ลู่ฝานถามว่า “เป็นวิชาที่เก่งกาจเหรอ”

ฉู่เทียนที่อยู่ข้างๆ อธิบายว่า “เป็นหนึ่งในวิชาวิปริตที่เปลี่ยนแปลงร่างกายของคณะกำแหง ถ้าไม่สามารถรับความเจ็บปวดแบบอมนุษย์ ไม่มีทางฝึกได้ ฝึกถึงระยะรู้ความ พลังปราณปกคลุมร่างกายเหมือนเคลือบด้วยทอง ทำลายยาก หานเฟิงลำบากแล้ว”

ลู่ฝานตอบรับ เขาเข้าใจวิธีการฝึกวิชาฝึกร่างเป็นอย่างดี

ตอนนั้นเขาฝึกหมัดถล่มเขา สูญเสียไปเยอะมาก อดทนแบกรับความเจ็บปวดตั้งเท่าไร ยิ่งต้องการวิชาเปลี่ยนแปลงร่างกาย ก็ยิ่งต้องมีจิตใจที่ไม่ใช่มนุษย์

คนที่ฝึกวิชาแบบนี้สำเร็จ อย่างน้อยต้องมีจิตใจแข็งแกร่ง ร่ากายเหมือนเหล็กกล้า

จ้าวคั่วมองลู่ฝานอย่างเย็นชา “ถ้านายคิดว่ากระบวนท่าแบบนี้ จะเอาชนะฉันได้ งั้นนายใสซื่อเกินไปแล้ว”

พูดจบ จ้าวคั่วก้าวเข้ามาหาหานเฟิง

แต่ละก้าวเหมือนมาพร้อมกับพลังมหาศาล ทำให้บนพื้นเป็นรอยเท้าลึก

ตึง ตึง ตึง!

เสียงดังมาจากใต้เท้าของจ้าวคั่วอย่างต่อเนื่อง

ทั้งตัวเหมือนกลายเป็นทอง เพียงพริบตาเดียว เหมือนตัวของจ้าวคั่วใหญ่ขึ้น

หานเฟิงตวัดกระบี่ฟ้าครามอย่างต่อเนื่อง แสงกระบี่ทำให้เวทีหินดำนิล กลายเป็นรอยแยกลึกลงไป แต่ไม่สามารถทำอะไรจ้าวคั่วได้แม้แต่น้อย

จ้าวคั่วต้านทานแสงกระบี่เดินเข้ามา เหมือนปราณกระบี่ของหานเฟิง เป็นแค่เรื่องตลกสำหรับเขา

เมื่อห่างจากหานเฟิงไม่กี่ก้าว จู่ๆ จ้าวคั่วพุ่งออกไปเหมือนสายฟ้า

ปฏิกิริยาของหานเฟิงก็รวดเร็วมาก เห็นจ้าวคั่วปล่อยพลังออกมากะทันหัน เขารีบหลบไปอีกด้าน

เพราะการตอบสนองของไหวพริบของเขา ทำให้เขาหลบกระบวนท่านี้ได้

ตำแหน่งที่ยืนเมื่อครู่ระเบิดออก หมัดของจ้าวคั่ว กระแทกจนพื้นเป็นหลุมลึก เศษหินกระเด็นไปทั่ว

พลังหมัดอันแข็งแกร่ง ทำให้เกิดพลังกระเพื่อม จนหานเฟิงกระเด็นออกไป

“พลังแข็งแกร่งมาก!”

หานเฟิงเอ่ยชมออกมา

ลู่ฝาน ฉู่สิงและฉู่เทียนที่อยู่ด้านล่าง มีสีหน้าประหลาด

ลู่ฝานหรี่ตาลง ดูถูกนักบู๊ของคณะกำแหงไม่ได้จริงๆ จุดแข็งแกร่งที่สุดของการฝึกร่างกายคือ พวกเขายอมตายไม่ยอมแพ้ จิตใจและวิชาที่ยิ่งสู้ยิ่งแกร่ง

ศิษย์พี่หานเฟิงตกอยู่ในอันตรายแล้ว!

หานเฟิงเงยหน้ามองจ้าวคั่ว ตอนนี้ใบหน้าเขายังมีรอยยิ้ม ราวกับอันตรายเมื่อครู่ ไม่สามารถทำอะไรเขาได้

หมุนกระบี่ฟ้าคราม หานเฟิงแทงไปทางจ้าวคั่วอีกครั้ง

ไม่มีปราณกระบี่งดงาม แค่กระบี่แสนธรรมดา แทงโดนไหล่ของจ้าวคั่ว

เสียงดังฉึบ ปลายกระบี่ทิ้งรอยสีขาวไว้บนตัวจ้าวคั่ว ส่วนจ้าวคั่วพลิกหมัด กระแทกมาบนหน้าอกหานเฟิง

เกิดเสียงดังอึกทึก คนรอบๆ ได้ยินอย่างชัดเจน

ตัวหานเฟิงสั่นโงนเงนไปมาอย่างแรง เซไปด้านหลังเล็กน้อย

อาจารย์เซินถูเห็นภาพนี้ หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ตัดสินแพ้ชนะได้แล้ว!”

เฉียวเซวียนและคนอื่นก็หัวเราะแล้วพยักหน้า โดนหมัดหนักของจ้าวคั่วโจมตีเข้าเต็มๆ ไอ้เด็กชื่อหานเฟิงแพ้แล้ว