บทที่ 417
“หากข้าจำไม่ผิด การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่หุบเขาพิศวิญญาณเมื่อคราวก่อน พวกเจ้าได้ทำให้นายน้อยของพวกข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้นำกองธงกล้วยไม้คงยังไม่ลืมใช่หรือไม่”

ผู้นำกองธงกล้วยไม้ไม่พูดอะไร

การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ผ่านมา ดูเหมือนเป็นเผ่าปีศาจของพวกเขาเองที่ผิด

คนของเผ่าปีศาจต้องการทำเพื่อเอาใจผู้หญิง จึงได้ยกเลิกการปิดล้อมเพื่อฆ่าเยี่ยจิ่งหาน แต่กลับกลายเป็นเข้าไปช่วยเหลือเยี่ยจิ่งหานและรวมกำลังกันทำร้ายเหวินเส่าอี๋นายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้า

ผู้อาวุโสอวิ๋นโกรธมากยิ่งขึ้น “การมาตามล่าขุมทรัพย์ครั้งนี้ที่หุบเขาน้ำเต้าโลหิตนี้ กองกำลังหลักได้สาบานอย่างชัดเจนว่าจะเข้าไปข้างในปากถ้ำก่อนจากนั้นค่อยทำการล่าขุมทรัพย์ หากยังไม่ได้เข้าไปยังปากถ้ำ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทำการต่อสู้และกำจัดอีกฝ่ายขึ้นก่อนได้ แต่พวกเจ้าเผ่าปีศาจกลับไร้ยางอาย ยังไม่ทันจะเข้าไปยังปากถ้ำก็คิดจะแย่งทุกอย่างเอาไว้คนเดียว”

และที่สำคัญคือ ทั้งหมดล้วนเป็นอุบายสมคบคิดของพวกเขา พวกเขาเพียงแค่ต้องการให้อีกฝ่ายเป็นเกราะกำบังก็เท่านั้นเอง

ผู้นำกองธงกล้วยไม้และผู้นำกองธงโบตั๋นได้ยินเข้าก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย และไม่รู้ว่าผู้อาวุโสอวิ๋นหมายความว่าอย่างไร

ผู้อาวุโสอวิ๋นไม่ต้องการพูดอะไรมากกับพวกเขา “ปล่อยคนที่อยู่ในถังเหล็กเสีย พวกเขาต้องการแค่เขา”

ผู้นำกองธงกล้วยไม้ตระหนักขึ้นได้ในทันที “ผู้อาวุโสอวิ๋นอายุปูนนี้แล้วยังมีรสนิยมความชอบเช่นนี้อีกหรือ เอ่อ……หากเป็นคนอื่น ข้ายังพอจะมอบให้ผู้อาวุโสอวิ๋นได้ แต่คนในถังเหล็กนี้ ข้าขอโทษด้วยที่ไม่อาจตอบตกลงได้ เพราะข้าได้มอบเขาให้กับผู้นำกองธงโบตั๋นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

“อะไรกัน เจ้าฟังเอาไว้นะ ข้าจะบอกอะไรเจ้า หากวันนี้เจ้าไม่ส่งตัวคนที่อยู่ในถังเหล็กมาให้ข้า เผ่าเพลิงฟ้าของข้าจะไม่มีทางยอมแพ้ให้กับเผ่าปีศาจของพวกเจ้าอย่างแน่นอน”

ผู้นำกองธงกล้วยไม้และผู้นำกองธงโบตั๋นคิดว่าพฤติกรรมการแสดงออกของตัวเองนั้นดีมากแล้ว แต่คนของเผ่าเพลิงฟ้ากลับไม่ลดละที่จะพยายามบีบบังคับ และทำให้รู้สึกเป็นที่น่ารำคาญอย่างมาก

“พวกเจ้าคิดว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าจะเกรงกลัวเผ่าปีศาจของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

ชนวนสำหรับการต่อสู้ได้จุดติดขึ้นแล้ว

กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเยือกเย็น

คนเหล่านี้ไม่ใช่คนดีอะไร หากทั้งหมดตายลงที่นี่ก็คงจะดีไม่น้อย

“ไปกันเถอะ เราปิดล้อมเข้าไปจากทางหลัง”

“ขอรับ”

ฝูกวงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมสติปัญญาอันเฉียบแหลมของนายท่าน

และมีเพียงนางคนเดียวเท่านั้นที่คิดได้ว่าให้เขาปลอมตัวเป็นคนของเผ่าปีศาจ และจงใจทำให้ความลับรั่วไหลไปยังเผ่าเพลิงฟ้า โดยบอกว่าตอนนี้คนของเผ่าปีศาจกำลังทารุณกรรมนักโทษเยี่ยเฟิงในถังเหล็กอย่างโหดร้าย เพราะเยี่ยเฟิงเป็นเพื่อนของกู้ชูหน่วน เขารู้ว่าระฆังวิญญาณสะบั้นอยู่ที่ไหนและได้รวบรวมแผนที่บนระฆังวิญญาณสะบั้นเอาไว้ อีกทั้งยังมีวิธีเข้าไปยังปากถ้ำอีกด้วย

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ยังให้เขาจงใจปล่อยข่าวลือออกไป บอกว่าไข่มุกมังกรอยู่ที่หุบเขาโลหิตหูหลู (หุบเขาน้ำเต้าโลหิต) เป็นคนของเผ่าปีศาจจงใจปล่อยข่าวลือนี้ออกไป เพราะปากถ้ำหูหลูมีความอันตรายมาก พวกเขาจึงไม่กล้าลงมือเสี่ยงภัยด้วยตัวเขาเอง จากนั้นจึงนำทัพใหญ่เข้ามาเพื่อเปิดทางให้กับพวกเขาและเป็นแพะรับบาป แถมยังด่าว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าอย่างเสียๆ หายๆ อีกด้วย

ในที่สุด คนของเผ่าเพลิงฟ้าก็ตกหลุมพรางและโมโหจนกัดฟันกรอด

กู้ชูหน่วนหยิบก้อนหินก้อนหนึ่งขึ้นมาและโยนไปที่ศีรษะของผู้อาวุโสอวิ๋นของเผ่าเพลิงฟ้า จากนั้นจึงตะโกนขึ้นมาดังก้อง “ตาเฒ่าของเผ่าเพลิงฟ้า เจ้ากล้าดูถูกผู้นำกองธงกล้วยไม้ของพวกข้า ระวังข้าจะเอาชีวิตของพวกเจ้า”

ก้อนหินนี้ตกไปโดนบนศีรษะของเขาและบวมเป่งขึ้นมาทันที รวมไปถึงคำพูดของนาง ผู้อาวุโสอวิ๋นกวาดสายตาไปที่ผู้นำกองธงกล้วยไม้และลงมือฆ่าทันที

ผู้นำกองธงกล้วยไม้คิ้วขมวด

เขายังกำลังคิดตรวจสอบว่าลูกน้องคนไหนเป็นคนลงมือ แต่ผู้อาวุโสอวิ๋นก็ได้พุ่งเข้ามาเสียแล้ว

“เจ้าคนชั่ว ข้าอดทนกับเจ้ามานานแล้ว หากเจ้ายังไม่หยุด ระวังตัวของเจ้าเอาไว้”

“เจ้าต่างหาก ข้าก็อดทนกับเจ้ามานานแล้ว เจ้ามันคือปีศาจที่น่ารังเกียจ หน้าตาน่าเกลียดน่าชัง แถมยังฝันกลางวัน คิดว่าได้นอนกับผู้คอยปรนนิบัติที่อายุน้อยและหน้าตาดีแล้วจะทำให้ตัวเองอยู่ยงคงกระพันอย่างนั้นหรือ บัดซบ”

สีหน้าของผู้นำกองธงกล้วยไม้แย่ลงทุกขณะ กองไฟในใจของเขาถูกกระตุ้นขึ้นโดยสมบูรณ์

“ปัง……”

ฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน และสถานการณ์ก็เปลี่ยนไป