สวีหว่านเอ๋อร์ที่ถูกฮ่อหยุนเฉิงผลักลงพื้นก็อ่อนแรง อยากจะลุกขึ้นกลับทำยังไงก็ทำไม่ได้
ในขณะนั้นเอง ประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง ก่อนจะมีชายสวมเสื้อลายดอกย้อมผมทองเดินเข้ามา
“คุณผู้หญิง คุณขอให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนสินะครับ?” ชายคนนั้นคือชายขายบริการในไนท์คลับ และหลินเหยียนเฟิงจัดมาให้เป็นพิเศษ
สวีหว่านเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างลำบาก “นายเป็นใคร? รีบออกไปซะ…”
“คุณผู้หญิง คุณอยากให้ผมไปงั้นเหรอ? ผมออกไปแล้วใครจะอยู่สนุกกับคุณล่ะครับ?” ชายเสื้อเชิ้ตลายดอกไม้จ้องไปที่สวีหว่านเอ๋อร์
ผู้หญิงคนนี้ผิวบอบบาง หุ่นเพรียวดูมีเกียรติและมีเสน่ห์ นี่มันของชั้นเยี่ยมเลยนี่!
เขาประคองสวีหว่านเอ๋อร์ขึ้นโซฟาอย่างแทบรอไม่ไหว ทั้งยังกวาดสายตาขึ้นลงเธอขึ้นลงอย่างหื่นกระหาย
“คุณผู้หญิง คืนแรกมีค่าไม่ควรปล่อยให้สูญเปล่า ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมสัญญาว่าจะทำให้คุณพอใจ!” ชายในเสื้อเชิ้ตดอกไม้พูด พร้อมกับเอื้อมมือไปปลดเสื้อผ้าของสวีหว่านเอ๋อร์ก่อนจะใช้สองมือลูบคลำร่างกายเธอ
“นาย รีบปล่อยฉันนะ!” สติที่เหลืออยู่ทำให้สวีหว่านเอ๋อร์ต้องการผลักชายตรงหน้าออกไป
เธอคือคุณหนูบ้านตระกูลสวีผู้สง่างามนะ เธอจะเสียตัวให้ผู้ชายคนนี้ได้ยังไง!
แต่ว่าตอนนี้เธอรู้สึกทรมานจริงๆ และอยากจะให้ผู้ชายสัมผัสตัวเธอ
จุดที่ถูกชายคนนี้สัมผัสราวกับถูกเผาไหม้
สวีหว่านเอ๋อร์ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ก่อนจะเอามือคล้องคอของชายคนนั้น…
ไป่หลานคำนวณเวลาและคงจะได้เวลาแล้ว ดังนั้นจึงแอบบอกนักข่าวให้ไปที่ห้องรับรองบนชั้นสอง ทั้งยังเรียกสวีมู่หยาง ท่านผู้เฒ่าสวีและคนอื่นไปด้วย
ยิ่งคนเห็นว่าสวีหว่านเอ๋อร์และอ่อหยุนเฉิงมีความสัมพันธ์กันมากเท่าไร เรื่องก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น และฮ่อหยุนเฉิงก็จะไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้
เมื่อนักข่าวได้รับข่าว ต่างก็พากันตื่นเต้น
คุณฮ่อและคุณหนูบ้านตระกูลสวีทำเรื่องอย่างว่าที่ห้องรับรอง ถือเป็นข่าวใหญ่มาก!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฮ่อหยุนเฉิงที่ช่วงนี้เพื่อมีเรื่องอื้อฉาวหลายเรื่อง ซูฉิงและถังรั่วอิงก็กำลังมีเรื่องกัน แต่ตอนนี้กลับมาออกรสกับสวีหว่านเอ๋อร์ ช่างเป็นที่น่าจับตามองเสียจริง!
นักข่าวรีบไปที่ประตูห้องรับรองบนชั้นสองเพราะกลัวว่าจะพลาดช็อตเด็ดไป
“ที่นี่แหละ!” นักข่าวคนหนึ่งมองเลขห้องก่อนจะผลักประตูเข้าไป
ในห้องรับรอง มีฉากอย่างว่าจริงด้วย
สวีหว่านเอ๋อร์กำลังนอนอยู่บนโซฟาเปลือยไหล่และกำลังจูบชายคนหนึ่ง
เพียงแต่ว่า——
ชายที่คร่อมร่างของสวีหว่านเอ๋อร์นั้นหัวทองและไม่ใช่ฮ่อหยุนเฉิง
เมื่อได้ยินเสียงชายคนนั้นก็ตกใจ และเมื่อหันไปมองก็เห็นนักข่าวมากมายที่แบกกล้องกรูเข้ามา
“พวกคุณทำอะไรน่ะ?” ชายคนนั้นตกใจจึงรีบสวมเสื้อผ้า
เหล่านักข่าวมองหน้ากัน ต่างจากข่าวนิรนามที่ส่งถึงพวกเขาได้ไงกัน?
มีคนแจ้งข่าวโดยไม่เปิดเผยตัวว่าฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงอยู่ในห้องรับรอง ทำไมกลับไม่มีแม้แต่ร่องรอยของฮ่อหยุนเฉิงล่ะ?
ชายหัวทองนี่มาจากไหน?
แต่ว่าแม้ว่าฮ่อหยุนเฉิงอยู่ไม่อยู่ แต่สวีหว่านเอ๋อร์ก็อยู่จริง
ในงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 50 ปีของตระกูลสวี คุณหนูของบ้านตระกูลสวีอยู่ในห้องรับรองกับชายแปลกหน้า แค่นี้ก็ดังแล้ว!
นักข่าวค่อยๆ เข้ามาล้อม มองสวีหว่านเอ๋อร์ที่มีสภาพน่าอับอายก่อนจะระดมสาดแฟลชใส่เธอ
“คุณสวี ไม่ทราบว่าชายคนนี้คือแฟนของคุณใช่ไหมครับ?”
“คุณสวี ไม่ทราบว่าพวกคุณคบกันมานานแค่ไหนแล้วครับ? คิดจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของคุณเมื่อไรครับ?”
สวีหว่านเอ๋อร์ที่ได้สติก็รีบดึงเสื้อมาปิดตัวเอง “พวกคุณออกไปให้พ้น ฉันไม่รู้จักเขา!”
“คุณสวี คุณไม่รู้จักเขา ทำไมพวกคุณถึงมาหลบซ่อนอยู่ที่นี่ในวันฉลองครบรอบ 50 ปีของบ้านตระกูลสวีด้วยล่ะครับ?” นักข่าวจี้ถาม
เมื่อได้ยินอย่างนั้น สวีมู่หยางและท่านผู้เฒ่าสวีที่เห็นฉากนั้นก็แทบลมจับ
ท่านผู้เฒ่าสวีก้าวไปข้างหน้าและตบหน้าชายหัวทอง “ออกไปจากที่นี่ซะ!”
เขาและสวีมู่หยางได้รับข่าวไม่ทราบแหล่งที่มาว่าสวีหว่านเอ๋อร์ไม่สบายและพักอยู่ที่ห้องรับรองชั้นสอง และเรียกให้พวกเขาไปดู
ใครจะไปรู้ว่าทันทีที่ขึ้นมาจะได้เห็นฉากที่ไม่น่าดูเช่นนี้
สวีมู่หยางขมวดคิ้ว ก่อนจะถอดสูทออกมาคลุมให้สวีหว่านเอ๋อร์ “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“พี่ ฉันถูกหลอก!” สวีหว่านเอ๋อร์ร้องไห้ แต่กลับไม่พูดว่าเรื่องเป็นมายังไง
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เดิมทีเธอเป็นคนจัดการทั้งหมด
แต่ที่สวีหว่านเอ๋อร์ไม่ได้คาดคิดก็คือฮ่อหยุนเฉิงผู้ซึ่งถูกวางยาจะยังมีสติผลักไสเธอ แถมยังเรียหลินเหยียนเฟิงมารับเขาไปอีกต่างหาก
ที่แย่ไปกว่านั้นคือยังหาผู้ชายมาให้เธออีกด้วย!
ตอนนี้ถูกนักข่าวรุมล้อม ก็เป็นการหาเหาใส่หัวน่ะสิ!
สิ่งเดียวที่สวีหว่านเอ๋อร์พอใจคือการที่นักข่าวพวกนี้มาทันเวลา เธอกับชายคนนั้นเลยยังไม่ทันได้ทำอะไร
แต่ว่าถึงอย่างนั้น รูปฉาวของเธอก็ถูกนักข่าวถ่ายไว้แล้ว และเสียหน้าไปแล้วด้วย!
“อัปยศ! อัปยศที่สุด!!” ท่านผู้เฒ่าสวีกระทืบเท้าและตะโกนใส่นักข่าวว่า “ออกไป! ไสหัวออกไปซะ!”
ท่านผู้เฒ่าสวียังคงยิ่งใหญ่ นักข่าวจึงไม่กล้ายั่วโมโหจึงพากันเดินตัวสั่นจากไป
“เรื่องวันนี้ ห้ามมีใครเอาไปเผยแพร่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถือเป็นการเห็นดีกับฉัน สวีมู่หยาง!” สวีมู่หยางกล่าวอย่างเฉียบขาด
ถ้าเรื่องของวันนี้ออกสื่อไป ชื่อเสียงของสวีหว่านเอ๋อร์คงถูกทำลายจนป่นปี้
หลังจากที่เหล่านักข่าวออกไป สวีมู่หยางก็ก้มมองสวีหว่านเอ๋อร์ก่อนจะเอ่ยถาม “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
“ฉัน…ฉันถูกวางยา” สวีหว่านเอ๋อร์กัดฟันพูด
“ตรวจสอบสิ! ต้องหาตัวให้เจอ!” ดวงตาของท่านผู้เฒ่าสวีลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ
ใครมันช่างใจกล้าวางยาหลานสาวล้ำค่าของเขา?
ไม่อยากใช้ชีวิตแล้วสินะ?
“คุณปู่ ช่างเถอะค่ะ ยังไงตอนนี้หนูก็ไม่เป็นอะไรแล้ว” สวีหว่านเอ๋อร์รีบคว้ามือของท่านผู้เฒ่าสวีพลางพูดเสียงเบา
สวีหว่านเอ๋อร์กลัวจะถูกเจอตัวเพราะทุกอย่างเอเป็นคนวางแผนเอง
เพียงอีกนิดเดียว อีกนิดก็สำเร็วแล้ว!
“คุณปู่ครับ ให้ผมจัดการแล้วกันนะครับ” เมื่อเห็นว่าสวีหว่านเอ๋อร์ผิดปกติ ก็ขมวดคิ้ว “ตอนนี้งานเลี้ยงยังคงดำเนินอยู่ คุณปู่ไปทักทายแขกเถอะครับ”
ท่านผู้เฒ่าสวีพยักหน้าและหันหลังออกไป
“หว่านเอ๋อร์ บอกความจริงมา” ดวงตาของสวีมู่หยางเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เธอรู้ว่าฉันจะตรวจหาความจริง”
“พี่ ฉัน…” ภายใต้ดวงตาที่เย็นชาของเขา สวีหว่านเอ๋อร์ก้มหน้าลง “ฉันแค่อยากจะอยู่กับหยุนเฉิง”
คิดไปถึงที่สวีหว่านเอ๋อร์เร่งให้เขาบอกให่ฮ่อหยุนเฉิงมาร่วมงานเลี้ยง สวีมู่หยางก็พอคาดเดาได้
“น่าขยะแขยงจริง!” ใบหน้าของสวีมู่หยางเต็มไปด้วยความโกรธ “หว่านเอ๋อร์ เธอทำไปได้ยังไง!”
“พี่ ฉันรักเขามากจริงๆ! ฉันไม่สามารถทนมองเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นได้” ดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์เป็นสีแดง “พี่ ช่วยฉันด้วย พี่ต้องช่วยฉันนะ!”