ตอนที่ 1324 ป่ากร่อนกระดูก (10)
ในป่ากร่อนกระดูกที่มืดมิด สายลมพัดหวีดหวิว ทั้งมืดและชื้น ดินใต้เท้าก็เฉอะแฉะราวอยู่ในบึง การเดินทางในป่านั้นก็ต้องเดินก้มหลัง พยายามไม่ให้โดนใบไม้และกิ่งของต้นกร่อนกระดูกที่ยื่นลงมาเพื่อป้องกันไม่ให้โดนข่วน
แม้ว่าการถูกต้นไม้ข่วนไม่ได้ทำให้พวกเขาเสียชีวิตก็จริง แต่ความเจ็บปวดที่รุนแรงนั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาอยากจะโดน
ในตอนนั้นพวกผู้เยาว์ที่ภูมิใจในความสูงของตัวเองมาตลอดก็พลันตระหนักได้ว่าความสูงจะทำให้พวกเขาเจ็บปวดได้อย่างไร
ในหมู่พวกเขา มีเพียงจวินอู๋เสียและเสี่ยวเจว๋เท่านั้นที่เตี้ยที่สุด ต้นกร่อนกระดูกส่วนใหญ่ก็บิดงอพอดีกับความสูงของเสี่ยวเจว๋ทำให้เขาเดินได้โดยไม่ต้องก้ม ส่วนจวินอู๋เสียก็ต้องก้มเล็กน้อยเป็นครั้งคราวเมื่อเจอกับกิ่งที่ห้อยต่ำมากๆเท่านั้น
แต่สำหรับผู้เยาว์ตัวสูงๆอย่างพวกของเฉียวฉู่นั้น มันคือความทุกข์ระทมอย่างที่สุด
ส่วนสูงของผู้เยาว์ทั้งห้าไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ในบรรดาผู้เยาว์ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็ถือได้ว่าพวกเขาโดดเด่นทั้งหน้าตาและรูปร่าง แต่ในป่ากร่อนกระดูกนี่ ความสูงที่น่าอิจฉาของพวกเขากลับเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรม
ทันทีที่เหยียบย่างเข้าไปในป่ากร่อนกระดูก หลังของพวกเขาก็ไม่มีโอกาสเหยียดตรงอีกเลย!
ถ้าแค่นั้นมันก็คงไม่แย่เท่าไร แต่ว่า……
พวกเขาถูกบังคับให้มองคนที่สูงกว่าพวกเขาหลายคนเดินไปในป่ากร่อนกระดูกอย่างสบายๆด้วยหลังที่ตั้งตรง!
เหมือนอิงซู่ที่เป็นร่างวิญญาณ……
เย่ฉาและเย่เหม่ยที่กล้าหาญและเก่งกาจ……
แล้วก็ จวินอู๋เหยา……
เอาล่ะ คนสุดท้ายนั่น พวกผู้เยาว์ทั้งหลายต่างเลือกที่จะไม่สนใจเพื่อรักษาความภาคภูมิใจในตัวเองเอาไว้!
อิงซู่เป็นภูติประจำตัว และเป็นภูติประจำตัวที่มีพิษร้ายแรงถึงตาย สำหรับเขา ยางพิษของต้นกร่อนกระดูกก็ไม่แตกต่างจากน้ำพุ พวกเขาเห็นกับตาว่าตอนที่เถาวัลย์ของต้นกร่อนกระดูกโดนหลังมือของอิงซู่นั้น เถาวัลย์นั่นก็เปลี่ยนเป็นสีดำและเหี่ยวเฉาทันที……
นั่นแสดงให้เห็นว่าใครที่มีพิษร้ายกว่ากัน!
เย่ฉาและเย่เหม่ยดูเหมือนจะไม่รู้สึกถึงพิษจากต้นกร่อนกระดูกเลย หรือพวกเขายอมทนเจ็บปวดมากกว่าจะยอมก้มหลังกันนะ……
ส่วนจวินอู๋เหยานั้น……
ฮ่าๆ พวกเขาไม่เห็นอะไรทั้งนั้น นั่นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเทพ!
ท่านแบะแบะและกระต่ายโลหิตถูกอุ้มอยู่ในอ้อมแขนของเย่ฉาและเย่เหม่ย ทั้งสองตัวดูจะสบายที่สุดในกลุ่ม พวกมันซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของชายชุดดำทั้งสองตลอดทาง ทั้งอบอุ่นและสบาย และถึงกับเอาใบบัวหิมะออกมาแทะตอนหิวอีกด้วย
พูดได้ว่า เจ้าตัวเล็กทั้งสองไม่ได้มาลำบากทรมานอะไรเลย แต่มาเดินทางอย่างสุขสบาย!
“แบะ ~” ท่านแบะแบะกระดิกหูอยู่ในอ้อมแขนของเย่ฉา มันมองต้นกร่อนกระดูกที่บิดงอแล้วส่งเสียงบ่น
“ปู้?” กระต่ายโลหิตที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเย่เหม่ย เลียขนของมันอย่างพึงพอใจ
เจ้าตัวเล็กทั้งสองคุยกันอย่างมีความสุข ไม่มีใครรู้ว่าพวกมันคุยอะไรกัน
“นี่เสี่ยวเฮย เจ้าสองตัวนั่นคุยอะไรกันเหรอ?” เฉียวฉู่เดินตามหลังจวินอู๋เสีย หลังของเขาแทบจะหักอยู่แล้ว เขาจับสะโพกด้วยมือข้างหนึ่งขณะที่เดินไปข้างหน้า เขาได้ยินบทสนทนาลึกลับของท่านแบะแบะกับกระต่ายโลหิต จึงพยายามจะหาความสนุกท่ามกลางความระทมทุกข์ของเขา เขาถามเจ้าแมวดำที่อยู่บนไหล่ของจวินอู๋เสีย
เจ้าแมวดำหันหน้ากลับไปมองเฉียวฉู่ที่หน้าแดงจากการที่หลังของเขาต้องงออยู่ตลอดเวลา ก่อนจะตอบว่า
“พวกมันกำลังคุยกันว่า ใบของต้นกร่อนกระดูกกินได้รึเปล่า แล้วจะอร่อยไหม”
“………..” เฉียวฉู่อึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกอยากจะหันกลับไปซัดเจ้าอสูรโง่สองตัวนั้นจริงๆ!
แต่เขาก็ไม่ได้ทำอย่างที่ต้องการ เพราะ……
เขาสู้เจ้าสองตัวนั้นไม่ได้จริงๆ!