ตอนที่ 174 พี่สะใภ้สี่จ้าวปวดท้องคลอด

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

“พี่สี่ มีอะไรเหรอ?” จ้าวเหวินเทาเห็นพี่สี่จ้าวท่าทางรีบร้อนกระวนกระวายใจ ก็พูดด้วยความไม่เข้าใจ

“พี่สะใภ้สี่ของนาย พี่สะใภ้สี่ของนายจะคลอดแล้ว นายช่วยขับรถพาหล่อนเข้าอำเภอหน่อยได้ไหม!” พี่สี่จ้าวพูดพลางหายใจหอบจนฟังไม่ได้ศัพท์

คลอดลูกเป็นเรื่องใหญ่ จ้าวเหวินเทาไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย เขารีบหมุนตัวไปสตาร์ทรถโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

“พี่สี่ รีบขึ้นรถ!” จ้าวเหวินเทาพูด จากนั้นก็พูดกับภรรยา “ภรรยา คุณกลับเข้าไปพักในห้องนะ พี่สะใภ้สี่จะคลอดแล้ว เดี๋ยวผมพาไปอำเภอก่อน”

เย่ฉูฉู่พูดอธิบาย “พวกคุณเป็นผู้ชาย มีหลายอย่างที่ช่วยเหลือไม่ได้ แถมยังไม่เข้าใจด้วย คุณเรียกคุณแม่กับป้าหยางไปด้วยนะ”

หากข้าง ๆ มีผู้สูงวัยสองคนก็พอจะช่วยเหลือได้หน่อย

“เข้าใจแล้ว!” จ้าวเหวินเทาขับรถไปกับพี่สี่จ้าวเพื่อไปที่บ้านเก่า

พี่สะใภ้สี่กำลังปวดท้องจนเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก พี่สี่จ้าวจึงประคองหล่อนให้ขึ้นรถ

จ้าวเหวินเทาเห็นสภาพแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะพูด “พี่สะใภ้สี่อยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว ทำไมพี่ไม่พาพี่สะใภ้ไปโรงพยาบาลตั้งแต่แรกเนี่ย!”

“เพิ่งจะปวดท้องคลอดเมื่อกี้เอง” พี่สี่จ้าวกล่าว “เพิ่งกลับมาจากทำสวนก็เป็นแบบนี้แล้ว!”

พี่สะใภ้สี่จ้าวปวดท้องจนไม่มีแรงแม้แต่จะบ่น แต่หล่อนก็กำลังคิดว่าชีวิตของตนช่างยากลำบากเสียเหลือเกิน ถ้าหล่อนได้อยู่บ้านพักผ่อนเหมือนกับน้องสะใภ้หก หล่อนก็คงรู้สึกได้ตั้งนานแล้วว่าร่างกายไม่ปกติ

หล่อนทำงานจนไม่ได้สนใจแม้แต่ร่างกายของตัวเอง!

จ้าวเหวินเทาพาพวกเขาทั้งสองคนขับมาหาแม่เฒ่าหยางและคุณแม่จ้าว จากนั้นก็นั่งรถเพื่อมุ่งหน้าไปที่อำเภอด้วยกัน

“ไปที่อำเภอจะทันเหรอ?” คุณแม่จ้าวเห็นว่าลูกสะใภ้สี่ทรมานมาก จึงพูดด้วยความเป็นกังวล

แม่เฒ่าหยางตรวจร่างกายของพี่สะใภ้สี่ครู่หนึ่ง กล่าวว่า “ไปที่อำเภอน่าจะไม่ทันแล้ว หล่อนเคยคลอดลูกมาสองครั้งแล้วด้วย ปวดท้องคลอดแบบนี้อีกไม่กี่นานก็คงคลอดแล้ว ไปที่คลินิกในเมืองเถอะ ที่นั่นใกล้กว่าหน่อย”

จ้าวเหวินเทาถามคนทั้งสอง “พี่สี่พี่สะใภ้สี่ พวกพี่อยากจะไปที่ไหน?” เรื่องนี้เขาไม่สามารถตัดสินใจเองได้

“ฉัน ฉันไม่รู้!” พี่สี่จ้าวสติหลุดลอยไปแล้ว

“ไม่เร็วขนาดนั้นหรอก นี่ก็เพิ่งจะเริ่มเอง อีกอย่างนี่ก็เป็นลูกชายด้วย ฉันจะไปโรงพยาบาลในอำเภอ ต้องไปโรงพยาบาลในอำเภอให้ได้!” พี่สะใภ้สี่จ้าวพูด ลูกชายของหล่อนต้องได้คลอดที่โรงพยาบาลในอำเภอเท่านั้น!

อีกอย่างระหว่างที่ตั้งครรภ์ครั้งนี้ อารมณ์ของพี่สะใภ้สี่จ้าวก็ขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ยินเรื่องการคลอดที่ยากลำบากมาก็ไม่น้อย เพื่อลูกชายแล้ว หล่อนต้องทำเรื่องนี้ให้ได้ ดังนั้นต้องไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด!

จ้าวเหวินเทากล่าว “ตกลง ทุกคนกอดพี่สะใภ้สี่ไว้หน่อยนะ ถนนเส้นนี้ค่อนข้างเป็นหลุมเป็นบ่อ” พูดจบเขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่ในอำเภอ

เป็นเพราะตอนที่ออกเดินทางไม่ใช่ช่วงเช้า ยังไม่ทันถึงตัวอำเภอพระอาทิตย์ก็เริ่มเอียงไปทางทิศตะวันตกแล้ว

เมื่อเข้ามาถึงโรงพยาบาล พี่สะใภ้สี่ก็ถูกส่งเข้าไปในห้องคลอด

พี่สะใภ้สี่จ้าวทรมานอยู่หนึ่งชั่วโมงกว่า ลูกก็ยังไม่ยอมออกมา หมอแจ้งว่าคืนนี้จะคลอดหรือเปล่าก็ยังไม่แน่นอน เรื่องนี้ทำให้คนแก่ทั้งสองคนตกใจ

“ไม่ใช่ว่าคลอดยากหรอกนะ? ฉันเห็นเหมือนกับใกล้จะคลอดเลย” แม่เฒ่าหยางมีประสบการณ์ช่ำชอง นางจึงอดไม่ได้ที่จะพูด

พี่สี่จ้าวหน้าขาวซีด แม้ว่าภรรยาของเขาปกติแล้วจะมีปัญหามากที่สุด แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นภรรยาของเขา แม่ของซานหยาซื่อหยา หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา จะทำอย่างไร?

คุณแม่จ้าวเองก็อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล ภายในใจก็เริ่มไม่มั่นใจเช่นกัน ผู้หญิงเมื่อคลอดลูกก็เหมือนกับข้ามประตูนรก ไม่ว่าจะคลอดมากี่หนก็เป็นเหมือนกัน แต่นางไม่สามารถพูดออกมาได้

“ไม่หรอก หล่อนคลอดมาตั้งสองคนแล้ว จะคลอดยากได้ยังไง?” คุณแม่จ้าวพูดให้จิตใจของทุกคนสงบ

จ้าวเหวินเทาเห็นว่าทุกคนกำลังพูดให้ตกใจกันเอง จึงกล่าวว่า “ถามหมอก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอครับ?”

แต่หมอก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่บอกว่าตอนนี้ยังมองไม่ออก

ท่าทางนั้นทำให้จ้าวเหวินเทาถึงกับขมวดคิ้ว เขาคิดว่าตอนที่ภรรยาคลอดต้องไปที่จังหวัดให้ได้ เพราะหมอในอำเภอเชื่อถือไม่ค่อยได้เอาเสียเลย

ระหว่างทางที่มาที่นี่พี่สะใภ้สี่ก็ตะโกนว่าปวดท้องไปไม่น้อย แต่ตอนนี้เมื่อมาถึงโรงพยาบาล กลับไม่ได้รู้สึกปวดแล้ว แต่ก็ปวดเป็นครั้งคราว

ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ยังไม่ยอมคลอดออกมาสักที

สถานการณ์แบบนี้ย่อมไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ โชคดีที่ตอนนี้โรงพยาบาลมีคนไข้ไม่มาก จึงมีเตียงว่าง ทุกคนสามารถอยู่ค้างได้หนึ่งคืน

จ้าวเหวินเทาไปบอกพี่สาวใหญ่จ้าวและพี่สาวห้าจ้าว

พี่สาวใหญ่จ้าวและพี่สาวห้าจ้าวจึงนำข้าวมื้อค่ำมาส่งให้

เมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้สี่กำลังทรมานแบบนั้น พี่สาวใหญ่จ้าวก็พูดว่า “น้องสะใภ้สี่ กินอะไรสักหน่อยนะ อีกเดียวตอนคลอดจะได้มีแรง”

พี่สะใภ้สี่ทรมานเสียจนน่าสงสาร ทว่าดวงตาของหล่อนกลับเป็นประกาย พูดด้วยทฤษฎีของตัวเองว่า “ลูกชายทำให้สูญเสียพลังเยอะ ตอนคลอดซานหยากับซื่อหยายังไม่เคยเป็นแบบนี้เลย คลอดสองคนนั้นเหมือนกับออกไข่ ไม่ได้ทรมานแบบนี้!”

ทุกคนที่อยู่ที่นี่ “…”

ตอนนี้หล่อนใหญ่ที่สุด ใครใช้ให้หล่อนกำลังจะคลอดลูกกันล่ะ

ต่อให้เป็นพี่สาวห้าจ้าวก็ให้ความร่วมมือด้วย “สะใภ้สี่พูดถูก ลูกชายใช้พลังงานเยอะ ฉันทำหมี่ซุปไก่ไว้ให้ถ้วยหนึ่ง เธอรีบกินเถอะ กินเสร็จจะได้มีแรงคลอดลูกนะ!”

พี่สะใภ้สี่จ้าวก็หิวแล้วจริง ๆ หล่อนจึงลุกขึ้นมารับประทานบะหมี่ซุปไก่โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง แม้แต่น้ำซุปก็ไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว กินเก่งเป็นพิเศษเลย

“ถูกต้อง ควรเป็นแบบนี้แหละ ควรกินก็กินควรดื่มก็ดื่ม แบบนี้ถึงจะได้มีแรงคลอดลูก” แม่เฒ่าหยางกล่าว ขณะรับประทานซาลาเปาที่พี่สาวใหญ่จ้าวนึ่งมาให้

คุณแม่จ้าวเห็นหล่อนอึดแบบนี้ ก็ค่อนข้างพึงพอใจเช่นกัน “อิ่มหรือยัง? ซาลาเปานี้ก็อร่อยนะ เธอจะกินสักหน่อยไหม?”

พี่สะใภ้สี่จ้าวรู้สึกซึ้งใจ หล่อนดึงมือของแม่สามีมาจับพร้อมพูด “คุณแม่ หนูจะต้องคลอดหลานชายมาให้คุณแม่ให้ได้!”

คุณแม่จ้าวเห็นหล่อนหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ภายในใจก็แอบรู้สึกเห็นใจ กระซิบบอกว่า “สะใภ้สี่ อย่าคิดให้มากมายขนาดนั้นเลย แค่เธอคลอดลูกออกมาได้อย่างปลอดภัยก็พอแล้ว”

หล่อนได้ลูกสาวทั้งหมด ตอนที่คุณแม่จ้าวคลอดลูกชายเรื่องนี้ก็ผ่านไปได้อย่างราบรื่น

พี่สาวใหญ่จ้าวคือลูกสาว หลังจากนั้นลูกอีกสามคนถัดมาก็เป็นลูกชายทั้งหมด ภายหลังก็ได้พี่สาวห้าจ้าวมาอีกคน และท้ายที่สุดก็คือจ้าวเหวินเทา ลูกชายสี่คนและลูกสาวสองคน เหมาะสมที่สุดเลย

ดังนั้นคุณแม่จ้าวจึงไม่ได้รู้สึกกระวนกระวายใจกับเรื่องนี้ แต่ลูกทั้งสองคนของลูกสะใภ้สี่คือลูกสาวทั้งหมด คนที่สามจึงต้องสู้จริง ๆ แล้ว

หากได้ลูกชายก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นลูกสาว คาดว่าลูกสะใภ้สี่คงได้ชอกช้ำใจตายแน่

ได้แต่ขอพรภาวนาว่าจะได้หลานชาย จะได้สมปรารถนาลูกสะใภ้สี่

พี่สาวใหญ่จ้าวอยู่ที่นี่เพื่อพูดคุยกับพี่สะใภ้สี่จ้าว

ส่วนพี่สาวห้าจ้าวประคองแม่ของตนมาพักผ่อนที่ห้องข้าง ๆ พี่สาวห้าจ้าวเองก็พอจะมองออก จึงพูดว่า “แม่ ถ้าน้องสะใภ้สี่ได้ลูกสาวอีกคน จะทำยังไงคะ?”

คุณแม่จ้าวกล่าว “คำพูดนี้แกอย่าได้ไปพูดต่อหน้าหล่อนเชียวนะ”

“ฉันไม่ได้พูดต่อหน้าน้องสะใภ้สี่หรอกค่ะ ฉันก็แค่ไม่เข้าใจ ลูกสาวก็ดีจะตายไปไม่ใช่เหรอ หวยเหรินเองก็รักโหรวโหรวมาก ฉันเคยถามเขาว่าหลังจากนี้ถ้าคลอดได้ลูกสาวอีกคนจะทำยังไง เขาบอกว่าก็จะเก็บเงินค่าสินสอดไว้ แถมถ้าหลังจากนี้จะคลอดอีกคนเขาก็ไม่ให้ฉันคลอดแล้วด้วย” พี่สาวห้าจ้าวกล่าว

แม้ว่าคุณแม่จ้าวจะพึงพอใจกับวิธีพูดของลูกเขย แต่ก็ยังกลอกตาใส่พลางพูดว่า “แม่คนอื่นคงไม่ขอร้องลูกหรอก แต่ลูกกับหวยเหรินต้องมีลูกชายสักคนนะ ต้องมีทายาทมาสืบสกุลต่อไป ไม่งั้นคนอื่นคงได้พูดว่าหวยเหรินไม่มีทายาทสืบสกุล แล้วตอนนี้ติดหรือยังล่ะ?”

นางมองท้องของลูกสาว

พี่สาวห้าจ้าว “ยังเลยค่ะ”

……………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

รอดูกันต่อไปนะคะว่าลูกของสะใภ้สี่จะออกมาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง

ไหหม่า(海馬)