เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 228 การทะเลาะกันในออฟฟิศ
ทิฟฟานี่รู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย “จริงเหรอ? แล้วทำไมฉันถึงไม่รู้สึกอะไรเลย?”
แอเรียนตกตะลึงไปชั่วครู่ก่อนจะกลับมามีสติ “เธอหมายถึง…เธอ? เธอไม่ได้คบกับเอธานมาเป็นเวลานานและยังอยู่กับเขาเป็นครั้งคราวเหรอ? ทำไมเธอถึงถามเรื่องแบบนี้กับฉัน? เธอไม่ได้รู้เรื่องนี้ดีไปกว่าฉันเหรอ?”
ดวงตาของทิฟฟานี่หรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถึงเอธาน “เอธานกับฉัน…ไม่เคยไปถึงขั้นนั้น เขาต้องการรอจนกว่าพวกเราจะแต่งงานกัน แต่ใครจะไปรู้…ฮ่าฮ่า…เขาไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับฉันตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันคิดได้แล้วว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดี อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ทำอะไรฉันเมื่อเขายังคบอยู่กับฉัน”
จากคำบอกเล่าของเธอแอเรียนพอจะได้เบาะแสอยู่บ้าง “เพราะว่าเธอไม่เคยมีอะไรกับเอธานแล้วทำไมจู่ ๆ เธอถึงถามฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะ? ทิฟฟ์ บอกความจริงกับฉันมานะ”
ทิฟฟานี่รู้สึกกังวลใจมากจนดื่มน้ำเปล่าไปครึ่งแก้ว และถอนหายใจ “หยุดถามฉันแบบนั้นแอริ ฉันบอกเธอไม่ได้… ฉันไม่เป็นไร มันก็แค่การสุ่มถาม ดูฉันสิ ฉันดูสบายดี ใช่ไหม?” หลังจากที่ยืนยันว่าเธอไม่ได้ไม่สบายที่ตรงไหนในร่างกายของเธอ เธอก็ผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัดและตอนนี้ยังสามารถหัวเราะได้ นั่นหมายถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ระหว่างแจ็คสันและเธอเมื่อคืนนี้ เธอไม่ต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป อย่างไรก็ตามมันคงจะดีกว่าถ้าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ สุดท้ายแล้วมันก็ค่อนข้างน่าอาย
แอเรียนทำหน้ามุ้ย แต่ก็ไม่ได้กดดันต่อและเปลี่ยนเรื่องแทน “เธอรู้อะไรเกี่ยวกับคุณสโลนไหม? “
ทิฟฟานี่ส่ายหัว “คนที่ฉันมีส่วนร่วมค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงการนี้ แต่ผ่านมาไม่กี่วันแล้วก็ยังไม่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกครั้งที่ฉันถาม เขาจะบอกฉันว่าเขาต้องการเวลาอีกสักหน่อย ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าเขากำลังโกหกฉัน แต่ในทางกลับกันเขาก็มีชื่อเสียงที่ดี เนื่องจากเราจ่ายเงินมัดจำให้เขาแล้วและเก็บเงินที่เหลือไว้ในมือเรา พวกเราจึงไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล อย่างมากพวกเราก็แค่เสียเงินเงินมัดจำไปจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มาก ให้เวลาอีกสองวัน”
แอเรียนพยักหน้า ตอนนี้เธอทำได้แค่รอ ถ้าคุณสโลนยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องถูกพบอย่างแน่นอน ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเร่งรีบ
หลังจากรับประทานอาหารเที่ยง สาว ๆ ก็แยกย้านกันไปที่ทางออกของร้านอาหาร และกลับไปยังที่ทำงานของตัวเอง
ยังคงเป็นเวลาพักเที่ยงเมื่อแอเรียนกลับไปที่ออฟฟิศของเธอ ไม่มีใครอยู่แถว ๆ นั้น ทันทีที่เธอนั่งลงที่โต๊ะทำงาน เธอก็ได้ยินเสียงวุ่นวายที่ดังมาจากห้องทำงานของเอริก ฟังดูเหมือนคนกำลังทะเลาะกัน ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอจึงลุกขึ้นเพื่อนตรวจดูสถานการณ์ เธอเกือบจะอยู่ในออฟฟิศของเอริกเมื่อร่างกระแทกเข้ากับประตูอย่างแรง เนื่องจากเป็นประตูกระจกโปร่งแสง
แอเรียนตกใจและไม่สามารถกลั้นเสียงกรีดร้องของเธอได้ “กรี๊ด- -!”
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออกจากด้านในอย่างรวดเร็ว เอริกยืนอยู่ที่ประตู กำลังมองมาที่เธอด้วยใบหน้าที่โหดเหี้ยม “พวกเราไม่เป็นไร กลับไปทำงาน”
แอเรียนเห็นอีกคนนอนอยู่บนพื้นข้าง ๆ กับเอริก โดยมีเลือดออกที่หน้าผาก เธอไม่เคยเห็นเขามาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่พนักงาน เธอกลัวมากจนอยากจะหันหลังกลับและหนีไป แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นและเอริกต้องเข้าคุกล่ะ? “เอริก คุณสามารถคุยกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง คนนี้คือใคร?”
ก่อนที่เอริกจะได้พูด คนที่นอนอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นและต่อยหน้าของเขา พวกเขาทั้งสองคนสู้กันอีกครั้ง และแอเรียนก็ตื่นตระหนกอย่างมาก เธอเรียกตำรวจไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเอริกจะเดือนร้อนด้วย หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะกระเด็นออกมาที่นอกอก เธอโทรหามาร์คด้วยความตื่นตระหนกแทน
โชคดีที่เขารับสาย โดยไม่รอให้มาร์คพูดก่อน “มาที่ออฟฟิศของฉันเร็ว ๆ เอริกกำลังมีปัญหา! ฉันคิดว่าเขากำลังสู้กับใครบางคน แต่ในออฟฟิศไม่มีใครเลย…”
มาร์คไม่พูดอะไรและวางสายทันที