ตอนที่ 132 เธอก็ยังมีฉันไม่ใช่เหรอ (2) / ตอนที่ 133 เธอก็ยังมีฉันไม่ใช่เหรอ (3)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 132 เธอก็ยังมีฉันไม่ใช่เหรอ (2)

 

 

“กัปตันอี่เจ๋อ จำฉันได้ไหมคะ” หลีฝานซิงยิ้มสดใส

 

 

อันซย่าซย่าหันไปมองเธอโดยไม่ตั้งใจและเห็นสาวน้อยหน้าตาสวยมากคนหนึ่ง เธอมีเรียวคิ้วอ่อนละมุน จมูกโด่งและริมฝีปากจิ้มลิ้ม เคลื่อนไหวด้วยท่าทางอย่างคุณหนูจากตระกูลที่น่านับถือ

 

 

จุดบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็คือเธอแต่งหน้าจัดเกินไป

 

 

อันซย่าซย่าจำการแข่งขัน “เทพธิดาโรงเรียน” บนเวยปั๋วเมื่อสักพักใหญ่ที่ผ่านมาได้ หลีฝานซิงชนะการแข่งพร้อมด้วยคอลเลกชันภาพถ่าย ซึ่งเธอดูงดงามราวกับเทพธิดาจริงๆ

 

 

ตอนนี้พอมาเห็นตัวจริงของเธอใกล้ๆ แบบนี้ เด็กสาวคนนี้ก็ไม่ได้ดูน่าประทับใจขนาดนั้น

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้าให้เธอเป็นเชิงทักทาย แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าอยากจะคุยกับเธอต่อ แต่ดวงตาเขากลับจับจ้องมาที่อันซย่าซย่า

 

 

ยัยตัวจิ๋วนั่นพยายามหลบเลี่ยงเขาอย่างจริงจัง!

 

 

เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?!

 

 

หลีฝานซิงดูไม่ได้ยี่หระที่จะเปิดเปลือยไหล่ต่ออากาศเย็นและยังคงยิ้มหวาน “น้องสาวฉันก็เรียนที่โรงเรียนของคุณเหมือนกัน ฉันได้ยินมาว่าคุณเป็นเจ้าชายโรงเรียนเลยนะ! ฮะๆ ฉันแทบเห็นสปอตไลต์ส่องตามคุณในทุกๆ ที่ที่คุณไปเลย”

 

 

เซิ่งอี่เจ่อนิ่วหน้า “น้องสาวเหรอ”

 

 

“ค่ะ ฉันมีน้องสาวด้วย เธอชื่อหลีชั่นซิง”

 

 

“อ้อ” เซิ่งอี่เจ๋อตอบไปอย่างแกนๆ ส่วนอันซย่าซย่ารับฟังข่าวนั้นด้วยท่าทางประหลาดใจ

 

 

ไม่แปลกใจเลยที่เธอคิดว่าหลีฝานซิงดูหน้าตาคุ้นๆ อย่างนั้นเธอก็เป็นพี่สาวของหลีชั่นซิงสินะ!

 

 

เหอจยาอวี๋และฉือหยวนเฟิงกลับมาพอดี—ทั้งคู่ไม่ได้รับบทใหญ่ในการถ่ายทำสำหรับวันนี้

 

 

“พี่ ตาพี่แล้ว” ฉือหยวนเฟิงเตือน

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นยืน แต่แล้วเขาก็รีบหันกลับมามองและสั่งอันซย่าซย่า “อย่าไปไหนแล้วก็อย่าสร้างปัญหาด้วย เข้าใจไหม”

 

 

อันซย่าซย่าบุ้ยปาก พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ

 

 

ไม่แค่พยายามหลบเลี่ยงเธอ เขายังดุเธออีกด้วย ไม่มีทางหรอกที่เขาจะชอบเธอ

 

 

หลีฝานซิงกัดฟันกรอด มือทั้งสองของเธอกำหมัดแน่นอยู่ภายใต้ชายแขนเสื้อกว้าง ปลายเล็บแหลมของเธอทิ่มเข้ากับฝ่ามือจนปวดหนึบ

 

 

แต่ถึงอย่างไร เธอก็ยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้ มิหน้ำซ้ำยังชวนอันซย่าซย่าคุยอย่างเป็นกันเอง

 

 

“เธอดูสนิทกับอี่เจ๋อจังนะ เป็นแฟนเขาเหรอ” หลีฝานซิงถาม

 

 

อันซย่าซย่าหน้าแดงทันทีพลางส่ายหน้าไปมา เธอปฏิเสธอย่างหนักแน่น “ไม่ใช่เลย!”

 

 

หลังจากนั้นก็นึกได้ว่าน้ำเสียงที่ใช้ดูไม่เหมาะสมจึงอธิบายอย่างกระอักกระอ่วนใจ “พวกเราเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องน่ะ”

 

 

“เธอก็เรียนที่ฉีซย่าเหมือนกันเหรอ” หลีฝานซิงค่อนข้างประหลาดใจตอนที่อันซย่าซย่าพยักหน้าตอบ

 

 

“อย่างนั้นหรอกเหรอ…” หลีฝานซิงหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วอยู่ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม “แหม ฉันกำลังสงสัยอยู่ว่าเธอพอจะช่วยฉันหน่อยได้ไหม พอดีวันนี้ฉีฉีไม่สบาย ฉันก็เลยไม่มีใครมาด้วย”

 

 

อันที่จริงแล้ว เธอเป็นคนบอกไม่ให้ฉีฉีมาเองแหละ

 

 

อันซย่าซย่ารู้ดีว่าปกติแล้วดาราสาวที่มาเข้าฉากมักมีเรื่องที่ต้องดูแลมากมาย ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ดังนั้นหลีฝานซิงก็คงจะลำบากทีเดียวเมื่อไม่มีผู้ช่วยอยู่ใกล้ๆ เธอจึงตอบตกลงไปตามนิสัยคนมีน้ำใจหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น เธอคิดว่าหลีฝานซิงนิสัยดีกว่าหลีชั่นซิงมาก ถ้าหากฝ่ายหลังเป็นนางฟ้าด้านมืด อย่างนั้นหลีฝานซิงก็จะต้องเป็นนางฟ้าผู้บริสุทธิ์งดงามยิ่งกว่าใคร!

 

 

“ขอบใจมากนะ” หลีฝานซิงประกบฝ่ามือเข้าหากัน ท่าทางดูขอบคุณอย่างจริงใจ

 

 

ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็นประกายมุ่งร้ายซึ่งกะพริบอยู่ภายในดวงตาของเธอเลย

 

 

 

 

หลีฝานซิงแสดงเป็นศิษย์โปรดของเซียนฉางหรง—เยี่ยยวน

 

 

เยี่ยยวนเป็นธิดาคนเล็กคนโปรดแห่งองค์จักรพรรดิสวรรค์ ส่วนเยี่ยหวนเป็นพี่ชายนาง

 

 

ฉากที่จะถ่ายทำนั้นเป็นห้องใต้หลังคนซึ่งจำลองมาจากสิ่งปลูกสร้างของเมืองริมแม่น้ำทางภาคใต้ เป็นฉากที่เยี่ยยวนมอบของแทนใจให้อาจารย์ของนางด้วยความรัก

 

 

“ซย่าซย่า ช่วยหยิบบทพูดให้หน่อย” หลีฝานซิงร้องขอด้วยรอยยิ้ม

 

 

อันซย่าซย่าเดินไปหยิบบทพูดมาให้ทันที เมื่อเธอยื่นให้กับหลีฝานซิง อีกฝ่ายก็ซวนเซเล็กน้อย แล้วต่างหูที่งดงามหรูหราข้างหนึ่งก็ตกลงไปในน้ำ

 

 

 

 

ตอนที่ 133 เธอก็ยังมีฉันไม่ใช่เหรอ (3)

 

 

ระหว่างที่ไม่มีใครอื่นรู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น สไตลิสต์ที่อยู่ใกล้ๆ ก็ร้องออกมา “ต่างหูฝานซิงได้รับการสปอนเซอร์มานะ! มันเป็นสมบัติโบราณที่เช่ามาจากพิพิธภัณฑ์เชียว! เด็กคนนั้นน่ะ เธอทำอะไรของเธอ ทำไมถึงได้ชนฝานซิงเข้า”

 

 

อันซย่าซย่านิ่งไป เธอไม่ได้แตะต้องหลีฝานซิงสักนิด ทำไมถึงได้กลายเป็นความผิดของเธอล่ะ

 

 

หรงเช่อยืนอยู่ใกล้กับทั้งสองมากและขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่หน้าที่เขาที่จะพูดอะไรไป

 

 

แต่เขาคิดออกคร่าวๆ ว่าอันซย่าซย่าคงไปทำอะไรสักอย่างให้หลีฝานซิงไม่พอใจ ไม่อย่างนั้นฝ่ายหลังก็คงไม่คิดแผนการชั่วร้ายขึ้นมาได้สดๆ เดี๋ยวนั้นหรอก

 

 

เขารอดูการตอบโต้ของสาวน้อยคนนี้

 

 

ผู้ช่วยผู้กำกับนั้นพูดไม่ออกเลย แผนที่พวกเขาเตรียมไว้ว่าจะเริ่มถ่ายทำที่นี่หลังจากฉากของเซิ่งอี่เจ๋อก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เขาเพิ่งได้ข่าวอะไรมานะ ว่าต่างหูราคาแพงดันตกลงไปในน้ำงั้นเรอะ!

 

 

ลืมเรื่องฉากต่อไปได้เลย พวกเขาต้องงมหาต่างหูให้เจอก่อน

 

 

“เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายโปรดทราบ! เราต้องหยุดการถ่ายทำฉากนี้ไว้ก่อนและเรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือหาต่างหูให้เจอ! ส่วนคนที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ผมไม่รังเกียจหรอกนะที่จะมากินฟรีที่นี่ แต่ช่วยอย่าสร้างปัญหาเพิ่มอีกได้ไหม ออกไปจากที่นี่เลย!”

 

 

น้ำตาเอ่อรื้นขึ้นมาในดวงตาอันซย่าซย่า เธอได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างตะขิดตะขวงใจ

 

 

สมาชิกทุกคนในกองถ่ายต่างก็เขม้นมองเธออย่างโกรธเคืองก่อนจะกระโดดลงไปในน้ำเพื่อค้นหาต่างหู

 

 

อันซย่าซย่ากลัวน้ำ ต้องสูดหายใจลึกๆ อยู่สองสามเฮือกกว่าจะกล้าลงไป

 

 

โชคยังดีที่น้ำตื้นเพียงแค่ระดับหัวเข่าของเธอ ทว่าต่างหูนั่นเป็นเป้าหมายที่เล็กจิ๋วในพื้นที่น้ำขนาดนี้ พูดง่ายๆ แล้วมันก็คือการงมเข็มในมหาสมุทรดีๆ นี่เอง

 

 

หลีฝานซิงมองดูอันซย่าซย่าซึ่งเปียกโชกและสภาพอันน่าสังเวชของเธอ จากนั้นก็กลับเข้าไปพักด้วยความสะใจเป็นที่สุด

 

 

แน่นอนว่าหล่อนไม่ได้นึกสงสารอันซย่าซย่าหรอก

 

 

ยัยนั่นอยู่โรงเรียนเดียวกับเซิ่งอี่เจ๋อ ตามเขามาที่นี่ และดูสนิทสนมกับเขาเหลือเกิน บ้าเถอะถ้าจะให้เชื่อว่าไม่มีอะไรระหว่างสองคนนั้น!

 

 

เพราะอย่างนั้นก็สมน้ำหน้าแล้ว!

 

 

 

 

วันนี้เซิ่งอี่เจ๋อก็มีสภาพไม่เต็มที่เลย

 

 

เขาบังเอิญต้องแสดงเป็นฝ่ายศัตรูกับเด็กหน้าใหม่และทั้งสองก็ต้องถ่ายซ่อมในฉากง่ายๆ เป็นสิบๆ ครั้งจนผู้กำกับเริ่มหมดความอดทน

 

 

“เซิ่งอี่เจ๋อ ตั้งใจหน่อย!”

 

 

“หวงฉี เธอจำบทพูดได้หรือเปล่า พูดผิดอีกแล้วนะ!”

 

 

“คัต คัต คัต! นี่พวกเธอจงใจหรือเปล่าเนี่ย”

 

 

“…”

 

 

หวงฉีอยู่ในอาการลนลาน เขาไม่ได้อยากประหม่า ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อเอาแต่จ้องมองเขาด้วยสายตาคมกริบแล้วเขาก็จะประหม่าจนลืมการแสดงไปน่ะสิ!

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกำลังมีความรักเหรอ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงได้ทำตัวแปลกๆ ไป…

 

 

ในที่สุดเมื่อทั้งสองแสดงฉากนั้นจนผ่าน ก็เป็นเวลาสี่โมงเย็นกว่าๆ แล้ว

 

 

ผู้กำกับเรียกเซิ่งอี่เจ๋อมาไถ่ถาม “ฉันรู้ว่าเธอยังเป็นนักเรียนอยู่ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าหากเธอสามารถทำได้ทันตามตารางเวลาของทั้งกองถ่าย เอาเป็นว่าเธอพอจะมีเวลาสักอาทิตย์หนึ่งไหม เราจะได้ถ่ายทำฉากของพวกเธอทั้งสามคนด้วยกัน”

 

 

“ก็ได้ครับ” เซิ่งอี่เจ๋อพยักหน้าตอบขณะที่มองกราดไปรอบๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังมองหาใครคนหนึ่งอยู่

 

 

ผู้กำกับรู้ทันสีหน้าท่าทางแบบนั้นพลางยิ้มกริ่มทันที “ทำไม มีแฟนละสิ แหม หนุ่มสาวนี่มันดีอย่างนี้เอง…”

 

 

ก่อนที่เซิ่งอี่เจ๋อจะทันได้ตอบ ผู้ช่วยผู้กำกับก็รีบรุดเข้ามาหาพวกเขาพลางพูดอย่างโกรธๆ “ผู้กำกับจาง เอาไงดีทีนี้ เครื่องประดับของฝ่ายเสื้อผ้าที่เช่ามาสำหรับฝานซิงตกลงไปในน้ำ พวกเราช่วยกันหามาร่วมสี่ชั่วโมงแล้ว ยังไม่เจอเลย!”

 

 

“เกิดอะไรขึ้น” ผู้กำกับขมวดคิ้ว

 

 

“ก็แม่เด็กผู้ช่วยของสตาร์รี่ไนต์น่ะก่อเรื่อง!” ผู้ช่วยผู้กำกับจ้องหน้าเซิ่งอี่เจ๋อ “ยังไงทีนี้ เซิ่งอี่เจ๋อ เธอจะจ่ายชดเชยหรือไปงมหาด้วยตัวเอง”

 

 

แววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงต่ำ “แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”

 

 

“อยู่ในน้ำกำลังค้นหาต่างหูน่ะสิ! จะบอกอะไรให้นะ…” ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบ เซิ่งอี่เจ๋อก็สาวเท้ายาวๆ จากไปเสียแล้ว!