บทที่ 305
บนเวทีประลอง ฉู่เทียนกำดาบยาวในมือ ไม่ได้ปล่อยพลังปราณออกมา แต่พลานุภาพพลุ่งพล่านขึ้นอย่างรวดเร็ว

ดวงตาสองข้างของผางไห่แดงก่ำ คำรามอย่างโมโหเหมือนสัตว์ป่า พุ่งเข้ามาหาฉู่เทียนทันที

พลังมวยหนัก!

ทุกที่ที่ผ่านไป เวทีประลองเหมือนพื้นดินที่โดนรถแทรกเตอร์บด

อำนาจอันน่ากลัว พลังที่พุ่งเข้ามาอันแข็งแกร่ง เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่า ด้านหน้าผางไห่มีการบิดเบี้ยว

นั่นคือพลังถึงระดับที่เหมาะสม ทำให้อากาศยุบลงไป

ฉู่เทียนยืนนิ่งไม่ขยับ ปล่อยให้ผางไห่พุ่งเข้ามา

ผางไห่เหมือนแรดหินทรงพลังคลุ้มคลั่ง พุ่งเข้ามาชนตัวฉู่เทียน มือซ้ายของฉู่เทียนกดลงบนวงพลังปราณของผางไห่ สามารถต้านทานการโจมตีของผางไห่ได้

ฉู่เทียนขมวดคิ้ว เส้นเลือดปูดขึ้นมาบนแขน เหมือนเท้ามีรากงอก ฝังลึกลงไปในเวทีประลอง ไม่ถอยหลังแม้แต่น้อย

“ดี!”

อาจารย์เซินถูตะโกนออกมา ไม่รู้ว่าพูดคำว่าดีกับฉู่เทียนหรือผางไห่

ด้านล่างเวทีประลอง ตำแหน่งที่นักเรียนโดดเด่นของคณะสงบใจอยู่ สายตาของหลินเสี่ยวอวิ๋นจ้องไปที่ฉู่เทียน ประกายในแววตาเปลี่ยนไป

ผางไห่เห็นว่าแบบนี้ไม่สามารถสู้กับฉู่เทียนได้ จึงแผดเสียงออกมาอีก

ไขมันบนตัวเคลื่อนไหวอีกครั้ง กลายเป็นกล้ามเนื้อ ตอนนี้ผางไห่ดูเป็นชายมีพลัง กล้ามเนื้อล่ำสัน

“แรงเงี่ยมล่อ พลังครึ่ง”

พลังปราณบนตัวผางไห่ระเบิดออก จนฉู่เทียนส่งเสียงออกมา แล้วถอยหลังออกไป

ขณะนั้น ผางไห่ก้าวเข้ามา ใช้การโจมตีท่าแนบตัว กระแทกลงบนหน้าอกฉู่เทียน

พลังแข็งแกร่ง ระเบิดจนเกิดแรงกระเพื่อม แผ่กระจายไปทั่ว เศษหินกระเด็นลอยขึ้นมานับไม่ถ้วน ทำให้แขนเสื้อของลู่ฝานและคนอื่นสะบัดไปมาด้วย

ตัวของฉู่เทียนโงนเงน ฝ่าเท้าจมลงไปในหินดำนิล

แววตาเป็นประกายวูบไหว หมัดซ้ายชกลงไปบนตัวผางไห่

ไม่มีแรงกระเพื่อม ไม่มีพลังปราณอันงดงาม มีเพียงเสียงดังขึ้นเบาๆ แต่ผางไห่เหมือนโดนภูเขาลูกใหญ่ชน กระเด็นออกไปไกล แล้วกระแทกลงกับพื้น

พลานุภาพบนตัวฉู่เทียนยังคงพุ่งขึ้น ผมปลิวไปมา

ผางไห่รีบลุกขึ้นยืน มองมายังฉู่เทียน ดวงตายิ่งแดงเข้าไปอีก

ตัวเขาเริ่มใหญ่ขึ้น เพียงพริบตาเดียว ตัวเขาใหญ่ขึ้นสามเท่า ผางไห่เหมือนหมีควายไปแล้ว

“เคล็ดวิชาบู๊ฝึกร่างด้วยพลังปราณอีกแล้ว ดูเหมือนแย่กว่าศิษย์พี่ใหญ่เยอะเลย”

หานเฟิงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น

ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ แย่กว่าร่างทองครองธรรมของศิษย์พี่ใหญ่จริงๆ

“แรงเงี่ยมล่อ แปดในสิบ!”

ผางไห่แผดเสียงออกมา พุ่งเข้าไปหาฉู่เทียน

แต่ขณะนั้น ฉู่เทียนถลึงตาอย่างโหดเหี้ยม พลานุภาพอันน่ากลัวโถมเข้ามา ควบคุมการเคลื่อนไหวของผางไห่เอาไว้

นี่มันพลานุภาพน่ากลัวขนาดไหน ขนาดนักเรียนคณะกำแหงที่อยู่รอบๆ ยังพากันเงียบ

พวกเขารู้สึกเหมือนไม่ได้เผชิญหน้ากับคน แต่เป็นเทวดาองค์หนึ่ง

พลานุภาพร้ายแรง กดดันบนตัวพวกเขา หนักเหมือนภูเขาใหญ่ ถึงกับทำให้เขาขาดอากาศหายใจ

หลินเสี่ยวอวิ๋นช็อกกับความเกรี้ยวกราดของฉู่เทียน เธอเพิ่งเคยเห็นฉู่เทียนเกรี้ยวกราดขนาดนี้เป็นครั้งแรก พลานุภาพแบบนี้ แข็งแกร่งเหมือนไม่ใช่นักบู๊แดนปราณนอก

ไม่ใช่สิ ถึงเป็นนักบู๊แดนปราณชีวิตทั่วไป ก็ไม่มีพลานุภาพแบบนี้ อีกทั้งยังห่างชั้นอีกไกล

นี่เป็นความหยิ่งยโสที่มาจากธาตุแท้ ความเกรี้ยวกราดที่เชื่อมั่นว่าบนโลกนี้ไม่มีใครเก่งเท่ากับตนเองอีกแล้ว

ผางไห่เงยหน้าคำรามออกมา

“แรงเงี่ยมล่อ พลังเต็ม!”

ฉู่เทียนยกมือขวาของตัวเองขึ้นมาช้าๆ

“ดาบเทียนควบ ทำลาย!”