เซนคังอาจารย์ประจำบ้านโลกมักจะชอบไปนั่งผ่อนคลายที่ร้านอาหารจินเซียงพลางฟังนวนิยายและรับประทานอาหารไปพร้อมกัน
ไม่กี่วันที่ผ่านมาร้านแห่งนี้ได้มีการหยิบนำนวนิยาย Diablo ออกมาเผยให้ลูกค้าได้ฟัง เขารู้สึกประทับและตื่นเต้นนี่จึงเป็นเหตุให้เขามาที่นี่ทุกวันเพื่อมาฟังนิยายเรื่องนี้
“อาจารย์ใบ นิยายเรื่องใหม่ที่มีชื่อว่า Diablo สนุกมาก”
“ใช่ ท่านคิดว่า Andriel มีพลังมากขนาดไหน?”
“ใครจะไปรู้ละ พวกเขาบอกแค่เธอเป็นปีศาจที่ทรงพลังมาก!”
“…”
เซนคังและอาจารย์ผู้สอนจากตระกูลใบเดินพูดคุยกันระหว่างทางไปสอนที่สำนักงาน
ยูเหลียงก็กำลังเดินไปสำนักระหว่างเดินไปเขาเห็นอาจารย์ทั้งสองเดินอยู่ข้างหน้า เขาคิดในใจว่าเขาควรจะแนะนำเกม Diablo ให้ทั้งสองคนรู้จักดีมั้ย โดยไม่ทันได้สังเกตว่าทั้งสองเองก็กำลังพูดถึง Diablo เช่นกัน
แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาเกี่ยวกับ Andriel ยูเหลียงทำหน้าตกใจ พวกเขากำลังพูดเรื่องเดียวกับที่ฉันคิดหรือเปล่านะ!?
“ท่านอาจารย์ใบ! ท่านอาจารย์เซน! พวกท่านกำลังพูดเกี่ยวกับ Diablo อยู่หรือเปล่า?”
พวกเขากล้าเอ่ยถึง Diablo ในที่สาธารณะแบบนี้ได้ยังไง!?
“อาจารย์ยู! ท่านรู้จัก Diablo ด้วยหรอ?” เซนคังทำหน้าตกใจ เขาพบแฟนคลับอีกคนหนึ่งของ Diablo ที่นี่! แม้สำนักหลิงหยวนจะห่างไกลจากถนนเทียนฟุ แต่ก็ยังพอมีคนที่เดินทางไปฟังเรื่องราวที่นั่น
“ท่านทั้งสองรู้จักหรอ?” ยูเหลียงทำหน้าสงสัย
“ใช่!” พวกเขาทั้งสามเป็นอาจารย์ร่วมสำนักเดียวกัน ในตอนนี้เซนคังรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รู้ว่า ยูเหลียงเองก็เป็นแฟนคลับ Diablo ด้วยอีกคน เขาหัวเราะ “นอกจากฉันแล้ว อาจารย์ใบและคนอื่นๆ เองก็เป็นแฟนคลับของ Diablo เช่นกัน”
“จริงหรอ!!!” ยูเหลียงคิดว่าเขารู้จักอยู่คนเดียว เขารู้สึกดีมากที่ได้แบ่งปันความสนใจ เขาไม่ต้องเป็นกังวลที่จะขาดเพื่อนร่วมทีมแล้ว
เขาประหลาดใจ “ข้ารู้สึกประหลาดใจที่ท่านทุกคน ..”
เขาเหลือบมองไปรอบๆ โดยคิดว่ามันอาจไม่ปลอดภัยเท่าไรจะเราจะแสดงท่าทางตื่นเต้นกับเกมในที่กลางแจ้งแบบนี้ แต่เพราะความตื่นเต้นจึงหยุดไม่อยู่
“ท่านคิดว่าคลาสไหนมีพลังมาก” เขาถามทันที
“พาบลาดินยอดเยี่ยมมาก พาลาดินมีพลังป้องกันและทักษะที่แข็งแกร่งแถมพวกเขายังสามารถใช้คาถาทางวิญญาณได้อีก”
“จอมเวทย์ก็เช่นกัน พวกเขามีคาถาทางวิญญาณที่ยอดเยี่ยมสามารถรับมือได้กับทุกสกิล พวกเขาจะใช้ไฟจากนรกเพื่อสังหารกลุ่มสัตว์ประหลาด!”
“พวกท่านไม่คิดว่าแอสซาซินทรงพลังหรอ?” ยูเหลียงเอ่ยถาม “พวกเขาเองก็สามารถสร้างความเสียหายได้ไม่น้อย”
“ท่านกำลังหมายถึงคนที่ใช้พลังโจมตีเพียงคนเดียวน่ะหรอ? ฉันว่าการเล่นเขาตัวละครนี้ดูเฉยชาเดินไป ท่านชอบแอสซาซินหรอ?”
จู่ๆ ในระหว่างทางพวกเขาก็เริ่มเข้าสู่บทสนทนาอันร้อนแรง การสนทนาครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่แปลกใหม่และตื่นเต้นสำหรับพวกเขามาก
พวกเขาพูดคุยกันจนเพลินโดยไม่ได้เอะใจ อย่างไรก็ตามยูเหลียงรู้สึกว่ามีบางอย่างที่มันไม่ถูกต้อง
เช่นทำไมทั้งสองรู้จักชื่อตัวละครมากกว่าเขา หรือเป็นเพราะเขาเพิ่งเริ่มเล่นเกมนี้ได้ไม่นาน!?
“ไม่มีทาง Blood Raven ดรอปไอเทมง่ายหรอ?” เซนคังรู้สึกมีบางอย่างเริ่มผิดปกติ
“พวกท่านได้มาเมื่อไร?” ยูเหลียงมองหน้าพวกเขาที่เริ่มมีท่าทีแปลกๆ
“มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเราบ้าง? เราจะเลือกพวกเขายังไง?” พวกเขาสองคนเริ่มทำหน้างง “ท่านมีภาคไหน?”
“ภาคไหน?” ยูเหลียงขมวดคิ้ว ที่คาเฟ่มีแค่ Act I, II และ III เขากำลังสงสัยว่าทั้งสองหมายถึงอะไรกันแน่
“ไม่ได้หมายถีง Act I หรอกหรอ?”
“ใช่สิ” เซนคังพยักหน้า “ท่านแน่ใจนะว่าท่านไม่ได้ไปฟังเวอร์ชั่นละเมิดลิขสิทธิ์จากร้านอื่น”
“เวอร์ชั่นละเมิดลิขสิทธิ์?” ยูเหลียงหัวเราะ “ข้าไม่เคยฟังจากที่ไหนเลย ข้าเล่นด้วยตัวเองจะได้ยินเวอร์ชั่นละเมิดลิขสิทธิ์ได้อย่างไร”
“เล่นหรอ?” สองคนหันมองหน้ากัน
“ใช่! ร้านต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่!” ยูเหลียงพูดโดยไม่ทันคิด “พวกท่าน ..”
เมื่อหันไปสังเกตเห็นดวงตาของพวกเขาเปลี่ยนไป ยูเหลียงมองหน้าพวกเขาและพูดด้วยน้ำเสียงประหม่า “อย่าบอกนะว่าพวกท่านไม่ได้เล่น Diablo ที่ร้านต้นกำเนิดคาเฟ่อินเตอร์เน็ตน่ะ!?”
…
นำโดยคณะอาจารย์ นาหลันหมิงสื่อ ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ ในตอนนี้ได้เดินทางมาถึงจิงฉีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่นี่คือเมืองที่เจริณรุ่งเรืองที่สุดในดาจิน
กลุ่มสำนักซียี่จากด้านภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือได้เดินทางมาถึงก่อนกลุ่มสำนักหลิงยวนไม่นอน และในฐานะที่สำนักเซนจิงซึ่งเป็นเจ้าบ้านในครั้งนี้ พวกเขาได้จัดเตรียมงานเลี้ยงในโรงแรมเพื่อต้อนรับแขก
…
ขณะเดียวกัน ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต
“เจ้าของร้านอยู่ไหน?” ตงชิงลี่ออกจากระบบและมองไปรอบๆ ร้านเพื่อตามหาเขา “เมื่อเช้ายังอยู่นี่”
“นี่บ่ายแล้ว” เจียงเสี่ยวหยูตอบ “เขาบอกว่าเขาจะออกไปเล่นข้างนอก”
“ออกไปเล่น!?” ตงชิงลี่ยืนนิ่งทำหน้ายุ่งสงสัยว่าอยู่ข้างนอกจะไปสนุกกว่าการเล่นเกมได้อย่างไร
การพูดคุยเกี่ยวกับ Diablo นั่นยิ่งเพิ่มอรรถรสมากๆ เธอรู้สึกเคืองที่พลาดโอกาศที่จะได้พูฦดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับพล็อตเรื่องของ Diablo
“เซียวหยู!” เยเสี่ยวเย้ที่เพิ่งจบเกมลุกขึ้นแล้วถาม “ทำไมเจ้าของไม่เห็นถ่ายทอดสดเลย นี่เขาออกไปเล่นไหน”
“ถ่ายทอดสด?” ตงชิงลี่มองเยเสี่ยวเย้ด้วยความไม่เข้าใจ “มันคืออะไรน่ะ?”
“มันเป็นเครื่องช่วยให้เราได้ดูเจ้าของร้านเล่นเกม นู้นจอยักษ์นุ้นน่ะ” เซียวหยูตอบพลางมองไปรอบๆ “จากสิ่งที่ฉันสังเกตดู เวลาเจ้าของร้านเล่นเกมนั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนที่นี่ชอบที่สุด”
แม้ว่าใจจริงเขาไม่อยากจะยอมรับมันเท่าไร แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะน่าสนใจไปเท่ากับการดูฟางฉีเล่นเลย
“ประสบการณ์ที่ดีที่สุดคือการได้ดูเจ้าของร้านเล่นเกม แต่ถ้าหากเขาไม่อยู่ที่นี่ฉันก็เลือกที่จะดูศิษย์พี่นาหลันเล่นหรือไม่ก็ดูเพื่อนๆ พวกเขา แต่ถ้าหากทุกคนไม่ได้อยู่ในเวลาแบบนี้ ก็คงมีป้าของฉันคนเดียวเท่านั่นที่ฉันควรจะดู คนอื่นก็แค่มือใหม่ การเล่นของพวกเขาไม่ค่อยน่าดูเท่าไร”
“ทำไมการดูคนอื่นเล่นถึงสนุก” ตงชิงลี่และจางวันยูทำหน้างง
“ศิษย์พี่เซียวท่านกำลังพูดอะไร?” อันเชงที่เพิ่งปิดคอมของเขาเดินมาทางเซียวหยูด้วยท่าทางกวนๆ
“อืม..” เซียวหยูรู้สึกเขินอาย “เอ่อ .. ฉันลืมนึกถึงอีกคน ศิษย์น้องอันเจ้าเล่นได้ดีมาก!”
“…”
ในขณะเดียวกันพวกเขาหันหน้าไปหาหน้าจอยักษ์ที่เพิ่งเปิดขึ้น
“ฮะ!? เจ้าของร้านกลับมาแล้วหรอ?” เยเสี่ยวเย้ทำเสียงร่าเริง
“ไม่! ดูนั่นสิ เขาอยู่นอกเมือง” อันเชงชี้ไปที่หน้าจอ ในตอนนี้ฟางฉีอยู่ใกล้กับคูน้ำรอบๆ นอกเมือง
“นั่น นายกำลังจะทำอะไร?” เอ่อลืมไปว่าฟางฉีคงไม่ได้ยิน อันเชงจึงเลือกที่จะส่งข้อความไปหา
แน่นอนว่าฟางฉีต้องมีจุดประสงค์อะไรสักอย่างในการออกนอกเมืองครั้งนี้ .. เขาได้รับภารกิจ
ถ่ายทอดสดกลางแจ้ง : ออกอากาศในขณะที่คุณกำลังบินด้วยดาบ
อุปกรณ์งาน : กล้องนาโนอัตโนมัติ
รางวัลภารกิจ : ไส้กรอกแฮม (สามารถซื้อได้หลังจากซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น)
คำอธิบาย : มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
(ผู้แปล : คนจีนส่วนมากชอบกินไส้กรอกแฮมเป็นของว่าง หรือนำมันมาใส่ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป)