ตอนที่ 6 สองวิญญาณในร่างเดียว

สวรรค์ลิขิตข้าให้เป็นตัวร้าย I Am the Fated Villain

ค่าโชคของบุตรฟ้าประทานลดลงไป 100 แต้ม และเขาก็ได้ค่าโชคชะตาคืนมาห้าร้อย

มันเหมือนการแลกเปลี่ยนที่หนึ่งต่อห้า

นั่นคือสิ่งที่กู่ฉางเกอคิดพอเขาฟังข้อความของระบบในใจ

เขาตัดสินใจแล้ว ตอนเขามีเวลา เขาจะใช้ค่าโชคชะตาเหล่านี้เพื่อเพิ่มค่าสถานะของเขา

ภายในโถงหลัก เย่เฉินที่หมดสติโดนศิษย์ตำหนักลงทัณฑ์พาตัวไป

สุดท้ายก็เป็นอันสรุป

แขกพากันคุยเสียงดังจอแจ

“คุณชายผู้นี้ไม่เพียงจะมีพลังเหลือล้ำ ภูมิหลังของเขายังเกินจินตนาการ”

“เหนือสิ่งอื่นใด ประมุขศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนถึงกับมอบลูกสาวตัวเองให้เขา”

คนส่วนใหญ่ต่างกำลังคาดเดาถึงตัวตนของกู่ฉางเกอ

พวกเขาตัดสินใจแล้วว่าพวกเขาจะต้องรายงานทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้นิกายพวกเขารับรู้

ถ้ามีโอกาส ก็ต้องคอยประจบคุณชายผู้นี้ให้ได้ มันจะเป็นผลดีต่อพวกเขา

แน่นอน มันยังเดาได้ว่าแดนบูรพาจะตกอยู่ในความวุ่นวายไปพักใหญ่แน่

ไม่ช้า พิธีก็จบ

ที่งานเลี้ยง บุตรศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียน ฉู่เซวียนกำลังก้มมองคนรุ่นเดียวกับเขาภายในนิกายด้วยความภาคภูมิใจ

จากนั้น เขาก็รินสุราให้กู่ฉางเกอหนึ่งจอก“ต้องขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ ถ้าท่านต้องการอะไรจากข้าในอนาคต โปรดบอกข้า ข้าจะพยายามทำให้ท่านสุดความสามารถ”

ทุกคนที่มีสติปัญญาสามารถบอกได้ว่ามันคือการประกาศตนเป็นบริวาร

แม้ฉู่เซวียนผู้นี้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนก็ตาม

เขาก็ยังยอมก้มหัว

กู่ฉางเกอรับสุรามาด้วยรอยยิ้มและยกกระดกในอึกเดียว“แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นที่พี่ฉู่ต้องใส่ใจ”

“มิได้ๆ”

ฉู่เซวียนดีใจ

“ตาแก่นี่กำลังเลียคุณชายไม่หยุด”

“สำหรับคุณชายที่ลงมายังอาณาจักรเบื้องล่างของเรา มันถือเป็นเกียรติของแดนบูรพาเรามาก”

ไม่มีผู้อาวุโสหรือศิษย์คนใดที่นี่เป็นพวกปัญญาอ่อน พวกเขาเข้าใจถึงตรรกะเบื้องหลังดี พวกเขายังเริ่มเข้าร่วมและเลียกู่ฉางเกอกันจนเปียก

ในเวลาเดียวกัน พวกเขายังสาปส่งฉู่เซวียนในความเจ้าเล่ห์

เขาไม่เคยแสดงด้านนี้ออกมาเลย

พวกเขาไม่เคยคิดว่าความสามารถด้านการประจบของเขาจะเป็นเลิศขนาดนี้

แค่พูดจาเลียไม่กี่คำ เขาก็ได้กลายเป็นสมุนของนายน้อยท่านนี้แล้ว

สำหรับศิษย์หลายคน พวกเขาชื่นชมและอิจฉาเขา

“ชิงเกอ..”

ประมุขไท่เซวียนสังเกตเห็นว่าลูกสาวตัวเองหน้าซีด

เขาขมวดคิ้ว

ไม่กี่วินาทีก่อน คุณชายกู่ดูเหมือนจะโปรดปรานลูกสาวเขา

แต่ ทำไมตอนนี้เขาถึงไม่สนใจนาง?

“ท่านพ่อ…:”

ซูชิงเกอส่ายหัว ใบหน้าของนางขาวซีด นางไม่อธิบาย

กู่ฉางเกอจะมาสนใจในตัวนางได้ไง

การแสดงก่อนหน้านั้นก็แค่เพื่อกลั่นแกล้งเย่เฉินเท่านั้นเอง

นางไม่รู้ว่าเย่เฉินกับกู่ฉางเกอมีความขุ่นเคืองอะไรกันมา เขาถึงได้จงใจทำให้เย่เฉินอับอายขนาดนั้น

แต่ทว่า นางรู้ว่าตอนนี้ มันดีสุดที่จะไม่ทำให้กู่ฉางเกอหงุดหงิด

ด้วยสถานะของเขา เขาจะขาดสาวงามที่มีพรสวรรค์ข้างกายได้ยังไง?

ซูชิงเกอฉลาดมาก นางเข้าใจดีถึงคุณค่าในตัวนาง

“เห้อ….”

ประมุขไท่เซวียนก็ไม่ได้โง่ เขาสามารถเดาได้จากสีหน้าของลูกสาวเขา

เขาแสดงความกังวลบนหน้า

พอได้ยินพ่อของนางถอนหายใจ ซูชิงเกองกลับไม่ได้รู้สึกดีอะไรเช่นกัน

นางรู้ว่าพ่อของนางเป็นคนยังไง

นางรู้ว่าเขาอาจมีเรื่องลำบากใจบางอย่าง เขาถึงทำได้ทำอะไรแบบนี้

นางเหลือบมองกู่ฉางเกอและลังเลสักพัก

สุดท้าย นางก็กัดฟันและตัดสินใจ ตอนงานเลี้ยงสิ้นสุด นางจะละทิ้งศักดิ์ศรีและไปขอโทษเขา

เหนือสิ่งอื่นใด นางคือต้นตอของเรื่องในวันนี้

แต่ทว่า กู่ฉางเกอไม่เคยเหลียวแลนางเลย เขาเดินกลับห้องเขาทันทีที่งานเลี้ยงจบ

คำพูดก่อนหน้าของเขาเกี่ยวกับดวงจันทร์และการดูมันด้วยกันเหมือนเรื่องตลกเฉยๆ

แน่นอน กู่ฉางเกอแค่พูดมันเล่นๆ

เขาไม่มีเวลามาอยู่ชมจันทร์กับซูชิงเกอหรอก

แม้การแย่งเอาเมล่อนที่สุกงอมของคนอื่นมากินจะหอมหวาน

แต่ถ้าเขาลงเอยด้วยการกินคนแบบนาง เขาอาจโดนอสูรเทพจากมิติอื่นโจมตีจนตาย

ความเสี่ยงนั้นไม่คุ้มค่า

แม้ซูชิงเกอจะสวย ชุดเดรสขาวพลิ้วไหวที่ทำให้นางดูเหมือนเทพธิดา

แต่นางก็ยังไม่คุ้มกับการให้เอาชีวิตไปแลก

พอนางเห็นกู่ฉางเกอเดินไปไกล ซูชิงเกอก็ยืนนิ่งกับที่ ตะลึงงัน นางไม่มีโอกาสจะได้พูดสิ่งที่อยากพูดสักคำ

นิสัยนางเอนเอียงไปทางด้านเงียบและเย็นชา

แม้นางจะไม่ค่อยพูดเยอะ แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่นางเจอคนที่ไม่ไว้หน้านางแบบนี้

ตรงกันข้าม ถ้าเย่เฉินได้พูดอะไรกับนางสักคำ เขาจะอารมณ์ดีไปทั้งวัน

ซูชิงเกอถอนหายใจและเตรียมจะทำสิ่งที่ไม่เป็นตัวเอง

“กู่ฉางเกอเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากซะจริง เขา…”

“เขาน่าสนใจกว่าเจ้าเย่เฉินนั่นมาก”

ตอนนั้น ในหัวนาง เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

แม้เสียงจะฟังดูไพเราะ แต่มันก็เต็มไปด้วยความชั่วร้าย

แต่ทว่า ซูชิงเกอคุ้นเคยกับมันมานานแล้ว

นางไม่ตอบสนองเลย

เสียงนั้นอยู่กับนางมาตั้งแต่นางเกิด

มันคือความลับที่พ่อของนางยังไม่รู้ด้วยซ้ำ

สองวิญญาณในร่างเดียว

ตกดึก

ที่ห้องของกู่ฉางเกอ

ชายชราที่มองหน้าตาได้ไม่ชัดปรากฏตัวขึ้น

“การรวบรวมข้อมูลเป็นไง?”

กู่ฉางเกอนั่งสมาธิอยู่บนเตียง เขาถอนสมาธิออกจากหน้าจอระบบ ลืมตา และถาม

“นายน้อย เรื่องราวเป็นไปตามที่ท่านคิด”

“ประมุขไท่เซวียนเรียกซูชิงเกอไปหาและบอกนางถึงเหตุผลและความลำบากใจของเขา”

“มันคืออะไร?”

กู่ฉางเกอเลิกคิ้ว

ชายชราในชุดดำตอบ“ผู้อาวุโสสูงสุดที่แข็งแกร่งสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนตายไปตั้งแต่สามร้อยปีก่อนแล้ว แค่ว่าข่าวยังไม่รั่วไหลไปโลกภายนอก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนจึงต้องการหาที่พึ่งใหม่”

“นอกจากนั้น ภรรยาของประมุขศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียนคือหญิงสาวสูงส่งจากอาณาจักรเบื้องบน หลายปีก่อน นางโดนพาตัวกลับไปอาณาจักรเบื้องบนโดยขุมกำลังบางแห่ง ประมุขไท่เซวียนจึงหวังใช้ซูชิงเกอเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับท่าน และใช้สายสัมพันธ์นั้นเพื่อหาตัวภรรยาเขา”

“โอ้ ไม่คิดเลยว่าข้าจะเดาถูก’

กู่ฉางเกอแสยะยิ้ม

เขาคิดถึงมันมานานแล้ว เนื่องจากซูชิงเกอคือนางเอก นางก็ต้องมีเรื่องไม่ธรรมดาติดตัว

ดังนั้น เขาจึงให้ชายชราไปรวบรวมข้อมูล

ชายชราในชุดดำนั้นคือเฒ่าหมิง

เขาคือผู้คุ้มกันส่วนตัวของกู่ฉางเกอในการเดินทางมายังอาณาจักรเบื้องล่าง เขาแข็งแกร่งมาก

ไม่ต้องพูดถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เซวียน แม้กระทั่งทั้งแดนบูรพา ก็มีสถานที่ไม่มากที่เฒ่าหมิงไม่สามารถเข้าไป